Thai VI

ผมเพิ่งเข้าตลาดปีนี้ยังไม่รู้เรื่องการลงทุนและอุตสาหกรรมที่เลือกทำให้ขาดทุน
มาก ผมมีหุ้นในport คือ

             จำนวน     ขาดทุน
ปิโตร        10%       - 46%
เกษตร       6%        -31%
พลังงาน    34%      -12%
แบงค์        49%      -9%
พานิชย์       1%      +5%

ผมมองไม่ออกว่าตลาดจะแย่แบบนี้จึงไม่ได้ขายเลย
ตอนนี้เดาว่าตลาดน่าจะแย่ต่ออีกเลยอยากขอคำแนะนำในการปรับportด้วยครับ

1. ขายทิ้ง ทั้งหมด หรือตัวไหน
2. ทยอยซื้อ เฉลี่ย (ตัวไหน) หรือตัวใหม่
3.อยู่เฉย
4. อื่นๆ
ขอบคุณครับ

ทำไมคุณปล่อยให้มันเป็นไปได้ขนาดนี้ผมไม่เข้าใจ    :roll:

ผมถือว่าคุณ meee ขาดทุนน้อย เมื่อเทียบกับนักลงทุนอีกหลายคน  เพราะตัวที่weight มาก  ขาดทุน น้อย  ยังแปลกใจว่าทำไมขาดทุนจากกลุ่ม bank และenergy  น้อย  ทั้งที่ ราคาหุ้นทั้งกลุ่มลงมาไม่น้อยเลย

ส่วนเรื่องทำอย่างไรต่อนั้น......ผมว่าภาวะแบบนี้ผันผวนมากต้องตัดสินใจด้วยตนเอง  ติดตามมาตรการต่าง ๆ ผลกระทบต่อเนื่อง  เพราะมีข้อมูล มาตรการ คำถามและคำตอบหลายอย่างที่เรายังไม่รู้ได้....ทุกคนจึงได้แต่คาดการณ์ตามความเชื่อและก็เล่นตามความเชื่อ

ข้อแรก ทำใจให้ได้

ข้อสอง นึกถึงคนทำการค้า ที่แย่สุดเจออะไร

ไม่ใช่แค่เจ๊งนะ

เรื่องทำใจไม่ได้มีหลายอย่าง เช่น ติดคุก ล้มละลาย หนี้สินล้นพ้นตัว หนีไปต่างประเทศ โดนเพื่อนๆ ญาติพี่น้อง ดูถูก เป็นต้น

หากยังทำใจไม่ได้อีก ก็ ฆ่าตัวตาย

ข้อสาม ตั้งสติ เรียนรู้ว่า ที่ขาดทุนเพราะอะไร เพราะตลาดแย่มาก หรือเพราะการเลือกหุ้น เลือกราคาที่เข้าซื้อยังไม่มีหลักการเลือกเพียงพอ ทำให้เวลาเกิดปัญหา หุ้นก็เลยตกเยอะมาก

ยกตัวอย่าง ณ เวลานี้ หุ้นบางตัวก็ไม่ได้ลงมาก หรือ ไม่ได้ลงเลย หรือ บางตัวกลับขึ้นด้วย ก็ค่อยๆอ่าน ในนี้ก็มี

ข้อที่สี่ ทางแก้ ก็ต้องค่อยๆ แก้แบบ u turn คือต้องเปลี่ยนกรอบทางความคิด โดยการ อ่านให้มากขึ้น ตามคำแนะนำของดร.นิเวศน์ และควรเข้าฟังดร.นิเวศน์ ด้วย ในวันที่ 4 ตค.นี้ จ๊า

ข้อที่ห้า เลียแผล แล้วเริ่มลงทุนในกรอบความคิดใหม่ และค่อยๆทำกำไรกลับ ใช้เวลานานหน่อยนะ กว่าจะกลับมากำไร แต่ ท่านจะได้เรียนรู้รอบเลย

เป็นกำลังใจครับ ผมเองก็ ขาดทุน อิอิ

อย่างแรก ต้องถามตัวเองก่อน ว่าเงินเย็นหรือไม่ ต้องใช้อะไรหรือเปล่า

ข้อสอง ดูพื้นฐานของหุ้นแต่ละตัวอย่างละเอียด  ขายตัวที่มีส่วนต่างมูลค่ากับราคาต่ำสุด และคุณภาพต่ำสุด (อันนี้วิจารณ์ไม่ได้ เพราะผมไม่เก่ง และคุณไม่บอกชื่อหุ้น)

ข้อสาม จากข้อแรก ถ้าคุณต้องใช้เงินก็เอาเงินที่ขายมาใช้ แต่ถ้าไม่ต้องใช้เงิน และมีรายได้ประจำแต่ละเดือนมากพอสม่ำเสมอก็มาศึกษาดูว่าตัวไหนมีส่วนต่างระหว่างราคากับมูลค่ามากสุด แล้วก็ซื้อ

ข้อสี่  รอผล  ผมเชื่อว่าสักวันมันต้องดีขึ้น ศึกษาและลงทุนไปเรื่อยๆ  การขายหุ้นในวันที่เลวร้าย และการซื้อหุ้นในวันที่อะไรก็สดใส เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้ขาดทุนได้มากที่สุด

เป็นกำลังใจให้ครับ  พอร์ทผมตอนนี้ก็ลบไปสามแสนกว่าแล้ว  :oops:

แล้วคุณจะกล้าเชื่อผมไหมนี่ :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

[quote="poppo"]
เป็นกำลังใจให้ครับ

คาดว่าโดนกันทั่วหน้าครับ ตลาดผันผวนแบบนี้ ถ้าเป็นผมผมจะปรับพอร์ทครับ จะเห็นได้จากดร.นิเวศน์ ก็ลงทุนช่วงเวลาคล้ายคล้ายแบบตอนนี้นะครับ เพราะดร.ลงทุนที่ดัชนี 800 จุด แล้วผ่านช่วงดัชนีตกต่ำ แต่พอร์ทของ ดร.ก็ยังสามารถเติบโตได้ ผมว่าต้องประเมิณสถาณการ์ณใหม่แล้วเลือกหุ้นที่เหมาะกับสภาวะข้างหน้าครับ โดยต้องลืมต้นทุนที่ซื้อมาไม่งั้นทำใจไม่ได้ สู้สู้ครับ ผมก็แย่อยู่เหอเหอ

sai เขียน:คาดว่าโดนกันทั่วหน้าครับ ตลาดผันผวนแบบนี้ ถ้าเป็นผมผมจะปรับพอร์ทครับ จะเห็นได้จากดร.นิเวศน์ ก็ลงทุนช่วงเวลาคล้ายคล้ายแบบตอนนี้นะครับ เพราะดร.ลงทุนที่ดัชนี 800 จุด แล้วผ่านช่วงดัชนีตกต่ำ แต่พอร์ทของ ดร.ก็ยังสามารถเติบโตได้ ผมว่าต้องประเมิณสถาณการ์ณใหม่แล้วเลือกหุ้นที่เหมาะกับสภาวะข้างหน้าครับ โดยต้องลืมต้นทุนที่ซื้อมาไม่งั้นทำใจไม่ได้ สู้สู้ครับ ผมก็แย่อยู่เหอเหอ

ถ้าเอาหุ้นที่ดร.ถือณ ดัชนี 800 เทียบกับ ดัชนี 596 ผมว่าพอร์ทแกลดนะ

แต่ถ้าเอาต้นทุนเดิมเลย ก็อาจจะเพิ่ม

อย่างนี้น่าจะเรียกว่า ขาดทุนกำไรเทียม คือแกยังไม่ได้ขาย และเน้นถือยาว อิอิ

ลองเอาหุ้นทั้งหมดที่ดร. ถือมาซิ เดี่ยวหาให้ว่า พอร์ทลด หรือเพิ่ม อิอิ

[quote="meee"]ผมเพิ่งเข้าตลาดปีนี้ยังไม่รู้เรื่องการลงทุนและอุตสาหกรรมที่เลือกทำให้ขาดทุน
มาก ผมมีหุ้นในport คือ

ผมมองไม่ออกว่าตลาดจะแย่แบบนี้จึงไม่ได้ขายเลย
ตอนนี้เดาว่าตลาดน่าจะแย่ต่ออีกเลยอยากขอคำแนะนำในการปรับportด้วยครับ
---------


ตอนแรกมองไม่ออกว่า...
แล้วตอนนี้เดาว่า..
เป็นผมนะจะ (จะเฉยๆ ผมก็ยังทำไม่ค่อยได้ แหะๆ)
ไม่ใช่แค่เปลี่ยนตัวหุ้น
ต้องเปลี่ยนหลักการลงทุนใหม่
โดนนายตลาดเล่นงานแล้วละครับ  :lol:

ไม่ขาย คือ ขาดทุนทางบัญชี
ขาย คือ ขาดทุนจริงๆ
ดูๆแล้วก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่  

การดูหุ้นมากๆ ทำให้จิดใจหดหู่ ก็อย่าไปดูมันหากิจกรรมอื่นๆทำคลายเครียดดีกว่า

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
 :(  ตอนนี้.......ก้อ  -25% แล้วค่ะ

ผมว่าตอนนี้มูลค่า Port ตอนต้นปีเมื่อเทียบกับตอนนี้น่าจะลดลง 30%
ผมเข้าใจว่าผู้ที่ยังไม่ขาดทุนเข้าเนื้อตัวเองน่าจะเป็นผู้ที่ลงทุนก่อนปี 48
 ขนาดหุ้นของผมบางตัวซื้อตั้งแต่ปี 48 ยังขาดทุนเลย  แหะ ๆ Port
ติดลบไป 7 หลักแล้ว  ทำใจ  ทำใจ  แบบที่ เฮียJeng ว่าเจ้งหุ้นไม่ต้อง
ติดคุก  ยังมีงานทำ ยังมีบ้านอยู่  ถ้าเป็นเงินเย็น  
  สำหรับผมหุ้นเป็นอะไรที่น่ากลัว แต่ก็ตื่นเต้น ท้าทาย  ดังนั้นผมจึงลงทุน
ในหุ้นแค่ 20% ของการลงทุนทั้งหมดของผม  กลัว กลัว กลัว

[quote="Radio"]ผมว่าตอนนี้มูลค่า Port ตอนต้นปีเมื่อเทียบกับตอนนี้น่าจะลดลง 30%
ผมเข้าใจว่าผู้ที่ยังไม่ขาดทุนเข้าเนื้อตัวเองน่าจะเป็นผู้ที่ลงทุนก่อนปี 48

ในความคิดผมคือ
กลับไปย้อนดูว่า ซื้อหุ้นพวกนั้นเพราะอะไรแล้วได้คำตอบครับ
ถ้ารู้สึกอึดอัดมาก็ขายทิ้ง แค่นี้จบ  ความรู้สึกสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น

ใน case ของผม ปีนี้กับปีที่แล้วมันคนละเรื่องกัน
จงอยู่กับปัจจุบัน ดีที่สุดครับ

ปล
ของผมติดลบไป 10% กว่าแล้ว ยังดีกว่าตลาดที่ -30%
บ้างตัว เห็นแดงๆๆ ก็ 30% ก็มี ไม่มี กังวลอะไรเลย
เพราะ ซื้อเพราะถือยาวอยู่แล้ว เราเป็นพวกสีทนได้

ถ้าวัดเทียบกับ SET แล้วลบน้อยกว่าก็ดีแล้วครับ
แต่จริงๆถ้าไม่เข้าใจในบริษัทที่เลือกลงทุนก็ไม่น่าจะซื้อหุ้นแต่แรก ลองตั้งต้นหาบริษัทใหม่ที่เข้าใจจริงๆดีกว่าไหมครับ?

Jeng เขียน: ถ้าเอาหุ้นที่ดร.ถือณ ดัชนี 800 เทียบกับ ดัชนี 596 ผมว่าพอร์ทแกลดนะ

แต่ถ้าเอาต้นทุนเดิมเลย ก็อาจจะเพิ่ม

อย่างนี้น่าจะเรียกว่า ขาดทุนกำไรเทียม คือแกยังไม่ได้ขาย และเน้นถือยาว อิอิ

เออคือเคยอ่านเจอว่าดร.เริ่มลงทุนแบบvi  ครั้งแรกเมื่อ 12 ปีที่แล้วตอนดัชนีประมาณ 800 จุดน่ะครับ เลยเข้าใจว่าระยะยาวนั้นดัชนีจะขึ้นหรือจะลง แต่ถ้าเราเลือกหุ้นถูกตัว มันน่าจะชนะตลาดได้แต่ ไม่ทราบเข้าใจถูกหรือเปล่ารบกวนพี่ jeng ชี้แนะด้วยครับเพราะผมเองประสบการณ์น้อยและเพิ่งเข้าตลาดมาไม่นานจรงิจรงิครับ

sai เขียน:

เออคือเคยอ่านเจอว่าดร.เริ่มลงทุนแบบvi

ใช่ๆ เคยอ่าน หรือเคยดูสัมภาษณ์อะไรแกซักอย่างเนี่ย

แกก็เจอไปเหมือนกัน ทำนองว่าแกเห็นว่าลงมาจากพันกว่า มาตั้งเยอะแล้ว แกเลยเข้าไปแถว 7-800
แล้วถ้าความจำยังไม่เสื่อม  :lol:  ดิฉันเลาๆว่า แกบอกว่า มาซื้อเพิ่มหนักเลยช่วงหมีใหญ่กองนิ่งๆอยู่กะพื้น 2-300จุดช่วงปี 41-44 ไรนั่นน่ะ

(ถ้าจำไม่ผิดนะ แกขายบ้านมาลงทุนไรเนี่ย เลยเป็นที่มาว่าอยู่บ้านแม่ยาย :lol: )

[quote="meee"]ผมเพิ่งเข้าตลาดปีนี้ยังไม่รู้เรื่องการลงทุนและอุตสาหกรรมที่เลือกทำให้ขาดทุน
มาก ผมมีหุ้นในport คือ

007-s เขียน:
(ถ้าจำไม่ผิดนะ แกขายบ้านมาลงทุนไรเนี่ย เลยเป็นที่มาว่าอยู่บ้านแม่ยาย :lol: )

จริงครับ มักได้ยินคนบอกจะขายบ้านมาซื้อหุ้นบ่อยๆ ไม่เคยเห็นใครทำจริงซักที ยกเว้น ดร. นิเวศน์ของเรานี่เอง

เราขาดทุนหนักกว่าคุณอีกค่ะ ขายไปแล้วเกือบหมด ใจหายมากเวลาที่เห็นเงินหายไปมากๆในเวลาสั้นๆ (มาก)

คุณเหมือนเราตรงที่ไม่มีความรู้ ดังนั้น แนะนำว่า ให้แยกคำว่าขาดทุนกับการดำรงชีวิตออกมาให้ได้ก่อน ไม่งั้นถ้าเครียดมากๆจะไม่มีแรงสู้ แล้วเลือกเดินทางที่คุณคิดว่าคุณได้เปรียบที่สุด ซึ่งอาจจะไม่ใช่ทางที่คุณอยากได้ที่สุด ก็คล้ายๆกับตัดอวัยวะทิ้งเพื่อรักษาชีวิต

ทางแก้ที่คุณบอกมา เราก็ทำมาหมดแล้วค่ะ Short against port ก็แล้ว เปลี่ยนตัวก็แล้ว ลองอยู่เฉยๆไม่ทำอะไรก็แล้ว ขายทิ้งก็แล้ว แต่บางที ถ้าไม่รู้เรื่องก็คือไม่รู้เรื่องวันยังค่ำ แพ้อารมณ์และจิตวิทยาในตลาด โลภเกินความรู้ ไม่ได้เปรียบคนอื่นเลย

ตอนนี้ ทางที่ได้เปรียบที่สุดของเรา คือเราหยุดพักเรื่องในตลาดหุ้นค่ะ ว่างๆก็เปิด port ดูบ้างแต่ไม่ได้ทำอะไร หันมาศึกษาการลงทุนแนวที่เหมาะกับเรา (พอดีชอบลอง แอบลองมา 2-3 แบบเพื่อหาสิ่งที่เหมาะและเราได้เปรียบคนอื่นที่สุด) และโชคดีมากที่ได้เจอคนดีที่จะสอนให้พอดี

ลองกลับไปคิดดูนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

แหะ แหะ  ข้อแรกทำใจครับ
ข้อสอง แบ่งตังค์สักสองร้อยบาท แล้วไปดู หลวงพี่เท่ง(ภาค 2)
ข้อสาม อารมย์แจ่มใสแล้วก็ค่อยๆนั่งคิดว่าเราทำอะไรพลาดไปบ้าง
ข้อสี่ อย่าทำซ้ำอีก
ข้อห้า ทิ้งหุ้นที่ไม่มีอนาคต เลือกลงทุนธุรกิจที่ยังไปได้ดี
ข้อหก อย่าเลือกหุ้นด้วยหู ใช้ส่วนที่อยู่ระหว่างหูให้มากๆ
ข้อเจ็ด ขอให้โชคดีนะครับ

[quote="dino"] แหะ แหะ

ช่วงนี้port ใครไม่ติดลบเห็นจะไม่อินเทรนด์นะครับ
อ่านๆถามๆดูก็เห็นลบกันไปคนละ 20-30%กันทั้งนั้น
ผมเองก็ -32% แล้ว ..แฮ่  :lol:

แต่ผมก็ยังเลือกที่จะอยู่เฉยๆ+ทำใจบ้าง
แล้วหันไปหาอย่างอื่นทำเพลินๆไปก่อน

[quote="mprandy"][quote="poppo"]
เป็นกำลังใจให้ครับ

แนะนำหาหนังสือเกี่ยวกับ พุทธศาสนา ฝ่ายมหายานมาอ่านก็ดี
ทำให้จิตสงบลงได้ดี

เมื่อจิตสงบ ใจเย็น มันมองอะไรได้ทะลุหมด
แล้วค่อยๆๆ แก้ไขก็ยังไม่สายไปหรอก

เคยมีประสบการณ์จากพวกหุ้น ซื้อปุ๊บ ไปเที่ยวคือ ติดลบ 30 กว่า
แล้วก็กลับมาที่เดิม แล้วก็ไปเที่ยวใหม่ แล้วก็กลับมาที่เดิม
ดูแล้วเวียนหัวเหมือนกัน จนสุดท้ายถามใจว่าทนได้ไหม มันตอบว่าไม่ทน
ก็จัดการขายทิ้ง ถ้าทนได้ก็ไม่ขาย แต่ระวังน่าครับ ความโลภมันไม่เข้าใครออกใคร ถ้าเกิดความโลภขึ้นมา ก็เห็นกงจักรเป็นดอกบัว

มาลบด้วยคน  :oops:

ลงทุนปีแรกในชีวิตก็เจอวิกฤตเลยครับ   :lol:

-10.31%  

[quote="i_sarut"]มาลบด้วยคน