หน้า 1 จากทั้งหมด 1

การวิเคราะห์งบการเงิน เริ่มต้นตรงไหนครับ รบกวนชี้แนะด้วยครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 05, 2008 4:31 pm
โดย Godarmy
พอดีผมอยากจะศึกษาแนวทาง VI แต่ก็ยังเริ่มต้นไม่ถูกครับ เมื่อมีงบการเงินออกมาในแต่ละไตรมาส เราเอา รายละเอียดที่เค้าประกาศออกมา ไปดำเนินการ กรรมวิธีกลั่นกรอง ยังไงบ้างครับ ต้องเอาอะไรไปคำนวนกับอะไร เพื่อให้ได้อะไร แล้วเปรียบเทียบยังไง พอดีผมเริ่มไม่ถูกก้อเลยต้องรบกวน พี่ๆ ที่เริ่มต้นมาก่อนแนะนำด้วยนะครับ หรือจะเป็นลิ้งให้ก็ได้นะครับ ขอบคุณมากครับ

การวิเคราะห์งบการเงิน เริ่มต้นตรงไหนครับ รบกวนชี้แนะด้วยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 09, 2008 12:40 am
โดย Hughes
ผมเองก็ไม่ได้ดูมานานแล้วครับคืนอาจารย์ไปหมดและ

แต่ลองไปซื้อหนังสือเกี่ยวกับการอ่านงบการเงินดูครับ
ที่อาจารย์ผมให้อ่านเล่มที่ เบสิคสุดคือ The accounting game: Basic accounting fresh from the lemonade stand.

เล่มนี้ขำๆต๊องๆดีครับ คือสมมุติว่าตัวเราเป็นเด็กขายนำ้แล้วต้องทำบัญชี

เล่มต่อมาที่อ่านคือหนังสือเกี่ยวกับบัญชี ลืมชื่อไปแล้วเล่มฟ้าๆ

เล่มที่สามที่อ่านคือ

managing by the numbers

เกี่ยวกับการเอาข้อมูลบัญชีมาวิเคราะในฐานะmanagerครับก็จะสอนเกี่ยวกับพวก Ratio ต่างๆ การดู inventory ว่าค้างอยู่นานเท่าไหร่, ดูว่าใช้เวลาเก็บตังลูกค้ากี่วัน กี่วันกว่าจะจ่ายตังลูกค้า ไรประมาณนี้

ที่เหลือก็คงต้องใช้ประสปการณ์แล้วมั้งครับ

การวิเคราะห์งบการเงิน เริ่มต้นตรงไหนครับ รบกวนชี้แนะด้วยครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 09, 2008 9:54 am
โดย Noonino
เริ่มจากการอ่านหนังสือ หรือว่าไปลงเรียนก่อนเลยครับ
หนังสือเกี่ยวกับการวิเคราะห์งบการเงินมีมากมายเลยในตลาด
ส่วนคอร์สเรียนก็ลองไปดูที่สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยครับ หรือไม่ก็รออาจารย์มนเปิดสอน

การวิเคราะห์งบการเงิน เริ่มต้นตรงไหนครับ รบกวนชี้แนะด้วยครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 13, 2008 1:14 am
โดย ayethebing
ไม่ทราบคุณ จขกท จบทางด้านไหนมาครับ ถ้าตอบได้นะ เพราะแต่ละสาขามีความถนัดไม่เหมือนกัน อย่างผมจบสายคำนวณ (วิดวะ ประเภทที่ทำงานไม่ได้ใช้วิชาที่เรียนเลย) เข้าใจง่ายเรื่องสมการ ตัวเลข อะไรพวกเนี่ยะ เวลาพยายามทำความเข้าใจ บัญชีก้อเลยทำให้เป็นสูตรหรือตัวเลขหรือสมการไปเลยครับ

การวิเคราะห์งบการเงินเพื่อวิเคราะห์งบรายไตรมาสของบริษัทจดทะเบียนต้องจับที่อัตราส่วนทางการเงิน โดยอัตราส่วนทางการเงินจะเป็นการนำเอาตัวเลขสองสามตัวในบัญชีงบดุล งบกำไรขาดทุน หรือ งบกระแสเงินสดมาเข้าสูตรกัน เช่น ROA คือ เอา กำไรหลังหักภาษีในงบกำไรขาดทุน มาหารกับสินทรัพย์รวมในงบดุล เป็นต้น

เจ้าอัตราส่วนทางการเงินนี่ มันเป็นตัวเลขที่มีลักษณะดังนี้

1. ช่วยบอกถึงประสิทธิภาพในการดำเนินการของกิจการได้ เช่น อัตราหมุนของสินค้าคงคลัง (inventory turnover) เป็นการนำเอายอดขาย (ในงบกำไรขาดทุน) มาหารกับสินค้าคงคลัง (ในงบดุล)  ถ้ามีค่ามากกว่าแสดงว่ามีสินค้าคงคลังน้อยเพื่อแปลงเป็นยอดขายที่เท่ากัน ตัวเลขนี้เป็นการแสดงถึงประสิทธิภาพที่สำคัญในการบริหารและวางแผนสินค้าคงคลัง ซึ่งแน่นอน เงินจมในสินค้าคงคลังน้อย เงินทุนที่ใช้ก็น้อยลง ผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นเทียบกับเงินที่ลงไปก็ดีขึ้นด้วย เป็นต้น

2. เจ้าตัววัดอัตราส่วนการเงินทั้งหลาย อย่างที่บอกมันมีมากกว่าและน้อยกว่า ดังนั้นต้องใช้การเปรียบเทียบ เช่น inventory turn over ต้องนำเอา ปีนี้ เทียบกับปีที่แล้ว หรือบริษัทนี้เทียบกับคู่แข่งที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน หรือ benchmark ของอุตสาหกรรมนั้น (เจ้า benchmark เนี่ย หายากยิ่งกว่าทองอีกนะ) เช่น inventory turnover เป็น 1 เท่าของธุรกิจขายปลีก ไม่สามารถไปเทียบกับ inventory turnover ของ ธุรกิจการผลิตได้เพราะมันไม่เหมือนกันนะสิ (กำปั้นทุบดินมั้ยเนี่ย)

3.  อุตสาหกรรมต่างกัน อัตราส่วนที่สำคัญก็ต่างกันด้วย เช่น ถ้าเป็นธุรกิจค้าปลีก สิ่งที่เป็นอัตราส่วนที่สำคัญหลัก อาจจะเป็น อัตราการหมุนของเงินทุนหมุนเวียนสุทธิ (net working capital turnover) ก็ได้ เจ้าเงินทุนหมุนเวียนสุทธิ นี้คือ นำเอา สินทรัพย์หมุนเวียน (ในงบดุล) และหักด้วย หนี้สินหมุนเวียนที่ไม่เสียดอกเบี้ย (ในงบดุลเหมือนกัน) สูตรก็เหมือน inventory turnover คือ เอายอดขายหารด้วยเงินทุนหมุนเวียน ที่มันสำคัญสำหรับธุรกิจค้าปลีกเพราะ เป็นตัววัดประสิทธิภาพการจัดการ supplier และ การขายของ ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจค้าปลีกอาจจะน้อย แต่กำไรในส่วนของเงินหมุนก็เป็นส่วนที่ทำให้ธุรกิจค้าปลีกอยู่ได้

4.  อัตราส่วนทางการเงิน ในมุมมองผมแบ่งได้เป็น 2 แบบ แบบแรกคือแบบที่ยกตัวอย่างไป คือ แบบที่แสดงถึงการดำเนินการทางธุรกิจ อีกแบบคือแบบที่แสดงการจัดการทางการเงิน เช่น D/E (Debt/Equity ratio) เป็นการนำเอาส่วนของหนี้สินทั้งหมดมาหารด้วยส่วนของผู้ถือหุ้นทั้งหมด  เป็นอัตราส่วนที่บอกว่าในโครงสร้างเงินทุนของบริษัทมีการใช้เงินทุนของผู้ถือหุ้นต่อสัดส่วนของการกู้หนี้เท่าไหร่ D/E สูงๆ ก็มีความเสี่ยงสูงตามไปด้วย เป็นต้น ซึ่ง อัตราส่วนทางการเงินแบบที่แสดงถึงการจัดการทางการเงินนี้ สามารถใช้ได้กับกลุ่มอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ก็ต้องดูเทียบกันในอุตสาหกรรมด้วยถึงจะดี เช่น ธุรกิจอสังหา ปกติจะมี D/E ratio ที่สูงเมื่อเทียบกับธุรกิจการผลิตเป็นต้น

ร่ายมาซะยาว ไม่รู้รู้เรื่องที่ผมเขียนออกจะมั่วๆ หรือเปล่านะคับ ไว้ถ้าสนใจจะมาช่วยสรุป อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญๆ ให้ครับ