ไทยเลือดไหลซิบ9เดือน2แสนล้าน
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ย. 16, 2008 10:56 am
ไทยเลือดไหลซิบ9เดือน2แสนล้าน
วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
โพสต์ทูเดย์ — เงินทุนดาหน้าไหลออก ยอดขายหุ้น-ถูกเรียกหนี้คืนช่วง 9 เดือน ทะลักออกไปแล้ว 2.09 แสนล้านบาท
แหล่งข่าวธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา มีเงินทุนที่เข้ามาลงทุนในหลักทรัพย์และตลาดตราสารหนี้ไหลออกจากเมืองไทย แล้วทั้งสิ้น 4,550 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือตกประมาณ 1.57 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ ยังพบว่าบริษัทเอกชนของไทยที่กู้เงินจากต่างประเทศมาใช้ในการขยายธุรกิจและ อุตสาหกรรม ถูกเรียกเงินกู้คืนจากต่างประเทศและต้องจ่ายเงินออกไปแล้วทั้งสิ้น 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาทก็ตกประมาณ 5.25 หมื่นล้านบาท
“เท่าที่ประเมินตัวเลขในช่วงสิ้นปีนี้ จะมีเงินทุนไหลออกอีกประมาณ 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือตกประมาณ 9 หมื่นล้านบาท และจะมีการเรียกคืนเงินกู้อีกอย่างน้อย 4 หมื่นล้านบาท ทั้งหมดนั้นเป็นข้อมูลที่ประเมินจากการถือครองเงินกู้ของบริษัทเอกชนไทย” แหล่งข่าวกล่าว
ด้านนางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงินและบริหารเงินสำรอง ธปท. กล่าวว่า เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีแนวโมที่จะลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มีเงินลงทุนโดยตรงจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาแค่ 500-600 ล้านเหรียญสหรัฐ
ขณะที่การลงทุนในตลาดหุ้นในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มียอดนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นออกไปแล้วกว่า 1.4 แสนล้านบาท
ธนาคารกรุงเทพ รายงานเงินทุนเคลื่อนย้ายในช่วง 8 เดือนแรกปี 2551 พบว่าไทยเกินดุล 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเงินทุนเคลื่อนย้ายภาคเอกชนเกินดุลสุทธิ 1.09 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ จำแนกเป็นการเกินดุลของภาคธนาคาร 7,500 ล้านเหรียญสหรัฐ และภาคเอกชนที่มิใช่ธนาคารเกินดุลสุทธิ 3,400 ล้านเหรียญสหรัฐ ในจำนวนนั้นเป็นการไหลเข้าของการลงทุนโดยตรง 5,200 ล้านเหรียญสหรัฐ และสินเชื่อการค้าเพิ่มขึ้น 1,900 ล้านเหรียญสหรัฐ
ขณะที่ภาคเอกชนได้ทยอยชำระคืนหนี้ต่างประเทศ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และการไหลออกของเงินลงทุนในหลักทรัพย์ร่วม 3,300 ล้านเหรียญสหรัฐ
ธนาคารกรุงเทพ ระบุว่า ในปี 2552 เศรษฐกิจไทยยังเผชิญปัจจัยเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอย่างมาก
“การที่เศรษฐกิจของประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ ทั้งสหรัฐ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ล้วนประสบปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว จะกระทบต่อการส่งออกของไทยในปี 2552 และมีผลถึงการลงทุนภาคเอกชนและการจ้างงานของไทยให้ชะลอตัวลง
วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
โพสต์ทูเดย์ — เงินทุนดาหน้าไหลออก ยอดขายหุ้น-ถูกเรียกหนี้คืนช่วง 9 เดือน ทะลักออกไปแล้ว 2.09 แสนล้านบาท
แหล่งข่าวธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา มีเงินทุนที่เข้ามาลงทุนในหลักทรัพย์และตลาดตราสารหนี้ไหลออกจากเมืองไทย แล้วทั้งสิ้น 4,550 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือตกประมาณ 1.57 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ ยังพบว่าบริษัทเอกชนของไทยที่กู้เงินจากต่างประเทศมาใช้ในการขยายธุรกิจและ อุตสาหกรรม ถูกเรียกเงินกู้คืนจากต่างประเทศและต้องจ่ายเงินออกไปแล้วทั้งสิ้น 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาทก็ตกประมาณ 5.25 หมื่นล้านบาท
“เท่าที่ประเมินตัวเลขในช่วงสิ้นปีนี้ จะมีเงินทุนไหลออกอีกประมาณ 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือตกประมาณ 9 หมื่นล้านบาท และจะมีการเรียกคืนเงินกู้อีกอย่างน้อย 4 หมื่นล้านบาท ทั้งหมดนั้นเป็นข้อมูลที่ประเมินจากการถือครองเงินกู้ของบริษัทเอกชนไทย” แหล่งข่าวกล่าว
ด้านนางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงินและบริหารเงินสำรอง ธปท. กล่าวว่า เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีแนวโมที่จะลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มีเงินลงทุนโดยตรงจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาแค่ 500-600 ล้านเหรียญสหรัฐ
ขณะที่การลงทุนในตลาดหุ้นในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มียอดนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นออกไปแล้วกว่า 1.4 แสนล้านบาท
ธนาคารกรุงเทพ รายงานเงินทุนเคลื่อนย้ายในช่วง 8 เดือนแรกปี 2551 พบว่าไทยเกินดุล 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเงินทุนเคลื่อนย้ายภาคเอกชนเกินดุลสุทธิ 1.09 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ จำแนกเป็นการเกินดุลของภาคธนาคาร 7,500 ล้านเหรียญสหรัฐ และภาคเอกชนที่มิใช่ธนาคารเกินดุลสุทธิ 3,400 ล้านเหรียญสหรัฐ ในจำนวนนั้นเป็นการไหลเข้าของการลงทุนโดยตรง 5,200 ล้านเหรียญสหรัฐ และสินเชื่อการค้าเพิ่มขึ้น 1,900 ล้านเหรียญสหรัฐ
ขณะที่ภาคเอกชนได้ทยอยชำระคืนหนี้ต่างประเทศ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และการไหลออกของเงินลงทุนในหลักทรัพย์ร่วม 3,300 ล้านเหรียญสหรัฐ
ธนาคารกรุงเทพ ระบุว่า ในปี 2552 เศรษฐกิจไทยยังเผชิญปัจจัยเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอย่างมาก
“การที่เศรษฐกิจของประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ ทั้งสหรัฐ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ล้วนประสบปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว จะกระทบต่อการส่งออกของไทยในปี 2552 และมีผลถึงการลงทุนภาคเอกชนและการจ้างงานของไทยให้ชะลอตัวลง