Thai VI

สงสัยนะครับว่า ทำไมเราเลือกการลงทุนเเบบ value เเต่ไม่ทำธุรกิจเป็นของตนเอง

เพราะการลงทุน (หุ้น) ในเเนวทางนี้ก็เป็นลักษณะการลงทุนกับธุรกิจ

ขอถามความเห็้็นนะครับว่า เราควรจะเอาเงินที่เราเก็บไว้ ลงหุ้น เเบบ value หรืทำธุรกิจของเราเอง

ซึงถ้ามองระยะยาวเเล้วการทำธุรกิจของเราเองน่าจะ work กว่า เพราะเราได้จัดการเอง บริหารเอง รู้ตื้นรู้ลึกของบริษัทเราเอง (ผมว่า น่าจะง่ายกว่าการอ่านงบ สืบเสาะค้นหาตื้นลึกหนาบาง โปร่งใส ไม่ใส ของบริษัทอีกนะครับ)  

มีพี่ๆท่านไหนไหมครับที่มีธุรกิจเป็นของตนเองเเละลงหุ้นเเบบ value ไปด้วย  อยากถามความเห็นนะครับ เพราะ พอถึงจุดหนึ่ง (ในอนาคต) ไม่มั่นใจว่าจะถอนเงินจากหุ้นไปทำธุุรกิจเอง หรือ จะต้องจัดสรรเเเบ่ง port อย่างไร เพราะว่าการทำธุรกิจก็จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนค่อนข้่างมากเหมือนกัน  ครับ

[quote="javoel"]สงสัยนะครับว่า ทำไมเราเลือกการลงทุนเเบบ value เเต่ไม่ทำธุรกิจเป็นของตนเอง

เพราะการลงทุน (หุ้น) ในเเนวทางนี้ก็เป็นลักษณะการลงทุนกับธุรกิจ

ขอถามความเห็้็นนะครับว่า เราควรจะเอาเงินที่เราเก็บไว้ ลงหุ้น เเบบ value หรืทำธุรกิจของเราเอง

ซึงถ้ามองระยะยาวเเล้วการทำธุรกิจของเราเองน่าจะ work กว่า เพราะเราได้จัดการเอง บริหารเอง รู้ตื้นรู้ลึกของบริษัทเราเอง (ผมว่า น่าจะง่ายกว่าการอ่านงบ สืบเสาะค้นหาตื้นลึกหนาบาง โปร่งใส ไม่ใส ของบริษัทอีกนะครับ)

อ้างอิงจากหนังสือตีแตกของ ดร.
1.ถ้าทำธุรกิจเองในกรณีที่ต้องสร้าง Brand ให้เป็นที่ยอมรับต้องใช้เวลาและเงินมหาศาล ถ้าคิดแบบ VI ก็ลงทุนในหุ้นที่มี Brand เป็นที่ยอมรับอยู่แล้ว ไม่ต้องเริ่มนับจาก ศูนย์ ใหม่
2.ถ้าทำธุรกิจเองอัตราความยั้งยืนของธุรกิจไม่มีความแน่นนอน ถ้าคิดแบบ VI หากแนวโน้มในการทำธุรกิจเปลี่ยนไป  ก็เปลี่ยนหุ้นใหม่ได้
3. ถ้าทำธุรกิจเองแล้วเกิดขาดทุน ก็อาจจะสูญเสียเงินจำนวนมาก ถ้าคิดแบบ VI หากเลือกหุ้นผิด ก็ยังเปลี่ยนใหม่ได้ (เจ็บตัวเล็กน้อยดีกว่าสูญเสียเงินทั้งหมด)
4.ถ้าทำธุรกิจเอง เราอาจจะมั่นใจในการบริหารของตัวเราเองมากเกินไป ถ้าคิดแบบ VI แล้วเลือกหุ้นที่มีผู้บริหารเก่งๆ มีคุณธรรม (แบบมืออาชีพ) แถมมีพนักงานระดับหัวกะทิมาทำงานให้เรา ผมเลือก ลงทุนแบบ Vi ครับ

เท่าที่จำได้คร่าวๆ จากหนังสือนะครับ ไม่แน่ใจว่าผิดไปจากในหนังสือบ้างหรือเปล่า ถ้าผิดก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ

แต่การทำธุรกิจได้กระแสเงินสดไม่เท่ากับการลงทุนในหุ้นนี่ครับ?

javoel เขียน:สงสัยนะครับว่า ทำไมเราเลือกการลงทุนเเบบ value เเต่ไม่ทำธุรกิจเป็นของตนเอง

เพราะไม่มีความสามารถที่จะทำธุรกิจที่ดีครับ  แต่เราสามารถที่จะร่วมลงทุนในธุรกิจที่ดีได้

บางธุรกิจ มีเอกสิทธ์เฉพาะสำหรับบางคนเท่านั้น ทำให้การแข่งขันไม่สูง แต่ผลตอบแทนสูงมาก มีคุณสมบัติเป็นธุรกิจแบบที่ปู่บัฟชอบนะครับ ผมเข้าใจว่าสาขาที่คุณ javoel จบมาก็มีลักษณะเข้าข่ายนี้ คุณสามารถทำงานในระยะแรกเพื่อสร้างกระแสเงินสดๆๆ จากนั้นค่อยเอาเงินเย็นๆๆ มาเลือกลงทุนในหุ้นอย่างสุขุม อย่างเหมาะสม อย่าง...ที่ดีๆ นะครับ

ทำงานอย่างเดียว หมดแรงก็หมดรายได้ ไม่มีตัวช่วยหาเงินที่ทรงพลังแบบหุ้น

ลงทุนในหุ้นอย่างเดียวต้องเซียนครับ เซียนแบบA++ ด้วย ในเวปนี้มีหลายท่าน นับถือ นับถือ

ถ้าเราทำทั้งสองอย่างข้อดี คือได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาค่อนชีวิตให้เป็นประโยชน์ แล้วยังมีกระแสเงินสดมาเติมการลงทุนตลอดเวลา นอกเหนือจากกำไร(ขาดทุน)และปันผลที่จะทบต้นตามปกติครับ

ทั้งการลงทุนหรือธุรกิจต่างมีความเสี่ยงครับ คุณ javoel คงทราบดีอยู่แล้ว

ขอตอบแบบดิบๆนะครับ

ลงทุนทำธุรกิจเอง

- เหนื่อยทั้งแรงกายแรงใจ
- not easy to enter and exit (or with high cost)
- เดิมพันสูงถ้าคิดจะทำเป็นอาชีพหลัก
- ต้องการ connection ต่างๆมากน้อยตามธุรกิจที่จะทำ ซึ่งแน่นอนไม่ใชทุกคนจะทำได้
- ข้อดีคือผลตอบแทนในรูปแบบของกระแสเงินสดอาจจะมากกว่าถ้าประสบความสำเร็จจริงๆ

ลงทุนในห้น
- อาศัยความรู้ความสามารถไม่มากไปกว่าทางทำธุรกิจเอง
- เหนื่อยใจในบางครั้ง แต่กับแรงแล้วไม่น่า (นอกจากไปทำกิจกรรมอย่างอื่นที่ไม่เก่ยวกับหุ้น) เพราะถือเป็นการให้เงินทำงานแทนเรา
- easy to entry and exit (with much lower cost)
- ผลตอบแทนที่ไม่น้อยไปกว่าการลงทุนทำธุรกิจเองถ้าลงทุนถูกทาง

ในความคิดผมถ้าจะทำธุรกิจเองคงเป็นกิจกรรมเสริมทำเพื่อเสริมความสุขในการทำงานและเติมเต็มความว่างจัดหลังเราเกษียณมากกว่าครับ

กระทู้สินค้าส่งออกโพสต์ถึงเรื่องบริษัทไทยศิลป์

นั่นก็เป็นปัญหาใหญ่เหมือนกันสำหรับคนทำธุรกิจเองที่อาจจะเจอได้ โดยเฉพาะประเด็นกฎหมายและภาษี

javoel เขียน:สงสัยนะครับว่า ทำไมเราเลือกการลงทุนเเบบ value เเต่ไม่ทำธุรกิจเป็นของตนเอง

ทำธุรกิจเอง ไม่ง่ายนะคร้าบ  :D

รายละเอียดของแต่ละเรื่องเยอะมากๆ
ทั้งเรื่องพนักงาน เรื่องมาร์เก๊ตติ้ง เรื่องโปรดักท์ ลอจิสติกส์ การจัดการสต๊อกและแวร์เฮาส์ เรื่องบัญชี เรื่องภาษี

แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับโจทย์ของคุณแหละครับ ว่า จะลงทุนแบบ value หรือ ทำธุรกิจไปเพื่ออะไร

ถ้าความสุขเกิดจากการทำงาน เห็นกิจการของตัวเองเจริญเติบโต เห็น ตึก โรงงาน ลูกน้อง ขยายกิจการใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ
ก็สมควรที่จะลงทุนทำธุรกิจเองครับ

แต่ถ้าความสุขเกิดจากการเห็นตัวเลขในบัญชีมากขึ้นเรื่อยๆ ทำไมต้องเลือกทางที่ยุ่งยากกว่าล่ะครับ  :D

จากที่อ่านๆดู เหมือนกับว่า การลงหุ้นเเบบ value จะง่ายกว่าการทำธุรกิจ

คือตัวผมกำลังสงสัยตัวเองว่า จะลงทุนในหุ้นอย่างเดียว หรือเจียดเงินในport เเพลนเพื่อทำธุรกิจที่เราถนัดด้วยน่ะครับ

เพราะการเป็นลูกจ้าง คิดว่าน่าจะไม่ยั่งยืนเท่ากับการเป็นนายจ้าง (เจ้าของ)
การเป็นเจ้าของก็เหมือนกับการเป็นนายของตนเอง (ในระยะยาว) เเละถ้าทำได้สำเร็จ ก็เป็นลักษณะหาคนมาทำงานเเทนเราไนเเต่ละ section ของธุรกิจ เป็นการทำให้เงินที่เรามีอยู่งอกเงย  ยิ่งถ้าเริ่มทำเร็ว ก็จะได้เรียนรู้เร็ว ก็จะมีประสบการณ์  จะเป้นอิสรภาพทางการเงินเเละชีวิตเร็วขึ้น

ถ้าสมมุติว่า นักลงทุน (หุ้น) มีเงินมากพอ จนสามารถที่จะซื้อหุ้นเเล้วเป็นเจ้าของได้ (เจ้าของธุรกิจ) คล้ายๆที่ ปู่ Buffet ทำ เราจะทำหรือเปล่า หรือเเค่ซื้อหุ้นไว้เฉยๆ  พอ overvalue เเล้วค่อยขายออก-???

เพราะไม่มีความสามารถที่จะทำธุรกิจที่ดีครับ  แต่เราสามารถที่จะร่วมลงทุนในธุรกิจที่ดีได้

เห็นด้วยครับ ถ้าตามสมมุติฐานที่ว่า การลงทุนในหุ้นเหมือนกับการทำธุรกิจ ถ้าเราประเมินว่าทำธุรกิจไม่ค่อยดีเเล้ว แสดงว่า การลงทุนในหุ้น (ของเรา) ก็น่าจะไม่ค่อยดีด้วย -??? เเละการลงทุนหุ้นในธุรกิจที่ดี  เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าบริษัทนั้นดีจริงๆ นอกเสียจากเราจะเป้นเจ้าของ-???

ผมคิดว่าการลงทุนในหุ้นมันง่ายกว่าการทำธุรกิจในแง่ที่ว่าเราไม่ต้องเหนื่อย
และไม่ต้องใช้ความสามารถในการบริหารจัดการรวมถึงต้องคอยคิดหานวัตกรรมใหม่ๆด้วย
แต่การลงทุนก็คงไม่ได้ผลตอบแทนเท่ากับทำธุรกิจเอง (ในกรณีที่ธุรกิจเราประสบความสำเร็จ)
และถ้าให้เลือกผมก็ยังไม่มีไอเดียดีๆมาปั้นธุรกิจเอง และก็ไม่มั่นใจด้วยว่าตัวเองจะบริหารได้ดีไหม
ผมจึงคิดว่าเอาเงินมาลงทุนในหุ้นดีกว่า เพราะเราสามารถเลือกหาบริษัทที่ดี (ไม่ใช่คิดขึ้นมาใหม่)
ที่มีอยู่ในตลาดเห็นๆอยู่รอให้เรา shopping ตามใจชอบ(แต่ก็ต้องดูราคาที่เหมาะสมด้วยนะครับ)
ผมว่าการดูว่าบริษัทนั้นดีไหม มันง่ายกว่าการที่เราจะคิดทำธุรกิจขึ้นมาเอง เพราะมันมีผลการดำเนินงาน
หรืออะไรต่างๆให้เราดูเห็นๆอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะคิดมาก
และเราก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของเองหรอกครับถึงจะรู้ว่าบริษัทนั้นดี
ยกตัวอย่างเช่นพวกmodern trade อย่าง cpall, BigC, ฯลฯ ผมว่าใครดูก็รู้ว่าบริษัทเหล่านี้ดีโดยไม่
ต้องเป็นเจ้าของ (ไม่ได้เชียร์ให้ซื้อหุ้นพวกนี้นะครับ) เพราะถึงแม้จะมีคนเอาเงินมาให้ผมเป็นหมื่นล้านมาทำธุรกิจแข่งกับพวกนี้ ผมก็ไม่คิดว่าผมจะสามารถสู้เขาได้หรอกครับ แต่ผมกลับมีโอกาสที่จะได้เป็นเจ้าของธุรกิจเหล่านี้ (ส่วนน้อยๆส่วนหนึ่ง)โดยที่ผมไม่จำเป็นที่จะต้องมีความสามารถ ไม่ต้องมีไอเดียเป็นเลิศในการ
บริหารธุรกิจเหล่านี้เลย--คิดง่ายไหมครับ

ถ้าทำธรุกิจแล้วประสบความสำเร็จมากมากดีที่สุดครับ ยังไงก็ดีกว่าลงทุนในหุ้นแน่นอน แต่ปัญหาคือทำไมถึงมีจำนวนธรุกิจที่ยังสามารถทำกิจการไปได้ตลอดรอดฝั่งใน 5 ปี แค่ 2-3 เปอร์เซ็นต์ อีก 90กว่าเปอร์เซ้นต์หายไปไหน การลงทุนในหุ้นถ้าเราเลือกลงทุนในกิจการที่มีความแข็งแกร่ง มีความได้เปรียบในเชิงแข่งขันมากมาก และมีการเติบโตในระยะยาวอย่างเป็นไปได้ อาจให้ผลตอบแทนน้อยกว่าการทำธรุกิจเองแล้วประสบความสำเร็จครับแต่เสี่ยงน้อยกว่า ของแบบนี้อธิบายยากครับ ต้องลองทำดู ผลออกปุ๊ปจะเห็นเหตุชัดขึ้นเองครับ