หน้า 1 จากทั้งหมด 2

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 23, 2008 4:31 pm
โดย WEB
John Templeton ได้จากโลกนี้ไปเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ตอนอายุ 95 ปี  ท่านได้รับการยอมรับว่าเป็นนักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดท่านหนึ่ง  ต่อไปนี้คือข้อคิดบางส่วนของท่านครับ

ความมุมานะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างผลตอบแทนแบบเหนือชั้น  สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือสามัญสำนึก  อย่าให้ตัวเองได้รับอิทธิพลจากความกระตือรือร้น  อย่าให้ตัวเองถูกครอบงำด้วยความสิ้นหวัง  อย่าซื้อหุ้นที่คุณไม่เข้าใจ  ศึกษาหุ้นที่คุณต้องการซื้อไว้ล่วงหน้าเสมอ  วางแผนระยะยาว  บอกตัวเองไว้ล่วงหน้าเลยว่าจะต้องพบเจอภาวะตลาดหมี

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 23, 2008 4:32 pm
โดย WEB
เราไม่สามารถคาดการณ์วัฏจักรธุรกิจหรือตลาดหุ้นได้  และเราก็ไม่เคยเจอคนที่สามารถคาดการณ์ได้ถูกต้องมากกว่า 60%  เรามักจะบอกลูกค้าว่า  อย่าไปกังวลกับเรื่องพวกนี้   เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้  ตลาดหมีและความถดถอยทางธุรกิจจะต้องเกิดขึ้นแน่ๆ  เพียงแต่คุณไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไร  เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว  เตรียมตัวทางการเงินไว้  อย่าเป็นหนี้เพราะมันอาจทำให้คุณต้องออกจากตลาดผิดเวลามันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่ยังไงซะ  ผมก็ไม่อยากจะก่อหนี้อยู่ดี

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 23, 2008 4:34 pm
โดย WEB
อีกอย่าง คุณต้องเตรียมความพร้อมทางด้านจิตใจเอาไว้  เพื่อป้องกันไม่ให้คุณตื่นตระหนกผิดเวลาและขายหุ้นออกไปแบบโง่ๆ  ถ้าคุณได้เตรียมตัวและรู้อยู่เต็มอกว่าจะต้องเจอตลาดหมีและภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ  คุณไม่เพียงจะมองมันอย่างไร้กังวล แต่คุณจะถือมันเป็นโอกาสอีกด้วย

กระบวนการคัดเลือกหุ้นมีความซับซ้อน  นักลงทุนผู้ชาญฉลาดไม่อาจลงมือทำแบบเดียวกับนักลงทุนคนอื่นๆได้  ประเด็นนี้เป็นสิ่งที่การลงทุนมีความแตกต่างไปจากอาชีพอื่นๆ  ตัวอย่างเช่น  ถ้าหมอสิบคนให้ความเห็นเกี่ยวกับวิธีการรักษาโรค  การปฏิบัติตามความเห็นส่วนใหญ่น่าจะให้ผลดี  หรือหากวิศวกรสิบคนเห็นชอบกับการออกแบบสะพาน  เราก็น่าจะสร้างสะพานตามแบบนั้น  ในทางตรงกันข้าม ถ้านักวิเคราะห์สิบคนบอกให้เราซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง การซื้อหุ้นตัวนั้นอาจจะเป็นความผิดพลาดได้....จะว่าไปแล้ว ถ้าเมื่อไรก็ตาม แทบทุกคนแนะนำเหมือนกันไปหมด  อย่าไปทำแบบนั้นเชียว

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 23, 2008 4:35 pm
โดย WEB
จะให้ดี  เราต้องซื้อหุ้นที่กำลังตกต่ำ  ราคาหุ้นจะอยู่ในระดับถูกได้ก็เพราะมันมีแรงขายหนักๆ  ดังนั้น ในการลงทุน ถ้าคุณอยากได้หุ้นถูกซึ่งจะให้ผลตอบแทนดีๆในระยะยาว คุณต้องพร้อมทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำ บางคนคิดว่าเราเป็นพวกชอบทำอะไรสวนทางกับคนส่วนใหญ่  จริงๆแล้ว เราคิดว่าเราชอบช่วยเหลือคนอื่นซะมากกว่า  ตอนคนตกใจหนีตายขายหุ้นออกมา เราก็พวกเขาช่วยรับซื้อหุ้นเอาไว้  ตอนคนตื่นเต้นกลัวตกรถและรีบไล่ราคาหุ้น  เราก็ช่วยขายหุ้นให้
จำไว้ว่า ตลาดกระทิงถือกำเนิดขึ้นในยามที่ผู้คนล้วนสิ้นหวัง เติบโตขึ้นท่ามกลางความเคลือบแคลงสงสัย  โตเต็มที่ตอนที่ใครๆก็พากันมองโลกในแง่ดี  และตายสนิทเมื่อความหวังลมๆแล้งๆปกคลุมตลาด  จังหวะซื้อคือตอนที่มีการมองแง่ร้ายแบบสุดๆราวกับโลกจะแตกฟ้าจะถล่มน้ำจะท่วมโลก   จังหวะขายคือตอนที่ใครๆก็พากันนั่งฝันหวานหลับตาพริ้มและยิ้มกริ่ม

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 23, 2008 4:45 pm
โดย RONNAPUM
ขอบคุณครับ พี่ WEB  :D

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 23, 2008 5:10 pm
โดย mprandy
ไม่ได้เห็นเฮียโพสต์นานเลยครับเนี่ย

ขอบคุณมากครับ

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 23, 2008 5:12 pm
โดย Dimsum
ขอบคุณครับ

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 23, 2008 6:06 pm
โดย choosak
เยี่ยมครับ ทั้งข้อคิด ทั้งสำนวนแปลคุณ WEB

ขอบคุณครับ :D

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 23, 2008 6:31 pm
โดย ...
ขอบคุณมากครับ  :D

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 23, 2008 6:39 pm
โดย Wall_St.
WEB เขียน:ตลาดกระทิงถือกำเนิดขึ้นในยามที่ผู้คนล้วนสิ้นหวัง เติบโตขึ้นท่ามกลางความเคลือบแคลงสงสัย
WEB เขียน:โตเต็มที่ตอนที่ใครๆก็พากันมองโลกในแง่ดี  และตายสนิทเมื่อความหวังลมๆแล้งๆปกคลุมตลาด
WEB เขียน:จังหวะซื้อคือตอนที่มีการมองแง่ร้ายแบบสุดๆราวกับโลกจะแตกฟ้าจะถล่มน้ำจะท่วมโลก   จังหวะขายคือตอนที่ใครๆก็พากันนั่งฝันหวานหลับตาพริ้มและยิ้มกริ่ม
ข้าน้อยขอคารวะ อ.WEB  :bow:  :cool:

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 23, 2008 6:48 pm
โดย por_jai
:8) ป๋าเวบของขึ้น

รูปภาพ

(เครดิตรูปจากสินธรครับ)

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 23, 2008 9:16 pm
โดย bankniti
หายไปนานเลยนะครับพี่เวป มาอีกทีก็มีประโยคเด็ดๆ โดนใจมาให้ได้อ่านกัน :D

ปล. เมื่อไหร่จะออกหนังสือใหม่อีกครับ รอตามผลงานอยู่

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 23, 2008 9:29 pm
โดย earthcu
ขอบคุณนะครับ สำหรับบทความเตือนใจดีๆ ของพี่ครับ

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 23, 2008 9:37 pm
โดย << New >>
แวะเข้ามาอ่าน ขอบคุณครับ

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 23, 2008 9:44 pm
โดย noooon010
:bow:  :bow:  :bow:  :bow:

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 23, 2008 10:26 pm
โดย mario
ชอบมากครับ ขอเก็บไปเป็นข้อคิดเตือนใจ

ว่าแต่พี่ web มีโครงการจะแปลหนังสือของ Sir John Templeton หรือเปล่าครับ :)

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 24, 2008 2:42 am
โดย halfofw
ฟังดูง่ายไปหน่อยป่ะครับ "เราต้องซื้อหุ้นที่กำลังตกต่ำ  ราคาหุ้นจะอยู่ในระดับถูกได้ก็เพราะมันมีแรงขายหนักๆ  "

ยกตัวอย่าง ใครซื้อ PTTAR 49 -> 40 .. เห็นว่า มันลดราคามา -18% จึงเข้าไปซื้อ

ปรากฎว่า PTTAR 40 -> 32 ... มันลงต่ออีก -20% จึงเข้าไปซื้อเพิ่ม

ปรากฎว่า PTTAR 32 -> 24 ... มันลงต่ออีก -25% จึงเข้าไปซื้อเพิ่มอีก

ปรากฎว่า PTTAR  24 -> 20 ... มันลงต่ออีก -16% จึงเข้าไปซื้อเพิ่มอีก

คำถาม ถ้าคุณยังไม่ได้ซือ้ PTTAR คุณคิดว่าราคา 20 บาท มันถูกพอแล้วยัง
(49->20 = -60%)

ถ้าคุณซื้อ ... ผมมีคำถามว่า คุณมั่นใจได้อย่างไรว่ามันจะไม่ลงต่อไปที่

16 บาท ,  12 บาท , 8 บาท,  4 บาท , 1 บาท

????????????????????????????????????

สงสัยบทความที่เขียนจริง ๆ ครับ

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 24, 2008 7:33 am
โดย terati20
[quote="halfofw"]ฟังดูง่ายไปหน่อยป่ะครับ "เราต้องซื้อหุ้นที่กำลังตกต่ำ

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 24, 2008 8:36 am
โดย naris
[quote="halfofw"]ฟังดูง่ายไปหน่อยป่ะครับ "เราต้องซื้อหุ้นที่กำลังตกต่ำ

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 24, 2008 10:04 am
โดย WEB
ลองอ่านดูดีๆอีกครั้งนะครับ   ราคาหุ้นจะอยู่ในระดับถูกได้ก็เพราะมันมีแรงขายหนักๆ  ไม่ใช่  ถ้ามีแรงขายหนักๆ  หุ้นจะมีราคาถูก  นะครับ  อีกอย่างท่านก็บอกว่า อย่าซื้อหุ้นที่คุณไม่เข้าใจ  ศึกษาหุ้นที่คุณต้องการซื้อไว้ล่วงหน้าเสมอ  ที่สำคัญ  ข้อคิดนี้เป็นแค่ส่วนเล็กๆ  ไม่ใช่ทั้งหมดที่เราต้องรู้ต้องเข้าใจนะครับ  
.คิดถึงสำนวนเด็ดๆของพี่จัง เมื่อไหร่จะมีผลงานแปลมาให้อ่านอีกครั้งครับ
มีหลายๆท่านถามผมเกี่ยวกับงานแปล  ช่วงใกล้ๆนี้คงยังไม่มีหนังสือออกมาครับ  พลังทางด้านการแปลไม่รู้หายไปไหนหมด  :lol:

ว่าแต่พี่ web มีโครงการจะแปลหนังสือของ Sir John Templeton หรือเปล่าครับ
ผมคงไม่ได้แปลครับ  :D

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 24, 2008 10:17 am
โดย sisacorn
ขอบคุณครับ  :bow:  :bow:  :bow:

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 24, 2008 12:41 pm
โดย beammy
หายหน้าหายตาไปนานเลยครับพี่เวบ

ผมสะสมหนังสือแปลของพี่ไว้เยอะมากกกก
หากมีโอกาสได้พบ ผมจะหอบไปให้พี่เซ็นทุกเล่มเลยครับ

:lol:  ...

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 24, 2008 3:13 pm
โดย surachaichia
คำถาม ถ้าคุณยังไม่ได้ซือ้ PTTAR คุณคิดว่าราคา 20 บาท มันถูกพอแล้วยัง
(49->20 = -60%)
   อืมม น่าคิดอีกแล้ว วัฎจักรสงสาร ยืมคำพูดใครมานะ  :o

Re: ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 24, 2008 7:55 pm
โดย halfofw
ถึงคุณ terati20 & naris

ที่ผมเขียน ผมเขียนว่า ยกตัวอย่างหุ้น PTTAR
ที่เลือก PTTAR มายกตัวอย่างเพราะเป็นหุ้นตัวใหญ่ใน หมวดพลังงาน
และก็มั่นใจว่า มีคนติดหุ้นที่ ราคา 30 - 40 บาท เยอะมาก ๆ

ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่เค้าซื้อ ผมก้อไม่รู้หรอกว่าเค้าทำการบ้านมาหรือปล่าว
เพียงแต่ บทความที่ ฝรั่งมันเขียน เนียะ มันอ่านดูแล้วมัน ดูเหมือนกว่าการลงทุนในตลาดหุ้น ช่างง่ายเหลือเกิน  ง่ายซะจนใคร ๆ ก้อลงทุนได้

แต่สำหรับผม ผมไม่ได้คิดว่ามันง่ายอย่างนั้นหรอก
อย่างที่คุณพูดนั้นล่ะ เราต้องศึกษา หุ้นตัวที่เราจะซื้อก่อน
แล้วเราก็คงต้องมีการวางแผนเป็นอย่างดีสำหรับการที่จะซื้อ

แต่ไม่ใช่มาบอกว่า หุ้นมัน -50% ราคาถูกสุด ๆ ขายบ้านขายรถมาซื้อ

PTTAR: 49 -> 40 -> 32 -> 25 -> 20 ..... ซื้อได้ยัง

TTA:  70 -> 60 -> 50 -> 40 -> 30 -> 27 .... ถูกพอยัง

SCB:  95 -> 85 -> 75 -> 65 -> 61 .... จุดที่ควรซื้อใช่มั๊ย

????? รู้งัยว่าจะจะซื้อราคาไหน  ????
???? รุ้ได้งัยว่า รับมีดแล้ว มือไม่ขาด ????
??? มั่นใจแค่ไหนกับการเฉลี่ยขาลง ???

เป็นการแสดงความคิดเห็นครับผม .. ว่ามันไม่มีอะไรง่ายขนาดที่พูดหรอก
ต้องมีการศึกษาต่อ ...
ขอโทษนะครับ ถ้าแสดงความคิดเห็นไม่ถูกต้อง หรือไม่ถูกใจ

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 24, 2008 7:59 pm
โดย halfofw
[quote="WEB"]ลองอ่านดูดีๆอีกครั้งนะครับ

Re: ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 24, 2008 8:12 pm
โดย mario
[quote="halfofw"]
????? รู้งัยว่าจะจะซื้อราคาไหน

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 24, 2008 10:03 pm
โดย Dimsum
PTTAR เป็นหุ้นวัฏจักร การหามูลค่ากิจการผมว่ายากน่ะ กำไรเค้าขึ้นอยู่กับส่วนต่างของต้นุทุนกับราคาขาย ซึ่งเค้ากำหนดเองไม่ได้ มันเป็นราคาตลาดโลกซึ่งขึ้นกับอุปสงค์ อุปทานของโลก ภาวะเศรษฐกิจโลก เป็นหุ้นอ้วนผอมตามนิยามของอ.นิเวศน์ เดี๋ยวกำไรมาก เดี๋ยวกำไรน้อย ไม่มีใครคาดการณ์ได้ถูกต้องแน่นอนได้ บอกได้แค่แนวโน้มว่าจะเป็นอย่างไร

ผมรู้แต่ว่า PTTAR ควรซื้อตอน PE สูง ๆ ขายตอน PE ต่ำ ๆ ตามสูตรของปีเตอร์ ลินท์ แล้วต้องเป็นคนมองโลกในแง่ดีด้วยว่า สักวันมันจะกลับมา

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 24, 2008 10:57 pm
โดย mario
Dimsum เขียน:PTTAR เป็นหุ้นวัฏจักร การหามูลค่ากิจการผมว่ายากน่ะ กำไรเค้าขึ้นอยู่กับส่วนต่างของต้นุทุนกับราคาขาย ซึ่งเค้ากำหนดเองไม่ได้ มันเป็นราคาตลาดโลกซึ่งขึ้นกับอุปสงค์ อุปทานของโลก ภาวะเศรษฐกิจโลก เป็นหุ้นอ้วนผอมตามนิยามของอ.นิเวศน์ เดี๋ยวกำไรมาก เดี๋ยวกำไรน้อย ไม่มีใครคาดการณ์ได้ถูกต้องแน่นอนได้ บอกได้แค่แนวโน้มว่าจะเป็นอย่างไร

ผมรู้แต่ว่า PTTAR ควรซื้อตอน PE สูง ๆ ขายตอน PE ต่ำ ๆ ตามสูตรของปีเตอร์ ลินท์ แล้วต้องเป็นคนมองโลกในแง่ดีด้วยว่า สักวันมันจะกลับมา
เห็นด้วยครับว่าเป็นหุ้นที่หา" มูลค่าของกิจการ" ยาก  

แต่ถ้าใครคิดจะลงทุน ก็ควรจะมี "คำตอบ"  

ส่วนคำตอบของผมสำหรับหุ้นตัวนี้ "Too Hard" ครับ

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 25, 2008 11:13 am
โดย น้ำครึ่งแก้ว
ขอบคุณ คุณ web ที่นำบทความดีๆมาให้อ่านครับผม

ทำให้มีสติมากขึ้นเยอะเลยครับผม
เราไม่สามารถคาดการณ์วัฏจักรธุรกิจหรือตลาดหุ้นได้  และเราก็ไม่เคยเจอคนที่สามารถคาดการณ์ได้ถูกต้องมากกว่า 60%  เรามักจะบอกลูกค้าว่า  อย่าไปกังวลกับเรื่องพวกนี้   เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้  ตลาดหมีและความถดถอยทางธุรกิจจะต้องเกิดขึ้นแน่ๆ  เพียงแต่คุณไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไร  เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว  เตรียมตัวทางการเงินไว้  อย่าเป็นหนี้เพราะมันอาจทำให้คุณต้องออกจากตลาดผิดเวลามันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่ยังไงซะ  ผมก็ไม่อยากจะก่อหนี้อยู่ดี
ชอบประโยคนี้มากเลย

ขอบคุณครับ

ข้อคิดจาก Sir John Templeton

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 25, 2008 11:31 am
โดย kiri
เยี่ยมไปเลยค่ะ ทั้งแนวคิดของ Sir Templeton และบทแปลพี่ Web
ขอบคุณค่ะ :D