Thai VI

ช่วงนี้เห็นว่าโรงแรม โปรโมชั่นแหลก เช่นไปตีกอร์ฟ ก็ลดราคาลงเยอะ

แล้วการท่องเที่ยวนี่จะกระทบต่อตลาดหุ้นมากน้อยแค่ไหนครับ

เพื่อนๆคิดอย่างไร

น่าจะมีผลกระทบในธุรกิจกลุ่มโรงแรมทั้งหมด

กลุ่มนี้ fixed cost สูง

ต้องทำโปรโมชั่นมากๆกำไรจะเป็นไงคงต้องมาลุ้นกัน

และธุรกิจที่ต่อเนื่องอย่าง makro ,aot,thai,mint,centel,bh,bgh

กำไรบริษัทพวกนี้ลดคงมีผลต่อตลาดบ้าง

แต่เคยอ่านเจอมีพี่คนหนึ่งให้ความเห็นว่าต่างชาติมอง setเป็น

แค่ warrant พี่เจ๋งคิดแบบนั้นไหมครับ แล้วถ้าเปรียบเทียบกับ

ระเบิดที่บาหลีเมื่อหลายปีก่อนกับ ระเบิดที่มุมไบไม่นานนี้

พี่เจ๋งว่าภาพไหนดูเลวร้ายกว่าครับ ในสายตาพี่

โดยส่วนตัวชอบเหตุการณ์ร้ายๆ เพราะว่า จะได้หาหุ้นราคาถูกๆด้วยเหตุผลแบบเดาๆ 2 ข้อ

1. หุ้นลงมาก ที่ไม่เกิดจากพื้นฐาน แต่ลงเพราะตลาดลง ลงมากๆ เจ้ามือเก็บได้ สุดท้าย ก็ต้องลาก

2. หุ้นลงมาก จากพื้นฐาน ก็จะลงเกินพื้นฐาน และสุดท้ายก็ต้องขึ้นด้วยพื้นฐาน

ตอบคำถาม ที่ว่าเราหนักกว่า มุมไบ หรือ บาหลี หรือไม่ ไม่ทราบ เพราะคนรวย 100 ล้าน จนลงเหลือ 1 ล้านก็ยังมีกิน แต่คนจนไม่มีเงินเลย หากตกงานอีก อาจจะต้องปล้น ฆ่า เพื่อให้มาซึ่งความอยู่รอด

ล่าสุด น้องเพื่อน โดนรถชน แล้วลงมาดู โดนทุบหัว สลบ แล้วก็ปล้นเงินไปหมด ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล

เคยมีอินเตอร์เน็ตเตือนเรื่องนี้นะ ว่า ขับรถตอนดึกๆ ถ้ามีใครมาชน ไม่ต้องลง ไม่งั้นอาจจะตายได้

ตอบคำถามที่ว่า เรารุนแรงกว่าหรือไม่ พี่คิดว่าต้องมีข้อมูลว่า เรารวยหรือจนกว่า อินเดีย บาหลี มากน้อยแค่ไหน สวัสดิการในการรองรับ ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น โครงการต่างๆที่จะเข้ามาช่วยเหลือ เราสู้เขาได้มากน้อยแค่ไหน

เพราะแค่ เรื่องที่เกิดก็เป็นแค่โรคร้ายที่มาคุกคาม แต่ร่างกายเราแข็งแรงแค่ไหน

สำหรับพี่มีมองว่าไทย แข็งแรงนะ ทะสวย สาวสวย พื้นที่เพาะปลูกมาก ทุกอย่างโอเคหมดเลย

เพราะฉะนั้น หุ้นลงอีกเยอะๆ ยิ่งเยอะยิ่งดีครับ

สุดท้ายก็ต้องขึ้น ซื้อหุ้นตอนลงจัดๆนี่ ความเสี่ยงน้อยนะ

ไม่ขึ้นด้วยพื้นฐาน ก็ต้องขึ้นด้วยการลากของเจ้ามือ

เพราะฉะนั้น หุ้นลงอีกเยอะๆ ยิ่งเยอะยิ่งดีครับ

สุดท้ายก็ต้องขึ้น ซื้อหุ้นตอนลงจัดๆนี่ ความเสี่ยงน้อยนะ

ไม่ขึ้นด้วยพื้นฐาน ก็ต้องขึ้นด้วยการลากของเจ้ามือ[/quote]

       แปลว่า อย่างน้อยคิดจะลงทุนตอนนี้ นอกจากดูพื้นฐานแล้ว เราก็น่าจะดูความนิยมของเจ้ามือด้วย... อืม
       มองไปคล้ายๆกับ ขุนศึกที่ออกรบโดยมีทั้งดาบและโล่เลยนะครับ มีพื้นฐานเป็นโล่คอยรับ และมีเจ้ามือเป็นดาบบุกทะลวง
       ต้องทำการบ้านเพิ่มอีกแล้วเรา

เมื่อการท่องเที่ยวเป็นแหล่งรายได้หลักอีกแห่งของชาติ(ก็ย่อมมีคนทำงานอยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวข้องมากตามไปด้วย)ที่พึ่งพาได้ดีมาตลอดในช่วงที่การลงทุนและการบริโภคอ่อนแอ แต่ในเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวหดหายไปอย่างมากเนื่องจากวิกฤตการเงินที่ลุกลามจนทำให้กลายเป็นวิกฤตศก.โลกถดถอย(โดยส่วนตัวผมว่าคงไม่ต่างจากช่วงเดอะเกรสดิเพรสชั่น)การปิดสนามก็เป็นตัวช่วยเร่งปฏิกิริยาให้เร็วขึ้นโดยปกติประเทศเรามีนักท่องเที่ยวประมาณ14-15ล้านคนปีให้ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าจะลดลงไปครึ่งหนึ่งและการเรียกความมั่นใจของนักท่องเที่ยวให้กลับคืนมาก็คงต้องใช้เวลาเยี่ยวยาอีกหลายเดือน ตัวเลขนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซันปี52ของธุรกิจโรงแรมก็จะพอทำให้ทราบแล้วจะเป็นอย่างไรฟื้นหรือไม่(โดยส่วนตัวผมรอดูผลประกอบการQ4/52ของไมเนอร์)

ที่สำคัญก็คือเมื่อรายได้ในธุรกิจท่องเที่ยวลดลงมากการปลดพนักงานก็ย่อมมากตามไปด้วยเพื่อลดต้นทุนและเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจนั่นก็หมายความว่าอัตราการว่างงานย่อมสูงขึ้น กำลังซื้อของผู้บริโภคก็ย่อมต้องลดลง อัตราการผิดนัดชำระหนี้ก็สูงขึ้นตามไปด้วย ยอดขายบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในSETก็ย่อมต้องหดตัวตามไปด้วยครับ  :B

โดยปกติประเทศเรามีโดยปกติประเทศเรามีนักท่องเที่ยวประมาณ14-15ล้านคนปีให้ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าจะลดลงไปครึ่งหนึ่ง

ขอแก้ไขหน่อยครับ โดยปกติประเทศเรามีนักท่องเที่ยวประมาณ14-15ล้านคนต่อปี ปีหน้าผู้เชี่ยวชาญในวงการการท่องเที่ยวกล่าวว่าจะลดลงไปครึ่งหนึ่งครับ ปกติผมพิมพ์ช้าอยู่แล้วยังผิดพลาดอีกครับ กำ

ฟังจากข่าวทีวี มีสองกระแส
ถ้าระยะสั้น สถานที่เที่ยวตาม Resort สำคัญๆ ทางภาคเหนือ ถูกจองเต็มแล้ว เย้...
ส่วนระยะยาว world bank ได้เปรยเดิมก่อนปิดสนามบิน บ้านเราการเงินแกร่ง
ไม่ค่อยกระทบภาคการเงินเท่าไหร่
แต่หลังจากที่ว่า คาดว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในปีหน้า
จะมีอัตราการขยายตัวที่ติดลบซะแล้ว
เอาจากคนใกล้ตัว คนไทยเองยังเบื่อเที่ยวเมืองไทย ขนเงินไปเที่ยวเมืองนอกเลยนี่

ขอตอบสั้นๆครับว่า

โปรโมชั่นที่พี่เจ๋งเห็นนี่อาจจะเป็นแค่จุดเริ่มต้นครับ  :oops: หลายที่ยังคงหวังว่าจะมีอะไรดีขึ้นครับ จะได้ไม่ต้องออกโปรฯมาตัด margin ตัวเอง

ตอนนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เห็นกันตามหน้าน.ส.พ.ต่างๆ ถ้าจะเอาของจริงคงต้องหารลงไปอีกครับ

(กิจกรรมเลือกหุ้น + สำรวจตลาดแบบ Peter Lynch: ใครว่างๆช่วง 2-3 ทุ่ม ลองขับรถผ่านโรงแรมต่างๆช่วงกลางคืนดูซิครับ ลองนับไฟห้องที่เปิดอยู่แล้ว แล้วลองมาลงความเห็นกันว่า occupany rate ของโรงแรมในกทม.ช่วงนี้อยู่ที่เท่าไหร่ )

มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นแค่ไหน อันนี้คงตอบไม่ได้ในตอนนี้ครับ ทุกอย่างต้องรอตัวเอง Q1 ปี 52 ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน