กูรู แนะดักเก็บหุ้น ปันผลสูง
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 22, 2009 8:32 am
กูรู แนะดักเก็บหุ้น ปันผลสูง
*รอเทขายก่อนขึ้นXD
มีหุ้นเข้าตาแล้ว4ตัว
"สุกิจ"แนะช่วงนี้ดักเก็บหุ้น Dividend Yieldสูง 7-8% แต่ไม่ต้องรอเงินปันผล อาศัยจังหวะช่วงที่หุ้นขึ้นรับข่าวเงินปันผลดี ค่อยเทขายก่อนหุ้นขึ้น XD รอบนี้มีหุ้นเข้าตาทั้งหมด
4 ตัว SPALI, TISCO, QH และ CPALL ตลาดหุ้นไทยเป็นขาลง แนวรับรอบนี้ 410 จุด ส่วนมาตรการภาษีอสังหาฯ มีผลทางจิตวิทยาระยะสั้น
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์(บล.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในระหว่างที่รอบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ในตลาดหุ้นทยอยประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2551 ออกมา แนะนำให้เลือกลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลสูง โดยเฉพาะหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนต่อเงินปันผลสูง(Dividend Yield)
"ในระหว่างที่ผลประกอบการของบจ.เริ่มประกาศ อยากให้นักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นที่มีประวัติการจ่ายเงินปันผลสูง โดยเทียบออกมาในรูปของอัตราผลตอบแทนต่อเงินปันผลที่เป็นเปอร์เซ็นต์ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่มากมายหลายตัว คิดเป็นผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 7 %ขึ้นไปทั้งนั้น"นายสุกิจ กล่าว
สำหรับหุ้นที่มี Dividend Yield สูงตั้งแต่ 7 %ขึ้นไป มีหลายตัว แต่ที่ฝ่ายวิจัยแนะนำมีดังนี้ หุ้น 1.หุ้นบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)หรือ SPALI แนะนำซื้อราคาที่เหมาะสมเท่ากับ 3.30 บาทต่อหุ้น โดยประเมินมูลค่าที่เหมาะสมด้วยวิธี P/BV ที่ 1 เท่าได้ราคาที่เหมาะสมในปี 2552 เท่ากับ 3.30 บาทต่อหุ้น
นอกจากนี้ในปี 2551 คาด SPALI จะเป็นบริษัทที่มีผลตอบแทนจากเงินปันผลในช่วงที่เหลือของปีอีก 7.9% โดยมีการจ่าย Interim แล้วเท่ากับ 0.15 บาทต่อหุ้น ดังนั้นสำหรับงวดผลการดำเนินงานใน 2H/51 คาดจะมีการจ่ายเพิ่มอีก 0.15 บาทต่อหุ้น
2.หุ้นบริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด(มหาชน)หรือ TISCO จากการบริหารความเสี่ยงที่อยู่ในเกณฑ์ดี คุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อที่แม้ลดลงแต่ยังคงอยู่ในระดับสูง และอัตราผลตอบแทนเงินปันผลในปี 2551 ที่คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงประมาณ 9-11% คงคำแนะนำ "Trading Buy"
3.หุ้นบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน)หรือ QH จากการบริหารความเสี่ยงที่มีศักยภาพและบริษัทมีความโดดเด่นเหนือคู่แข่งฝ่ายวิจัยเชื่อว่า QH จะยังสามารถเติบโตท่ามกลางแรงกดดันจากภาวะตลาดในปี 2552 ได้จึงแนะนำ"ซื้อ" ราคาที่เหมาะสมเท่ากับ 1.90 บาทต่อหุ้นและ 4.หุ้นบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน)CPALL
นายสุกิจ กล่าวว่า การแนะให้ลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มปันผลสูง 7-8% ไม่ได้หมายความว่าให้ซื้อเพื่อรอเงินปันผล แต่ให้ซื้อเพื่อหวังส่วนต่างจากราคาหุ้น(Capital Gain)ในจังหวะที่หุ้นดีดตัวขึ้นรับข่าวการจ่ายเงินปันผลเท่านั้น ไม่แนะนำให้ถือหุ้นจนขึ้นเครื่องหมาย XD
"ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยยังเป็นขาลง และไร้วอลุ่มแบบนี้ การลงทุนควรจะหาจับจังหวะการลงทุน โดยหาโอกาสลงทุนในหุ้นที่มีข่าวดีออกมา ซึ่งตอนนี้คงไม่มีข่าวดีอะไรนอกจากข่าวการที่บจ.จะประกาศจ่ายเงินปันผล"
ดัชนีตลาดหุ้นไทยรอบนี้มีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงไปหาแนวรับที่ระดับ 410 จุด ซึ่งโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นมานั้นคงยังไม่มี เนื่องจากข่าวการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จากประธานาธิบดีคนใหม่ ยังไม่มีอะไรใหม่ ในช่วงนี้คงต้องรอไปก่อน
สำหรับมาตรกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลประเมินว่า นโยบายดังกล่าวน่าจะส่งผลดีในด้านจิตวิทยาของผู้ที่อยู่ระหว่างการโอนเท่านั้น
ทั้งนี้ จากมาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศของรัฐบาลคาดว่าจะส่งผลดีกับกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งน่าจะเห็นการจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส2/52 โดยกลุ่มที่จะได้รับผลที่ชัดเจนจากมาตรการดังกล่าวจะเป็นหุ้นกลุ่มค้าปลีกอย่างบมจ.ซีพี ออล์ หรือCPALL เนื่องจากราคาอาหารไม่ได้ลดลงและเป็นสินค้าที่ยังมีการเติบโต
ขณะที่กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ซึ่งได้รับอานิสงส์จากมาตรการลดหย่อนภาษีน่าจะเป็น บมจ.เอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ AP เพราะยังมีความสามารถในการแข่งขันที่สูง
วันที่ 22 ม.ค. 2552 แสดงข่าวมาแล้ว -1วัน 12ช.ม. 25นาที
SPALI Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 2.72 0.59
TISCO Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 N.A. N.A.
QH Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 5.01 0.69
CPALL Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 16.46 4.96
AP Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 3.27 0.78
http://www.kaohoon.com/pg.newspaper/gen ... ?cid=23062
*รอเทขายก่อนขึ้นXD
มีหุ้นเข้าตาแล้ว4ตัว
"สุกิจ"แนะช่วงนี้ดักเก็บหุ้น Dividend Yieldสูง 7-8% แต่ไม่ต้องรอเงินปันผล อาศัยจังหวะช่วงที่หุ้นขึ้นรับข่าวเงินปันผลดี ค่อยเทขายก่อนหุ้นขึ้น XD รอบนี้มีหุ้นเข้าตาทั้งหมด
4 ตัว SPALI, TISCO, QH และ CPALL ตลาดหุ้นไทยเป็นขาลง แนวรับรอบนี้ 410 จุด ส่วนมาตรการภาษีอสังหาฯ มีผลทางจิตวิทยาระยะสั้น
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์(บล.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในระหว่างที่รอบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ในตลาดหุ้นทยอยประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2551 ออกมา แนะนำให้เลือกลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลสูง โดยเฉพาะหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนต่อเงินปันผลสูง(Dividend Yield)
"ในระหว่างที่ผลประกอบการของบจ.เริ่มประกาศ อยากให้นักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นที่มีประวัติการจ่ายเงินปันผลสูง โดยเทียบออกมาในรูปของอัตราผลตอบแทนต่อเงินปันผลที่เป็นเปอร์เซ็นต์ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่มากมายหลายตัว คิดเป็นผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 7 %ขึ้นไปทั้งนั้น"นายสุกิจ กล่าว
สำหรับหุ้นที่มี Dividend Yield สูงตั้งแต่ 7 %ขึ้นไป มีหลายตัว แต่ที่ฝ่ายวิจัยแนะนำมีดังนี้ หุ้น 1.หุ้นบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)หรือ SPALI แนะนำซื้อราคาที่เหมาะสมเท่ากับ 3.30 บาทต่อหุ้น โดยประเมินมูลค่าที่เหมาะสมด้วยวิธี P/BV ที่ 1 เท่าได้ราคาที่เหมาะสมในปี 2552 เท่ากับ 3.30 บาทต่อหุ้น
นอกจากนี้ในปี 2551 คาด SPALI จะเป็นบริษัทที่มีผลตอบแทนจากเงินปันผลในช่วงที่เหลือของปีอีก 7.9% โดยมีการจ่าย Interim แล้วเท่ากับ 0.15 บาทต่อหุ้น ดังนั้นสำหรับงวดผลการดำเนินงานใน 2H/51 คาดจะมีการจ่ายเพิ่มอีก 0.15 บาทต่อหุ้น
2.หุ้นบริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด(มหาชน)หรือ TISCO จากการบริหารความเสี่ยงที่อยู่ในเกณฑ์ดี คุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อที่แม้ลดลงแต่ยังคงอยู่ในระดับสูง และอัตราผลตอบแทนเงินปันผลในปี 2551 ที่คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงประมาณ 9-11% คงคำแนะนำ "Trading Buy"
3.หุ้นบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน)หรือ QH จากการบริหารความเสี่ยงที่มีศักยภาพและบริษัทมีความโดดเด่นเหนือคู่แข่งฝ่ายวิจัยเชื่อว่า QH จะยังสามารถเติบโตท่ามกลางแรงกดดันจากภาวะตลาดในปี 2552 ได้จึงแนะนำ"ซื้อ" ราคาที่เหมาะสมเท่ากับ 1.90 บาทต่อหุ้นและ 4.หุ้นบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน)CPALL
นายสุกิจ กล่าวว่า การแนะให้ลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มปันผลสูง 7-8% ไม่ได้หมายความว่าให้ซื้อเพื่อรอเงินปันผล แต่ให้ซื้อเพื่อหวังส่วนต่างจากราคาหุ้น(Capital Gain)ในจังหวะที่หุ้นดีดตัวขึ้นรับข่าวการจ่ายเงินปันผลเท่านั้น ไม่แนะนำให้ถือหุ้นจนขึ้นเครื่องหมาย XD
"ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยยังเป็นขาลง และไร้วอลุ่มแบบนี้ การลงทุนควรจะหาจับจังหวะการลงทุน โดยหาโอกาสลงทุนในหุ้นที่มีข่าวดีออกมา ซึ่งตอนนี้คงไม่มีข่าวดีอะไรนอกจากข่าวการที่บจ.จะประกาศจ่ายเงินปันผล"
ดัชนีตลาดหุ้นไทยรอบนี้มีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงไปหาแนวรับที่ระดับ 410 จุด ซึ่งโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นมานั้นคงยังไม่มี เนื่องจากข่าวการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จากประธานาธิบดีคนใหม่ ยังไม่มีอะไรใหม่ ในช่วงนี้คงต้องรอไปก่อน
สำหรับมาตรกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลประเมินว่า นโยบายดังกล่าวน่าจะส่งผลดีในด้านจิตวิทยาของผู้ที่อยู่ระหว่างการโอนเท่านั้น
ทั้งนี้ จากมาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศของรัฐบาลคาดว่าจะส่งผลดีกับกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งน่าจะเห็นการจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส2/52 โดยกลุ่มที่จะได้รับผลที่ชัดเจนจากมาตรการดังกล่าวจะเป็นหุ้นกลุ่มค้าปลีกอย่างบมจ.ซีพี ออล์ หรือCPALL เนื่องจากราคาอาหารไม่ได้ลดลงและเป็นสินค้าที่ยังมีการเติบโต
ขณะที่กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ซึ่งได้รับอานิสงส์จากมาตรการลดหย่อนภาษีน่าจะเป็น บมจ.เอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ AP เพราะยังมีความสามารถในการแข่งขันที่สูง
วันที่ 22 ม.ค. 2552 แสดงข่าวมาแล้ว -1วัน 12ช.ม. 25นาที
SPALI Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 2.72 0.59
TISCO Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 N.A. N.A.
QH Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 5.01 0.69
CPALL Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 16.46 4.96
AP Price %Change High Low P/E BV
0.00 0.00 % 0.00 0.00 3.27 0.78
http://www.kaohoon.com/pg.newspaper/gen ... ?cid=23062