Thai VI

1. เล่นเป็นรอบๆ ปีละ 2-3 ครั้ง
2. ลงทุนระยะยาวมากกว่า 3 ปี

สำหรับผมแล้วการลงทุนก็ต้องน่าจะเป็นแบบที่ ..สอง.. มากกว่า
แต่พอราคามันลงมาแรงๆ มูลค่าทรัพย์สิน หายหมด
ก็รู้สึกเสียดาย... ไม่รู้ว่าวันไหนจะกลับมาที่จุดเดิมอีก
เลยทำให้มองว่า แบบที่ ..หนึ่ง.. น่าจะดีกว่า (รึเปล่า)

ผมตัดสินใจเข้ามาลงทุนตอนดัชนีประมาณ 600
ซึ่งคิดว่าราคาเหมาะสมแล้ว และคิดจะลงทุนแบบ ..สอง..
ถึงตอนนี้ก็ติดลบไปแล้วหลาย %
ยังไงขอคำชี้แนะด้วยนะครับ

พี่ๆมองว่าแบบไหนดีกว่าครับ

phatinai เขียน:สำหรับผมแล้วการลงทุนก็ต้องน่าจะเป็นแบบที่ ..สอง.. มากกว่า แต่พอราคามันลงมาแรงๆ มูลค่าทรัพย์สิน หายหมด
ก็รู้สึกเสียดาย... ไม่รู้ว่าวันไหนจะกลับมาที่จุดเดิมอีก
เลยทำให้มองว่า แบบที่ ..หนึ่ง.. น่าจะดีกว่า (รึเปล่า)

จริงๆผมว่าระยะเวลาวัดไม่ได้หรอกครับว่าเป็นการลงทุนหรือเปล่า
( ในที่นี้ผมหมายถึงแบบ VI นะครับ )
การลงทุนระยะ 3 ปีอาจจะไม่ได้เป็นการลงทุนเลยก็ได้ครับ
ถ้าเราไม่เข้าใจมูลค่าของกิจการนั้นจริงๆ
เช่น ซื้อหุ้น ABC ราคาลงมาจาก 80 เหลือ 5 บาท โดยคิดว่าราคาลงมามาก
จึงน่าจะมีโอกาสกลับขึ้นไปที่เดิมเพราะ(เขาว่า)พื้นฐานดี สินค้ายังขายได้
หรือ แค่ดูอัตราส่วนทางการเงินไม่กี่อย่าง
แล้วอนุมานเอาว่าบริษัทนี้น่าสนใจ เช่น ปันผลสูง P/E ต่ำ P/BV ต่ำ เป็นต้น
เหล่านี้ผมคิดว่าเรายังวิเคราะห์บริษัที่จะลงทุนน้อยและตื้นเกินไปครับ

ส่วนมูลค่าทรัพย์สินที่คิดว่าลดลงนั้นผมว่าคงไม่น่าจะใช่ตามหลักคิดของ VI
ที่ซื้อกิจการเมื่อมันมีมูลค่าน้อยกว่าที่มันควรจะเป็น ถ้าหากเราซื้อหุ้นที่มูลค่าต่ำกว่าที่มันควรจะเป็นแล้ว ราคาที่ลดลงไปก็ไม่ได้หมายความว่ามูลค่าของหุ้นนั้นหรือมูลค่าทรัพย์สินจะลดลงตาม สิ่งที่ลดลงเป็นเพียงแค่ราคา
ซึ่งถ้าเราเชื่อว่าสักวันมูลค่าหุ้นมันจะสะท้อนกลับมาที่ราคาเอง
เราก็ไม่ควรจะต้องกังวลกับราคาที่ลดลง สิ่งที่เราควรจะกังวลมากกว่า
คือมูลค่าที่อาจจะลดลงในอนาคตถ้าเกิดบริษัทไม่สามารถเติบโต หรือ
ทำกำไรได้ตามสมมุติฐานที่เราตั้งไว้

ผมเคยได้ยินคำกว่าวหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิดคิดว่าเป็นของ ท่าน บัฟเฟ็ต
" ราคาคือสิ่งที่เราจ่ายไป มูลค่าคือสิ่งที่เราได้รับ "

phatinai เขียน: 1. เล่นเป็นรอบๆ ปีละ 2-3 ครั้ง
2. ลงทุนระยะยาวมากกว่า 3 ปี
พี่ๆมองว่าแบบไหนดีกว่าครับ

ผมคิดว่าขึ้นอยู่กับว่าช่วงนั้นมีหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่าที่เราประเมินไว้หรือเปล่า
ถ้ามีและหุ้นนั้นราคามี MOS พอสมควร ผมก็ซื้่อครับ โดยไม่จำเป็นว่า
จะต้องเป็นรอบๆ ส่วนระยะเวลาในการถือครอง สำหรับผมคิดว่าถือ
ตราบเท่าที่มันเป็นบริษัทที่ดีเหมือนที่เราประเมินไว้ หรือ
มีบริษัทอื่นน่าสนใจลงทุนมากกว่า