การฟอร์ซเซลล์ ไม่กระทบตลาดหุ้น หรือ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 3:43 pm
Update/ ตลท. เผย มูลค่ามาร์จิ้นปัจจุบันอยู่ที่ 2.7 หมื่นลบ. ยันยังเป็นระดับปกติ ระบุหากมี
การฟอร์ซเซลล์ ไม่กระทบตลาดหุ้นแน่นอน
ตลท. เผย มูลค่ามาร์จิ้นปัจจุบันอยู่ที่ 2.7 หมื่นลบ. ยังเป็นระดับปกติ ส่วนปริมาณการ
ทำชอร์ตเซลล์ปัจจุบันมีปริมาณน้อยมากแค่ 0.6-0.7% ของมูลค่าการซื้อขาย/เดือน และไม่ส่งผล
กระทบต่อตลาดหุ้น เตรียมเสนอคลัง ลดหย่อนภาษีเงินปันผล-แคปปิตอลเกน จากการลงทุนใน
พันธบัตร-หุ้นกู้ หวังกระตุ้นการลงทุน ด้านสมาคมบล.เตรียมหารือก.ล.ต.ปลายเดือนนี้เลื่อนใช้ค่า
คอมม์ขั้นบันไดออกไปอีก 2 ปี
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(ตลท.) เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกันระหว่างตลท. กับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ สมาคมบริษัท
หลักทรัพย์ต่างประเทศ สมาคมบริษัทจัดการลงทุนและสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ว่า จากการ
หารือพบว่า มูลค่ารวมของการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ทั้งระบบในปัจจุบันมีประมาณ 2.7 หมื่น
ล้านบาท ซึ่งถือเป็นระดับปกติหากมีการฟอร์ซเซลล์จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม
สมาคมบริษัทหลักทรัพย์และตลท. จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
ขณะที่ปริมาณการทำธุรกรรมมีเพียง 0.6-0.7% ของมูลค่าการซื้อขายต่อเดือน จึงไม่
ใช่ปัจจัยหลักส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น ขณะที่เกณฑ์การทำ short sell ในตลาดหุ้นไทยมีความ
แตกต่างจากตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยกำหนดให้ทำได้เฉพาะหุ้นใน SET 50 ซึ่งมีขนาดใหญ่
และมีสภาพคล่องและราคาที่ไม่ต่ำกว่าราคาที่ตกลงซื้อขายครั้งสุดท้าย จึงไม่มีส่วนทำให้ราคาหุ้น
ปรับตัวลดลง
นอกจากนี้ยังต้องมีการยืมหุ้นเพื่อการส่งมอบด้วย โดยปัจจุบันธุรกรรมให้ยืมหุ้นเพื่อ
ทำ short sell มีจำนวนน้อยมาก ดังนั้นที่ประชุมจึงเห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องมีมาตรการเพิ่มเติม
เกี่ยวกับทำ short sell
อีกทั้ง ตลท.จะพิจารณาขยายวงเงินลงทุนแมทชิ่งฟันด์ และพร้อมที่จะร่วมลงทุนให้กับ
ผู้ที่สนใจจะลงทุนเพิ่มเติมในลักษณะ Opportunity Fund โดยจะทำงานร่วมกับสมาคมบริษัท
หลักทรัพย์และสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ร่วมถึงสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เพื่อประเมิน
เกี่ยวกับมูลค่าหุ้น โดยนำสถานการณ์ปัจจุบันเข้ามาพิจารณาร่วมด้วย
สำหรับตลท.จะทำงานร่วมกับสำนักงาน ก.ล.ต. และกระทรวงพาณิชย์ เพื่อพิจารณา
ปรับเกณฑ์สำหรับการซื้อหุ้นคืน เพื่อเอื้อประโยชน์ให้บริษัทจดทะเบียนทำได้ง่ายขึ้น โดยที่ผ่านมา
มีบริษัทจดทะเบียนสนใจซื้อหุ้นคืนแล้ว 14 บริษัท
นอกจากนี้ที่ประชุมวันนี้มีมติที่จะเสนอกระทรวงการคลัง ให้สนับสนุนมาตรการทาง
ภาษี เช่นการลดอย่อนภาษีเงินปันผล แคปปิตอบเกน สำหรับการลงทุนในพันธบัตรและหุ้นกู้ รวม
ทั้งเสนอให้กระทรวงการคลังทบทวนเรื่องการตั้งกองทุนรวมเพื่อการศึกษา เพื่อส่งเสริมการลงทุน
ของนักลงทุนทั่วไปและสถาบัน และหากกระทรวงการคลังขยายวงเงินลงทุนใน LTF และ RMF
ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อการลงทุน โดยคาดว่าในช่วง 3 เดือนหลังของปีนี้จะมีการนำเงินเข้ามาลงทุน
ใน LTF และ RMF เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีเม็ดเงินลงทุนเข้ามามากกว่า 1 หมื่นล้านบาท4
สมาคมตลาดทุน ยัน ตลาดหุ้นยังอยู่ในภาวะปกติ ไม่จำเป็นต้องมีมาตรการเพิ่มเติม
ด้าน ดร.จงรัก ระรวยทรง กรรมการอำนวยการ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ เปิดเผยกับ
eFinanceThai.com ภายหลังการประชุมหารือระหว่างตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกับ 4
หน่วยงานตลาดทุน ว่า ผลของการหารือในครั้งนี้ได้ข้อสรุปว่า ไม่จำเป็นต้องมีมาตรการเพิ่มเติม
หรือปรับแก้มาตรการเดิมที่ดูแลตลาดหุ้น โดยในส่วนของการใช้เซอร์กิต เบรกเกอร์ เมื่อดัชนีฯ
ปรับตัวลดลง 10% มองว่าเป็นมาตรการที่เหมาะสมอยู่แล้ว
ส่วนการปล่อยมาร์จิ้น พบว่ามูลค่าการปล่อยมาร์จิ้นไม่ได้อยู่ในระดับสูงจนน่าเป็นห่วง
และการฟอร์ซเซลล์ที่เกิดขึ้นอยู่ในระดับปกติ
'ในการหารือครั้งนี้เป็นการรีวิวมาตราการที่ ตลท.มีอยู่ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งเราเห็นตรงกัน
ว่ามาตรการเดิมยังใช้ได้อยู่ เพราะว่าตลาดหุ้นเราไม่ได้มีภาวะวิกฤต ซึ่งปัจจัยที่เข้ามากระทบ
เป็นเรื่องของโกลบอล' ดร.จงรัก กล่าว
อย่างไรก็ดี ในที่ประชุมมีการหารือเกี่ยวกับการออกบทวิเคราะห์ประเมินมูลค่าหุ้นว่า
จากนี้ไปจะต้องมีการอัพเดทข้อมูล และเพิ่มความถี่ในการออกบทวิเคราะห์ให้มากขึ้น เนื่องจาก
ตลาดหุ้นผันผวน ทำให้มูลค่าของหุ้นนแต่ละบริษัทฯเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ดี สมาคมโบรกเกอร์มีแผนจะเสนอให้ ก.ล.ต.พิจารณาเลื่อนการใช้ค่าคอม
มิสชั่นขั้นบันไดออกไปอีก 2 ปี จากเดิมที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2553-31 ธ.ค.2554 รวมทั้ง
ทบทวนแผนการเปิดเสรีใบอนุญาตทุกประเภทในปี 2555 เนื่องจากสมาคมฯ มีความเป็นห่วงว่า
หากเปิดเสรีใบอนุญาตเร็วเกินไปอาจกระทบอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ยังมีบทเรียนจากการที่ประเทศสหรัฐฯ มีการเปิดเสรีส่งผลให้เกิดปัญหา
วิกฤตสถาบันการเงินในปัจจุบัน ทั้งนี้สมาคมฯ จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอสำนักงาน ก.ล.ต.ในการ
ประชุมประจำไตรมาสปลายเดือนต.ค.นี้
'จะคุยเรื่องเลื่อนการใช้ขั้นบันไดออกไปอีก 2 ปี รวมทั้งทบทวนการเปิดเสรีใบอนุญาต
เพราะเราดูแล้วเห็นว่าประเทศที่เปิดเสรีใบอนุญาตทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจ
ได้อย่างเสรี และสุดท้ายก็มีปัญหาตามมาเมื่อเกิดวิกฤต ซึ่งตอนนี้ประเทศเราโชคดีที่เปิดเสรีช้า
ทำให้ผลกระทบจากวิกฤตครั้งนี้ไม่มากเท่าหลายประเทศ' ดร.จงรัก กล่าว
ด้าน มล.ทองมกุฎ ทองใหญ่ ในฐานะนายกสมาคมโบรกเกอร์ต่างประเทศ กล่าวถึง
สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันว่า ไม่น่าจะแย่เหมือนครั้งวิกฤตสถาบันการเงินในปี 2540 ที่
อยู่ในช่วงต้มยำกุ้ง เพราะว่าปัจจุบันปัจจัยที่กดดันต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมาจากปัญหา
วิกฤตการเงินของสหรัฐอเมริกา เพราะหากพิจารณาพบว่าสถาบันการเงินของไทยค่อนข้างที่จะ
แข็งแรง ขณะที่สภาพคล่องภายในประเทศก็ยังดีอยู่
แต่อย่างไรก็ตามหวังว่าการร่วมหารือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)
และผู้ที่เกี่ยวข้องครั้งนี้ เป็นการระดมความคิดเห็นในการหาแนวทางฟื้นฟูตลาดฯ ซึ่งก็น่าจะช่วย
กระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้กลับคืนมาได้บ้าง
'ในบรรยากาศแบบนี้ผมว่าก็เป็นช่วงจังหวะที่ดีที่จะเข้าไปซื้อ LTF เพราะว่าผลตอบ
แทนที่จะเข้าไปซื้อตอนนี้มองว่าค่อนข้างดี และนักลงทุนที่มีเงินออม จังหวะนี้ก็เป็นจังหวะเหมาะ
ในการเข้ามาซื้อหุ้นพื้นฐาน เพราะว่าบจ.ในตลาดผลการดำเนินก็ยังดีอยู่'มล.ทองมกุฎ กล่าว
ด้าน นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เปิด
เผยว่า หลังจากได้มีการประชุมร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ และหน่วยงานตลาดทุนที่เกี่ยวข้องใน
วันนี้ ได้มีการประเมินสถานการ์ณ์จากผลกระทบวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย
โดยเสนอให้พิจารณาปรับ Valuation ของหุ้นทั้งตลาด เพื่อสะท้อนถึงมูลค่าที่แท้จริงของราคา
หุ้น โดยไม่นำปัจจัยด้านเทคนิคมาพิจารณาร่วมด้วย
'ภาวะเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ นอกจากส่งผลต่อตลาดหุ้น ยังส่งผลกระทบต่อการส่ง
ออกของไทยให้ลดลง โดยควรปรับ Valuation ราคาหุ้นใหม่ บนพื้นฐานผลกระทบจากเศรษฐกิจ
โลก' นางวรวรรณ กล่าว
ด้านนายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า ใน
วันนี้จะมีการส่งหนังสือขอความร่วมมือถึงนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิก เพื่อปรับ
Valuation ของหุ้นทั้งตลาดฯ โดยนำสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐฯที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจ
ไทย มาพิจารณาราคาหุ้นและสะท้อนถึงมูลค่าหุ้นที่แท้จริงหลังเกิดวิกฤตดังกล่าวตามคำเสนอแนะ
ของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการ
ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย วันที่ 10/10/08 เวลา 15:37:45
การฟอร์ซเซลล์ ไม่กระทบตลาดหุ้นแน่นอน
ตลท. เผย มูลค่ามาร์จิ้นปัจจุบันอยู่ที่ 2.7 หมื่นลบ. ยังเป็นระดับปกติ ส่วนปริมาณการ
ทำชอร์ตเซลล์ปัจจุบันมีปริมาณน้อยมากแค่ 0.6-0.7% ของมูลค่าการซื้อขาย/เดือน และไม่ส่งผล
กระทบต่อตลาดหุ้น เตรียมเสนอคลัง ลดหย่อนภาษีเงินปันผล-แคปปิตอลเกน จากการลงทุนใน
พันธบัตร-หุ้นกู้ หวังกระตุ้นการลงทุน ด้านสมาคมบล.เตรียมหารือก.ล.ต.ปลายเดือนนี้เลื่อนใช้ค่า
คอมม์ขั้นบันไดออกไปอีก 2 ปี
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(ตลท.) เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกันระหว่างตลท. กับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ สมาคมบริษัท
หลักทรัพย์ต่างประเทศ สมาคมบริษัทจัดการลงทุนและสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ว่า จากการ
หารือพบว่า มูลค่ารวมของการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ทั้งระบบในปัจจุบันมีประมาณ 2.7 หมื่น
ล้านบาท ซึ่งถือเป็นระดับปกติหากมีการฟอร์ซเซลล์จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม
สมาคมบริษัทหลักทรัพย์และตลท. จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
ขณะที่ปริมาณการทำธุรกรรมมีเพียง 0.6-0.7% ของมูลค่าการซื้อขายต่อเดือน จึงไม่
ใช่ปัจจัยหลักส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น ขณะที่เกณฑ์การทำ short sell ในตลาดหุ้นไทยมีความ
แตกต่างจากตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยกำหนดให้ทำได้เฉพาะหุ้นใน SET 50 ซึ่งมีขนาดใหญ่
และมีสภาพคล่องและราคาที่ไม่ต่ำกว่าราคาที่ตกลงซื้อขายครั้งสุดท้าย จึงไม่มีส่วนทำให้ราคาหุ้น
ปรับตัวลดลง
นอกจากนี้ยังต้องมีการยืมหุ้นเพื่อการส่งมอบด้วย โดยปัจจุบันธุรกรรมให้ยืมหุ้นเพื่อ
ทำ short sell มีจำนวนน้อยมาก ดังนั้นที่ประชุมจึงเห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องมีมาตรการเพิ่มเติม
เกี่ยวกับทำ short sell
อีกทั้ง ตลท.จะพิจารณาขยายวงเงินลงทุนแมทชิ่งฟันด์ และพร้อมที่จะร่วมลงทุนให้กับ
ผู้ที่สนใจจะลงทุนเพิ่มเติมในลักษณะ Opportunity Fund โดยจะทำงานร่วมกับสมาคมบริษัท
หลักทรัพย์และสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ร่วมถึงสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เพื่อประเมิน
เกี่ยวกับมูลค่าหุ้น โดยนำสถานการณ์ปัจจุบันเข้ามาพิจารณาร่วมด้วย
สำหรับตลท.จะทำงานร่วมกับสำนักงาน ก.ล.ต. และกระทรวงพาณิชย์ เพื่อพิจารณา
ปรับเกณฑ์สำหรับการซื้อหุ้นคืน เพื่อเอื้อประโยชน์ให้บริษัทจดทะเบียนทำได้ง่ายขึ้น โดยที่ผ่านมา
มีบริษัทจดทะเบียนสนใจซื้อหุ้นคืนแล้ว 14 บริษัท
นอกจากนี้ที่ประชุมวันนี้มีมติที่จะเสนอกระทรวงการคลัง ให้สนับสนุนมาตรการทาง
ภาษี เช่นการลดอย่อนภาษีเงินปันผล แคปปิตอบเกน สำหรับการลงทุนในพันธบัตรและหุ้นกู้ รวม
ทั้งเสนอให้กระทรวงการคลังทบทวนเรื่องการตั้งกองทุนรวมเพื่อการศึกษา เพื่อส่งเสริมการลงทุน
ของนักลงทุนทั่วไปและสถาบัน และหากกระทรวงการคลังขยายวงเงินลงทุนใน LTF และ RMF
ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อการลงทุน โดยคาดว่าในช่วง 3 เดือนหลังของปีนี้จะมีการนำเงินเข้ามาลงทุน
ใน LTF และ RMF เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีเม็ดเงินลงทุนเข้ามามากกว่า 1 หมื่นล้านบาท4
สมาคมตลาดทุน ยัน ตลาดหุ้นยังอยู่ในภาวะปกติ ไม่จำเป็นต้องมีมาตรการเพิ่มเติม
ด้าน ดร.จงรัก ระรวยทรง กรรมการอำนวยการ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ เปิดเผยกับ
eFinanceThai.com ภายหลังการประชุมหารือระหว่างตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกับ 4
หน่วยงานตลาดทุน ว่า ผลของการหารือในครั้งนี้ได้ข้อสรุปว่า ไม่จำเป็นต้องมีมาตรการเพิ่มเติม
หรือปรับแก้มาตรการเดิมที่ดูแลตลาดหุ้น โดยในส่วนของการใช้เซอร์กิต เบรกเกอร์ เมื่อดัชนีฯ
ปรับตัวลดลง 10% มองว่าเป็นมาตรการที่เหมาะสมอยู่แล้ว
ส่วนการปล่อยมาร์จิ้น พบว่ามูลค่าการปล่อยมาร์จิ้นไม่ได้อยู่ในระดับสูงจนน่าเป็นห่วง
และการฟอร์ซเซลล์ที่เกิดขึ้นอยู่ในระดับปกติ
'ในการหารือครั้งนี้เป็นการรีวิวมาตราการที่ ตลท.มีอยู่ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งเราเห็นตรงกัน
ว่ามาตรการเดิมยังใช้ได้อยู่ เพราะว่าตลาดหุ้นเราไม่ได้มีภาวะวิกฤต ซึ่งปัจจัยที่เข้ามากระทบ
เป็นเรื่องของโกลบอล' ดร.จงรัก กล่าว
อย่างไรก็ดี ในที่ประชุมมีการหารือเกี่ยวกับการออกบทวิเคราะห์ประเมินมูลค่าหุ้นว่า
จากนี้ไปจะต้องมีการอัพเดทข้อมูล และเพิ่มความถี่ในการออกบทวิเคราะห์ให้มากขึ้น เนื่องจาก
ตลาดหุ้นผันผวน ทำให้มูลค่าของหุ้นนแต่ละบริษัทฯเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ดี สมาคมโบรกเกอร์มีแผนจะเสนอให้ ก.ล.ต.พิจารณาเลื่อนการใช้ค่าคอม
มิสชั่นขั้นบันไดออกไปอีก 2 ปี จากเดิมที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2553-31 ธ.ค.2554 รวมทั้ง
ทบทวนแผนการเปิดเสรีใบอนุญาตทุกประเภทในปี 2555 เนื่องจากสมาคมฯ มีความเป็นห่วงว่า
หากเปิดเสรีใบอนุญาตเร็วเกินไปอาจกระทบอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ยังมีบทเรียนจากการที่ประเทศสหรัฐฯ มีการเปิดเสรีส่งผลให้เกิดปัญหา
วิกฤตสถาบันการเงินในปัจจุบัน ทั้งนี้สมาคมฯ จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอสำนักงาน ก.ล.ต.ในการ
ประชุมประจำไตรมาสปลายเดือนต.ค.นี้
'จะคุยเรื่องเลื่อนการใช้ขั้นบันไดออกไปอีก 2 ปี รวมทั้งทบทวนการเปิดเสรีใบอนุญาต
เพราะเราดูแล้วเห็นว่าประเทศที่เปิดเสรีใบอนุญาตทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจ
ได้อย่างเสรี และสุดท้ายก็มีปัญหาตามมาเมื่อเกิดวิกฤต ซึ่งตอนนี้ประเทศเราโชคดีที่เปิดเสรีช้า
ทำให้ผลกระทบจากวิกฤตครั้งนี้ไม่มากเท่าหลายประเทศ' ดร.จงรัก กล่าว
ด้าน มล.ทองมกุฎ ทองใหญ่ ในฐานะนายกสมาคมโบรกเกอร์ต่างประเทศ กล่าวถึง
สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันว่า ไม่น่าจะแย่เหมือนครั้งวิกฤตสถาบันการเงินในปี 2540 ที่
อยู่ในช่วงต้มยำกุ้ง เพราะว่าปัจจุบันปัจจัยที่กดดันต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมาจากปัญหา
วิกฤตการเงินของสหรัฐอเมริกา เพราะหากพิจารณาพบว่าสถาบันการเงินของไทยค่อนข้างที่จะ
แข็งแรง ขณะที่สภาพคล่องภายในประเทศก็ยังดีอยู่
แต่อย่างไรก็ตามหวังว่าการร่วมหารือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)
และผู้ที่เกี่ยวข้องครั้งนี้ เป็นการระดมความคิดเห็นในการหาแนวทางฟื้นฟูตลาดฯ ซึ่งก็น่าจะช่วย
กระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้กลับคืนมาได้บ้าง
'ในบรรยากาศแบบนี้ผมว่าก็เป็นช่วงจังหวะที่ดีที่จะเข้าไปซื้อ LTF เพราะว่าผลตอบ
แทนที่จะเข้าไปซื้อตอนนี้มองว่าค่อนข้างดี และนักลงทุนที่มีเงินออม จังหวะนี้ก็เป็นจังหวะเหมาะ
ในการเข้ามาซื้อหุ้นพื้นฐาน เพราะว่าบจ.ในตลาดผลการดำเนินก็ยังดีอยู่'มล.ทองมกุฎ กล่าว
ด้าน นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เปิด
เผยว่า หลังจากได้มีการประชุมร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ และหน่วยงานตลาดทุนที่เกี่ยวข้องใน
วันนี้ ได้มีการประเมินสถานการ์ณ์จากผลกระทบวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย
โดยเสนอให้พิจารณาปรับ Valuation ของหุ้นทั้งตลาด เพื่อสะท้อนถึงมูลค่าที่แท้จริงของราคา
หุ้น โดยไม่นำปัจจัยด้านเทคนิคมาพิจารณาร่วมด้วย
'ภาวะเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ นอกจากส่งผลต่อตลาดหุ้น ยังส่งผลกระทบต่อการส่ง
ออกของไทยให้ลดลง โดยควรปรับ Valuation ราคาหุ้นใหม่ บนพื้นฐานผลกระทบจากเศรษฐกิจ
โลก' นางวรวรรณ กล่าว
ด้านนายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า ใน
วันนี้จะมีการส่งหนังสือขอความร่วมมือถึงนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิก เพื่อปรับ
Valuation ของหุ้นทั้งตลาดฯ โดยนำสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐฯที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจ
ไทย มาพิจารณาราคาหุ้นและสะท้อนถึงมูลค่าหุ้นที่แท้จริงหลังเกิดวิกฤตดังกล่าวตามคำเสนอแนะ
ของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการ
ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย วันที่ 10/10/08 เวลา 15:37:45