หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ความเชื่อ กับการลงทุนแนว Value investment

โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 12, 2009 9:53 pm
โดย sai
สมัยก่อนเวลาเข้ามาอ่านข้อมุลในเวปนี้ มักมีรุ่นพี่บางท่านมักจะพุดว่า ถ้าหุ้นตัวxxx ลงมาถึงราคานี้จริงจริงจะขายบ้านไปซื้อเลย  แต่พักหลังนี้ไม่ค่อยเห้นแล้วครับ เข้าใจว่าหลายหลายคนคงเริ่มเห็นความน่ากลัวของตลาดหุ้นขาลง(หรือขายบ้านไปซื้อแล้วก็ไม่รู้ ) ดูสิครับ ราคาที่ไม่คิดว่าจะเห้นเดี๋ยวนี้เห็นได้ทุกวัน  พื้นฐานหุ้น กำไรต่อหุ้น คุณภาพของกำไร คนเริ่มให้ความสนใจน้อยลงเรื่อยเรื่อย เริ่มหันไปสนใจข่าวการเมือง ข่าวเศรษฐกิจมหภาค และ ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศเป็นหลัก  บัญชี tfex ทั้งฟิวเจอร์และ ออฟชั่นมีจำนวนลูกค้ามาเปิดเป้นจำนวนมาก เชื่อว่าคนที่เชื่อและศรัทธาในแนวทางการลงทุนแบบ vi คงลดน้อยลง แม้แต่ในตัวเราเองก็คงมีความสั่นคลอนกับความเชื่อกับการลงทุนแนว vi ไปบ้างไม่มากก็น้อย (ธรรมชาตินิครับเรามันก็คนธรรมดา) เลยอยากมาขอช่วยกันย้ำเตือนแนวทางการลงทุนแนว vi คนละข้อสองข้อว่ามีจุดเด่นกว่าการลงทุนแนวอื่นอย่างไรบ้างครับ  
ผมเริ่มก่อนเลยนะครับ ส่วนตัวผมเองคิดว่าการลงทุนแนว Vi เป็นแนวทางการลงทุนที่ไม่ต้องทำการซื้อขายหุ้นบ่อยนัก ลองคิดดูเล่นเล่นสิครับถ้าเรามีเงินทุน 1000000 บาท แล้วเราซื้อขายหุ้นเฉลี่ยวันละ 2 ครั้ง หนึ่งปีมีวันทำการราว200กว่าวัน เอาแค่ 200 วันพอ เราจะเสียค่าคอมมิสชั่นกับvat (เอาแบบขั้นต่ำสุดนะครับ 0.15+7%) 1605*2*200 = 642000 บาทต่อปี ถ้าเราซื้อขายหุ้นแล้วได้กำไรกับขาดทุึนเท่าเท่ากัน เราจะเหลือเงินต้นเพียง 1000000-642000= 358000 บาท เท่านั้น ผมจึงคิดว่าการค้นหาหุ้นที่ดีที่ต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานแล้วถือไว้ให้นานโดยทำการซื้อขายเท่าที่จำเป็นจะทำให้เราลดค่าใช้จ่ายในส่วนตรงนี้ได้อย่างมหาศาลในระยะยาวครับ  รออ่านของพี่พี่บ้างนะครับ ขอบคุณมากครับ

ความเชื่อ กับการลงทุนแนว Value investment

โพสต์แล้ว: อังคาร ม.ค. 13, 2009 12:19 am
โดย sorawut
ของผมมีเงื่อนไขว่าหุ้นที่ undervalue เป็นกิจการที่เราชอบด้วย :wink:

ทำให้กินอิ่มนอนหลับครับ :lol:

ความเชื่อ กับการลงทุนแนว Value investment

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 14, 2009 1:19 pm
โดย adi
valuation ก็เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าถึงผลการทำธุรกิจของบริษัทในอนาคต ดังนั้นจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ตามสภาวะทางเศรษฐกิจเช่นกัน ดังนั้น intrinsic value ก็ต้องมีการ update เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ราคาที่เมื่อก่อนว่าถูก แล้วตอนนี้ว่าแพงเป็นเพราะเราปรับผลประกอบการของบริษัทนั้นๆลงตามภาวะเศรษฐกิจขณะนี้ หลายๆคนจึงยังไม่ขายบ้านซื้อเพราะตอนนี้เค้าเห็นว่าแพง

ความเชื่อ กับการลงทุนแนว Value investment

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 14, 2009 3:00 pm
โดย สามัญชน
adi เขียน:valuation ก็เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าถึงผลการทำธุรกิจของบริษัทในอนาคต ดังนั้นจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ตามสภาวะทางเศรษฐกิจเช่นกัน ดังนั้น intrinsic value ก็ต้องมีการ update เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ราคาที่เมื่อก่อนว่าถูก แล้วตอนนี้ว่าแพงเป็นเพราะเราปรับผลประกอบการของบริษัทนั้นๆลงตามภาวะเศรษฐกิจขณะนี้ หลายๆคนจึงยังไม่ขายบ้านซื้อเพราะตอนนี้เค้าเห็นว่าแพง
:cool:  :cool:  :cool:

ความเชื่อ กับการลงทุนแนว Value investment

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 14, 2009 3:24 pm
โดย 007-s
ไม่มีใครศรัทธาน้อยลงหรอก พี่ sai อย่าคิดมากค่ะ

ส่วนตัวผมเองคิดว่าการลงทุนแนว Vi เป็นแนวทางการลงทุนที่ไม่ต้องทำการซื้อขายหุ้นบ่อยนัก
เขาก็กะลังรอทำแบบนั้นกันอยู่ค่ะ

แต่การที่จะทำ "สิบปีซื้อที"  มันต้องใจเย็นๆ มันต้องตกตะกอนทางความคิด ต้องดูจังหวะและสถานการณ์ว่าอะไรเป้นยังไง แค่ไหนแล้ว

จังหวะ สิบปีซื้อที กับจังหวะ หนึ่งปีซื้อที หรือจังหวะ หนึ่งไตรมาสซื้อที
จริงๆ ลีลาก็คล้ายคลึงกัน มันต่างกันที่ช่วงระยะของแต่ละสเตปท์ในการกระทำ มันจะยืดยาวไม่เท่ากัน

ถ้าหนึ่งปีซื้อที ต้องใจเย็นมากแค่ไหน งั้นสิบปีซื้อที จังหวะนี้ ก็แน่นอนว่ามันต้องเย็นกว่าอย่างน้อยก็หลายๆเท่าหน่อย

ใช่มิใช่คะ

:D

Re: ความเชื่อ กับการลงทุนแนว Value investment

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 15, 2009 11:55 am
โดย picatos
sai เขียน:...พื้นฐานหุ้น กำไรต่อหุ้น คุณภาพของกำไร คนเริ่มให้ความสนใจน้อยลงเรื่อยเรื่อย เริ่มหันไปสนใจข่าวการเมือง ข่าวเศรษฐกิจมหภาค และ ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศเป็นหลัก...
ผมชอบ VI เพราะ มันคือวิธีการลงทุนที่มองจากล่างขึ้นบน ไม่ใช่บนลงล่าง ซึ่งมันสอดคล้องกับการทำธุรกิจมากกว่า ที่จะให้ความสำคัญกับลูกค้าและพนักงานของเรา(ด้านล่าง) มากกว่าผู้บริหาร ผู้กู้ หรือผู้ถือหุ้น (ด้านบน) ซึ่งมุมมองแบบนี้ช่วยให้เราสามารถหาโอกาสทางธุรกิจอยู่เสมอ ไม่ใช่เอาแต่รอฟ้ารอฝน รอให้เศรษฐกิจดีค่อยทำธุรกิจ หรือเลิกกิจการเมื่อเศรษฐกิจภาพใหญ่ดูไม่ดี

เมื่อเราทำธุรกิจและเผชิญหน้ากับวิกฤต เราต้องพยายามเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ข่าวการเมือง ข่าวเศรษฐกิจ ผมได้แต่อ่านผ่านๆ เอาแค่ข้อเท็จจริงที่มีสาระสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจในระยะกลาง-ยาว มาปรับกลยุทธในทางธุรกิจ

ผมเรียนจบเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศมา เคยทำงานในแผนกที่เกี่ยวข้องกับตลาดเงินและตลาดทุนระหว่างประเทศ โดยดูแลสินค้าจำพวกตลาดสารอนุพันธ์ในธนาคารแห่งหนึ่ง ได้เรียนรู้ ได้สัมผัส และลงไปปฎิบัติในสิ่งที่บางคนในที่แถวนี้เรียกว่า "fund flow" ได้เข้าเกี่ยวข้องกับการลงทุนใน CDO รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สุดแสนจะพิศดารเกินกว่าที่คนทั่วๆ ไปนึกถึง

ผลจากการได้ทำงานในแวดวงนี้ทำให้ผมได้เห็นสัญญาณฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ที่ส่อเค้าว่าจะแตกตั้งแต่ 2-3 ปีก่อนหน้า จนกระทั่งมาแตกไปต่อหน้าต่อตา อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผมพบเห็น กลับทำให้ผมเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า ความน่าจะเป็นที่จะใช้เศรษฐศาสตร์มหภาคมาหากำไรจากการลงทุนหุ้นและได้กำไรกลับไปมีน้อยกว่าวิธีการลงทุนแบบ Value Investing

ทั้งนี้เพราะ นักค้า (Trader) เก่งๆ หลายๆ ที่ผมรู้จักและสนิทสนมด้วย (นักค้าที่เก่งๆ สามารถทำรายได้จากเงินเดือนและโบนัสปีละหลายล้านบาทไปจนถึงหลายสิบล้านบาท) คนที่น่าจะเชี่ยวชาญใน (สิ่งที่คุณเรียกกันว่า) "fund flow" ที่สุดในตลาดแล้ว เค้ายังตอบไม่ได้เลยว่าตลาดเป็นยังไงต่อไป โอเคเค้าอาจมีความเชื่อว่าในระยะสั้น ในระยะกลาง ในระยะยาวแล้ว มันจะไปตรงไหน แต่ความเชื่อนั้นพร้อมที่จะเปลี่ยนภายในไม่กี่วินาทีที่มีข้อมูลบางอย่างเปลี่ยนไป ความสามารถสำคัญที่สุดที่นักค้าพวกนี้ต้องมีเป็นแบบเดียวกับสิ่งที่นักพนันมืออาชีพต้องมี ความเป็นนักเศรษฐศาสตร์อาจจะต้องมีบ้าง แต่ไม่ใช่สาระสำคัญอะไร

ปีที่ผ่านมาผมเผชิญกับสภาวะตลาดที่เลวร้าย การตัดสินใจที่ผิดพลาด และพบกว่าความเสียหายกับพอร์ตการลงทุนของผมอย่างสาหัส แม้กระนั้นผมไม่เคยคิดแม้แต่ครั้งเดียวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจากผมไม่สนใจ fund-flow ผมกลับโทษว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นมาจากการที่ผมควบคุมความโลภให้สมดุลกับความรู้ไม่ได้ และนั่นก็คือเงินที่ผมต้องจ่ายในการเรียนรู้ที่จะควบคุมความโลภของตัวเอง

ถ้าผมจำไม่ผิด แม้แต่ John Maynard Keynes นักเศรษฐกิจมหภาคผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ก็ยังเลือกที่จะเำพิกเฉยและไม่นำเศรษฐศาสตร์มหภาคมาใช้ในการลงทุน เพราะเค้ามองว่ามันไม่เกี่ยวข้องกับการลงทุน และสุดท้ายเค้าประสพความสำเร็จในการลงทุน ไม่เหมือนกับ Adam Smith, Issac Newton หรือไอสไตน์

สรุปก็คือ ผมยังเป็นคนหัวแข็ง ไม่เชื่อว่าการเอา fund flow มาใช้ในการลงทุน จะทำให้ชีวิตของผมดีขึ้น แม้ว่าผมจะเล่าได้เป็นฉากๆ ถึงวิกฤตที่เกิดขึ้น และคาดการณ์ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปให้พ่อฟังได้ จนโดนพ่อด่าว่าแล้วทำไมถึงไม่ดึงเงินลงทุนออกมาในเมื่อมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างอยู่แล้ว

อย่างงี้เค้าเรียกว่า เจ็บแล้วไม่จำครับ

:lol:  :lol:  :lol:

Re: ความเชื่อ กับการลงทุนแนว Value investment

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 15, 2009 12:03 pm
โดย ลูกอิสาน
picatos เขียน:
ผมชอบ VI เพราะ มันคือวิธีการลงทุนที่มองจากล่างขึ้นบน ไม่ใช่บนลงล่าง ซึ่งมันสอดคล้องกับการทำธุรกิจมากกว่า ที่จะให้ความสำคัญกับลูกค้าและพนักงานของเรา(ด้านล่าง) มากกว่าผู้บริหาร ผู้กู้ หรือผู้ถือหุ้น (ด้านบน) ซึ่งมุมมองแบบนี้ช่วยให้เราสามารถหาโอกาสทางธุรกิจอยู่เสมอ ไม่ใช่เอาแต่รอฟ้ารอฝน รอให้เศรษฐกิจดีค่อยทำธุรกิจ หรือเลิกกิจการเมื่อเศรษฐกิจภาพใหญ่ดูไม่ดี

เมื่อเราทำธุรกิจและเผชิญหน้ากับวิกฤต เราต้องพยายามเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ข่าวการเมือง ข่าวเศรษฐกิจ ผมได้แต่อ่านผ่านๆ เอาแค่ข้อเท็จจริงที่มีสาระสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจในระยะกลาง-ยาว มาปรับกลยุทธในทางธุรกิจ

ผมเรียนจบเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศมา เคยทำงานในแผนกที่เกี่ยวข้องกับตลาดเงินและตลาดทุนระหว่างประเทศ โดยดูแลสินค้าจำพวกตลาดสารอนุพันธ์ในธนาคารแห่งหนึ่ง ได้เรียนรู้ ได้สัมผัส และลงไปปฎิบัติในสิ่งที่บางคนในที่แถวนี้เรียกว่า "fund flow" ได้เข้าเกี่ยวข้องกับการลงทุนใน CDO รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สุดแสนจะพิศดารเกินกว่าที่คนทั่วๆ ไปนึกถึง

ผลจากการได้ทำงานในแวดวงนี้ทำให้ผมได้เห็นสัญญาณฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ที่ส่อเค้าว่าจะแตกตั้งแต่ 2-3 ปีก่อนหน้า จนกระทั่งมาแตกไปต่อหน้าต่อตา อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผมพบเห็น กลับทำให้ผมเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า ความน่าจะเป็นที่จะใช้เศรษฐศาสตร์มหภาคมาหากำไรจากการลงทุนหุ้นและได้กำไรกลับไปมีน้อยกว่าวิธีการลงทุนแบบ Value Investing

ทั้งนี้เพราะ นักค้า (Trader) เก่งๆ หลายๆ ที่ผมรู้จักและสนิทสนมด้วย (นักค้าที่เก่งๆ สามารถทำรายได้จากเงินเดือนและโบนัสปีละหลายล้านบาทไปจนถึงหลายสิบล้านบาท) คนที่น่าจะเชี่ยวชาญใน (สิ่งที่คุณเรียกกันว่า) "fund flow" ที่สุดในตลาดแล้ว เค้ายังตอบไม่ได้เลยว่าตลาดเป็นยังไงต่อไป โอเคเค้าอาจมีความเชื่อว่าในระยะสั้น ในระยะกลาง ในระยะยาวแล้ว มันจะไปตรงไหน แต่ความเชื่อนั้นพร้อมที่จะเปลี่ยนภายในไม่กี่วินาทีที่มีข้อมูลบางอย่างเปลี่ยนไป ความสามารถสำคัญที่สุดที่นักค้าพวกนี้ต้องมีเป็นแบบเดียวกับสิ่งที่นักพนันมืออาชีพต้องมี ความเป็นนักเศรษฐศาสตร์อาจจะต้องมีบ้าง แต่ไม่ใช่สาระสำคัญอะไร

ปีที่ผ่านมาผมเผชิญกับสภาวะตลาดที่เลวร้าย การตัดสินใจที่ผิดพลาด และพบกว่าความเสียหายกับพอร์ตการลงทุนของผมอย่างสาหัส แม้กระนั้นผมไม่เคยคิดแม้แต่ครั้งเดียวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจากผมไม่สนใจ fund-flow ผมกลับโทษว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นมาจากการที่ผมควบคุมความโลภให้สมดุลกับความรู้ไม่ได้ และนั่นก็คือเงินที่ผมต้องจ่ายในการเรียนรู้ที่จะควบคุมความโลภของตัวเอง

ถ้าผมจำไม่ผิด แม้แต่ John Maynard Keynes นักเศรษฐกิจมหภาคผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ก็ยังเลือกที่จะเำพิกเฉยและไม่นำเศรษฐศาสตร์มหภาคมาใช้ในการลงทุน เพราะเค้ามองว่ามันไม่เกี่ยวข้องกับการลงทุน และสุดท้ายเค้าประสพความสำเร็จในการลงทุน ไม่เหมือนกับ Adam Smith, Issac Newton หรือไอสไตน์

สรุปก็คือ ผมยังเป็นคนหัวแข็ง ไม่เชื่อว่าการเอา fund flow มาใช้ในการลงทุน จะทำให้ชีวิตของผมดีขึ้น แม้ว่าผมจะเล่าได้เป็นฉากๆ ถึงวิกฤตที่เกิดขึ้น และคาดการณ์ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปให้พ่อฟังได้ จนโดนพ่อด่าว่าแล้วทำไมถึงไม่ดึงเงินลงทุนออกมาในเมื่อมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างอยู่แล้ว

อย่างงี้เค้าเรียกว่า เจ็บแล้วไม่จำครับ

:lol:

Re: ความเชื่อ กับการลงทุนแนว Value investment

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 15, 2009 12:08 pm
โดย sai
[quote="picatos"]

ถ้าผมจำไม่ผิด แม้แต่ John Maynard Keynes นักเศรษฐกิจมหภาคผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ก็ยังเลือกที่จะเำพิกเฉยและไม่นำเศรษฐศาสตร์มหภาคมาใช้ในการลงทุน เพราะเค้ามองว่ามันไม่เกี่ยวข้องกับการลงทุน และสุดท้ายเค้าประสพความสำเร็จในการลงทุน ไม่เหมือนกับ Adam Smith, Issac Newton หรือไอสไตน์

สรุปก็คือ ผมยังเป็นคนหัวแข็ง ไม่เชื่อว่าการเอา fund flow มาใช้ในการลงทุน จะทำให้ชีวิตของผมดีขึ้น แม้ว่าผมจะเล่าได้เป็นฉากๆ ถึงวิกฤตที่เกิดขึ้น และคาดการณ์ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปให้พ่อฟังได้ จนโดนพ่อด่าว่าแล้วทำไมถึงไม่ดึงเงินลงทุนออกมาในเมื่อมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างอยู่แล้ว

อย่างงี้เค้าเรียกว่า เจ็บแล้วไม่จำครับ

:lol:

ความเชื่อ กับการลงทุนแนว Value investment

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 15, 2009 12:18 pm
โดย sai
มีคนจากห้องมือใหม่หัดลงทุน  บอกว่า การรู้จังหวะ กับ โชคช่วย มีเส้นบางบางกั้นอยู่นิดเดียว อันนี้ชอบจัง

ความเชื่อ กับการลงทุนแนว Value investment

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 15, 2009 7:49 pm
โดย AuI_a VI
อยากเรียนถามเป็นความรู้ถึงเหตุผลในการตัดสินใจเวลานั้นของพี่ picatos ที่ไม่ดึงเงินลงทุนออกทั้งๆที่เห็นวิกฤตแล้วว่าเพราะอะไรหรอครับ ...ผมเห็นอีกคนนึงก็คือพี่หมอ mprandy ครับ...ถ้ายังไงอ. mprandy ได้กลิ่นธูปเรียกแล้วรบกวนมาช่วยแจมเป็นวิทยาทานด้วยอีกคนนะครับ

Re: ความเชื่อ กับการลงทุนแนว Value investment

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 15, 2009 8:32 pm
โดย leksmile
[quote="sai"]สมัยก่อนเวลาเข้ามาอ่านข้อมุลในเวปนี้ มักมีรุ่นพี่บางท่านมักจะพุดว่า ถ้าหุ้นตัวxxx ลงมาถึงราคานี้จริงจริงจะขายบ้านไปซื้อเลย

ความเชื่อ กับการลงทุนแนว Value investment

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 15, 2009 9:02 pm
โดย Alastor
โดนใจครับคุณ picotos :cheers:

ความเชื่อ กับการลงทุนแนว Value investment

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 16, 2009 12:27 am
โดย picatos
AuI_a VI เขียน:อยากเรียนถามเป็นความรู้ถึงเหตุผลในการตัดสินใจเวลานั้นของพี่ picatos ที่ไม่ดึงเงินลงทุนออกทั้งๆที่เห็นวิกฤตแล้วว่าเพราะอะไรหรอครับ ...ผมเห็นอีกคนนึงก็คือพี่หมอ mprandy ครับ...ถ้ายังไงอ. mprandy ได้กลิ่นธูปเรียกแล้วรบกวนมาช่วยแจมเป็นวิทยาทานด้วยอีกคนนะครับ
จริงแล้วมันก็เหมือนหลอกตัวเอง พอตัดสินใจว่าจะมาทาง VI แล้วก็กลัวธาตุไฟเข้าแทรกมั้งครับ 555

เอาเข้าจริงๆ แล้ว ผมคิดอย่างงี้ครับ คือ หุ้นที่ตอนที่ผมเลือกลงทุน ผมมองที่ผลตอบแทนระยะยาวมากกว่า พยายามเลือกหุ้นที่มัน undervalue อยู่เยอะๆ ถ้าผลประกอบการเป็นไปตามที่คาด ผลตอบแทนในระยะยาวที่ได้ก็น่าพึงพอใจอยู่แล้ว คิดเผื่อไปว่าถ้าหุ้นตัวอื่นมันลงเยอะๆ เอาไว้เปลี่ยนม้าขี่เพิ่มผลตอบแทนเอาก็ได้ ซึ่งถ้ามันลงกันทั้งตลาด ผมก็ยังเชื่อว่าผลตอบแทนในระยะยาวมันก็ยังเท่าเดิม

ครั้นพอจะโลภมากกะเพิ่มผลตอบแทนด้วยการ short against port ออกไปบางส่วนเพื่อซื้อคืนในราคาที่ถูกกว่าก็ไปติดข้อจำกัดบางอย่างจากการเล่น Margin เลยอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่สามารถเพิ่มผลตอบแทนในระยะยาวจากที่ควรจะเป็นได้ (ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าไม่ติดเรื่องมาร์จิ้นจะกล้า short ออกไปรึเปล่า เพราะ หลายๆ ทีที่ผมไม่ได้ติดอะไร และสัญญาณเทคนิคค่อนข้างชัดเจนจนทำให้ผมน้ำลายสออยากจะ short against port ใจจะขาด แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่มองตาปริบๆ ด้วยความเสียดายอยู่เล็กน้อย)

สรุป ทางใครก็ทางมันครับ... ผมก็แค่ชอบเดินทางเส้นนี้ แต่ยังเดินตั้มเตี้ยมไม่ถึงไหนเลย... เฮ้อ...  :roll:  :roll:

ความเชื่อ กับการลงทุนแนว Value investment

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 16, 2009 10:29 am
โดย Jeng

โค้ด: เลือกทั้งหมด

สมัยก่อนเวลาเข้ามาอ่านข้อมุลในเวปนี้ มักมีรุ่นพี่บางท่านมักจะพุดว่า ถ้าหุ้นตัวxxx ลงมาถึงราคานี้จริงจริงจะขายบ้านไปซื้อเลย  
555 มันเป็นมุกเปรียบเทียบ มั๊งครับ อย่าไปซีเรียสเลย

แต่ว่า ถ้า top ลงมา 11 บาท ก็น่าจะขายบ้านมาซื้อนะ โรงกลั่น ไม่เจ๊งหรอก อนาคต น้ำมันก็ต้องขึ้นราคาอย่างแน่ๆ

อิอิ