หน้า 1 จากทั้งหมด 1
Dull Investor ?
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 18, 2008 9:42 am
โดย Oatarm
ถือหุ้น 100 % ตลอด + 30% เมื่อต้นปี กลายเป็นลบเกือบ 30% อาจมีปรับ
พอร์ตบ้าง แต่ก็อยู่ในหุ้นทั้งหมด เงินออมที่เหลือใช้แต่ละเดือน เก็บไว้ได้
เต็มที่ไม่เกิน 2 เดือน เอามาซื้อหุ้นหมด ปันผลที่ได้ ซื้อหุ้นหมด ติดตาม
ข่าวเศรษฐกิจบ้าง ติดตามผลประกอบการ ดื้อ ไม่สนเทคนิค ปัจจุบันยัง
ดื้ออยู่ สนใจการขึ้นลงของ Dow เล็กน้อย แต่สนใจราคาน้ำมัน ค่าเงิน
สินค้า demand ของ บ.เรา มาก ดูราคาหุ้นประจำ ประมาณ ผลตอบแทน
จากเงินปันผลล่วงหน้าสองสามปี กับราคาหุ้นปัจจุบันบ่อยๆ ขอทำแบบนี้ต่อ
ไปอีก 4-5 ปี ถ้าแพ้ ก็ยอมรับ ว่าเป็น Dull investor
Dull Investor ?
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 18, 2008 10:08 am
โดย i_sarut
สู้ๆครับ ผมว่าพี่ไม่แพ้หรอกครับ ถ้าเลือกหุ้นได้ถูกตัว
ผมก็ลงหุ้น 100% เทคนิคก็ดูไม่เป็น :lol:
Dull Investor ?
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 18, 2008 11:48 am
โดย ...
ท้อได้แต่อย่าถอย สู้ต่อไปครับพี่
money management ก็สำคัญ
ถ้าคิดว่าเลือกบริษัทดีแล้ว ไม่ต้องดูราคาบ่อยๆก็ได้ครับ
Dull Investor ?
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 18, 2008 11:58 am
โดย birdflu
ตีตั๋ว ร่วมทางด้วยคนครับ พี่โอ๊ต
Dull Investor ?
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 18, 2008 2:22 pm
โดย soros
ยังถือ shin อยู่หรือเปล่าครับ
Dull Investor ?
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 18, 2008 3:02 pm
โดย por_jai
ก่อนถอยตัวออกมาจากตลาดตอนต้นปี
Dull Investor ?
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 18, 2008 3:13 pm
โดย Oatarm
SHIN ยังมีอยู่ครับ อยากรู้เหมือนกันปีหน้า ปันผลจะเป็นอย่างไร
Dull Investor ?
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 18, 2008 10:35 pm
โดย Alastor
มีเงินสำรองไว้ใช้ได้ซัก 6 เดือนดีกว่าครับพี่ เผื่อมีเหตุฉุกเฉินจะได้ไม่ต้องขายหุ้นในภาวะตลาดไม่ดี
Dull Investor ?
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 19, 2008 9:18 am
โดย naris
ผมว่าแต่ละคนติดนิสัยว่า เราเคยได้กินแบบไหน เราก็จะยึดแบบเดิมๆ
ผมเคยคิดเมื่อตอนSETลงมาประมาณ400ปลายๆ500ต้นๆว่า กลยุทธ์ของผมเหมาะสมดีแล้วหรือ ทำไมไม่ปรับตัวขายก่อน(ตอนนั้นมั่นใจเกินครึ่งว่าลงต่อแน่ๆ) และกลยุทธ์การลงทุนควรจะมีแยกเป็นตลาดกระทิงและหมี
จุดแข็งแนวVIน่าจะเป็นตลาดกระทิง และจุดอ่อนแนวVIน่าจะเป็นตลาดหมี ส่วนคนเล่นรอบ ขาลงเขาจะเจ็บตัวน้อยกว่ามากๆ ยิ่งเฉพาะวิธีเด่นศรีที่เคยดังในอดีตน่าจะดีกว่า
แต่ในที่สุดผมก็ได้ตัดสินใจไม่ทำอะไรกับพอร์ตที่ตนเองถือ ความดื้อด้านอยากลองของผมคงเป็นเพราะ
-คิดว่าถึงSETจะลงมาเหลือ300จุดผมก็ไม่เดือดร้อน เพราะมีธุรกิจส่วนตัวที่สามารถเลี้ยงชีพได้อยู่โดยไม่เดือดร้อน
-ผมไม่สามารถเดาได้ว่าจุดต่ำสุดจะอยู่ที่เท่าไหร่
-อยากทดสอบลองผ่านวิกฤตที่เขากลัวๆกัน แล้วอีกสักปีมาดูว่าหุ้นที่ตนเองถือจะเป็นอย่างไร
-กลยุทธ์ที่ผ่านมา5ปีคือเต็มร้อยตลอดเวลา มันสร้างผลตอบแทนที่จุดสูงสุดที่ประมาณ10เท่า และถึงแม้นตอนนี้จะเหลือประมาณ6-7เท่า อย่างที่บอกว่าคนเคยกินอาหารอยู่ที่ไหน ก็จะไปหาอยู่ที่เดิม
-และที่สำคัญที่สุด หุ้นในพอร์ตส่วนมากจะเป็นหุ้นที่ไม่ค่อยมีสภาพคล่อง ถ้าผมคิดจะเล่นรอบกับหุ้นบางตัว สภาพตลาดแบบนี้ขายครึ่งปียังไม่หมดเลยครับ 555 คงจะไม่มีโอกาสได้เล่นรอบ
Dull Investor ?
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 19, 2008 10:11 am
โดย 007-s
-คิดว่าถึงSETจะลงมาเหลือ300จุดผมก็ไม่เดือดร้อน เพราะมีธุรกิจส่วนตัวที่สามารถเลี้ยงชีพได้อยู่โดยไม่เดือดร้อน
ดิฉันคิดว่า ข้อนี้แหละ ที่เป็นจุดแข็ง ทำให้พี่นริศ ตัดสินใจถือหุ้นเต็มพอร์ทได้ โดยไม่ทำอะไรเลย
จุดอ่อน จุดแข็ง ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
เป็นการสำคัญที่ต้องประเมินตัวเอง อย่างยุติธรรมที่สุด ด้วยสายตาที่รู้จักและเข้าใจตัวเองดีที่สุด ก็คือจากมุมมองของแต่ละคนเอง
เราพร้อมที่จะจนลง หรือเราพร้อมที่จะรวยน้อยลง
ความหมายใกล้เคียง แต่แตกต่างสิ้นดีในผลลัพท์สุดท้าย
ชอบความเห็นของเฮียป๋าพอใจ(ในอีกกระทู้นึง) ที่ว่า..
อย่าดูถูกเงินล้านเชียวนา...
เห็นมะ มุมมองของแต่ละคน ไม่เท่ากันจริงๆ
Dull Investor ?
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 19, 2008 10:14 am
โดย HI.ผมเอง
เต็มพอร์ท ตลอด ของคนที่ถือหุ้นหลายๆตัวที่ประกอบกันเป็นพอร์ตที่ต่างกัน น่าจะทำให้ได้ผลไม่เหมือนกันนะครับ
พอร์ทที่สภาพคล่องต่ำแถมมีปันผลสม่ำเสมอ น่าจะติดลบน้อยกว่า และผู้ถือไม่ค่อยอยากขาย(เพราะมีปันผลค้ำอยู่ ถึงปีถัดมากำไรอาจตกลงทำให้ได้ปันผลน้อยลงก้อตาม)(ผมว่าพอร์ทผมน่าจะมีสองตัวเดียวกันกับคุณนริศ เดาเอานะครับ และพอร์ทผมก้อเป็นแบบนี้ด้วยและยังเต็มพอร์ทอยู่)
พอร์ทที่ถือ หุ้นสภาพคล่องปานกลางถึงสูง ปันผลไม่ค่อยมีหรือมีแต่ก้อไม่ค่อยสม่ำเสมอ น่าลงใกล้เคียงตลาด คือ 50 กว่า%หากยังไม่ขาย
พอร์ทที่ถือหุ้นที่เป็นหุ้นโตเร็วpeสูงเกิน20 ยิ่งมีหลายตัวและไม่มีตัวแข็งแกร่งมาอยู่ประกอบด้วย น่าจะติดลบ กว่า 70% เดาเอานะครับ เพราะสภาพคล่องปานกลางถึงสูงแถมกองทุนชอบถือหุ้นแบบนี้โดยเฉพาะกองต่างประเทศ
หากใครถือเต็มพอร์ทแบบสาม เนี่ย ถ้าไม่ขายเลยตอนนี้คงอ่วมพอดูแต่จะมีการเด้งสลับให้เจ็บใจเล่นตอนขายไม่ทันหรือยังลังเล แถมขายแล้วไม่แน่ใจว่าจะได้ซือกลับทันหรือเปล่าอีก
ถือเต็มพอร์ทแบบต่างกัน คงตอบต่างกันเพราะรู้สึกต่างกันมั๊งครับ
Dull Investor ?
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 19, 2008 1:42 pm
โดย mustang
หนับหนุน 1 เสียง
Dull Investor ?
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 19, 2008 9:18 pm
โดย Juninho
ถือหุ้นเต็มพอร์ทตลอดเวลา ดีอย่างเสียอย่าง
หุ้นขาขึ้น รับกำไรเต็ม ๆ
แต่พอเป็นขาลง ก็รับเละเช่นเดียวกัน
เวลาช่วงนี้ คนถือหุ้นเต็มพอร์ทคงยิ้มกันไม่ค่อยออก
แต่ถ้าคุณรอคอยจนเป็นตลาดกระทิงได้เมื่อไร พอร์ทคงกลับมาได้อย่าง
สมภาคภูมิ (แต่อาจจะมีส่วนหนึ่งตายไปก่อนแล้ว)
เพราะฉะนั้น จงอย่าอยู่ในความประมาท
Dull Investor ?
โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 19, 2008 10:00 pm
โดย tummeng
มาร่วมทางด้วยคนครับ
เต็มพอร์ตมาเกือบตลอดชีวิตการลงทุน 5-6 ปีเหมือนกันครับ ปีนี้ปีเดียวโดนคืนไปเกือบ 50 % ใครจะไปคิด
แต่บริษัทเราลงทุนผลการดำเนินงานก็ยังดีอยู่ ปีหน้าอาจจะแย่ลงบ้าง แต่คงจะพอรอดตัวไปได้
โชคดีที่ยังมีธุรกิจส่วนตัวที่พอเลี้ยงครอบครัวได้ก็เลยยังพอน่าจะถูไถไปได้
แต่คงจะยังคง concept เดิมเงินออมก็คงเอากลับมาลงทุนต่อ ปันผลก็คงเอากลับมาลงต่อ
5 ปีเจอกันครับ :lol:
Dull Investor ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ย. 22, 2008 11:08 pm
โดย songwit
ไม่อยากร่วมทางด้วยเลย
แต่โดดลงไม่ทัน... กำลังขึ้นดอย