Thai VI

วันก่อนผมบินกลับมาจาก ลาส เวกัส อ่านในหนังสือพิมพ์ ตกใจหมดเลย

เพราะ เปรียบเทียบกับทุกประเทศในโลกแล้ว เมืองไทย ร้อนที่สุด เช่น เทียบกับ บอมเบย์ อินเดีย

ขนาดแอฟริกา เรายังร้อนกว่าเลย

ผมเทียบดูทั้งโลก มากกว่า 30 ประเทศ ประเทศไทย ร้อนที่สุด

เดี๋ยวไปชงชาเขียวเย็นๆ มากินดีกว่า

อิอิ

ขอด้วยแก้วหนึ่งพี่

ได้รับคำแนะนำจากน้อง Nostradamus แห่งตลาดหุ้น ครับ คุณฉัตรชัย

โดยใช้ ban-cha ซึ่งจะมีทั้งก้าน ทั้งใบ ซองหนึ่ง ร้อยกว่าบาท ชงได้นาน หลายแก้วเลยครับ

ชงแล้วใส่น้ำแข็ง

ผมว่าอร่อย หอม หวาน เย็น ชื่นใจ กว่า เป็นขวดๆ ครับ

รอพี่เจ๋งไม่ไหวเลยกินน้ำเปล่าใส่น้ำแข็งก่อนละครับ

ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ผมว่าเรื่องนี้คล้ายกับจะเป็นเรื่องที่ไม่ควรให้เกิดความขัดแย้งกันเลย สงสารคุณWVIXครับ

กินชาเขียวที่เหลือจากงานปีใหม่ที่บ้านอยู่ครับ

เวลา เยียวยา ทุกอย่างได้ อย่างแน่นอน

อิอิ

คิดถึงเฮีย..

เฮ้อ :lol: ...ได้กินชาเขียวพี่เจ๋งแล้วดีขึ้นเยอะ

อากาศว่าร้อนแล้ว บางครั้งในใจเราร้อนกว่า
เข้ามากันที่นี่ ก็จะมาหา แลกเปลี่ยนความรู้
เพื่อพัฒนาตนเอง พัฒนาชีิวิต

อย่าไปยึดติดอะไรมากครับ
สวมหัวโขนกันทั้งนั้น..
คิดดี พูดดี ทำดี ก็สบายใจแล้วครับ

เท่าที่ทราบ ชาเขียวร้อนมีประโยชน์มากครับ คือมี Anti-Oxidant
แต่ชาเขียวเย็นนี่จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่

ฟังผู้รู้ว่ามาครับ ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าจริงหรือเปล่า

ชาต้องดื่มตอนร้อนๆครับ เพราะน้ำชามีคุณสมบัติเย็น (จีนแต้จิ๋วเรียกว่า "เลี้ยง") หากดื่มใส่น้ำแข็งบ่อยๆเป็นประจำจะมีผลต่อกระเพาะอาหารครับ
(ชาจีนบางตัวห้ามดื่มตอนเช้าก่อนอาหารเพราะกัดกระเพาะ) พี่เจ๋งลองชาเขียวจีน "หลงจิ่ง" ดูบ้างสิครับ หอมชื่นใจมาก หาซื้อได้แถวๆเยาวราช

เห็นด้วยกะพี่ๆค่ะ ร้อนๆยังงี้ดื่มชาเขียวเย็นๆ สบายใจที่ซู๊ด.ด ชาร้อนก้อดีค่ะพี่ CK แต่ขอเป็นหน้าหนาวหน่อยดีมั้ยคะ หรือถือคติ "หนามยอกเอาหนามบ่ง" คะ ฮ่าๆๆๆๆ ...แซวเล่นแก้ร้อนค่ะ...

จะว่าไปชาเขียวนี่น่าจะเป็นน้ำดื่มที่แพงที่สุดในโลกได้เลยนะคะเนี่ย (ยกเว้นน้ำผสมแอกอฮอล์ ) หรือมีใครคิดว่ามีน้ำอื่นแพงกว่านี้อีกมั้ยคะ ลองคิดเล่นๆแบบไม่เป็นสาระดูค่ะ

ถ้าเอาแบบมีสาระหน่อย และพยายามโยงเข้าเรื่องอีกนิด ก้อคงจะต้องถามว่ามีบริษัทไหนบ้างคะที่ขายชาเขียว จะได้อุดหนุนกิจการตัวเองได้อย่างสบายใจ...อิๆๆๆๆ

คุณ thanez ครับ

หลงจิ่งคือยอดชาจีนครับระดับฮ่องเต้ ขอคารวะ

ผมมีโอกาสได้มาหนึ่งถุงเล็กๆ ท่านแม่แบ่งให้ ตอนนี้หมดไปแล้ว
อยากได้อีกแต่ไม่มีปัญญา

เคยชงเลี้ยงเพื่อนหนหนึ่ง พวกทำหน้าเบ้แล้วบอกจืดไป สู้ Lipton
ยังไม่ได้เลย ผมน้ำตานองเลยครับ (เสียดายชา)

อยากจะบอกว่า แม้แต่ชงร้อนๆ หลงจิ่งยังทำให้เย็นชื่นใจได้เลย!!!

ไม่เชื่ออยาลบหลู่

ตอบน้อง enokwan

ชาเขียวเย็น ได้ยินว่ามีโทษมากกว่าประโยชน์ครับ

น้ำดื่มที่แพงที่สุดในโลกน่าจะเป็น น้ำที่ละลายมาจากน้ำแข็งขั้วโลก
เหนือที่แข็งตัวมาอย่างน้อย 100 ปี

ตามตำราบอกว่า อ็อกซิเจนจะถูกกำจัดจนหมด ทำให้น้ำมีคุณสมบัติ
ดีเลิศในการชงชาครับ

คิดว่าแก้วหนึ่งหลายๆ ร้อยบาททีเดียยว แต่ก็สมน้ำสมเนื้อกับชาชั้นดี
ครับ ปอนด์หนึ่งก็หลายพันบาทเหมือนกัน

อย่างน้อง thanez ว่าไว้ก็น่าจะถูกนะคับ ว่า ชาเขียว เป็นยาเย็น ต้องกินร้อนๆ แต่คำพูดนี้อาจจะมาจากตำรา ชา จากประเทศจีน หรือไม่ก็ญี่ปุ่นที่หนาวเย็นกว่าเมืองไทย

โดยส่วนตัวผมแล้วผมคิดว่า ชาเขียวเย็น น่าจะมี ประโยชน์กับคนไทย เพราะเราเป็นเมืองร้อน กินอะไรให้มันเย็นๆ นี่น่าจะดี

คนไทยแปลกครับ ใส่สูท ทั้งที่ร้อนมาก กินกาแฟร้อน ทั้งๆที่ร้อนมาก

คือเราทำตาม สากล ทำตามประเทศที่เจริญแล้ว เขานิยมกัน

จนกระทั่งลืมไป ว่า บางอย่างเราไม่มีอะไรเหมือนเขาเลย เช่น ความร้อน + ชุ่มชื้น แบบบ้านเรา

เราไม่ได้ร้อนแบบทะเลทราย ที่ลาสเวกัส
เราไม่ได้หนาวจนกระทั่งเจ็บหูแทบหลุด แบบ london

เพราะฉะนั้น ยาเย็น ที่กินเย็นๆ น่าจะเหมาะ คือ ผมกำลังหมายความว่า เราไม่น่าจะอยู่ห้องแอร์ แต่เราควรกินชาเขียวเย็น

ดีกว่าอยู่ห้องแอร์ตลอด แล้วกินกาแฟร้อน

อิอิ ก็เขียนไปเรื่อยๆ ไม่มีหลักวิชาการอะไรรองรับ เขียนเล่นๆแบบไม่ซีเรียสนะ ครับ

ถ้าพูดถึงเรื่องชา
พอดีพอมีความรู้อยู่บ้าง

ถ้าเป็นชานี่ต้องดื่มชาร้อน (ชาอุ่น) ครับ
เพราะถ้าดื่มชาเย็นหรือน้ำเย็นจะทำให้กล้ามเนื่อหลอดอาหารหดตัว
และความเย็นจะทำให้ Tantacle หรือเยื่อเล็กๆที่คอยกวาดอาหารในหลอดอาหารถูกทำลาย
ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพของหลอดอาหารและลำไส้ลดลง
ในระยะยาวจะทำให้เกิดอาการอาหารย่อยยาก
เกิดท้องอืด ท้องเฟ้อ ครับ
หนักเข้ามากๆก็อาจทำให้เกิดมะเร็งในหลอดอาการและลำไส้ได้
เพราะกากอาหารจะเคลื่อนตัวได้ช้าในลำไส้
ทำให้เกิดการหมกหมมของสารพิษในอาหารครับ

เขียนน่ากลัวเกินไปหรือเปล่าเนี่ย

ที่พูดไม่ได้ยกเมฆนะครับ พอดีไปอ่านเจอในหนังสือเกี่ยวกับแมคโครไบโอติค

อ้อ พูดถึงชา พอดีไปเจอบทวิจัยของอังกฤษครับว่า
"ชาใบหม่อน"มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีประโยชน์มาก
แต่ฝรั่งไม่รู้จักต้นหม่อน
ประเทศไทยมีต้นหม่อนเยอะแยะ
และมีชาใบหม่อนขายเต็มไปหมด

ที่เล่าเรื่องนี้เพราะกลัวว่า ฝรั่งจะเอาภูมิปัญญาไทยไปเป็นของตัวเองนะครับ

ตอนนี้ผมก็กำลังดื่มชาใบหม่อนอยู่
รสชาดดีมากครับ
ดื่มสลับกับชาเขียวบ้างก็น่าจะดีครับ
ช่วยส่งเสริมภูมิปัญญาไทย

ลองดูซิครับ

ผมดื่มอยู่ 3 ตัว ชาใบหม่อน ชาจีน และสุดยอดแห่งสมุนไพร..กระชายดำ
หุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ดื่มเบียร์นี่สวนกระแสมั้ยคร้าบบบบบบบ

พี่เจ๋งไปพักโรงแรมไหนมาครับ
ผมก็เพิ่งไปมาเหมือนกัน ....
ไม่ได้เล่นพนันเลยดูโชว์กับตระเวณดูโรงแรงเล่นอย่างเดียว

พักที่ venetian ตรงข้าม miraj ครับ จริงหรือเปล่าที่บอกว่า venetian เรื่องขนาดเป็นรอง แค่ MGM( 5500 ห้อง )

ครับ yoyo

อันนี้ไม่รู้เหมือนกันครับ
แต่ว่า MGM นี่ก็ใหญ่จริงๆนะครับ เข้าไปดูข้างในมีเลี้ยงเสือไว้ให้ดูด้วย
พี่เจ๋งได้นั่งเรื่อพายรึเปล่า ผมไม่มีโอกาสได้นั่ง
ดูๆ พวกอาบอบนวดเมืองไทยนี่ชื่อเหมือนกับโรงแรมที่ vegas ทั้งนั้นเลยแฮะ

yoyo

พี่ไม่ได้นั่งครับ แต่ตะลึง ตอนขึ้นไปชั้นสอง เราก็ไม่รู้เรื่อง เห็นมีคนนั่งกินข้าว สองข้างทาง มีตึก มีถนน มีการแสดง คือมีคนมายืนนิ่งๆ

มีสะพาน และมีเรือ พายไปพายมา

อยู่บนชั้นสอง ยืนมองฟ้า เพราะนึกว่าออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์

สักครู่ใหญ่ๆ พี่เริ่มเอะใจ ทำไมฟ้า มันนิ่งจัง มองไปมองมา อ้าว ฟ้าปลอมนี่หว่า อิอิ เด็กไทย เข้าเมกา ก็อย่างนี้แหละครับ

ขอวกกลับไปที่ เรื่องดื่มเย็น ร้อน ที่พี่ๆเพื่อนๆคุยกันค่ะ

เท่าที่ทราบมาเหมือนพี่ๆข้างบนว่า ชาต้องดื่มตอนร้อนๆค่ะ เพราะสารที่กำจัดเชื้อแบคทีเรียไม่ดีในลำไส้จะทำงานได้ดีในชาร้อน ไม่ว่าจะเป็นชาแดง(ชาจีนทั่วไป) ชาดำ(เช่นอู่หลงหรือมังกรดำ) หรือชาเขียว(นิยมมากในญี่ปุ่น) ชาแต่ละชนิดก็มีสรรพคุณแตกต่างกันด้วยค่ะ แต่แปลกนะคะ เคยเห็นแต่ชาเขียวแบบญี่ปุ่นแท้ๆที่เป็นสีเขียวๆ บางชนิดมีกลิ่นหอมมากๆ เขาเรียกชาเขียวผสมเมล็ดข้าวญี่ปุ่น พอมาเจอชาเขียวสีแดงแบบที่ตอนนี้ฮิตกัน เลยไม่แน่ใจว่าเป็นชาอะไร และมีขั้นตอนการผลิตยังไง

ของที่ต้องดื่มตอนร้อนๆ น่าจะมี ชา และน้ำแกงค่ะ
ส่วนน้ำเปล่า คงไม่ต้องถึงกับดื่มร้อน แค่อุณหภูมิห้องปกติของเราก็พอค่ะ ผู้ใหญ่บอกว่า อากาศร้อนๆ ยิ่งดื่มน้ำเย็น จะยิ่งไม่ดี เพราะเมื่อดื่มเข้าไปแล้วในร่างกายก็ต้องใช้พลังงานมาทำให้มันอุ่นลงเท่ากับอุณหภูมิของร่างกาย
เคยอ่านเจอว่ายิ่งทานน้ำแข็งเข้าไปจะยิ่งกระหายน้ำค่ะ

ตัวอย่างที่เห็น ผู้ใหญ่ 2 ท่านใกล้ตัว ไม่เคยดื่มน้ำเย็นเลยตลอด 40-50 ปี ท่านหนึ่งดื่มแต่น้ำอุ่น อายุ 60 ยังผิวดีเต่งตึง ไร้รอยเหี่ยวย่น ดูสาวกว่าอายุจริงไป 10 ปีค่ะ อีกท่านหนึ่งดื่มแต่ชาร้อนเป็นประจำ แทบไม่เคยเป็นโรคเกี่ยวกับลำไส้เลย อายุ 63 ไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเพราะเจ็บป่วย แถมยังยกดัมเบลอันใหญ่อยู่เป็นประจำค่ะ

ติงติงอยากเป็นอย่างนั้นมั่ง เลยเริ่มดื่มแต่น้ำธรรมดามาหลายปี เดี๋ยวนี้ดื่มน้ำเย็นแล้วแปลกๆค่ะ อากาศร้อนก็จิบน้ำธรรมดาไปเรื่อยๆ ใส่น้ำยาอุทัยเล็กน้อย ชื่นใจ

อิอิ ขอออกความเห็นเล็กน้อย อาจจะขัดๆ กับเรื่องที่หลายๆคนได้เรียนรู้มา

ผมว่า คนดึกดำบรรพ ที่สุดที่เคยเจอ คือเมื่อ 4 ล้านปีมาแล้ว

และคนเริ่มจุดไฟเป็นเมื่อ อย่างมากก็ 1 แสนปี มั๊ง เดา เอา

สมัยที่คนอยู่มานานหลายล้านปี ผมว่า ไม่มี ของร้อนให้กินเลย

แต่ของเย็นๆ อย่างเช่น น้ำเย็นๆในลำธาร หรือ น้ำ เย็นๆ ในน้ำที่เป็นน้ำแข็ง นี่ยังพอเคยกินกัน แต่น้ำอุ่นๆนี่ไม่ต้องพูดถึง ไม่เคยได้กินกันเลย เกือบ 4 ล้านปี

แต่คนเราก็ชอบอะไรที่ไม่เคย คนอยู่เขา ก็ชอบทะเล คนที่ทะเล ชอบไปเที่ยวเขา

คนไม่ได้กินน้าร้อน น้ำอุ่นมานาน ก็ชอบ พอกินกันแล้วก็ติดใจ จนกระทั่งแต่งศาสตร์แต่งตำรามา บอกว่าดี

ผมเองไม่เห็นด้วยกับการกินน้ำเย็นจัด แต่ก็ไม่เชิงจะเห็นด้วยกับกินชาร้อน เพราะ ประวัติการเป็นมะเร็งที่คอ เห็นบอกว่ามีความสัมพันธ์กับการกินของร้อน นะครับ ติงๆ

ก็แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันไปนะครับ

เพราะผมไม่เคยศึกษาเกี่ยวกับชา เลย ผู้รู้อย่าโกรธนะ

ผมแค่หาเรื่องมาเถียงเล่นๆ

ว่า มนุษย์เราหลายล้านปี พัฒนามาจากการกินแต่ของเย็นๆ ชืดๆ ไม่มีของร้อน เพราะไม่มีไฟให้ใช้มาก่อนครับ

อะ...เรื่องแรกขอยอมแพ้เลยค่ะพี่เจ๋ง ของพี่แก่กว่าเยอะเลย ฮะๆๆๆ

ส่วนเรื่องดื่มชาร้อนจัดที่ว่าเป็นมะเร็งนั้น เคยทราบมาเหมือนกันค่ะ คงเป็นเพราะบางคนนิยมดื่มชาร้อนจัดๆมากๆค่ะ เคยเห็นคนแก่หลายคนที่ดื่มร้อนขนาดนั้นจริงๆค่ะ คิดว่าอันตรายเหมือนกัน แต่ที่ติงๆเล่าคือ เขาดื่มชาร้อนธรรมดาค่ะ

อย่างว่าแหละค่ะพี่เจ๋ง เดินทางสายกลางดีที่สุดค่ะ

ฮ่า ฮ่า ฮ่า พี่ก็ว่าของพี่ไปเรื่อย ไม่มีอะไรหรอก ฮา

เจอ 4 ล้านปี ยอมแพ้เลย อิอิ

ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โครงกระดูมนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุดคือ
ประมาณ 3 ถึง 4 หมื่นปีเท่านั้นเองครับ

เก่ากว่านั้น (เกิน 2 แสนปีขึ้นไป) เป็นของมนุษย์แอนดีเนอธรัล ซึ่ง
จะเรียกว่ากึ่งมนุษย์ก็ได้ครับ นักวิทยาศาสตร์เองก็ยังไม่เรียกว่า
โฮโมเซเปี้ยนเลย

ส่วนระหว่างนั้น ไม่มีการค้นพบกระดูกมนุษย์หรือสัตว์ที่คล้ายมนุษย์เลย

นักวิทยาศาสตร์แค่ตั้งสมมติฐานว่ามนุษย์แอนดีเนอธรัลเป็นบรรพบุรุษ
ของมนุษย์ แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน เพราะโครงกระดูกที่เป็น
รอยต่อระหว่างมนุษย์ลิงกับมนุษย์ปัจจุบันก็ยังหาไม่พบ

เพราะฉะนั้น ต้องเติมคำว่า "อาจจะ" หรือ "น่าจะ" เอาไว้ครับ ยังไม่ได้
มีการสรุปเป็น "ข้อเท็จจริง"

ส่วนชา มนุษย์เราเริ่มค้นพบและทานชากันไม่เกิน 6-8 พันปีนี้เองครับ
หลังการค้นพบไฟนานมาก ก่อนหน้านั้นคนเรากินแค่น้ำเปล่ากับอาหาร
ประทังชีวิตครับ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ กินอุณหภูมิปกติจะดีที่สุดอยู่แล้ว

นี่ก็ว่าตามตำรานะครับ ผมอายุไม่มากขนาดสามารถยืนยันได้

ส่วนอาหารที่ร้อนเกินไปทำให้เป็นมะเร็งแน่ๆ แดดร้อนเกินไปก็เช่นกันครับ

ชาต้องชงตอน 96 องศาเซลเซียส แต่ตอนดื่มน่าจะประมาณ 60-80 เท่า
นั้นเองครับ ถ้าต่ำกว่านั้นก็เริ่มไม่ดีแล้ว

เวลาชงชากินจริงๆ (ทั้งญี่ปุ่นและจีน) หลังชงเสร็จต้องรอแป๊บนึง หลังจาก
รอเสร็จต้องทานทันที สรุปคือ ไม่ร้อนไป และไม่เย็นไปครับ

ส่วนเรื่องหน้หนาวทานของร้อน หน้าร้อนทานของเย็น ก็เป็น luxury ครับ

ถ้าจะให้ดี ต้องทำแบบโกวเล้ง

"หน้าร้อนซดน้ำแกงเดือดพล่าน หน้าหนาวกัดเนื้อแช่แข็ง"

สาเก ก็ต้องอุ่นให้ร้อนครับ จึงจะหวานอร่อย

บรั่นดี อุ่นให้อุ่นๆ ด้วยมือเราเอง จะได้กลิ่นที่หอมอบอวล

ถ้าดื่มสองอย่างที่ว่าแล้วร้อนไป ... ต้อง SINGHA เย็นเป็นวุ้น ช่วยดับร้อน .. หุๆๆๆๆๆ

ผมเคยดูหนังจีนส่วนใหญ่ต้องกินชาตอนร้อนเท่านั้น(ไม่รู้ขนาดไหน) ถ้าไม่ร้อนจะสั่งให้ชงมาใหม่หรือไปอุ่นมาใหม่

ผมว่าชาเขียวที่ญี่ปุ่นทานกัน(แบบดั่งเดิม) เป็นชาเขียวสดน่ะครับ
ผิดจากที่บ้านเราจะเป็นชาเขียวที่ผ่านการนวดการอบมาแล้วทั้งนั้น

ส่วนน้ำชาเขียวที่ขายกันดิบดีนั้นผมไม่ค่อยชอบครับ
1.สีออกเหลืองๆ(ของแท้ออกเขียวๆ)
2.กลิ่นไม่หอมเท่าของจริง(ของแท้หอมสุดๆ)
3.ชาเค้าไม่ดื่มแบบเย็นกันหรอก

ส่วนชาที่เคยกินก็ดังนี้ครับ
1.ชาอูหลงก้านอ่อน (ทานที่OTOP)
2.ชาอูหลงเบอร์12 (ทานที่OTOP)
3.ชาใบหม่อน (ทานที่ร้านอาหาร)
4.ชาจีน (ทานที่บ้าน)
5.ชาเขียวอะไรไม่รู้ครับ (มีคนให้มา อิอิ)

มีชาที่น่าทานของจีนอย่างหนึ่งชื่อ "ชาอกสาว" ครับ

ให้สาวๆไปเด็ดยอดชา แล้วเสียบไว้ที่อก (เพื่อให้อุ่น)
นำกลับมาตากเพิ่มแล้วค่อยขาย

หนุ่มๆชอบกันมาก บอกว่าหอมอร่อย

ผมไม่เคยลองครับ ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่