หน้า 1 จากทั้งหมด 1

หมี /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 23 กันยายน 2551

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 21, 2008 10:06 pm
โดย oatty
โลกในมุมมองของ Value Investor                    

สิ่งที่นักลงทุนในตลาดหุ้นจะต้องเจอถ้าลงทุนมานานพอสมควรก็คือภาวะ   “ตลาดหมี”  ที่ราคาหรือดัชนีตลาดหุ้นตกลงมาอย่างหนักอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงนี้    การที่ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงโดยทั่วไปนั้นมักจะไม่ใช่ตลาดหมีแต่เป็นภาวะที่ตลาดเกิดความผันผวนตามปกติ   นิยามหรือคำเรียกภาวะที่ตลาดตกต่ำลงนั้นน่าจะแบ่งได้เป็นสามระดับดังนี้คือ   ถ้าระดับการตกลงของตลาดหุ้นเท่ากับหรือต่ำกว่า  10%  เรียกว่าหุ้นตกธรรมดา   ถ้าหุ้นตกเกิน 10%  แต่ไม่ถึง 20%  เรียกว่าหุ้นปรับตัวหรือ  Correction   และถ้าตลาดหุ้นตกตั้งแต่ 20% ขึ้นไปก็เรียกว่าตลาดหมีหรือ  Bear Market

ตามสถิติในตลาดหุ้นสหรัฐนั้น   ตลาดหมีเกิดขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณหกปีต่อครั้ง   ในตลาดหุ้นไทยนั้น   เท่าที่ผมมองคร่าว ๆ   เราน่าจะเจอกับตลาดหมีไม่ต่ำกว่า 6  ครั้งในช่วง 33 ปี  หรือก็คือ  ประมาณทุก ๆ  5-6 ปี  เราก็จะเจอหมีสักปีหนึ่งหรือพูดง่าย ๆ   หมีบ้านเรามาถี่พอ ๆ  กับหมีที่ตลาดหุ้นอเมริกาเหมือนกัน
 
สาเหตุของการเกิดตลาดหมีนั้น  ในอดีตที่พบมากมีอยู่หลายเรื่อง   ในช่วงต้น ๆ  ในยุคที่เรายังอิงอยู่กับมาตรฐานทองคำดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องของเงินฝืด   เพราะในยุคนั้นการพิมพ์แบงค์หรือสร้างเงินขึ้นมาใช้ค่อนข้างจะถูกจำกัดด้วยปริมาณทองคำที่มีอยู่  และนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจขาดความสมดุลได้เป็นช่วง ๆ  และก่อให้เกิดภาวะตลาดหมีขึ้น    สาเหตุอันดับต่อมาที่ก่อให้เกิดภาวะตลาดหุ้นหมีค่อนข้างมากก็คือเรื่องของอัตราดอกเบี้ยซึ่งน่าจะอิงไปถึงเรื่องเงินเฟ้อด้วยนั่นก็คือ   ตลาดหมีนั้นมักจะมากับภาวะอัตราดอกเบี้ยที่พุ่งขึ้นสูงลิ่วและอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยระยะยาว   เช่นเดียวกัน   อัตราเงินเฟ้อก็มักจะสูงมากกว่าปกติมาก    สาเหตุอันดับต่อมาก็คือเรื่องของความถูกความแพงของหุ้นโดยทั่วไป   นั่นก็คือ  ตลาดหมีนั้นมักจะมาในตอนที่ค่า PE  ของตลาดสูงลิ่วเช่นสูงถึง 25-30 เท่า

นอกจากเรื่องของภาวะทางการเงินที่กล่าวถึงข้างต้นแล้ว    สิ่งที่ก่อให้เกิดภาวะตลาดหมีบ่อยพอสมควรก็คือ   เรื่องของภาวะวิกฤติที่เกิดขึ้นในประเทศหรือในโลกซึ่งมักจะลามไปยังประเทศอื่น ๆ  ด้วย   ภาวะวิกฤติที่สำคัญอันดับแรกก็คือ   ภาวะสงคราม   นี่คือสงครามที่คนกลัวว่าจะลุกลามใหญ่โตและกระทบกับสังคมทั่วโลก   ถ้าจะพูดถึงรายชื่อสงครามที่เราพอจะจำกันได้ก็น่าจะรวมถึง  สงครามโลกครั้งที่สอง  สงครามเกาหลี  สงครามเวียตนาม  สงครามอ่าวหรือสงครามซัดดัมบุกคูเวต  เป็นต้น

ถัดจากเรื่องสงคราม   วิกฤติที่มักก่อให้เกิดตลาดหมีที่รุนแรงในระยะหลังมักจะเกิดจากวิกฤติการณ์ทางการเงินที่เกิดขึ้นในประเทศหนึ่งแล้วลามไปยังประเทศอื่น  ๆ  เป็นลูกโซ่อันเป็นผลจากการที่ระบบการเงินของโลกมีการเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด  ตัวอย่างน่าจะเริ่มจากวิกฤติการณ์ค่าเงินเม็กซิโกตกต่ำในช่วงปี 2538    ตามด้วยวิกฤติต้มยำกุ้งที่เริ่มจากประเทศไทยของเราในปี 2540  และล่าสุดก็คือ  วิกฤติการณ์ซับไพร์มและการล้มของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ในสหรัฐที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงนี้

วิกฤติการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในเมืองไทยครั้งแล้วครั้งเล่าซึ่งคนคิดว่าเป็นสิ่งที่ทำให้หุ้นตกและเป็นตลาดหมีนั้น  ผมเองกลับไม่ใคร่แน่ใจว่ามันเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน   แน่นอน  มันอาจจะทำให้หุ้นตกบ้าง   แต่หลาย ๆ  ครั้งมันก็ไม่ได้ตกมากและหลายครั้งมันก็ไม่ได้ทำให้หุ้นตกแม้ว่าจะมีการรัฐประหารซึ่งถือว่าเป็นวิกฤติการเมืองสำคัญ   ตัวอย่างเช่นในช่วง  รสช. ในช่วงปี 2535 หุ้นก็ไม่ได้ตกมากมายอะไร   เช่นเดียวกับช่วงของ  คมช.  เมื่อ  2  ปีที่แล้ว  ตลาดหุ้นก็ไม่ได้ถูกกระทบเลย    และแม้แต่ในช่วงนี้เองที่เราดูเหมือนจะมีวิกฤติการเมืองของกลุ่มพันธมิตรที่ยึดทำเนียบรัฐบาลอยู่และคนพูดกันว่าหุ้นบ้านเราตกเพราะมีวิกฤติการเมือง    แต่ถ้าดูกันจริง ๆ  แล้ว   หุ้นที่ตกนั้นก็ยังไม่ชัดว่าเกิดจากการเมืองในประเทศอย่างเดียว   เพราะปัจจัยที่อาจจะมีผลมากกว่าก็คือ  วิกฤติการเงินที่เกิดจากสหรัฐอเมริกาในขณะนี้    ว่าที่จริงการตกของหุ้นในบ้านเราในขณะนี้ก็ยังน้อยกว่าตลาดหุ้นในย่านเอเชียอื่นที่กำลังเจอกับตลาดหมีที่รุนแรงยิ่งกว่าตลาดหุ้นไทยเสียอีก

ทั้งหมดนั้นก็เป็นเรื่องของสาเหตุของการเกิดตลาดหมีที่มีการพูดถึงและเชื่อกันในหมู่นักวิชาการและนักลงทุนทั้งหลาย   แต่ผมเองนั้น   หลังจากที่นั่งมองกราฟดัชนีหุ้นที่ผ่านมายาวนานผมกลับมีความคิดหรือความรู้สึกอีกอย่างหนึ่งซึ่งอาจจะดูไม่ใคร่จะมีเหตุผล   แต่ผมก็คิดว่าเราควรที่จะตระหนักไว้บ้าง   นั่นก็คือ   ผมเชื่อว่าตลาดหุ้นนั้น   ในระยะยาวเป็นสิบ ๆ ปีขึ้นไปจะให้ผลตอบแทนในระดับหนึ่งเช่นเฉลี่ยปีละ  10%  แต่ในความเป็นจริง  ผลตอบแทนในแต่ละปีหรือแต่ละช่วงผลตอบแทนของตลาดกลับไม่แน่นอนเลย  อาจจะมีช่วง  4-5 ปี ที่คนลงทุนไม่ได้ผลตอบแทนอะไรเลยหรือขาดทุนด้วยซ้ำ   เช่นเดียวกันในบางช่วงซึ่งอาจจะยาวเป็น 7-8 ปีที่คนลงทุนได้ผลตอบแทนดีมากเช่นเป็น  15% ต่อปีโดยเฉลี่ย   ประเด็นก็คือ  ทุกช่วงที่เราได้ผลตอบแทนดีผิดปกติคือเกินกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวมาก  ก็มักจะมีวันหนึ่งที่ตลาดหุ้นจะต้องปรับตัวลงอย่างแรงเพื่อที่จะ  “ดึง”  ผลตอบแทนการลงทุนให้กลับลงมาอยู่ในระดับปกติ   จะเป็นวันไหนนั้นบอกยากแต่สุดท้ายก็มักจะเกิดเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่เป็นเหมือนชนวนที่จุดระเบิดให้หุ้นตกลงมาและกลายเป็นตลาดหมีอย่างที่เราเห็นอยู่   ดังนั้น  เมื่อเกิดภาวะตลาดหมีขึ้น  ผมจึงรู้สึกเฉย ๆ   ผมไม่โทษอะไรทั้งนั้น   เพราะผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องเกิดหลังจากที่ตลาดหุ้นไทยและหุ้นในเอเชียและในโลกให้ผลตอบแทนที่ดีมากเกินกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวมายาวนานหลายปี

มองอีกมุมหนึ่ง  ถ้าหุ้นตกลงมามากและทำให้ผลตอบแทนระยะยาวลดลงต่ำกว่าปกติ   การเข้าลงทุนซื้อหุ้นก็อาจจะเป็นกลยุทธ์ที่ดี   เพราะในอนาคตอีกหลายปีข้างหน้า  ตลาดก็อาจจะให้ผลตอบแทนดีกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวเพื่อที่จะชดเชยกับผลตอบแทนที่ต่ำกว่าปกติในช่วงที่ผ่านมา    ด้วยความเชื่อแบบนี้   ผมจึงคิดว่า   ถ้าเรามีเงินสดอยู่ในยามที่หุ้นตกลงมามาก   กลยุทธ์ที่ดีก็คือ  เราควรซื้อหุ้นและเก็บไว้จนตลาดปรับตัวขึ้นไปมากกว่าปกติ   สิ่งนี้อาจจะ  “พูดง่ายทำยาก”  แต่ถ้าเราจะประสบความสำเร็จในการลงทุน   เราต้องทำได้

Re: หมี /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 23 กันยายน 2551

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 21, 2008 10:35 pm
โดย August
[quote="oatty"]

กลยุทธ์ที่ดีก็คือ

หมี /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 23 กันยายน 2551

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 21, 2008 10:49 pm
โดย Diablo
ขอบคุณครับ
มาเร็วกว่าหนังสือพิมพ์ตั้ง 2 วัน  :lol:

หมี /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 23 กันยายน 2551

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 22, 2008 6:16 am
โดย somwatee
เยี่ยมครับ...อ่านแล้วค่อยมีกำลังใจหน่อย... :D

หมี /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 23 กันยายน 2551

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 22, 2008 11:54 am
โดย nw108
:D

     
  dig .....

หมี /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 23 กันยายน 2551

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 22, 2008 12:56 pm
โดย ศิษย์เซียน007
ประกาศๆขณะนี้กองทัพหมีรัดทะประหารตลาดหุ้นได้สำเร็จแล้วขอให้ทุกท่านโปรดอยู่ในความสงบ :D  แต่ยังคงทำอะไรหุ้นเซเว่นของท่านอ.ไม่ได้เลยนับถือๆ

หมี /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 23 กันยายน 2551

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 22, 2008 8:23 pm
โดย hardchi
ขอบคุณครับทั้ง ดร. และ คุณoatty

หมี /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 23 กันยายน 2551

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 23, 2008 2:35 pm
โดย nanchan
กลยุทธที่ดี เราควรซื้อหุ้น ในเวลาที่ตลาดตกมาก ก็อาจจะใช่
แต่ก็ยังไม่แน่ใจ ว่าเราควรจะซื้อ ในยามที่สถานการณ์อะไรๆก็ไม่แน่นอนรึเปล่า

Re: หมี /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 23 กันยายน 2551

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 24, 2008 2:30 am
โดย halfofw
งง ครับที่ ดร เขียวว่า "ถ้าเรามีเงินสดอยู่ในยามที่หุ้นตกลงมามาก   กลยุทธ์ที่ดีก็คือ  เราควรซื้อหุ้นและเก็บไว้จนตลาดปรับตัวขึ้นไปมากกว่าปกติ "

ในเมื่อเราเป็นนักลงทุน แล้วเราจะมีเงินสดได้งัย
เวลาหุ้นลงมันก้อลงทั้งตลาด ก้อหุ้นที่มีอยู่ในมือก้อขาดทุนไปมหาศาล
จะ cut loss แล้วไปซื้อตัวอื่นอย่างนั้นเหรอ

หมี /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 23 กันยายน 2551

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 24, 2008 11:02 am
โดย songwit
งง ครับที่ ดร เขียวว่า "ถ้าเรามีเงินสดอยู่ในยามที่หุ้นตกลงมามาก   กลยุทธ์ที่ดีก็คือ  เราควรซื้อหุ้นและเก็บไว้จนตลาดปรับตัวขึ้นไปมากกว่าปกติ "

ในเมื่อเราเป็นนักลงทุน แล้วเราจะมีเงินสดได้งัย
เวลาหุ้นลงมันก้อลงทั้งตลาด ก้อหุ้นที่มีอยู่ในมือก้อขาดทุนไปมหาศาล
จะ cut loss แล้วไปซื้อตัวอื่นอย่างนั้นเหรอ
คือว่าท่านหมายถึงว่าเวลา 800 จุด เมื่อต้นปี51 ชาวVI น่าจะดูออกว่ามันOVERเกินไปควรขายซะตั้งแต่ตอนนั้น
หรือ ก็ตอนที่ราคาตกต่ำกว่า20% ก็ควรนึกได้แล้วว่าเข้าสู่ตลาดหมี
ควรขายcut loss ซะ ตามหนังสือที่ ดร.เคยเขียนไว้ว่า..
ควรมีราคาขายในใจก่อนซื้อหุ้นนั้น ถ้าราคาหุ้นฟุ้งเกินราคานั้นแสดงว่าตลาดอยู่ในสภาวะ บ้าคลั่ง(crazy maket)ควรปล่อยของ

เวลานี้ผมอ่านงบหนักมาก กว่าปกติเพราะกำลังหาธุรกิจดีๆที่วางแบกะดิน
คาดว่าอีก1-2ปี ผมจะได้ผลตอบแทน100% สมกับความพยายาม  สู้โว้ย
วิกฤติของคนส่วนใหญ คือโอกาสของคนส่วนน้อย(คนรวยมีน้อยกว่าคนจนเสมอ ไม่รู้ทำไม)

.....
มีความสุขวันนี้ ดีกว่ารอวันพรุ่งนี้

Re: หมี /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 23 กันยายน 2551

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 24, 2008 8:19 pm
โดย mario
[quote="halfofw"]งง ครับที่ ดร เขียวว่า "ถ้าเรามีเงินสดอยู่ในยามที่หุ้นตกลงมามาก

Re: หมี /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 23 กันยายน 2551

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 08, 2011 10:25 am
โดย earthcu
เข้ามาอ่านกระทู้เก่าๆ เพื่อเตือนสติในการลงทุนครับ

ขอบคุณ ท่านอาจารย์นิเวศน์ครับสำหรับบทความดีๆที่ให้อ่านเสมอๆ
และขอบคุณพี่ oatty ที่นำมาเผยแพร่ด้วยครับ

Re: หมี /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 23 กันยายน 2551

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 08, 2011 11:47 am
โดย Pathfinder
earthcu เขียน:เข้ามาอ่านกระทู้เก่าๆ เพื่อเตือนสติในการลงทุนครับ

ขอบคุณ ท่านอาจารย์นิเวศน์ครับสำหรับบทความดีๆที่ให้อ่านเสมอๆ
และขอบคุณพี่ oatty ที่นำมาเผยแพร่ด้วยครับ
อ่านผ่านๆ 1 รอบผมคิดว่าเป็นบทความใหม่เพิ่งออกมาล่าสุด (ไม่ทันดูวันที่ในหัวข้อ) :)

Re: หมี /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 23 กันยายน 2551

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 08, 2011 12:04 pm
โดย marcus147
อาจารตย์เป็นคนที่มองภาพรวมได้ขาดจริงๆ

Re: หมี /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 23 กันยายน 2551

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 08, 2011 12:21 pm
โดย อุทยา
halfofw เขียน:งง ครับที่ ดร เขียวว่า "ถ้าเรามีเงินสดอยู่ในยามที่หุ้นตกลงมามาก   กลยุทธ์ที่ดีก็คือ  เราควรซื้อหุ้นและเก็บไว้จนตลาดปรับตัวขึ้นไปมากกว่าปกติ "

ในเมื่อเราเป็นนักลงทุน แล้วเราจะมีเงินสดได้งัย
เวลาหุ้นลงมันก้อลงทั้งตลาด ก้อหุ้นที่มีอยู่ในมือก้อขาดทุนไปมหาศาล
จะ cut loss แล้วไปซื้อตัวอื่นอย่างนั้นเหรอ
ถ้าเป็นนักลงทุนอย่างเดียวก็น่าจะเอาเงินปันผลมาซื้อ ส่วนการเปลี่ยนตัวถือน่าจะดูว่า หุ้นพื้นฐานดีตัวไหนลงไปต่ำกว่ามูลค่ามากกว่า แต่ถ้าเป็นนักลงทุนที่ทำงานประจำอยู่ก็น่าจะเอาเงินการการทำงานมาทยอยซื้อครับ ซึ่งมุมมองของ ดร. จะมองไปที่ระยะ 5-10 ปีขึ้นไป ไม่ใช่หุ้นตกปุ๊บ รีบหาเงินมาซื้อทันที อาจจะมีการซื้อและปรับพอร์ตจริงๆ ไม่บ่อยอย่างนักเก็งกำไรครับ :oops:

Re: หมี /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 23 กันยายน 2551

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 08, 2011 1:10 pm
โดย Green
เราควรจะมีเงินสดเก็บเอาไว้ซักส่วนหนึ่งครับ. จะได้มีเงินเอามาซื้อตอนตลาดหมี อิอิ

Re: หมี /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 23 กันยายน 2551

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 08, 2011 3:24 pm
โดย ศิษย์เซียน007
ขอบคุณคับ :bow: หมีมาปัญญาเกิด :D

เงินสดที่ท่านอ.ว่าไว้น่าจะหมายถึงเงินปันผลจากหุ้นที่ได้ลงทุนไว้กับรายได้จากงานประจำแต่ถ้าราคาหุ้นถูกมากๆจิงๆก็สามารถใช้ท่าไม้ตายได้โดยเอาหุ้นไปค้ำแล้วเอามารืจิ้นมาซ็อปปิ้งหุ้น :P

Re: หมี /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 23 กันยายน 2551

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 08, 2011 3:35 pm
โดย OPC
ดร. ยิ่งใหญ่สำหรับผมเสมอ ขอบคุณครับ

Re: หมี /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 23 กันยายน 2551

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 08, 2011 4:29 pm
โดย torpongpak
ขอบคุณอ.และพี่oattyที่มาเเชร์ข้อมูลครับ

Re: หมี /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 23 กันยายน 2551

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 08, 2011 4:31 pm
โดย torpongpak
torpongpak เขียน:ขอบคุณอ.และพี่oattyที่มาเเชร์ข้อมูลครับ
555 Postผิดนึกว่าอยู่ในห้องร้อยคนร้อยหุ้น ขอบคุณพี่Oattyที่นำบทความมาPost

Re: หมี /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 23 กันยายน 2551

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 10, 2011 5:06 pm
โดย chootana
ขอบคุณคุณ oatty ครับ