Thai VI

คืออยากทราบว่าเขาจะให้ดอกเบี้ยเมื่อไหร่ ครับ
เช่นขายคืนแล้วให้เลย หรือ ว่าต้องครบกำหนดเป็นระยะเวลาครับ
ผมไม่ค่อยรู้ครับ มือใหม่ครับ
ขอบคุณทุกคำตอบนะครับ

ผมไม่แน่ใจนะครับ  ว่า K-Treasury รายละเอีดยเป็นอย่างไร
แต่โดยปกติแล้ว กองทุนรวมตลาดเงิน หรือ Money market fund
จะคิด NAV ทุกสิ้นวันทำการครับ
หมายความว่าดอกเบี้ยที่เราจะได้รับคือมูลค่า NAV ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวันครับ

โดยส่วนตัวผมใช้กองทุนรวมธนบดีของทหารไทยอยู่ครับ
ผมว่าสะดวกมากครับ ใช้เป็นแหล่งพักเงินระยะสั้นได้ค่อนข้างดีนะครับ
เเต่ถ้าจะขายโดยปกติจะได้รับเงิน T+1 ครับ
สภาพคล่องน้อยกว่าบัญชีออมทรัพย์นิดเดียว แต่ดอกเบี้ยคิดทุกวัน

 :D

ขอบคุณมากนะครับ

ลองเข้าไปอ่านหนังสือชี้ชวนครับเค้ามีให้โหลด อ่านดู นะครับ ที่สำคัญ ต้องอ่านว่าเค้านำเงินเราไปลงทุนอะไรบ้าง หากไปซื้อที่ ธนาคาร ขอบองเลยว่า ท่านจะพึ่งพนักงานเหล่านั้นได้ยากมาก ครับ เพราะพนักงานเหล่านั้น ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้ครับ ดูที่ www.kasikornasset.com นะครับ อ่ออีกอย่าง อย่าไปเชื่อพนักงานธนาคารนะครับ เค้าชอบบอกว่า ของเค้า NAV ถูกกว่าของที่อื่น ผมบอกเลยว่ามันคนละเรื่องกัน พนักงานธนาคารยังพยายาม นำเรื่อง NAV มาขายผมอีก ผมละเบื่อเลยครับ (เหตุเกิดที่สาขา โลตัสอเวนิว นิชาดาธานี และ สาขา ถนนวุฒากาศ 2 สาขาเลยนะนี่ ระวังท่านจะโดนพวกนี้หลอก)

ผมใช้บริการอยู่ครับเป็นที่พักเงิน ใช้ได้ครับ ปันผลจ่ายเป็นรายวัน ลองไป update book ดู NAV  พร้อมใส่ปันผล มาให้ด้วย 2% กว่าๆ ไม่เสีย FEE และปันผลได้รับยกเว้นภาษี ขายคืน T+1 เหมาะที่จะใช้เป็นที่พักเงิน ซื้อขายได้ทุกวันทำการ

ผมก็ฝากอยู่ครับ ใช้แทนเงินบัญชีออมทรัพย์เหมือนกัน แต่ผมพบปัญหาคือว่าการโอนเงินช้ามากครับ อย่างเช่นทำเรื่องขายวันนี้ก่อน 15.30น. จะได้เงินวันพรุ่งนี้หลัง 4ทุ่ม เท่ากับว่ากว่าจะได้ใช้เงินจริงๆคือ T+2 อยู่ดี

แต่ผมฝากกับ AYF Cash Plus ไม่เห็นช้าอย่างนี้เลยนะครับ ถอนวันนี้ พรุ่งนี้ก่อนเที่ยงก็ได้รับเงินแล้วครับ

ไม่รู้ว่าจะฝากให้ธนาคารปรับปรุงการจ่ายเงินให้เร็วขึ้นยังไง เฮ้อออ....

ผมถอนทุกครั้งเงินได้ก่อนเที่ยงของวันรุ่งขึ้นทุกครั้งนะ ไม่เคยมีปัญหาเลย  :roll:

ผมว่า
K-moneyและK-treasury
เหมาะจะเป็นที่พักเงินนะครับ
เพราะสภาพคล่องพอประมาณ และราคาnavเคลื่อนไหวทุกวัน(ก้อคือได้ดอกเบี้ยทุกวัน) ความเสี่ยงก็ต่ำ
แนะนำไว้เป็น"กล่องพักเงิน"ครับ

กองทุนกลุ่มนี้เหมาะกับวัตถุประสงค์ 2 อย่างครับ

อย่างแรกก็พักเงิน สำหรับเงินหมุนเวียนใช้จ่ายประจำวัน ประจำเดือน  สภาพคล่องสูง เพราะได้คืน T+1  ส่วนใหญ่จะเปิดให้ทำรายการได้ถึงบ่ายแก่ๆ เทียบกับกองทุนประเภทอื่น

อย่างที่สอง คือสำหรับเก็บเงินไว้ใช้ยามฉุกเฉินครับ  คือ ไม่มีวัตถุประสงค์การใช้ แต่หากเกิดความจำเป็นก็ดึงมาใช้ได้ง่ายๆ เงินก้อนนี้ควรมีกันไว้ทุกคน แต่จะมากน้อยขึ้นกับระดับความจำเป็น บางท่านทำงานประจำมั่นคงมากๆ มีครอบครัวพี่น้องให้หยิบยืมช่วยเหลือยามจำเป็น ก็ไม่ต้องมีเยอะอาจจะสัก 3เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือนก็พอ  แต่ถ้าเปนวิชาชีพอิสระ รายได้ไม่แน่นอน หรือหากจำเป็นจะหยิบยืมใครยาก  แบบนี้อาจต้องเก็บไว้เยอะหน่อย 6 เท่าของค่าใช้จ่าย

สำคัญคือทั้ง 2 วัตถุประสงค์ ไม่ควรลงทุนในทรัพย์สินที่เสี่ยงต่อการลดค่าของเงินต้นครับ กองทุนกลุ่ม cash management จึงเหมาะที่สุด (ผมใช้ว่ากลุ่ม cash management เพราะบางกองเขาไม่ได้จดเป็น money market เพราะเขามีตราสารอายุยาวเกิน 1 ปีถืออยู่นิดหน่อยครับ แม้วิธีบริหารและหลักการจะเหมือนๆ กัน  เช่น บัวหลวงธนทวี ไทยพาณิชย์สะสมทรัพย์ตราสารหนี้ กองดังของ BBL และ SCB ก็ไม่ใช่ money market โดยนโยบาย แต่การบริหารก็เหมือนๆ กันครับ