หน้า 1 จากทั้งหมด 3

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 17, 2008 12:53 pm
โดย kmphol
การลงทุนในตลาดหุ้น ในระยะยาวแล้ว ให้ผลตอบแทนที่ดี
ผมคิดว่ามันไม่ถูกต้อง เพราะว่า ถ้าใครลงทุนในตลาดตอน มค37 ที่ดัชนี 1789 จุด โดยซื้อกองทุนรวมดัชนี SET (สมมุติว่าตอนนั้นมีกองทุนรวมดัชนีให้ซื้อ) ผ่านมา15 ปีจนถึงวันนี้ ยังไม่เคยมีวันไหนที่ไม่ขาดทุนเลย เรียกว่าถือมาเกือบ15 ปียังขาดทุนบักโกรกอยู่เลย ทีนี้ถ้าเปลี่ยนมาเป็นซื้อหุ้นที่เป็นตัวแทนของตลาดหุ้นไทย คือ ปตท ถ้าใครซื้อ ปตท ตอน ตค50 ที่ 440 บาท จากวันที่ซื้อคุณคิดว่าต้องถือมันไปอีกกี่ปีถึงจะกลับคืนมาเท่าทุน

ผมเห็นกูรูหลายท่านชอบบอกว่า ตลาดหุ้นไทยในระยะยาวแล้ว ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ10% ซึ่งมันไม่ค่อยถูกต้องดีนัก เพราะบางทีเราถือหุ้นมา หลายหลาย ปี เพื่อรับผลตอบแทนเป็นศูนย์ หรืออาจมีปันผลแถมให้นิดหน่อย

ส่วนคำว่าระยะยาว ก็ยากที่จะหาคำจำกัดความ บางคนบอกว่า ระยะยาวของเขา คือ1 เดือน บางคน 1 ปี บางคน3 ปี บางคน5 ปีบางคน 10 ปี บางคนคือตลอดชีวิตของเขา จริงแล้ว คำว่าระยะยาวจึงไม่มีใครบอกได้ว่านานแค่ไหน
ผมคิดว่าความเชื่อที่ถูกต้องน่าจะเป็น

การลงทุนในตลาดหุ้น ให้ผลตอบแทน ที่เป็นบวกและลบได้ ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ การเลือกหุ้นและ จังหวะเวลาลงทุนของนักลงทุน
การรวบรวมความเชื่อที่ผิดผิดเหล่านี้ ก็เพื่อไม่ให้ มันไป ชี้นำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องMissed leading นักลงทุนที่ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจดีพอ ให้เสียหายจากตลาดหุ้น

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 17, 2008 1:04 pm
โดย charnengi
ระยะยาวคงคิดจากตลาดเปิดมั้งครับ

ผมเคยเห็นไฟล์การคำนวณน่าจะเริ่มจากตลาดเปิดได้ ลงทุนเท่า index 10% กว่าจริงๆ

แต่คำนวณที่ bias มากๆ เพราะ index ตัดบริษัที่เจ๊งทิ้งไป และเอาหุ้นใหม่เข้าเช่น PTT

ความเชื่อผิดๆ
High risk high return

ต้องแก้เป็น
High risk high expected return

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 17, 2008 1:24 pm
โดย sorawut
ไม่ขายไม่ขาดทุนครับ :twisted:

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 17, 2008 1:28 pm
โดย kornjackrit
kmphol เขียน:การลงทุนในตลาดหุ้น ให้ผลตอบแทน ที่เป็นบวกและลบได้ ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ การเลือกหุ้นและ จังหวะเวลาลงทุนของนักลงทุน


:cool:  :cool:
เป็นการสรุปความเชื่อเกี่ยวกับตลาดหุ้นที่ผมคิดว่ามีเหตุมีผลที่สุด
เท่าที่เคยได้ยินมาครับ
charnengi เขียน:ผมเคยเห็นไฟล์การคำนวณน่าจะเริ่มจาก
ตลาดเปิดได้ ลงทุนเท่า index 10% กว่าจริงๆ

แต่คำนวณที่ bias มากๆ เพราะ index ตัดบริษัที่เจ๊งทิ้งไป และเอาหุ้นใหม่เข้าเช่น PTT
:oops:
นึกถึงหลักกาลามาสูตร(ถ้าเขียนผิดต้องขออภัยครับ) เลยครับ

ผมเห็นด้วยว่าท่านกูรูบางท่านก็ไม่ได้อธิบายรายละเอียดทั้งหมด
่ว่าการลงทุนในตลาดหุ้นทำไมในระยะยาวถึงได้ผลตอบแทนที่ดี
( เพราะท่านไม่ได้บอกว่าต้องตัดหุ้นของบริษัทที่เจ๊งทิ้งไป และเอาหุ้นใหม่ๆที่ดีกว่าเข้ามาอย่างที่คุณ charnengi พูดถึง  :evil: )

แต่ผมว่ากองทุนดัชนีคงใช้วิธีีแบบเดียวกันมั้งครับ
( ขายหุ้นบริษัทที่เจ๊งหรือคุณสมบัติไม่ครบ แล้วไปซื้อตัวอื่นแทน)
ไม่น่าจะปล่ิอยทิ้งไว้เฉยๆโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย
ถึงแม้จะเป็นกองทุนที่ Passive มากๆ ผมว่าก็ยังต้องมีการปรับเปลี่ยน
บริษัทที่จะลงทุนตามความเหมาะสมและดัชนที่เอามาคำนวณหรือเปล่าครับ

รบกวนผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยครับ
ขอบคุณครับ

Re: มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 17, 2008 1:56 pm
โดย สามัญชน
kmphol เขียน:การลงทุนในตลาดหุ้น ในระยะยาวแล้ว ให้ผลตอบแทนที่ดี
ผมคิดว่ามันไม่ถูกต้อง
ผมคิดว่ามันถูกต้องแล้ว
อย่างกรณีนี้
ถามว่าทำไมต้องเลือกวันลงทุนในตลาดตอน มค37 ที่ดัชนี 1789 จุด
มีเหตุผลอื่นหรือไม่
หรือต้องการเลือกวันนี้เพื่อให้คำตอบออกมาตรงกับสมมติฐานที่ตั้งไว้

การเลือกแบบนี้ในทางงานวิจัยเรียกว่าเลือกโดยมี bias
ทำไมไม่เลือกตอนดัชนี 200 จุด
ทำไมไม่เลือกตอน 400 จุด
และทำไมไม่เลือกตอนเปิดตลาด 100 จุด
ซึ่งจะเห็นได้ว่า
กรณีอื่นๆนั้น
คำตอบจะออกมาตรงกันข้ามหมดเลย

"การลงทุนในตลาดหุ้น ในระยะยาวแล้ว ให้ผลตอบแทนที่ดี"
นั้นถูกต้องแล้ว
ดีกว่าฝากธนาคาร

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 17, 2008 2:03 pm
โดย AuI_a VI
......เป็น VI ต้องถือยาว....

Re: มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 17, 2008 2:08 pm
โดย sai
สามัญชน เขียน:
ผมคิดว่ามันถูกต้องแล้ว
อย่างกรณีนี้
ถามว่าทำไมต้องเลือกวันลงทุนในตลาดตอน มค37 ที่ดัชนี 1789 จุด
มีเหตุผลอื่นหรือไม่
หรือต้องการเลือกวันนี้เพื่อให้คำตอบออกมาตรงกับสมมติฐานที่ตั้งไว้

การเลือกแบบนี้ในทางงานวิจัยเรียกว่าเลือกโดยมี bias
ทำไมไม่เลือกตอนดัชนี 200 จุด
ทำไมไม่เลือกตอน 400 จุด
และทำไมไม่เลือกตอนเปิดตลาด 100 จุด
ซึ่งจะเห็นได้ว่า
กรณีอื่นๆนั้น
คำตอบจะออกมาตรงกันข้ามหมดเลย

"การลงทุนในตลาดหุ้น ในระยะยาวแล้ว ให้ผลตอบแทนที่ดี"
นั้นถูกต้องแล้ว
ดีกว่าฝากธนาคาร

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 17, 2008 2:29 pm
โดย drypoint
ผมว่ามันยังไม่จบประโยคครับ  ผมว่าจริงๆแล้วมันต้องเป็น ถ้าลงทุนในระยะยาวโดยซื้อหุ้นพื้นฐานดีในราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง

Re: มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 17, 2008 3:25 pm
โดย kmphol
สามัญชน เขียน:
ผมคิดว่ามันถูกต้องแล้ว
อย่างกรณีนี้
ถามว่าทำไมต้องเลือกวันลงทุนในตลาดตอน มค37 ที่ดัชนี 1789 จุด
มีเหตุผลอื่นหรือไม่
หรือต้องการเลือกวันนี้เพื่อให้คำตอบออกมาตรงกับสมมติฐานที่ตั้งไว้

การเลือกแบบนี้ในทางงานวิจัยเรียกว่าเลือกโดยมี bias
ทำไมไม่เลือกตอนดัชนี 200 จุด
ทำไมไม่เลือกตอน 400 จุด
และทำไมไม่เลือกตอนเปิดตลาด 100 จุด
ซึ่งจะเห็นได้ว่า
กรณีอื่นๆนั้น
คำตอบจะออกมาตรงกันข้ามหมดเลย

"การลงทุนในตลาดหุ้น ในระยะยาวแล้ว ให้ผลตอบแทนที่ดี"
นั้นถูกต้องแล้ว
ดีกว่าฝากธนาคาร

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 17, 2008 3:54 pm
โดย peerawit
คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 17, 2008 4:14 pm
โดย ส.สลึง
อยู่กับความจริง อย่าอยู่กับความเชื่อครับ :8) ดีที่สุด...

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 17, 2008 4:50 pm
โดย ศิษย์เซียน007
คุณครับ ถ้ามีนักลงทุนเป็นลงทุนSETแถวhighที่1789จุดผมคิดว่าผู้นั้นคงไม่ใช่นักลงทุนแนวVIอย่างแน่นอนครับเพราะดูแค่ประเมินอย่างง่ายๆโดยดูค่าPEรวมของตลาดหุ้น ณ เวลานั้นแล้วก็ไม่มีนักลงทุนแนวVIท่านใดเข้าไปลงทุนครับ มีแต่ปล่อยของที่มีอยู่ให้หมดซะมากกว่า :lol:

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 17, 2008 5:30 pm
โดย ปรัชญา
กระทู้นี้  ต้องจับตา  เข้าห้องทรงคุณค่า  แน่ๆ :P

เชื่อโบรก  พูดแต่ละครั้ง  คนละอารมณ์  ไม่เคยมั่นคงสักที
 ชี้ซ้ายบ้าง  ชี้ขวาบ้าง  
ชี้หน้าบ้าง  ชี้หลัง บ้าง
เผลอๆเวลาหุ้นขึ้น    ชี้บนฟ้า  
พอหุ้นลงชี้ก้นเหว


ถ้าเชื่อเจ้าของบริษัท  ถ้าเจอคนดีก็ดีไปครับ

ถ้าเจอคนไม่ดี  ถูกหลอกคาโรงงาน-สำนักงานเลย

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 17, 2008 5:39 pm
โดย nanchan
ไม่มีผิด ไม่มีถูก มีแต่ว่า ใครจะผิด ใครจะถูก  :lol:

เห็นด้วยกับพี่หมออย่างรุนแรง

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 17, 2008 5:39 pm
โดย kaninsaeko
เห็นด้วยกับพี่หมออย่างรุนแรง
ระยะยาว ผมคิดว่ามันถูกต้องแล้ว ลุงบัฟ ก็พิสูจน์มาแล้วนิครับ อิอิ

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 17, 2008 6:05 pm
โดย kornjackrit
kmphol เขียน:ผมคิดว่าสิ่งที่มันถูกต้อง 100% เราคงไม่สามารถหาเหตุการณ์ใดใด มาโต้แย้งมันได้ แต่ถ้าเราหาเหตุการณ์ใดมาโต้แย้งได้ แค่ครั้งเดียว มันก็คงไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง 100% แล้วครับ คงไม่ใช่หลักการ ที่เรายึดถือเป็นสรณะได้
เห็นด้วยครับกับคุณ kmphol

ถ้าเราคิดว่าการลงทุนในหุ้นให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
( เป็นคำกล่าวที่กว้างมากๆ ) หมายความว่า ลงทุนในช่วงใดก็ตาม และในหุ้นใดก็ตาม ผลตอบแทนในระยะยาวต้องได้ผลตอบแทนที่ดี

แต่ประเด็นคือ ยาวแค่ไหน ใครเป็นคนกำหนด
ถ้าโดยปกติทั่วไป ผมเคยเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่วิเคราะห์ว่า
ระยะเวลาการลงทุน 3 - 5 ปี คือ ระยะยาว

เราจะเอาตัวเลขนี้มาใช้วัดเป็นมาตรฐานได้ไหมครับ ?

ถ้าสมมุติว่าได้
ประโยคที่ว่า "การลงทุนในหุ้นระยะยาวแล้วให้ผลตอบแทนที่ดี"
คงจะใช้ไม่ได้แน่นอนจากตัวอย่างที่พี่ Kmphol
ยกมาว่าซื้อตอนดัชนี 1789 จุด
( แค่ตัวอย่างเดียวก็พิสูจน์ได้แล้วว่าประโยคนี้ผิด )

แต่ถ้าไม่ได้ แล้วแค่ไหนถึงจะเรียกว่าระยะยาวครับ ?
ระยะยาวของแต่ละคนก็คงหมายถึงช่วงเวลาที่ไม่เท่ากัน
บางคนคิดว่า 1 อาทิตย์ก็ยาวแล้ว
แต่บางคน 10 ปี ยังบอกว่าไม่ยาว


อีกประเด็นนะครับผลตอบแทนเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าดี

ถ้าบอกว่ามากกว่าเงินฝาก
ผมก็ว่ามันก็ยังไม่ครอบคลุมเป้าหมายผลตอบแทนจากการลงทุน
ที่นักลงทุนส่วนใหญ่ต้องการจากการลงทุนในหุ้นอยู่ดี
( เพราะ 4 - 5 % ก็เรียกได้ว่ามากกว่าเงินฝากแล้ว )
แต่ผมคิดว่าหลายๆท่านอาจจะไม่ต้องการแค่มากกว่าผลตอบแทนเงินฝาก
แต่อาจจะต้องการ 10 - 15 % หรือมากกว่า

ในส่วนของผลตอบแทนก็มีประเด็นที่น่าคิดครับ
เราจะวัดผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างไรครับ ?
วัดจากเงินปันผล หรือ กำไรจากส่วนต่างราคา หรือ ทั้งสองอย่าง

ถ้าสมมุติบริษทมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตลอดเวลา จากการทำธุรกิจแล้วได้กำไร
ตามทฤษฎีราคาหุ้นก็ควรจะเพิ่มขึ้นด้วยในอัตราใกล้เคียงกัน
แต่ก็มีหุ้นของบริษัทจำนวนไม่น้อยที่ราคาไม่ปรับขึ้นตาม
( อาจจะเป็นเพราะสภาพคล่องน้อย หรือเหตุผลอื่นๆ )
ถึงแม้มูลค่าจะเพิ่มขึ้น ทำำให้เราสามารถขายหุ้นในราคาที่เหมาะสมกับมูลค่า
ของมันไม่ได้นั่นก็เท่ากับว่าเราจะได้กำไีรหรือได้ผลตอบแทน
จากส่วนต่างราคาน้อยลง ต่อให้ยังได้รับเงินปันผลก็ตาม


และมันก็อาจจะเป็นสาเหตหนึ่งุที่ทำให้การลงทุนในหุ้นระยะยาว
(ซึ่งไม่รู้ว่ายาวเท่าไหร่) ได้ผลตอบแทนที่ไม่ค่อยดีนัก
(น้อยกว่าหรือมากกว่าเงินฝากไม่มาก)
kaninsaeko เขียน:ระยะยาว ผมคิดว่ามันถูกต้องแล้ว ลุงบัฟ ก็พิสูจน์มาแล้วนิครับ อิอิ
ผมไม่ค่อยเห็นด้วยนิดนึงครับ
ผมคิดว่าท่านปรมาจารย์ บัฟเฟ็ตพิสูจน์เฉพาะการลงทุนแนว VI ครับ
แต่จากประโยคที่คุณ kmphol ยกมา "การลงทุนในหุ้นให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว"
ไม่ได้เจาะจงว่าต้องลงทุนในแนว VI นะครับ

ผมจะเห็นด้วยอย่างยิ่งถ้าเปลี่ยนประโยคข้างต้นเป็นประมาณว่า
" การลงทุนแนว VI อย่างรอบคอบ ในธุรกิจที่ยอดเยี่ยม
ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ( 10 - 15 %)
ในระยะเวลา 5-10 ปีขึ้นไป "

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 17, 2008 6:24 pm
โดย kaninsaeko
เป็นการพูดที่กว้างสินะครับ

การลงทุนในตลาดหุ้น ในระยะยาวแล้ว ให้ผลตอบแทนที่ดี

สงสัยต้องใช้คู่กับ

การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดศึกษาก่อนการลงทุน

การพูดกว้างอย่างนี้อาจทำให้คนเข้าใจผิด ต้องระวังๆ อิอิ

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 17, 2008 7:04 pm
โดย Guiman
คงเป็นเรื่องมุมมองของแต่ละคนมั้งครับ

แต่ผมคิดว่า

"การลงทุนในระยะยาวให้ผลตอบแทนดีกว่า "

มันเป็นคำพูดที่ถูก แต่ไม่ทั้งหมด เพียงแต่มันมีความถูกต้องมากกว่าคำพูดว่า

"การลงทุนในระยะสั้นให้ผลตอบแทนดีกว่า"

คำพูดแรกคงมีกรณีที่ถูกต้องมากกว่าละครับ

แต่ถ้าจะตัดสินว่าใครถูกจริงๆ คงต้องไปหานิยามของคำว่า"ถูก" ว่ามันแปลว่าถูก 100% หรือ ส่วนใหญ่

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 17, 2008 8:28 pm
โดย Sumotin
ผมว่าจริง นะครับ แต่ต้องคำนึงถึงหลายอย่าง ต้องมีความรู้ทางการลงทุน ต้องดูจังหวะเวลาและโอกาส อีกอย่างต้องถือบริษัทที่ดีด้วย เพราะถ้าดู index โดยรวม ตอน high สุด มันมีหุ้นที่ออกไปนอกตลาดแล้วก็เยอะ นะครับทำให้ ดัชนีตกลงด้วย ฉะนั้นเที่ยวกับ ดัชนีอย่างเดียวคงไม่ได้ครับ  :D

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 17, 2008 11:24 pm
โดย dome@perth
[quote="ปรัชญา"]
เชื่อโบรก

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 17, 2008 11:42 pm
โดย satantuey
นักเทคนิคบอกว่าตลาดหุ้นมักเกิดเหตุการณ์แบบเดิมซ้ำๆ  แบบเดิมๆ  จึงทำให้มีคนคิดทฤษฏีต่างๆมากมายมาใช้ในการดูหุ้น   :shock:

ข้อนี้ผมไม่ค่อยเชื่ออ่ะ เพราะน้อยครั้งที่จะเห็นว่าจะมีวิธีใดทายได้ล่วงหน้า  ส่วนใหญ่จะเป็นว่าเหตุเกิดแล้วจึงยกทฤษฏีต่างๆมาอ้างซะมากกว่า :roll:

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 18, 2008 8:35 am
โดย pat4310
ให้สาวบริสุทธิมาปักตะไคร้แล้วหุ้นจะไม่ตก

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 18, 2008 9:11 am
โดย BABY TERMITE
pat4310 เขียน:ให้สาวบริสุทธิมาปักตะไคร้แล้วหุ้นจะไม่ตก
      ถ้างั้นไม่มีใครยอมมาปักแน่ๆ เพราะถ้าปักแล้วหุ้นตก แสดงว่าเธอไม่บริสุทธิ์น่ะสิ

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 18, 2008 9:29 am
โดย sorawut
pat4310 เขียน:ให้สาวบริสุทธิมาปักตะไคร้แล้วหุ้นจะไม่ตก
ถ้าปักแล้วเกิด Black Monday ล่ะครับ

สงสัยจะเป็นสาวถ้วย ข. :lol:  :lol:  :lol:

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 18, 2008 9:41 am
โดย sai
kmphol เขียน:ผมคิดว่าสิ่งที่มันถูกต้อง 100% เราคงไม่สามารถหาเหตุการณ์ใดใด มาโต้แย้งมันได้ แต่ถ้าเราหาเหตุการณ์ใดมาโต้แย้งได้ แค่ครั้งเดียว มันก็คงไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง 100% แล้วครับ คงไม่ใช่หลักการ ที่เรายึดถือเป็นสรณะได้
การลงทุนในตลาดหุ้น ในระยะยาวแล้ว ให้ผลตอบแทนที่ดี ไม่ได้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง 100 %ครับ แต่ถ้ามันผิดแค่ครั้งเดียวแล้วเราสรุปว่ามันผิด ก็คงไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง 100 %เช่นเดียวกัน
เหมือนอย่างคนจีนที่สอนกันมาว่า ถ้าเราขยัน ประหยัด อดทน แล้วจะประสบความสำเร็จ แน่นอน มีหลายคนที่ทำตามแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ (เพราะผมเชื่อว่าถ้าทำตามนี้จะมีคนที่ประสบความสำเร็จมากกว่าคนไม่สำเร็จครับ)แต่นั่น ก็ไม่ได้แปลว่าคำกล่าวข้างต้นผิดครับผม

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 18, 2008 10:10 am
โดย สามัญชน
เห็นด้วยกับคุณไสยครับ
อุ๊บ.....คุณ sai ครับ

ถ้ายังจำได้ถึงความหลังเก่าๆสมัยอยู่ปี 1. วิชาสถิติ
เวลาเราทดสอบสมมติฐานอะไรก็ตาม
จะมีคำพูดห้อยท้ายเรื่องระดับความเชื่อมั่นเสมอๆ
เช่น สมมติฐานนี้เป็นจริงที่ระดับความเชื่อมั่น 90% หรือ 95 % เป็นต้น
ซึ่งไม่ได้แปลว่าถูกหมดทั้งร้อยเปอร์เซนต์

แต่ถ้าสมมติฐานที่ถูกแค่ตัวอย่างเดียวที่เหลือผิดหมดเลย
หรือมีความเชื่อมั่นน้อยๆแค่1% หรือต่อให้มากถึง 5  %
เขาจะไม่พูดถึงกันเพราะไม่มีประโยชน์

ระดับความเชื่อมั่นที่สูงๆจะมีประโยชน์ในการนำไปใช้

อย่างพระที่บวชเรียนในพุทธศาสนาร้อยคน
ก็ไม่ได้หมายความว่าจะบรรลุอรหันต์ทั้งร้อยคนหรือเป็นคนดีทั้งร้อยคน
และก็ไม่ได้หมายความว่าธรรมมะและพุทธศาสนาไม่มีประโยชน์สำหรับกล่อมเกลามนุษย์

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 18, 2008 10:25 am
โดย ppp
sai เขียน: การลงทุนในตลาดหุ้น ในระยะยาวแล้ว ให้ผลตอบแทนที่ดี ไม่ได้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง 100 %ครับ แต่ถ้ามันผิดแค่ครั้งเดียวแล้วเราสรุปว่ามันผิด ก็คงไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง 100 %เช่นเดียวกัน
เหมือนอย่างคนจีนที่สอนกันมาว่า ถ้าเราขยัน ประหยัด อดทน แล้วจะประสบความสำเร็จ แน่นอน มีหลายคนที่ทำตามแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ (เพราะผมเชื่อว่าถ้าทำตามนี้จะมีคนที่ประสบความสำเร็จมากกว่าคนไม่สำเร็จครับ)แต่นั่น ก็ไม่ได้แปลว่าคำกล่าวข้างต้นผิดครับผม
ผมเห็นด้วยครับ

CONFIRM!!!

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 18, 2008 11:03 am
โดย kornjackrit
สามัญชน เขียน:ถ้ายังจำได้ถึงความหลังเก่าๆสมัยอยู่ปี 1. วิชาสถิติ
เวลาเราทดสอบสมมติฐานอะไรก็ตาม
จะมีคำพูดห้อยท้ายเรื่องระดับความเชื่อมั่นเสมอๆ
เช่น สมมติฐานนี้เป็นจริงที่ระดับความเชื่อมั่น 90% หรือ 95 % เป็นต้น
ซึ่งไม่ได้แปลว่าถูกหมดทั้งร้อยเปอร์เซนต์

แต่ถ้าสมมติฐานที่ถูกแค่ตัวอย่างเดียวที่เหลือผิดหมดเลย
หรือมีความเชื่อมั่นน้อยๆแค่1% หรือต่อให้มากถึง 5  %
เขาจะไม่พูดถึงกันเพราะไม่มีประโยชน์

ระดับความเชื่อมั่นที่สูงๆจะมีประโยชน์ในการนำไปใช้
sai เขียน:เหมือนอย่างคนจีนที่สอนกันมาว่า ถ้าเราขยัน ประหยัด
อดทน แล้วจะประสบความสำเร็จ แน่นอน มีหลายคนที่ทำตามแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ (เพราะผมเชื่อว่าถ้าทำตามนี้จะมีคนที่ประสบความสำเร็จมากกว่า
คนไม่สำเร็จครับ)แต่นั่น ก็ไม่ได้แปลว่าคำกล่าวข้างต้นผิดครับผม
:D  :D  :D
ถึงแม้ผมจะเห็นด้วยกับคุณ kmphol
แต่ผมก็คิดว่า พี่สามัญชน และ พี่ sai ก็อธิบายมีเหตุผลเช่นกันครับ

เป็นอันสรุปว่า
"การลงทุนในหุ้น ระยะยาวแล้วจะให้ผลตอบแทนที่ดี"
อาจจะถูกต้องหรือไม่ถูกต้องก็ได้ ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นส่วนบุคคล
และขึ้นอยู่กับประเด็นที่เรานำมาพิจารณาี้


:wink:  :wink:

Re: มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 18, 2008 1:04 pm
โดย kmphol
[quote="สามัญชน"]

คนที่เลือกลงทุน"เป็น"จึงมักจะได้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
ส่วนจะดีมากดีน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับฝีมือคนเล่นหุ้นซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญกว่า

แต่แม้ว่าจะลงทุนไม่เป็นเลย
โดยตีความรู้ความเข้าใจในเรื่องหุ้นเป็นศูนย์
ผลตอบแทนก็ยังชนะคนฝากกินดอกเบี้ยอยู่ดี

มารวบรวมความเชื่อที่ผิดผิด เกี่ยวกับตลาดหุ้นกันครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 18, 2008 1:13 pm
โดย kornjackrit
kmphol เขียน:ตลาดหุ้นมันไม่ใช่อะไรที่ ง่าย ง่าย ชิว ชิว ใคร ใคร ก็มาเอาเงินจากมันไปได้ ต่อให้คุณ หวังแค่เงินปันผล ปีละไม่กี่ ก็เถอะ มันก็ไม่ได้ให้คุณง่าย ง่าย หรอก คนที่หวังแค่ปันผล แต่ต้องขาดทุนเงินต้นก็ มีตั้งเยอะแยะ

ตลาดหุ้นโหดร้ายกว่าที่คุณคิดมาก ถ้าคุณไม่รู้จักมันดีพอ มันสามารถ เอาเงินที่คุณเก็บมาทั้งชีวิต เปลี่ยนให้กลายเป็นเศษกระดาษที่มีค่าเป็น 0 ได้ ตัวอย่าง เร็วเร็วนี้ ก็ดูในอเมริกาเอาเอง ก็แล้วกันครับ
:cool:  

เป็นสาเหตุหนึ่งที่ผมศึกษาแนวทางการลงทุนแบบ VI
เพราะผมคิดว่าการเข้าใจในสิ่งที่จะลงทุนจริงๆเท่านั้น
ถึงจะให้ผลตอบแทนในระดับที่เราคาดหวังอย่างสมเหตุสมผลได้