Thai VI

ถือหุ้นในพอท์ต  มีอยู่หลายตัว
หุ้นบางตัวราคาก็ลงไปแล้ว  10%
หุ้นบางตัวราคาก็ลงไปแล้ว   20%  
หุ้นบางตัวราคาก็ลงไปแล้ว    30%
หุ้นบางตัวราคาก็ลงไปแล้ว  50%

พี่ๆน้องๆ  เลยคิดถึงความเป็นไปได้จะขายหุ้นตัวที่ลงน้อยๆไปซื้อตัวที่ลง  มากๆ
ถามผม  ผมก็ตอบไม่ได้
ถ้าแนะนำถูกค้องแก้ไขได้  ก็คงเสมอตัว
ถ้าแนะนำแล้วผิดพลาด  
ก็คงมีคนน้อยใจ
เพราะขอความเห็นมาแล้วตอบผิดโอกาสไป

มีใครทำแล้ว
ใครเคยทำ

มาเล่าให้ทราบหน่อยว่า  แบบไหนถึงจะถูกต้อง

คำแนะนำจากผม

ลืมเรื่องราคาต้นทุน  ลืมเรื่องกำไรขาดทุน

ให้คิดใหม่  คิดแบบจะเริ่มซื้อหุ้นใหม่

วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน  คำนวณราคาที่เราคิดว่าให้ผลตอบแทนเหมาะสม

คำนวณส่วนลด MOS

แล้วเปรียบเทียบกับราคาตลาดในปัจจุบัน

ไม่ว่าสถานการณ์ลักษณะใด  ก็วิเคราะห์เหมือนเดิม

วันนี้ทำแล้วคับพี่ฉัตร...คิดแบบนี้เป๊ะ...

ขายตัวที่ไม่ค่อยลง...ไปซื้อตัวที่ลงเยอะ...

ums ครับ...สองชม.ขาดทุนไป 5% เร็วสุดในชีวิตแล้ว...

เราก็ลืมไป...มีคนเตือนว่า...มีดตกอย่าเพิ่งเอามือไปรับ...

ไอ้เราก็อดใจไม่อยู่จริงๆ...

มีหลายคนถามผมว่า

ทำไมยังไม่ซื้อ

ไม่รู้จะตอบยังไงเหมือนกันครับ  :8)  ...

การขายหุ้นตัวที่ลงน้อย ไปซื้อหุ้นที่ลงมาก

สำหรับผมอย่างหนึ่งที่ต้องคิดคือดูปริมาณการซื้อขายในหุ้นที่ลงมากเป็นหลักนะครับ เพราะถ้าลงแบบเยอะๆ ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายต่ำกว่าเฉลี่ย อย่างนี้ผมว่าน่าจะเป็นโอกาสดีที่จะสลับ แต่ถ้าหุุ้นที่มันลงมากๆ แบบปริมาณการซื้อขายมากๆ อันนี้ยังมีโอกาสเสี่ยงเหมือนกันที่มันจะลงต่อมากกว่าหุ้นที่ลงน้อย

ในขณะที่หุ้นที่ลงน้อยๆ ในสภาวะแบบนี้อาจจะเกิดภาวะ pair trading ได้ หรือ เกิดภาวะวงแตก อีก เฮอะๆ

[quote="chatchai"]คำแนะนำจากผม

ลืมเรื่องราคาต้นทุน

ผมเริ่มเปิดพอร์ตได้ไม่นานครับลง 15%

beammy เขียน:มีหลายคนถามผมว่า

ทำไมยังไม่ซื้อ

ไม่รู้จะตอบยังไงเหมือนกันครับ

คุณ beammy ใจแข็งจริงๆครับ
ท่าทางจะชอบ MOS เยอะอิิอิ
หรือหุ้นที่เล็งไว้ พื้นฐานแข็งปึก ราคาไม่ลง

เพื่อนๆผมซื้อกันไปแล้วตั้งแต่ 650  :shock:  :shock:
ผมด้วยบางส่วน เหอะๆ


 :roll:  :roll:  :roll:

ขายตัวขาดทุนน้อยไปเข้าตัวขาดทุนมาก
ระวัง นะครับ ส่วนมากตัวที่แข็งแกร่งกว่าตลาดจะขึ้นได้ดีเวลาที่ตลาดเปลี่ยนทิศเป็นขาขึ้น
ส่วนตัวที่ขาดทุนมากอาจจะร่วงต่อก็ได้

ทำใจถือไปหละกัน ซักวันตลาดก็จะกลับมาได้
อาจจะ5ปี10ปีก็ต้องทนหละนะ  :lol:

แต่ถ้าไม่มีเงินสดเหลือบ้างซัก10-20%ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

เพราะถ้าPttep ลงมา10.00บาท คุณอาจจะเสียโอกาสอันงามไปได้

ไม่ได้บอกว่าจะเกิด แต่อะไรมันก็ไม่แน่นอน

มีวิธีเดียวครับที่จะทำให้ผลตอบแทนดีขึ้นได้ในภาวะแบบนี้

หาเงินลงทุนเพิ่ม โดยไม่ใช่การใช้ มาร์จิ้นโลน ครับ

ไปหามาเพิ่มเลยครับ  :8)  ...

nanchan เขียน:แต่ถ้าไม่มีเงินสดเหลือบ้างซัก10-20%ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

เพราะถ้าPttep ลงมา10.00บาท คุณอาจจะเสียโอกาสอันงามไปได้

ไม่ได้บอกว่าจะเกิด แต่อะไรมันก็ไม่แน่นอน

ใจร้ายเกินไปหรือเปล่าครับ อิอิ
สงสัย set เหลือ ไม่กี่สิบจุดแน่

สงสัยตอนนี้ ต้องเข้าวัดฟังธรรมดีกว่า
นายตลาดทำรุนแรงเหลือเกิน
อามิตพุด

tum_H เขียน: ใจร้ายเกินไปหรือเปล่าครับ อิอิ
สงสัย set เหลือ ไม่กี่สิบจุดแน่

สงสัยตอนนี้ ต้องเข้าวัดฟังธรรมดีกว่า
นายตลาดทำรุนแรงเหลือเกิน
อามิตพุด

ผมว่าไม่ถึงกับใจร้ายไปมั้งครับ คุณ tumh
เพราะว่าตอนแรกๆฝรั้งขาย ต้องระดับ 3000 ล้าน
ถึงจะลงซัก 20 จุด
เดี่ยวนี้ 2000 ก็ลง 35-40 จุดแล้ว
ถ้ารายย่อยเริ่มไม่เอา

แล้วพี่ฝรั้งมันจะออกอย่างเดียว

ผมว่าหุ้น blueship เนี้ยแหละ

หนักสุด

มีให้ออกอีกเป็นแสนล้านครับ

ดูเหมือนมันจะขายแบบนี้ทั้ง q4 เลย
ดูแนวโน้มเอาน่ะครับ (ความเห็นส่วนตัวนะ)


จริงๆที่ผมเลิกเล่นก็เพราะอ่านเจอว่า
วิกฤตอเมกาประมาณปี 1929-1930 คราวที่แล้ว ดัชนี dow ลดลงไป 90 %โหถ้ารอบนี้มันเป็นงั้นทำไงว่ะเนี้ย
(อ่านจากกรุงเทพธุรกิจหลายสัปดาห์แล้วรู้สึก ด.ร.นิเวศน์เป็นคนพูดนะ)

ฉะนั้น cpall สำหรับผมก็ไม่ปรอดภัยอีกต่อไป

เอิ๊กๆ

คราวนี้เจ็บหนักที่สุดในชีวิตการลงทุน 5 ปี

หายไปประมาณ 20% แล้ว และผมเองก็ใส่เงินเข้าไปในพอร์ทมากขึ้นมากด้วยปีนี้

สงสัยปีนี้จะทำงานฟรี    

ปีนี้ความผิดพลาดของผมที่สำคัญเลยคือ ขาด margin of safety ทำให้รู้ว่าเรายังอ่อนหัดอยู่มาก

ตอนนี้คงต้องแปลงสภาพเป็นนักลองทนแล้วครับ

ก้มหน้าก้มตาทำงาน หาเงินมาเก็บไว้ สะสมประสบการณ์ ความรู้ และปรับใจให้นิ่ง

hongvalue เขียน:จริงๆที่ผมเลิกเล่นก็เพราะอ่านเจอว่า
วิกฤตอเมกาประมาณปี 1929-1930 คราวที่แล้ว ดัชนี dow ลดลงไป 90 %โหถ้ารอบนี้มันเป็นงั้นทำไงว่ะเนี้ย

นั่นดิครับ ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดี ที่ได้มีโอกาสเจอวิกฤต
ตัวเป็นๆ ด้วยตัวเอง

ซึ้ง

[quote="ปรัชญา"] ถือหุ้นในพอท์ต

ผมก็ไม่รู้นะว่าสิ่งที่ผมคิดถูกต้องหรือเปล่า แต่ผมไม่ขายบริษัทที่ราคาลงน้อยที่สุดเพื่อไปซื้อบริษัทที่ราคาลงมากที่สุดครับ (แม้จะคันมือมากเหมือนกัน  :lol: ) แต่ผมกำลังคิดจะขายบริษัทที่ผมคิดว่ามี upside gain น้อยที่สุด เพื่อเปลี่ยนไปซื้อบริษัทที่ผมคิดว่ามี upside gain มากที่สุด

แต่ที่สำคัญตอนนี้ ผมขอปรับ MOS ให้เพิ่มมากขึ้นครับ   โปรดแนะนำผมหน่อยสิครับว่า MOS ซักกี่เปอร์เซ็นต์ดีครับในภาวะอย่างนี้  :roll:

อืม อ่านของหลายๆท่านแล้วดูเหมือนผมจะโชคดีแบบฟลุ้คๆ ที่ยังไม่ขาดทุน แต่ขาดทุนกำไรที่หายไป ซึ่งก็มากอยู่ จนโดนแฟนบ่นว่าทำไมไม่ขายไปตอนที่ราคามันดีๆ แต่ก็อีกแหละเราก็ไม่รู้นิว่า ราคาในอนาคต มันจะลงมา ในเมื่อพื้นฐานมันยังดี อยู่ MOS ก็มี ไม่มีอะไรมากระทบกับบริษัท ก็ไม่มีเหตุให้ขายนี่คับ เสียดายแต่ไม่เสียใจ .... เป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะคับ อย่าเครียดกันนะคับ

การเป็น vi มันยากตรงนี้แหละครับ ถ้าผ่านพ้นตรงนี้ไปได้บางคนก็เลิกเป็น vi ไปเลย บางคนถ้าcut loss ไป ก็เลิกเป็น vi ไปเลยเหมือนกัน  ปีเตอร์ ลินซ์เคยบอกว่า ตอนช่วงตลาดตกต่ำ 1929-1930 ที่ตลาดลงมากมาก คนจำนวนมากขาดทุนมหาศาล แต่หลังจากนั้น อีก 60 ปี คนพวกนั้นขาดทุนหนักกว่าเดิมเพราะกลัวตลาดหุ้นและหันหลังให้ตลาดหุ้นตลอดไปเนื่องจาก 60 ปีถัดจากนั้นตลาดหุ้นกลับตัวเป็นขาขึ้นให้ผลตอบแทนทบเท่าพันทวี ช่วงนี้อ่านแล้วเข้าใจความรู้สึกในแต่ละช่วงของตลาดที่ปีเตอร์ลินซ์ผ่านมา เค้าเล่าว่ามีการตกลง 33 เปอร์เซ็นต์ของตลาดดาวโจร์ 40 ครั้งในช่วงที่เค้าทำงานอยู่ มี ถึง 39 ครั้งที่ปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่เดิมได้ภายในไม่ถึงสองปีและใน 39 ครั้งมีถึง 26 ครั้งที่ปรับตัวทำนิวไฮ เหมือนครั้งที่เค้าเล่าถึงตอน 911 ว่าทุกคนในสหรัฐต่างคาดการ์ณว่าตลาดจะต้องแย่มากมาก ความมั่นใจผู้บริโภคตกต่ำมากมาก มีสงครามกับอีรักที่หนังสือพิมพ์หลายฉบับรายงานว่าจะเป็นสงครามยืดเยื้อเป็นสิบปีแต่เค้ากลับเห็นเป็นจังหวะและซื้อหุ้นเพิ่มเข้ากองทุน จากนั้นเพียง 3 เดือนเศษ ดัชนีดาวโจรกลับมาบวกจากจุดก่อนตกไปอีก 25 % และหุ้นขนาดเล็กหลายตัวก็ขึ้นมาเกือบ 60 % ทำให้ผู้ที่ซื้อหุ้นในปี 1990  ได้พบว่าปี 1991 เป็นปีที่ดีที่สุดของสองทศวรรษเลย ผมเองลงทุนมาไม่นานนะครับ แต่เชื่อว่า การหนักแน่นในหลักการ อาจจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดก็ได้ในการลงทุนเพราะผมเองก็ขาดทุนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปพอสมควรแต่ด้วยหลักการที่กำหนดกับตัวเองไว้แต่ต้นว่าจะลงทุนเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ของเงินสดที่มีอยู่ ตอนดัชนีไปที่ 887 มาร์ก็โทรมาเชียร์ว่าดัชนีจะไปเท่านั้นเท่านี้จะดีอย่างนั้นอย่างนี้ ผมก็ยังยืนยันกับตัวเองว่าถ้ายังลงทุนไม่ครบ 3 ปี ยังไงก็ไม่ถอนเงินสดส่วนที่เหลือมาลงทุนแน่นอนไม่ว่าใครจะว่าโง่ยังไง เพราะตั้งใจไว้แล้วว่าจะลงทุนหุ้นเท่านี้และจะถอนเฉพาะส่วนของดอกเบี้ยที่ได้จากตราสารหนี้มาลงทุนเพิ่ม เท่านั้น จึงทำให้ไม่เสียหายจนเครียดครับ  เป็นกำลังใจให้กับผู้ที่มีหุ้นทุกท่านนะครับผมว่า ถ้าอ่านจากอดีต หุ้นลงมาขนาดนี้แล้วจะ cut คงจะเสียโอกาสมากกว่าการถือนะครับ  ตลาดก็เป็นแบบนี้แหละครับ มีหลายฤดู ทุกครั้งถ้าเป็นฤดูฝนเราทุกคนก็คงเก็บตัวในบ้านและเฝ้ารอว่าสักวันพอเข้าหน้าร้อนค่อยออกไปที่ที่เราอยากไป คงไม่มีใครหรอกครับที่เข้าฤดูฝนแล้วบ่นพึมพัมว่า ตายแล้วน้ำจะท่วมโลก ฝนจะตกไม่มีวันหยุด เพราะในความเป็นจริงสักวันก็ต้องถึง ฤดูร้อนครับ

ใจร่มๆ ครับ

ถือว่าเราซื้อพันธบัตรระยะยาว 10 ปี แล้วกันครับ

ช่วงนี้ก็รับปันผลไปเรื่อยๆ อีก 10 ปี ค่อยเอาเงินต้นมาใช้

สู้ๆ ครับทุกท่าน

ก็อย่าไปใส่ใจราคาตลาดให้มากสิครับ
เดินเล่นบ้าง เล่นกีฬาบ้าง เที่ยว ตจว. บ้าง
หรืองานอดิเรกอะไรก็ได้ครับ ที่ชอบทำ

สองเดือนสามเดือนค่อยมาดูหน้าจออีกทีก็ได้ ส่วนหลักการ...
ยังเหมือนเดิมครับ

(หลักการก็คือหลักการ ถ้าไม่ทำตามหลักการ มันก็ไม่ใช่หลักการอีกต่อไปแล้วซิครับ)

ประเด็นคือ ซื้อให้ถูก ทั้งราคา แล้วก็ตัวหุ้น
เพราะยังไงซะ ถึงราคาจะลงมา 50% ก็แล้ว หรือว่า 80% ก็แล้ว
ในระยะสั้นมันก็ไม่ได้ต่าง แต่ในระยะยาว...

เราปิดประตูขาดทุน

ปล. ถ้าวันนั้นเรายังเหลือป๊ะกะตูอะนะ  :vm:

SunShine@Night เขียน:ใจร่มๆ ครับ

ถือว่าเราซื้อพันธบัตรระยะยาว 10 ปี แล้วกันครับ

ช่วงนี้ก็รับปันผลไปเรื่อยๆ อีก 10 ปี ค่อยเอาเงินต้นมาใช้

สู้ๆ ครับทุกท่าน

แต่ในสภาวะศก. โลกแบบนี้ หลายๆ บริษัทที่ได้รับผลกระทบ
อาจจ่ายปันผลได้น้อยลง หรืองดจ่ายปันผลชั่วคราวหรือเปล่าครับ

อย่าคิดมากไปเลยครับ เกรแฮมทำงานไม่ได้เงินตั้ง 5ปีช่วงตลาดวอดวาย ท่านยังรอมาสอนรุ่นหลังได้เลย "แล้วสิ่งนี้ก็จะผ่านพ้นไป" ข้อความนี้เล่ากันว่าสลักอยู่บนแหวนของพระเจ้าสุไลมานหรือโซโลมอน
เวลาท่านชอบใจหรือไม่ชอบใจอะไรก็จะก้มดูแหวนแล้วละเสียซึ้งอารมณ์นั้น

ตอนแรกก็คิดจะทำอย่างนั้นเหมือนกัน

แต่พอดู bid/offer ปรากฎว่า

ถ้าขายตัวลงน้อย ตัวนั้นจะกลายเป็นลงมาก
ถ้าซื้อตัวที่ลงมากตัวนั้นก็จะลงน้อยทันที

fantasia เขียน:ตอนแรกก็คิดจะทำอย่างนั้นเหมือนกัน

แต่พอดู bid/offer ปรากฎว่า

ถ้าขายตัวลงน้อย ตัวนั้นจะกลายเป็นลงมาก
ถ้าซื้อตัวที่ลงมากตัวนั้นก็จะลงน้อยทันที

:lol:  :lol: gap มันใหญ่สินะครับ

[quote]แต่ในสภาวะศก. โลกแบบนี้ หลายๆ บริษัทที่ได้รับผลกระทบ
อาจจ่ายปันผลได้น้อยลง หรืองดจ่ายปันผลชั่วคราวหรือเปล่าครับ[/quote]

เห็นด้วยครับ อาจจะมีบางบริษัทที่จ่ายปันผลไม่ได้

ต้องเล็งดีๆ ซะแล้ว ขอบคุณมากนะครับ

sai เขียน:การเป็น vi มันยากตรงนี้แหละครับ

แต่สำหรับผมแล้ว  ขาลงไม่ยากแฮะ  ที่ยากลำบากใจแสนสาหัสในอดีต  เป็นช่วงขาขึ้นครับ

เพราะหุ้นขึ้นทั้งกระดาน  วิ่งกันสนั่น  แต่ราคาหุ้นของเรานิ่งสนิท

ยังไม่มีใครถามผมเลย  ว่าน่าซื้อเพิ่มหรือยัง

chatchai เขียน:

แต่สำหรับผมแล้ว