Thai VI

สงสัยมานานแล้วครับ ว่า "มูลค่าหุ้นที่เรียกชำระแล้ว" หมายความเช่นไร และเพราะเหตุใด มูลค่าดังกล่าวจึงมีการปรับเพิ่มขึ้นบ้าง ในบางปีถัดมา ส่วนปรับลด ยังไม่เคยเห็นเลยครับ

เริ่มตั้งแต่เวลาจัดตั้งบริืษัท ครับ
เราจะต้องจดทะเบียนว่าเราตั้งบริษัทด้วยเงินทุนเท่าไหร่
และแบ่งออกเป็นทั้งหมดกี่หุ้น

ยกตัวอย่างเช่น จดทะเบียน 10 ล้านบาท แบ่งเป็น 10 ล้านหุ้น
แสดงว่า ราคาพาร์ หุ้นละ 1 บาท

อย่างไรก็ตามเวลาการดำเนินกิจการจริงๆ
เราอาจจะใช้เงินทุนไม่ถึงเท่ากับทุนที่เราจดทะเบียน เราเลยเรียกชำระค่าหุ้นจากผู้ถือหุ้นเพียงแค่ 8 ล้านบาท
จากจำนวนที่สามารถเรียกชำระได้ทั้งหมด 10 ล้านบาท

ดังนั้น เงินจำนวน 8 ล้านบาท คือ มูลค่าหุ้นที่เรียกชำระแล้ว
ส่วน อีก 2 ล้าน คือมูลค่าหุ้นที่ยังไม่ได้เรียกชำระ

ส่วนสาเหตุที่เพิ่มขึ้น ผมว่าก็น่าจะมาจากการเรียกชำระค่าหุ้น
ส่วนที่เหลืออีก 2 ล้านบาท ครับ

ถ้าผมเข้าใจผิดพลาดประการใดรบกวนผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ

หมายถึง ทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว รึเปล่าครับ

ถ้าใช่ตัวเดียวกัน ตัวนั้นคือ มูลค่าหุ้นที่ออกจำหน่ายและเรียกเก็บเงินแล้วจริงๆ มันจะต่างกับ ทุนจดทะเบียน ตรงที่ ทุนจดทะเบียน เป็นแค่ข้อมูลว่า บริษัทมีหุ้นทุนอยู่จำนวนทั้งหมดเท่าไหร่ ซึ่งก็อาจจะมีทั้งหุ้นที่ขายออกไปแล้ว(เรียกว่า ทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว นั่นแหละครับ)และหุ้นที่ยังไม่ได้ขายออกไป

ดังนั้น ทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว ก็คือ หุ้นทุนของบริษัทที่ขายออกไปแล้วนั่นเอง

ทีนี้ ที่มันตัวเลขที่มันเพิ่มขึ้นนั้น ผมคิดว่าบริษัทน่าจะไปเพิ่มราคาพาร์นะครับ

เช่น

จากเดิม บริษัทมีหุ้นทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 1,000,000 หุ้น หุ้นละ 10 บาท มูลค่าหุ้นที่ออกและชำระแล้วก็คือ 10,000,000 บาท

ถ้าบริษัทปรับราคาพาร์ เป็น หุ้นละ  12 บาท มูลค่าหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้ว จะเพิ่มขึ้นเป็น 12,000,000 บาท

แต่ผมก็งงว่า บริษัทปรับไปเพื่ออะไร

รอผู้รู้มาตอบอีกทีครับ ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน(ตอบเหมือนไม่ได้ตอบเลย หุหุ)

ต้องทำการเข้าใจในส่วนของทุนจดทะเบียน
จำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว
และทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว

ตัวแรกคือ ทุนจดทะเบียน อันนี้คือทุนที่บริษัทจดกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ซึ่งระบุอยู่ในหนังสือบริคณฑ์สนธิว่า บริษัทมีทุนจดทะเบียนเท่าไร และมีหุ้นทั้งหมดเท่าไร

ตัวที่สอง จำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว อันนี้ คือหุ้นที่บริษัทนำออกจำหน่าย
ซึ่งไม่จำเป็นต้องออกจำหน่ายเท่ากับจำนวนหุ้นที่ได้จดทะเบียน ไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เช่น เพื่อรองรับ ESOP ของผู้บริหารหรือพนักงานของบริษัท ,เพื่อรองรับ Warrent หรือเพื่อรองรับอนุพันธ์ต่างๆๆเป็นต้น

ตัวที่สาม คือ ทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว คือ จำนวนหุ้นที่บริษัทจำหน่ายออกไป คูณด้วย ราคาพาร์ของหุ้นที่ได้ทำการจดทะเบียนไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

แถม ส่วนเกินมูลค่าหุ้น หมายถึง ถ้าหากบริษัทจำหน่ายหุ้น มีราคามากกว่าราคาพาร์ ก็มาลงที่นี้ โดยเอา(ราคาที่จำหน่ายเกิน - ราคาพาร์ )*จำนวนหุ้น