หน้า 1 จากทั้งหมด 2

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 12:05 pm
โดย Reminiscence of 3 Dogs
แม่ผมพึ่งบอกผมวันนี้ครับว่าไปเปิด port ไว้ไม่บอกใคร
และซื้อ BANPU,PTTEP ไว้เมื่อประมาณ5เดือนก่อน  
ผมอึ๊งมาก  เมื่อทราบจำนวนยอดเงินที่ซื้อไป
ยอดขาดทุนขึ้นถึงร่วม 70% แล้วพึ่งมาบอก
ขอคำแนะนำพร้อมเหตุผลครับว่าควรขายหรือถือต่อ

ไม่นึกเหมือนกันว่าจะต้องมาถามคำถามแบบนี้ครับ
เหมือนเห็นได้ตามบอร์ดหุ้นทั่วไป
แต่ก็คงต้องถามครับเพราะอึ๊ง  หน้าชา

ขอบคุณครับ

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 1:04 pm
โดย pitejung
ก็เก็บไว้สิครับ

หุ้นมันไม่เน่าไม่เสีย อย่าไป panic

ไม่เกิน 10 ปี pttep มันก็ขึ้นไว้เท่าที่ท่านซื้อเองแล่ะ

แต่ banpu อันนี้ไม่แน่แห่ะ  :(

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 1:17 pm
โดย simplelife
[quote="pitejung"]ก็เก็บไว้สิครับ

หุ้นมันไม่เน่าไม่เสีย อย่าไป panic

ไม่เกิน 10 ปี pttep มันก็ขึ้นไว้เท่าที่ท่านซื้อเองแล่ะ

แต่ banpu อันนี้ไม่แน่แห่ะ

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 1:19 pm
โดย charnengi
ถ้าจำนวนเงินไม่มาก ขายแล้วไม่ต้องกังวลก็ขายเถอะครับ

ตอนนี้คำแนะนำสำหรับ การซื้อหรือขาย แนะนำไป โอกาสผิดเยอะครับ ตอนนี้ panic กันจนเกิดขึ้นจริงแล้ว

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 1:30 pm
โดย Reminiscence of 3 Dogs
ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ

เพราะเงินจำนวนมันมากนี่ละครับ  มากพอๆกับที่สะสมเก็บหอมรอมริบ
รวมกับที่กำไรมาหลายปี
ที่ขาดทุนไปง่ายๆกับเหตุการณ์ที่ผมเองก็เห็นชัดๆอยู่แล้วว่าลงแน่ๆ
ณ เวลาเมื่อ5เดือนก่อน  ตอนที่กระแสเงินที่หนุนหุ้นจำพวกนั้น
ไหลออกอย่างชัดเจนมาก
เป็นความเสี่ยงที่ไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้รู้จนสายเกินไป  :!:

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 1:45 pm
โดย johnlennon
ผมไม่แน่ใจนักว่าวิกฤตคราวนี้กับคราวที่แล้ว ถ้าเทียบกันคราวนี้จะเบากว่าอย่างที่พูดกันรึป่าว
ส่วนตัวคิดว่ามันแค่เริ่มต้น  จากวิกฤตคราวที่แล้ว  พอร์ต ผมก็เละแบบแม่คุณ ผมไม่ขาย สู้ทนถือ นิ่งๆหายใจรวยรินมาถึง 7 ปี  จำทนต้องขายออกเพราะ หลังจากถือ มา7ปี มันก็ ได้คืนมาอีกไม่เท่าไหร่  เลยขายออก เพื่อเอามาลงทุนตัวอื่น......ผมกำลังจะบอกคุณว่าการถือ ไว้นานๆก็ไม่ใช่ว่ามานจะกลับมาที่เก่านะครับ  .......2 หรือ 3  หรือ 5 หรือ 10ปี ถ้าจะถือถามตัวเองก่อนว่า รอได้มั้ยถ้าวิกฤตยื้อ หุ้นซึมยาว    ถ้าคิดว่าไม่ไหว  ก็ขายออก เพราะช่วงเวลาที่หุ้นซึมมันทรมาณมากสำหรับคนติด  bid - offer เท่าจิ๋มเด็ก   วันๆไม่มีโว   ยาวนานเป็นปีๆ .......

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 1:56 pm
โดย ปรัชญา
อ่านแล้วเครียดแทน  เลยครับ

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 2:05 pm
โดย Linzhi
ให้กำลังใจครับ สิ่งที่ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป
เริ่มต้นใหม่ได้เสมอ

อย่าเสียกำลังใจหรือต้องทะเลาะกับคุณแม่แล้วกันครับ เพราะนี่คือขาดทุนของจริง

ผมแนะนำว่าน่าจะขาย หาจังหวะคัทมันทิ้งไป (คงไม่ใช่วันสองวันนี้)
สบายใจกว่าเยอะครับ เพราะหุ้นสองตัวนี้ผมว่ายาว หุ้นพลังงานคงไม่กลับมา
เร็ว ๆ นี้ดูจากซัพพลายใหม่ ๆ กับดีมานด์แล้ว รอบนี้หมดแล้วครับ

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 2:21 pm
โดย beammy
ถ้าถือไว้แล้วเครียด

พอเครียด ก้อจะมีปัญหาอย่างอื่นอีกมากตามมา

ผมแนะนำว่าควรขายออกไปเลยครับ
ไม่ต้องดูแล้วว่าขาดทุนเท่าไหร่

ดึงเงินสดออกมาแล้วตรองดูดีๆ ครับ ว่าจะทำอะไรต่อ  :8)   ...

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 2:28 pm
โดย Reminiscence of 3 Dogs
ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ

ไม่ทะเลาะกับแม่แน่นอนครับ  เครียดกับคนอื่นมามากพอแล้ว
จะไม่เครียดใส่กับคนที่รักเราครับ

ตอนนี้ปัญหาโลกแตกคือ ทำยังไงให้แม่ยอมขายครับ?
แกบอกกลัวเวลาขายแล้วจะขาดทุนจริง
ผมก็สงสัยนะแล้วไอ้ที่เป็นอยู่  ไม่ได้เรียกว่าขาดทุนจริงเหรอ?
ขาดทุนในอากาศหรืออย่างไร?
พอบอกยืนยันให้ขาย  โทรไปหามาร์  
เขาบอกว่า  บลาๆๆๆ  อย่าพึ่งขาย  ได้ปันผลหลาย%
จี๊ดขึ้นสมอง  ไม่มีเหตุผลที่ดีกว่านี้จะมา support การทนถืออีกหรือ
นอกจาก%ปันผล

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 2:44 pm
โดย beammy
ถ้า mar แนะนำแบบนี้

ก้อต้องถามกลับครับ

สรุป เงิน mar หรือ เงิน แม่ ครับ

แล้วใครขาดทุน ครับ

ขาดทุนแล้ว mar มาช่วยอะไรได้บ้างครับ

ถ้าคำตอบ คือ เงินแม่ และ mar ช่วยอะไรเราไม่ได้

เป็นผมผมขายครับ ไม่ว่าจะขาดทุนกี่ล้านผมก้อขาย
เพราะไม่เห็นความเป็นไปได้ที่จะทำให้เสมอตัวในระยะเวลาอันสั้นนี้
รวมถึงความเครียดอีกไม่รู้เท่าไหร่ ตราบใดที่ยังมีหุ้นในมือ

พูดง่ายแต่ทำยากครับ ต้องลอง  :8)  ...

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 2:51 pm
โดย 007-s
ทั้งสองตัว หลุดลงมาอย่างเละเทะ(ต้องใช้คำนี้จริงๆค่ะ)
แต่ ใจเย็นๆ ถ้าทำใจตัดขายไม่ไหว ถือไปเลยค่ะ แล้วรอฟ้าเปิด ค่อยขายตอนรีบาวใหญ่ (ถ้ารีบาวใหญ่แล้วยังขายไม่ลงอีก อันนี้แล้วแต่แล้วค่ะ)

แนวรับเซท ถ้าลงไม่หลุด 370-380 แล้วเกิดมันเด้ง คงรีบาวได้รอบนึง(แต่คงไม่แรงมาก,ยิ่งถ้าแค่ 400+/- แล้วรีบาวเลย รีบาวก็จะเตี้ยกว่าอีกหน่อย)

แต่ถ้าลงไปจรดแนวรับสุดท้ายของท้ายสุด ประมาณคร่าวๆว่าแถวเขต 300-350 (เขตนี้จะให้ลงต่อแรงๆอีก ดิฉันให้ไม่ต่ำกว่า 250++ อาจจะกดพรวดให้ตกใจแล้วหอบกลับอย่างแรงเลย,แต่จริงๆ แถว 300+/- ดิฉันตีว่า สามารถใช้สิทธิหอบตวัดกลับอย่างรุนแรงได้แล้ว)

กรณีหากเป็นในเคสที่ว่า(กดลงต่ำติดต่อกันอย่างลึก แรง) กรณีดีดกลับ น่าจะมีโอกาสเป็นหลักร้อยจุดได้
กรณีดีดกลับหลักร้อยจุด หุ้นที่จะใช้ในการขับเคลื่อน น่าจะเป็นตัวบิ๊คแคปนั่นเอง ใครติดบิ๊คแคปไว้ มีโอกาสได้ตัดสินใจตอนเซทส่งกระเช้าขึ้นไปรับกลางทางอีกครั้งนึง

...ก่อน หมดแรง และ โรยตัวลงมาอย่างเซื่องซึม ยาว นาน จนกว่าจะแคบ อึดอัด บอกไม่ถูก ...จนเป็นระดับปีน่ะค่ะ มันถึงจะอึดอัดจนมีอาการคันๆ ยิบๆ ดองจนเค็มได้ที่ น้านนนแหละ.. อาการว่ามันคงอยากจะวกขึ้น ทำก้นกะทะด้านขวาเสียที(ดิฉันเดาไม่ถูกหรอกว่า ต้องทำก้นเหวกี่ปีดี)

ทั้งหมดนี้ เป็นแค่การเดาอย่างส่งเดชไป(ของดิฉันเอง) ก้เพียงเท่านี้
ผิด ตก ยก เว้น นะจ๊ะ  :lol:  :lol:  :lol:


(ในกรณีนี้ มาจนป่านนี้แล้ว ดิฉันว่าเชียร์ให้ลงปักๆให้ถึงเขียงไปเถอะ คนที่มีหน้าที่ลงมือหอบกลับจะได้ลงมือได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ แล้วมันจะได้มีแรงดีดได้..แต่ถ้าลงมาหน่อยแล้วรีบาวนิด ลงหน่อยรีบาวนิดอยู่แบบนี้ มันไม่จบ มันเซ็งเป็ด คนรอหวดมันไม่ยอมหวด มันจะน่ารำคาญมากกก)

:oops:

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 3:19 pm
โดย anuraka
ผม ก็ถืออยู่เหมือนกันครับ ใจเย็นๆ PTTEP คิดว่าถือลงทุนทำธุรกิจกับบริษัทไปเลยครับ วันนี้เหลือ 70 กว่าบาทเอง แต่ผมไม่คิดว่าหุ้นจะเหลือ 10,20,30 บาทหรอกครับ ตอนนี้มีแต่คนตื่นตระหนกโดยไม่คำนึงถึงพื้นฐานทางธุรกิจมากนัก แต่ถ้าทำใจไม่ได้ต้องขายตัดขาดทุนครับ ผมเองก็มีราคาพอร์ตลดลงประมาณ 50% แล้วแต่คิดว่าช่วงนี้ธุรกิจไม่ดีครับ อีก2,3 ปีธุรกิจนี้น่าจะดีขึ้นและ กำลังจะลงทุนอีก 30% ของเงินที่เหลืออยู่ครับ ใจเย็นๆครับ ลองทำสมาธิดูบ้างค่อยๆคิดครับ :)

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 3:21 pm
โดย santipipat
Dead Cat Bounce
แมวตายเด้ง

เค้าเวลามันพัง(แมวตายร่วงลงมา) มันจะต้องมีรีบาวน์ใหญ่ซักรอบก่อน(แมวเด้ง)แล้วค่อยลงอีกทีก็จบ(แมวตายเสร็จแล้ว)

อันนี้ผมฟังจากอาจารย์คนนึงที่เคยอยู่สมาคมนักวิเคราะห์ครับ

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 3:30 pm
โดย Pekko
[quote="Reminiscence of 3 Dogs"]ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ

เพราะเงินจำนวนมันมากนี่ละครับ

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 3:56 pm
โดย Akajon
_________________
แม่ceiling ลูกบวก3%
แม่บวก20% ลูกบวก2%
แม่บวก10% ลูกนิ่ง
แม่นิ่ง ลูกติดลบ
** แม่ติดลบ ลูกเครียด **
---------------------------

สัจธรรม Laggard

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 4:04 pm
โดย leena
ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมและตบมือให้  คุณเป็นลูกที่ดีมากค่ะ  (เพราะ แม่คือคนสำคัญ)  แถมยังจิตใจดีด้วย  คนดีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ค่ะ  พระย่อมคุ้มครอง

เรื่องติดหุ้นมันพูดยากนะคะ   เพราะ  เราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไง   สำหรับหุ้นตัวนี้ดิฉันก็ไม่ได้ติดตาม  แถมความรู้เรื่องหุ้นก็ยังน้อยนิด  

ในเมื่อคุณ Reminiscence of 3 Dogs ตัดสินใจที่จะขาย   แต่ไม่รู้จะทำยังไงให้คุณแม่ท่านขายหุ้น   ขอแนะนำให้อธิบายว่าช่วงนี้เศรษฐกิจโลกเป็นยังไง(คาดว่าท่านก็น่าจะได้ฟังตามโทรทัศน์มาบ้าง)  อาจจะต้องร่ายยาวมาตั้งแต่ปัญหาของซับไพรม์ (หากสะกดผิดต้องขออภัย) ลามมาถึงสถาบันการเงินทั่วโลก     และนักวิเคราห์ก็ระบุว่าต้องใช้เวลาฟื้นตัวอีกนาน   แถมอนาคตข้างหน้าปริมาณการใช้น้ำมันก็น่าจะลดลง  เพราะ  พิษเศรษฐกิจ (ทำให้เกิดการจ้างงานน้อยลง, พนักงานโดนปลดออกจำนวนมาก, บริษัทหรือสถาบันการเงินใหญ่ต้องล้มละลาย ฯลฯ) ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มจะเห็นผลแล้ว    ถ้ายังถือหุ้นไว้อีกก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง     ถ้าขายตอนนี้อาจขาดทุนจริงอยู่    แต่ถือรอก็ไม่รู้ว่าจะต้องใข้เวลาเท่าไหร่กว่าจะเท่าทุนหรืออาจไม่มีวันนั้น(อย่างความเห็นของคุณjohnlennon)  
พอร์ต ผมก็เละแบบแม่คุณ ผมไม่ขาย สู้ทนถือ นิ่งๆหายใจรวยรินมาถึง 7 ปี  จำทนต้องขายออกเพราะ หลังจากถือ มา7ปี มันก็ ได้คืนมาอีกไม่เท่าไหร่  เลยขายออก เพื่อเอามาลงทุนตัวอื่น.
ถ้าท่านยังไม่ใจอ่อน  ก็พูดกับท่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ทุกวัน  และชี้ตัวอย่างของของจริงให้ท่านดู   ไม่นานท่านต้องคล้อยตาม(เรียกว่าใช้จิตวิทยา)

ดิฉันสนับสนุนความเห็นของ  คุณ Linzhi และคุณ 007 ที่ว่า
ผมแนะนำว่าน่าจะขาย หาจังหวะคัทมันทิ้งไป (คงไม่ใช่วันสองวันนี้)
สบายใจกว่าเยอะครับ เพราะหุ้นสองตัวนี้ผมว่ายาว หุ้นพลังงานคงไม่กลับมา
เร็ว ๆ นี้ดูจากซัพพลายใหม่ ๆ กับดีมานด์แล้ว รอบนี้หมดแล้วครับ
กรณีหากเป็นในเคสที่ว่า(กดลงต่ำติดต่อกันอย่างลึก แรง) กรณีดีดกลับ น่าจะมีโอกาสเป็นหลักร้อยจุดได้
กรณีดีดกลับหลักร้อยจุด หุ้นที่จะใช้ในการขับเคลื่อน น่าจะเป็นตัวบิ๊คแคปนั่นเอง ใครติดบิ๊คแคปไว้ มีโอกาสได้ตัดสินใจตอนเซทส่งกระเช้าขึ้นไปรับกลางทางอีกครั้งนึง
ที่เขียนมายึดยาว   ไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรคุณได้หรือไม่  ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 4:09 pm
โดย phobenius
ไม่ต้องไปโทษใครหรอกครับ เพราะต่างคนก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นหรอกครับ

แนะนำว่า ขายหุ้นออกไปนิดนึงครับ เพื่อเอาไปเป็นค่าใช้จ่ายเที่ยวต่างประเทศครับสักอาทิตย์สองอาทิตย์ แล้วจะรู้สึกดีขึ้นครับ.....

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 4:10 pm
โดย Penguins
ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณแม่ครับ

(พูดจากใจ)

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 4:16 pm
โดย วัวแดง
ถ้าเป็นผมต้องขายครับ เพราะเราไม่รู้ว่าหุ้นจะตกไปอีกเท่าไหร่

แต่ถ้าเงินเย็นเจี้ยบจริงๆ ก็ปล่ายผ่านไปครับ เพราะตอนแรกที่ซื้อคงคิดดีแล้ว

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 4:19 pm
โดย K o S o L
Penguins เขียน:ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณแม่ครับ

(พูดจากใจ)
เห็นด้วยกับคุณ Penguins ครับ คือถ้าแม่เป็นคนตัดสินใจที่จะซื้อแล้ว เราควรให้แม่เป็นคนตัดสินใจในการขายนะครับ เราทำได้ก็ให้คำแนะนำต่างๆ แต่ไม่ควรตัดสินใจแทน  :oops:

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 5:16 pm
โดย leksmile
ให้ผมแนะนำให้แม่โอนหุ้นมาทั้งหมดให้แล้วคุณจัดการ โดยที่บอกเขาเลยว่าพยายามจะหากลับมาเท่าที่จะทำได้ แต่คงต้องใช้เวลาและอาจได้ไม่ถึงทุน แล้วผมว่าคุณ 3dog ก็คงมีฝีมือในการบริหาร port ทำกลับมาได้

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 5:21 pm
โดย Alastor
leksmile เขียน:ให้ผมแนะนำให้แม่โอนหุ้นมาทั้งหมดให้แล้วคุณจัดการ โดยที่บอกเขาเลยว่าพยายามจะหากลับมาเท่าที่จะทำได้ แต่คงต้องใช้เวลาและอาจได้ไม่ถึงทุน แล้วผมว่าคุณ 3dog ก็คงมีฝีมือในการบริหาร port ทำกลับมาได้
เห็นด้วยครับ ให้คนที่เก่งสุดในบ้าน ทำเรื่องที่ตัวเองเก่งที่สุดดีกว่า และ ดีที่สุดในระยะยาว

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 5:59 pm
โดย nanchan
คิดให้ดีนะครับ ขายหุ้นขาดทุน โดยเฉพาะแนะนำให้คนอื่นขาย

ผมว่าคุณ3ด๊อก อย่าไปจุ๊นกะแม่คุณ แล้วใช้ชีวิตปกติสุข น่าจะดีกว่า

ยิ่งกดดัน แม่ก็ยิ่งเครียด ถือไปเรื่อยๆ แม้จะขาดทุนเพิ่ม ก็ต้องทำให้ให้สงบ
แล้วก็ต้องลืมหรือละ บอกให้แม่ตัดใจให้ได้

ผมว่าการขาดทุนนะ ยังเป็นเรื่องเล็กนะ ถ้าจะเทียบกะสุขภาพของคุณและแม่
และความสัมพันธ์แม่ลูก

ที่พูดแบบนี้ก็เพราะว่า ถ้าขายขาดทุนแล้วมันเด็งกลับมา ในเร็ววัน หรืออีกหลายสัปดาห์ หรือหลายเดือน แล้วก็ไม่ได้เข้าไปซื้อกลับ
วันนั้นมาถึง คงมองหน้ากันไม่ติด

ที่บอกว่าอย่ากดดันแม่คุณ เพราะผมว่าเค้าก็คงเครียดอยู่แล้ว ถ้าคุณพยายามพูดนั่นพูดนี่ ก็ยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่ เกิดไม่สบายมา จะหนักกว่าเดิม
เงินที่ขาดทุน อาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ได้นะ

ก่อนอื่น ผมไม่ได้แนะนำให้คุณตัดสินใจให้แม่ซื้อหรือขายหุ้นนะครับ
สิ่งสำคัญของชีวิตไม่ควรยึดติดไว้แค่การขาดทุนหุ้น แม้จะเป็นจำนวนเงินเยอะก็เหอะ
ทำใจให้สบายครับ แล้วมันจะผ่านพ้นไป

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 6:02 pm
โดย nanchan
ลืมบอกไป เครียดเหมือนกัน  :lol:

แต่คิดว่าซักวันจะเป็นวันของเราครับ มันคือThe secret

อย่าท้อครับ ชีวิตนี้แม้สั้นนัก แต่เวลาที่เหลือก็ยังมีค่าอยู่เสมอ

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 6:14 pm
โดย น้ำครึ่งแก้ว
เรียนคุณ Reminiscence of 3 Dogs ครับผม

ถ้ารู้สึกเครียด  ให้เดินไปหาท่าน แล้วกอดท่านแล้วหัวเราะกับท่านครับ
อย่าให้หุ้นที่ทำร้ายพอร์ตเรา และ ความรู้สึกของคุณพี่ Rem... กับคุณแม่
มาทำให้ความรู้สึกรักกันน้อยลง เด็ดขาดนะครับ    

หุ้นนะยังมีวันขึ้น แต่ความรู้สึกดีๆที่มอบให้กันนับวันจะเหลือเวลาน้อยลงครับ
ลืมความรู้สึกจากหุ้นไปเลยครับ เพราะคุณทำอะไรไม่ได้ถ้ามันจะลงแล้วลงอีก
ไม่ว่าจะขอร้องหรือจะทุ่มเทให้กับมันมากแค่ไหนก็ตาม เพราะตลาดหุ้นบท
จะเกรี้ยวกราดไม่เคยปราณีหรือเมตตาใครทั้งสิ้น
แล้วหันมา focus กับความรักตัวเป็นๆที่จับต้องได้ดีกว่าครับผม

ขอบคุณครับ

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 6:28 pm
โดย mustang
ไม่มีคำแนะนำคับ แต่เอาใจช่วยคับ

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 6:33 pm
โดย Tao_PK
cut loss  ตอนนี้ไม่สายไปหน่อยหรือครับ เลยจุดที่ควร cut loss ไปมากแล้ว อืมต้องถามแล้วครับ ว่าเป็นเงินเย็นรึป่าว ถ้าเป็นเงินเย็น ไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายในระยะ2-3 ปีนี้ก็ให้นึกเสียว่าลงทุนกองทุนที่ห้ามถ่ายถอนคืนสัก3 -5 ปี
หุ้นที่คุณแม่คุณถือ2 ตัวเป็นหุ้นกลุ่ม พลังงานทั้งคู่ ช่วงนี้เศณษฐกิจขาลง ยังไงก็อาจมีลงได้อีก แต่ในเมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว การบริโภคพลังงานก็จะมีมากขึ้นตามมาอีกครั้งนึง แน่นอนครับแต่คุณต้องใช้เวลารอ 2-3 ปีเป็นอย่างน้อย แต่ที่คนอื่นแนะนำให้ขายแล้วไปซื้อตัวอื่น ไม่แน่อาจตัดสินใจผิดอีกครั้งคราวนี้อาจขาดทุนถาวร
   สิ่งแรกที่ต้องทำ คืออยู่เฉยๆเพราะหุ้นทั้ง2 ก็ถือได้ว่าเป็นหุ้น Blueship ทั้งคู่ ยิ่งเปลี่ยนไปมาบ่อยๆจะยิ่งขาดทุน จิงๆแล้ว scc หรือบริษัทใหญ่ที่อยู่รอดมาถึงปัจจุบันก็เคยเจอปัญหาลักษณะเดียวกันหรือรุนแรงกว่ามาแล้ว ยังไงก็ให้มีสติในการลงทุนนะครับ ยิ่งดิ้นเดี๊ยวเหมือนลิงติดแห จะไปกันใหญ่
อืมขอยืมคำดร. นิเวศน์ มาใช้ละกัน stay calm stay invest. เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 6:37 pm
โดย tummeng
ชอบความคิดเห็นของ K. น้ำครึ่งแก้ว จังเลย

"หันมา focus กับความรักตัวเป็นๆที่จับต้องได้ดีกว่า"

อ่านแล้วคิดได้เลยครับ เพราะ หลังๆๆ ส่วนตัวก็มีเครียดเรื่องหุ้นเหมือนกัน รู้สึกได้เลยว่าความรักที่เราแบ่งให้กับคนรอบตัวนี่ลดน้อยลง

ครอบครัวคือคนที่เรารักและคอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน สำคัญที่สุดจริงๆๆครับ อย่าทำให้หุ้นมามีผลกับเรื่องนี้เลยครับ

ขอคำแนะนำครับ เครียด

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 27, 2008 6:42 pm
โดย wr
ไม่ทราบว่าสถานการณ์ปัจจุบัน
คุณ Reminiscence of 3 Dogs ยังมีเงินสดเหลืออีกแค่ไหน
เงินสดที่จะสร้างได้ต่อปีอีกแค่ไหน
ไม่ต้องตอบนะครับ แต่นั่นคือตัวช่วยครับ
ผมไม่ค่อยรู้เรื่องหุ้นพลังงาน ต้องไปขอความเห็นเพื่อนๆที่ถนัดพลังงานในนี้ครับ
ว่าเราจำเป็นต้องขายบางส่วนมาซื้อตัวอื่นที่น่าจะดีดกลับเร็วที่สุดมั้ย
หรือจะใช้เงินจากทางอื่นมาลงทุนเพิ่ม โดยปล่อยหุ้นในมือไว้อย่างนั้น
ผมเลือก stay invest โดยอาจปรับพอร์ตบ้างตามความรู้ สำคัญคือธุรกิจนั้นต้องไปรอดได้ดีในอนาคต
ตัวที่เราถืออยู่แล้วหรือจะถือมีคุณสมบัตินั้นรึเปล่าครับ ถ้ามีก็ต้องรีบาวน์ได้
ผมเคยติดลบอัตราเดียวกับคุณแม่คุณมาแล้วในยุค 40 ครับ
ผมลงทุนคนละวิธีกับพี่ 007 แต่ผมเชื่อเหมือนกันกับคอมเมนท์ของพี่เค้าครับ