เหมืองแร่ คือ รูบนพื้นดิน ซึ่งมีคนโกหกเป็นเจ้าของ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 12, 2004 7:52 pm
เหมืองแร่ คือ รูบนพื้นดิน ซึ่งมีคนโกหกเป็นเจ้าของ
ผมได้อ่านประโยคนี้จาก
หนังสือ กลยุทธ์การลงทุนแบบเน้นคุณค่า Value investing Made Easy หน้า 107-108
โดย คุณ Jaanet Lowe
คุณ พรชัย รัตนนนทชัยสุข กรุณาช่วยแปลให้ผมได้อ่าน ขอขอบคุณ ครับ
อ่านแล้วก็ขำดี :lol: :lol:
การคาดการณ์
แม้ว่าประวัติการเพิ่มขึ้นของยอดขาย และ ผลกำไรจะเป็นสัญญาณที่ดี แต่แกรแฮมและดอดด์ จะมองการคาดการณ์ด้วยความสงสัย :
ขณะที่แนวโน้มในอดีตเป็นข้อเท็จจริง แต่แนวโน้มในอนาคตจะเป็นแค่สมมติฐาน อดีตหรือกระทั่งการคาดการณ์อย่างรอบคอบ เป็นได้แค่เพียงดัชนีชี้อนาคตอย่างเคร่าๆ เท่านั้น
หลังจากมากกว่าห้าทศวรรษผ่านไป บัฟเฟตต์ก็ยังคงเห็นด้วยกับคำกล่าวนี้
การคาดการณ์และการทำนาย ไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับผม พวกมันสร้างภาพลวงตาของความแน่นอน ยิ่งพวกมันละเอียดละออมากเท่าไร คุณก็ควรจะกังวลมากขึ้นเท่านั้น เราไม่เคยดูการคาดการณ์ แต่เราจะให้ความสนใจและดูประวัติการดำเนินงานอย่างละเอียด ถ้าบริษัทมีประวัติการดำเนินงานที่แย่ แต่มีอนาคตสดใส เราจะมองข้ามโอกาสนี้ไป บัฟเฟตต์อธิบาย
ชาร์ลี มังเกอร์ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของบัฟเฟตต์เสริมว่า ในความเห็นของเขาแล้ว การคาดการณ์มีโทษมากกว่าประโยชน์ คนที่คาดการณ์มักจะมี ผลประโยชน์แอบแฝง,(อาจเลี้ยงชีพด้วยการเป็นหมอดูหมอเดา, พวกโปรกเกอร์ที่ต้องการเชียร์ไห้มีการซื้อๆขายๆมากมาก, พวกที่ต้องการปล่อยของ ตรงนี้ผมต่อให้หน่อยหนึ่ง :lol: :lol: ) มีอคติ และการคาดการแบบฟันธงทำให้การคาดการณ์เป็นสิ่งที่ผิดพลาด มันทำให้ผมนึกถึงคำกล่าวของ มาร์ค ทเวน ที่ว่า เหมืองแร่ คือ รูบนพื้นดิน ซึ่งมีคนโกหกเป็นเจ้าของ การคาดการณ์ในอเมริกามักเป็นเรื่องโกหก แม้ว่าอาจจะไม่ได้เกิดจากความตั้งใจก็ตาม และมันก็เป็นเรื่องโกหกประเภทที่เลวร้ายที่สุดเพราะว่า คนที่คาดการณ์เชื่อมันด้วยเหมือนกัน
อ่านถึงตอน เหมืองแร่ นี้แล้ว ผมก็ให้นึกถึง
เหมืองทองคำของ ทุ่งคาฮาเบอร์ จังเลย
ถ้ามีทองเต็ม คงได้เฮ ถ้ามีแต่ตม คงได้โฮ :lol: :lol:
ผมได้อ่านประโยคนี้จาก
หนังสือ กลยุทธ์การลงทุนแบบเน้นคุณค่า Value investing Made Easy หน้า 107-108
โดย คุณ Jaanet Lowe
คุณ พรชัย รัตนนนทชัยสุข กรุณาช่วยแปลให้ผมได้อ่าน ขอขอบคุณ ครับ
อ่านแล้วก็ขำดี :lol: :lol:
การคาดการณ์
แม้ว่าประวัติการเพิ่มขึ้นของยอดขาย และ ผลกำไรจะเป็นสัญญาณที่ดี แต่แกรแฮมและดอดด์ จะมองการคาดการณ์ด้วยความสงสัย :
ขณะที่แนวโน้มในอดีตเป็นข้อเท็จจริง แต่แนวโน้มในอนาคตจะเป็นแค่สมมติฐาน อดีตหรือกระทั่งการคาดการณ์อย่างรอบคอบ เป็นได้แค่เพียงดัชนีชี้อนาคตอย่างเคร่าๆ เท่านั้น
หลังจากมากกว่าห้าทศวรรษผ่านไป บัฟเฟตต์ก็ยังคงเห็นด้วยกับคำกล่าวนี้
การคาดการณ์และการทำนาย ไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับผม พวกมันสร้างภาพลวงตาของความแน่นอน ยิ่งพวกมันละเอียดละออมากเท่าไร คุณก็ควรจะกังวลมากขึ้นเท่านั้น เราไม่เคยดูการคาดการณ์ แต่เราจะให้ความสนใจและดูประวัติการดำเนินงานอย่างละเอียด ถ้าบริษัทมีประวัติการดำเนินงานที่แย่ แต่มีอนาคตสดใส เราจะมองข้ามโอกาสนี้ไป บัฟเฟตต์อธิบาย
ชาร์ลี มังเกอร์ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของบัฟเฟตต์เสริมว่า ในความเห็นของเขาแล้ว การคาดการณ์มีโทษมากกว่าประโยชน์ คนที่คาดการณ์มักจะมี ผลประโยชน์แอบแฝง,(อาจเลี้ยงชีพด้วยการเป็นหมอดูหมอเดา, พวกโปรกเกอร์ที่ต้องการเชียร์ไห้มีการซื้อๆขายๆมากมาก, พวกที่ต้องการปล่อยของ ตรงนี้ผมต่อให้หน่อยหนึ่ง :lol: :lol: ) มีอคติ และการคาดการแบบฟันธงทำให้การคาดการณ์เป็นสิ่งที่ผิดพลาด มันทำให้ผมนึกถึงคำกล่าวของ มาร์ค ทเวน ที่ว่า เหมืองแร่ คือ รูบนพื้นดิน ซึ่งมีคนโกหกเป็นเจ้าของ การคาดการณ์ในอเมริกามักเป็นเรื่องโกหก แม้ว่าอาจจะไม่ได้เกิดจากความตั้งใจก็ตาม และมันก็เป็นเรื่องโกหกประเภทที่เลวร้ายที่สุดเพราะว่า คนที่คาดการณ์เชื่อมันด้วยเหมือนกัน
อ่านถึงตอน เหมืองแร่ นี้แล้ว ผมก็ให้นึกถึง
เหมืองทองคำของ ทุ่งคาฮาเบอร์ จังเลย
ถ้ามีทองเต็ม คงได้เฮ ถ้ามีแต่ตม คงได้โฮ :lol: :lol: