หน้า 1 จากทั้งหมด 1

มีใครคิดว่านี่เป็นโอกาส ที่เราจะทำได้อย่าง ดร. มั่งไหมครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 12:07 am
โดย WinterWind
ผมอ่านหนังสือของ ดร. มาหลายเล่ม
ก็อดคิดในใจไม่ได้ว่า เพราะ ดร. ลงทุนในช่วงตลาด crash ลงมา 200 จุด
จึงสามารถทำกำไรได้มหาศาลมาก
แล้วช่วงนี้ มีใครคิดเหมือนผมหรือเปล่า ว่า เราอาจจะสามารถเดินตามรอย ดร. ได้

จริง ๆ แล้วผมเชื่อในหลักการของ value แต่มันอดคิดไม่ได้จริง ๆ ครับ

มีใครคิดว่านี่เป็นโอกาส ที่เราจะทำได้อย่าง ดร. มั่งไหมครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 9:24 am
โดย K o S o L
ช่วงนี้ขอกำไรแบบธรรมดาๆ ก็พอครับ เพราะ 80% ของ port ถือมาตั้งแต่ต้นปี  :oops:

แต่ใครเข้าตลาดมาช่วงนี้พอดี ก็ยินดีด้วยนะครับ   :D

มีใครคิดว่านี่เป็นโอกาส ที่เราจะทำได้อย่าง ดร. มั่งไหมครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 3:17 pm
โดย IWILLBEVI
ผมว่าวันนี้นักลงทุนมีความรู้มากขึ้น การเลือกหุ้นลงทุนมีเหตุมีผลมากขึ้น ข้อมูลมีการแลกเปลี่ยนและเข้าถึงมากขึ้น  ทำให้นักลงทุนมีโอกาสเท่าๆกัน แต่จะมีกี่คนที่สามารถตีแตกได้เหมือน ดร.นิเวศน์ ผมว่าในวิกฤตครั้งนี้ถ้านักลงทุนทั่วไปเลือกหุ้นที่ดีใน SET50 ที่มีอนาคต ก็สามารถทำกำไรได้อย่างน้อย 20% ในอีก1-2 ปีข้างหน้า  ผมว่าบางครั้งเราคาดเดาภาวะเศรษฐกิจของโลกได้ยากขึ้น มาลองคิดอะไรง่ายๆ อย่าโลภเกินความรู้ที่ตัวเองมี ก็น่าจะทำให้การลงทุนมีความสุขอย่างพอเพียงนะครับ  :D  :D

มีใครคิดว่านี่เป็นโอกาส ที่เราจะทำได้อย่าง ดร. มั่งไหมครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 3:48 pm
โดย woody
ประเด็นคือ........ครั้งที่แล้วลงมาจาก 1,700 จนถึง 200 เราจะทราบหรือไม่ว่าเราควรจะเข้าไปลงทุนอีกครั้งตอนไหน....

เพราะหุ้นที่ลง 90% ก็คือหุ้นที่ลงมาแล้ว 80% แล้วลงมาอีก 50%....ขอขอบคุณพี่คัดท้ายสำหรับ quote ดังกล่าวด้วยครับ

อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ผมเห็นด้วยอย่างมากคือ ต้องทำให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรงเพื่อที่เราจะได้มีวันเห็นการกลับมาอีกครั้งของตลาดหุ้นถึงแม้ว่ามันจะต้องใช้เวลาบ้างก็ตาม

มีใครคิดว่านี่เป็นโอกาส ที่เราจะทำได้อย่าง ดร. มั่งไหมครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 17, 2008 5:41 pm
โดย Tao_PK
เป็นเรื่องที่ยากนะครับว่ามั๊ย timing ต้องเหมือนกัน ราคาหุ้นที่ถือต้องเคลื่อนไหวไปในลักษณะเดียวกัน ตลาดเติบโตคล้ายกัน ตัดสินใจถูกต้องคล้ายกัน ลงทุนแบบทบต้นตลอดเวลาเหมือน เศรษฐกิจโลกไม่ทรุดแบบทุกวันนี้ ถ้าสามารถบริหารปัจจัยที่เกี่ยวข้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันได้ ผมว่าดร.นิเวศน์ คนที่2-3 คงมีได้อย่างแน่นอน :lol:

มีใครคิดว่านี่เป็นโอกาส ที่เราจะทำได้อย่าง ดร. มั่งไหมครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 18, 2008 9:14 pm
โดย King_Krimson
แล้วถ้าหุ้นลงมา ที่ 200 จุดอีกครั้งใน ปี 2009 ล่ะ :shock:
พวกเราพร้อมกันรึยัง

มีใครคิดว่านี่เป็นโอกาส ที่เราจะทำได้อย่าง ดร. มั่งไหมครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 19, 2008 7:26 am
โดย NT
นอกจากกำไรจากหุ้นแล้ว.. อ. นิเวศน์ ยังได้สภาพคล่องมาเป็นระยะจากหนังสือที่พวกเราอ่านกัน จึงสามารถซื้อหุ้นได้เรื่อยๆ อีกทั้งตอนที่ทำงานอยู่เงินเดือนแกก็คงไม่น้อย..

หากทำได้ตามนี้ก็คงไม่ยากครับ.. (ในแง่สภาพคล่อง.. หากไม่เขียนหนังสือก็หาธุรกิจหรือให้เช่าอะไรที่มีรายได้เพิ่มเติมจากเงินเดือนเข้ามาสม่ำเสมอก็น่าจะทดแทนกันได้)   พอดีผมไม่ได้อยู่บ้านภรรยา ต้องซื้อที่อยู่เอง เลยลงทุนได้ไม่เต็มที่เท่าใดนัก ;-P

มีใครคิดว่านี่เป็นโอกาส ที่เราจะทำได้อย่าง ดร. มั่งไหมครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 19, 2008 9:22 pm
โดย Tao_PK
จริงๆแล้วผมว่าไม่จำเป็นต้องเป้นเหมือนใครหรอก เป็นแบบฉบับของตัวเองดีที่สุดครับ แค่สามารถมีอิสระภาพทางการเงินก้พอใจแล้วครับ เงินเยอะเดี๋ยวโดนทบ.ยึดอำนาจอีกภุมิใจแต่ตัวเลขไม่มีสิทธินำออกมาใช้ อิอิ.. ภาพประจำตลอดชีวิต.. :D

มีใครคิดว่านี่เป็นโอกาส ที่เราจะทำได้อย่าง ดร. มั่งไหมครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 20, 2008 2:42 pm
โดย pavilion
ขอให้เท่าทุนก่อนละกัน  :)

Re: มีใครคิดว่านี่เป็นโอกาส ที่เราจะทำได้อย่าง ดร. มั่งไหมคร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 20, 2008 3:25 pm
โดย worapong
sonofabom เขียน:ผมอ่านหนังสือของ ดร. มาหลายเล่ม
ก็อดคิดในใจไม่ได้ว่า เพราะ ดร. ลงทุนในช่วงตลาด crash ลงมา 200 จุด
จึงสามารถทำกำไรได้มหาศาลมาก
แล้วช่วงนี้ มีใครคิดเหมือนผมหรือเปล่า ว่า เราอาจจะสามารถเดินตามรอย ดร. ได้

จริง ๆ แล้วผมเชื่อในหลักการของ value แต่มันอดคิดไม่ได้จริง ๆ ครับ
ลองถอยมาสักก้าวหนึ่งนะครับ ผมคิดว่าเวลานี้ เราสามารถหาหุ้นที่ดี แล้วราคาถูกได้มากกว่า หนึ่งปีก่อน แล้วถ้าเราลงทุนตามแบบที่ดอกเตอร์แนะนำ เราน่าจะได้ผลตอบแทนที่ดีครับ ส่วนการทำกำไรมหาศาลแบบดอกเตอร์นั้นมันอาจไม่ง่ายนะครับ คิดง่ายๆว่า ถ้าคุณหัดเล่นบาสแล้วกัน ถ้าคุณหัดอย่างถูกต้อง คุณก็จะเล่นเก่งได้ระดับหนึ่ง อาจเป็นตัวแทนของคณะหรือมหาวิทยาลัย แต่การเป็นนักบาสระดับโคบี้ ไบรอันนั้น เป็นเรื่องหนึ่งในหกพันล้าน การลงทุนก็เหมือนกัน ถ้าคุณทำอย่างถูกต้อง คุณจะรวยขึ้นระดับหนึ่ง เช่น รวยขึ้นสามถึงสี่เท่าตัวในสิบปี ซึ้งในสามถึงสี่สิบปีข้างหน้า คุณน่าจะมีชีวิตที่สุขสบายแล้วครับ

มีใครคิดว่านี่เป็นโอกาส ที่เราจะทำได้อย่าง ดร. มั่งไหมครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 20, 2008 9:08 pm
โดย yoko
ผมคาดว่าดร.คงติดยอดดอยเหมือนกัน<<<

มีใครคิดว่านี่เป็นโอกาส ที่เราจะทำได้อย่าง ดร. มั่งไหมครับ

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 20, 2008 11:45 pm
โดย satantuey
:lol:  :lol: ถ้า VI มานาน  ช่วงนี้ก็ติดกันทุกคนแหละคับหุ้นลงไปขนาดนี้  เว้นแต่เพิ่งจะมา VI ตอนนี้  หรือเพิ่งเริ่มเล่นช่วงนี้  (แต่ต่อไปก็อาจติดได้เพราะผมว่ามันน่าจะยังลงอยู่  แต่คงไม่เยอะแล้ว :twisted: )

มีใครคิดว่านี่เป็นโอกาส ที่เราจะทำได้อย่าง ดร. มั่งไหมครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 21, 2008 10:15 am
โดย chatchai
yoko เขียน:ผมคาดว่าดร.คงติดยอดดอยเหมือนกัน<<<
คำว่าติดยอดดอย  ถ้าหมายถึงว่าซื้อหุ้นในราคาสูงๆ  สูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน

ผมไม่ทราบรายละเอียดว่าทาง ดร. ซื้อหุ้นใหม่อะไรบ้าง  ที่ราคาเท่าไร

แต่ผมก็คิดว่าพอร์ตส่วนใหญ่ของ ดร. คงไม่เรียกว่าติดดอยหรอกครับ  เพราะซื้อมานานแล้ว  และบริษัทที่มีสัดส่วนสูงมากของพอร์ตท่านก็ยังมีต้นทุนที่ต่ำกว่าราคาตลาดมากพอสมควรครับ

มีใครคิดว่านี่เป็นโอกาส ที่เราจะทำได้อย่าง ดร. มั่งไหมครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 21, 2008 11:53 am
โดย naris
สมมุติว่าผมเลือกซื้อห้องแถวทำเลดีไว้ห้องละ5ล้านบาท2ห้อง(รวม10ล้านบาท) ทำสัญญาให้7-11เช่าระยะยาวปีละ1ล้าน โดยสัญญาทุก3ปีขึ้นค่าเช่าให้10%

แล้ววันดีคืนดี เศรษฐกิจดูเหมือนจะไม่ดี ห้องติดกันถามขายให้จาก5ล้านเหลือ3ล้านบาท ทุกท่านคิดว่าผมควรขายตึกเก่าให้คนอื่นในราคา3ล้าน(พร้อมขายสัญญาเช่าที่ได้ปันผลกว่า10%จาก7-11) หรือถ้ามีเงินควรจะซื้อตึกข้างกัน เพื่อที่อีกปีสองปี ทุกอย่างลงตัวก็อาจปล่อยเช่าให้ผู้ซื้อรายอื่นหรือ7-11คูหาที่สามดีครับพี่น้อง

มีใครคิดว่านี่เป็นโอกาส ที่เราจะทำได้อย่าง ดร. มั่งไหมครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 21, 2008 4:34 pm
โดย SunShine@Night
[quote]สมมุติว่าผมเลือกซื้อห้องแถวทำเลดีไว้ห้องละ5ล้านบาท2ห้อง(รวม10ล้านบาท) ทำสัญญาให้7-11เช่าระยะยาวปีละ1ล้าน โดยสัญญาทุก3ปีขึ้นค่าเช่าให้10%

แล้ววันดีคืนดี เศรษฐกิจดูเหมือนจะไม่ดี ห้องติดกันถามขายให้จาก5ล้านเหลือ3ล้านบาท ทุกท่านคิดว่าผมควรขายตึกเก่าให้คนอื่นในราคา3ล้าน(พร้อมขายสัญญาเช่าที่ได้ปันผลกว่า10%จาก7-11) หรือถ้ามีเงินควรจะซื้อตึกข้างกัน เพื่อที่อีกปีสองปี ทุกอย่างลงตัวก็อาจปล่อยเช่าให้ผู้ซื้อรายอื่นหรือ7-11คูหาที่สามดีครับพี่น้อง[/quote]

ขอบคุณครับ ที่เพิ่มความมั่นใจให้ผม

ว่าแค่จะหาเงินอีก 3 ล้านจากไหน ไปซื้อเพิ่มอีกหลังดีครับ :)