พี่พอใจโจ้วซือ เขียน:การเพิ่มทุนคือไปกู้แบ๊งค์ๆไม่ให้กู้แล้วครับ สัดส่วนหนี้สินต่อทุนคงเกินจะเยียวยา
ขำพี่พอใจ ให้ 1 ตัว
พี่ nuk_ker เขียน:3. เหตุผลส่วนตัวสำหรับหุ้นตัวนี้
3.1 อย่างแรกเลยก็คือข้อมูลที่ได้รับ อาจจะไม่มากไม่น้อย สำหรับท่านอื่นๆ แต่ผมก็ถือว่าเป็นบุคคลภายนอก ก็หาข้อมูลเท่าที่มีตาม Internet ครับ ส่วน Report ทางการเงินต่างๆ ก็ต้องยอมรับว่าดูไม่เป็นจริงๆ ครับ รู้แต่ว่าขาดทุนและมีปัญหามาค่อนข้างนาน และต่อเนื่อง
มันก็น่ากลัวจริงๆ นะครับ :|
พี่ nuk_ker เขียน: 3.2 เหตุผลที่ซื้อและกล้าซื้อมาไว้ใน Port สำหรับผม ดูจากอดีตที่ดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์มานาน และมีราคาหุ้นในอดีตที่สูงมากพอสมควร ที่ผ่านมาเมื่อบริษัทเติบโต ก็มีการซื้อหุ้นของบริษัทอื่นๆ เก็บไว้ หมายถึงสินทรัพย์อยู่ส่วนหนึ่งของบริษัท เมื่อเทียบกับราคาในปัจจุบันบวกกับข่าว ถือว่าราคาต่ำเอามากๆ ครับ แต่ก็ต้องยอมรับอย่างเลี่ยงไม่ได้ว่า ความเสี่ยงก็ค่อนข้างสูงอยู่เหมือนกัน
พี่ nuk_ker เขียน: 3.3 ถ้าจะให้ผมมองตอนนี้ อดีตเท่าเรามองเห็นกันถือได้ว่า ต้องยอมรับมัน ในปัจจุบันเห็นได้ว่าบริษัทและผู้บริหารก็ไม่นิ่งนอนใจกับปัญหาต่างๆ และหาทางออกอย่างถูกต้อง และในเรื่องของอนาคต ผมคิดว่า บริษัทมีประสบการณ์ทางด้านธุรกิจที่ทำอยู่มากพอสมควร(ไม่ได้เปลี่ยนการดำเนินธุรกิจ) บวกกับปัญหาต่างๆ ทำให้ต้องระมัดระวังและรอบคอบมากขึ้น ในส่วนของสินทรัพย์ก็ยังไม่ถือว่าหมดซะทีเดียว การที่เพิ่มทุนเข้าไป ก็เหมือนเป็นการให้โอกาส และยินดีร่วมไปด้วยกัน ด้วยชื่อของผู้บริหาร(ไม่ได้รู้จักมากมาย หรือรู้จักส่วนตัวนะครับ) ผมเชื่อว่าบริษัทและผู้บริหารต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อจะให้สถานการณ์ฟื้นตัวจากปัจจุบันได้
ไม่มองในทางกลับกันบ้างละครับ ว่าประกอบกิจการมานานแล้วก็มีปัญญาทำได้แค่นี้เอง แสดงว่าเค้าห่วยแตกสุดๆ ยิ่งกว่าบริษัทที่เหลืออื่นๆ ตั้งเยอะ
พี่ nuk_ker เขียน: 3.4 ผลจะเป็นอย่างไร ผมรับได้นะครับ แต่ผมเชื่อในทางที่ผมเดินและร่วมจะเดินไปกับการดำเนินการนี้ครับ
:|
พี่ nuk_ker เขียน:ก็จะมีบางครั้ง ที่ผมนึกอย่างลองเสี่ยงๆ ดูมั่ง เอาที่แบบลดรูดลงมาอย่างกะน้ำตก ก็ยอมรับว่าเสี่ยงนะครับ แต่ก็เอาซะหน่อย แบบว่าถือไว้หรือซื้อไว้ เผื่อเงินเล็กน้อยของเราจะทำให้เค้าเอาเงินไปหมุนไรได้บ้างน่ะครับ (แบบนี้ที่มีใน Port ก็คงเป็น picni กับ n-park นี่แหละคับ)
...ค่อนข้างอันตรายใช่มั๊ยคับ แต่เงินผมไม่มากนะคับซื้อมาใช้เงินน้อย ก็ลองเสี่ยงๆ ดูน่ะครับ
ก็คนเราต้องอยู่กับความหวังน่ะครับ ถึงจะไม่หวังมากมายอะไร แต่ก็พอจะหวังได้น่ะครับ เทียบกับที่ซื้อหวย มันคือ 0 กับ 100 แต่นี่ มันก็ยังพอจะไต่ๆ ขึ้นได้บ้าง ก็ต้องดูกันน่ะครับ
ยอมรับควมเสี่ยงได้ก็ถือว่าดีครับ :D เรื่อง N-PARK เท่าที่ผมรู้คร่าวๆ นี่ หลังจากเน่าไม่เหลือซากแล้วเขาก็ปรับโครงสร้างหนี้ รวม 200 หุ้น เหลือ 1 หุ้น แล้วเพิ่มทุนมโหฬารหุ้นละ 10 สตางค์ พาร์ 10
กลับมาเข้าตลาดแล้วก็ตีปี๊บซะทุเรศ เขารวมหุ้นต่อครับเป็นพาร์ 100 เหลือสี่พันล้านหุ้น ราคาทุนต่อหุ้นเลยกลายเป็น 1 บาท จากนั้นก็เล่นข่าวเพิ่มทุนเท่าตัวหุ้นละบาท มูลค่าตลาดวิ่งไป 5 หมื่นล้าน XR แล้วมูลค่าตลาดไปสูงสุดแถวเกือบ 8 หมื่นล้าน
ก็ปั่นกันถล่มทลายสนุกมาก บอกว่าจะเอาเงินไปลงทุนซื้อนั่นซื้อนี่ ทำนั่นทำนี่เป็นผลดีกับบริษัท
ผมอนุมานว่าเป็นแผนทั้งสิ้น พวกก๊วนเดิมยอมอัดเงินตัวเองเข้ามาก่อน 4 พันล้าน ตีปี๊บหนักๆ จนหุ้นขึ้นไปเป็นหลายหมื่นล้าน โกยกำไรรายย่อยเข้ากระเป๋าก่อน แล้วเอาเงินนั่นแหละไปหมุนซื้อหุ้นเพิ่มทุนตัวเองอีกรอบพร้อมๆ รายย่อย/แมงเม่าที่กำลังเพลิน
เท่านั้นไม่พอ ทำสะตอเบอรี่ขอกู้เงินที่นั่นที่นี่บอกจะลงทุนอีกเท่าตัว สินทรัพย์ที่บริษัทซื้อน่าจะทั้งหมดเลยนั้น แพงเกินความเป็นจริงทั้งสิ้น
กระบวนการผ่องถ่ายเงินเกิดในปี 46 ต่อมา 47 เล็กน้อย ผ่านการซื้อสินทรัพย์ในราคางี่เง่านั้นเอง ก๊วนเดิมเค้าเอ็นจอยกำไรกันไปตั้งนานแล้ว สุดท้ายก็อย่างที่เห็น ตัวบริษัทเองต้องตัดขายสินทรัพย์จำนวนมากที่ซื้อมาเพื่อเอาเงินมาหมุนเวียนในราคาขาดทุนมหาศาล สินทรัพย์จำพวกที่พอมีกระแสเงินสดบ้างก็ห่วยแตกสุดๆ แค่กำไรขั้นต้นยังไม่มีเลย
N-PARK มันเลยเป็นหุ้นขี้แท้ๆ มันถูกสูบหมดตั้งนานแล้ว เหลือแต่คี่ให้นักเก็งกำไรเค้าเล่นกันเอาสนุก ทั้งเงินต้น เงินแมงเม่าที่ปั่นได้ เงินกู้ที่ได้จากเจ้าหนี้ หายแว๊บเขากระเป๋าก๊วนเค้ามาตั้งหลายปีแล้ว เหลือแต่เศษคี่กองสุมอยู่ในบริษัท
นักลงทุนเองก็เหมือนจะรู้ เมื่อสิ้นปี 47 ราคาหุ้นเลยลงมาเหลือแค่ บาทต้นๆ เกินต้นทุนเจ้าของเค้านิดเดียว แรงเก็งกำไรก็มีเข้ามาเป็นพักๆ หลังๆ มานี่อาจจะวายแล้ว
ต้นปีที่แล้วเพิ่มทุนได้เงินมา 201 ล้าน แต่ Q1 ขาดทุน 300 กว่าล้าน
ครั้งนี้ถ้าเพิ่มทุนได้ก็ได้เงินแค่ 400 กว่าล้าน แต่เฉพาะ Q3/51 ขาดทุน 1,200 ล้าน
N-PARK มีสถิติขาดทุนติดต่อกัน 20 ไตรมาส ณ ปัจจุบัน ช่วง Q4/48-Q1/51 เป็น 10 ไตรมาสเต็มๆ ที่ไม่แค่ขาดทุนแต่ยังเป็นการขาดทุนเพิ่มขึ้นทุกไตรมาสอีกด้วย ผมไม่เคยเห็นสถิติทุเรศอย่างน่าทึ่งเยี่ยงนี้จากที่ไหนมาก่อนเลย
อดีตที่ผ่านมา เขาเคยเสมือนรวม 2,000 หุ้นเหลือ 1 หุ้นมาแล้ว อาจจะมีคนเยอะแยะนะครับที่คิดว่าซื้อหุ้นเค้าที่ 1 สตางค์แล้วจะไม่ขาดทุน
เมื่อก่อนผมเคยแช่ง เอ๊ย เคยแซวเขาไว้ครับว่า เป็นหุ้นไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น (ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น ลงโลงแหงๆ) ในความเห็นผมนั้น N-PARK น่าจะล้มละลายในปีนี้ ตลท. จะสั่งแขวนหุ้น ผู้ที่ถือหุ้นเค้าไว้ตั้งแต่ก่อนหน้ามีแนวโน้มจะขาดทุน 100% ของเงินลงทุน