หน้า 1 จากทั้งหมด 1

บจ.เอ็มเอไอพุ่ง58% โชว์กำไรงาม728ล้าน

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 21, 2008 11:49 pm
โดย miracle
http://www.posttoday.com/stockmarket.php?id=2054

โพสต์ทูเดย์ 48 บริษัทในตลาด เอ็ม เอ ไอ แกร่ง ไตรมาส 2 ปีนี้ทำกำไรรวม 728 ล้านบาท พุ่งขึ้น 58% มี 11 บริษัทสุดยอดโตเท่าตัว ส่วนธุรกิจที่รับงานภาครัฐไม่ดี


นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนในตลาดเอ็ม เอ ไอ ว่า ในไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัทจำนวน 48 แห่ง มีกำไรสุทธิรวม 728 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% และรายได้รวม 11,809 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 10,853 ล้านบาท
ด้านผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปีนี้ มีกำไรสุทธิรวม 1,495 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 879 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% และมีรายได้รวม 22,503 ล้านบาท เติบโต 11%

ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจและการ เมืองที่ไม่แน่นอน บริษัทในเอ็ม เอ ไอ ส่วนใหญ่มีกำไรเพิ่ม 70% สะท้อนถึงศักยภาพของบริษัทขนาดกลางและเล็กในการปรับตัว โดยจะเห็นได้ว่าหลายบริษัทประสบปัญหาขาดทุนในปีที่แล้ว แต่สามารถปรับตัวพลิกเป็นกำไรสุทธิได้ในปีนี้

อย่างไรก็ตาม บริษัทที่ยังคงประสบปัญหาส่วนใหญ่อยู่ในภาคธุรกิจ สื่อและบริการ ตลอดจนธุรกิจเทคโนโลยีและการสื่อสารที่ยังคงพึ่งพิงรายได้จากภาครัฐ เป็นหลัก

สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรสุทธิ สูงสุด 3 อันดับแรกในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ คือ บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) กำไรสุทธิ 240 ล้านบาท บริษัท โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอส์ (GFM) กำไรสุทธิ 164 ล้านบาท และบริษัท เด็มโก้ (DEMCO) กำไรสุทธิ 159 ล้านบาท

ด้านบริษัทที่มีกำไรสุทธิโตกว่าเท่าตัวในไตรมาส 2 ปีนี้ มีทั้งหมด 11 บริษัท คือ ไทยฮา (KASET) ที่พลิกจากขาดทุน 5 ล้านบาท เป็นกำไร 62 ล้านบาท บริษัท ซีพีอาร์ โกมุ อินดัสเตรียล (CPR) เพิ่มขึ้น 474% บริษัท ชูโอ เซ็นโก (ประเทศไทย) หรือ CHUO เติบโต 455% บริษัท แอล.วี. เทคโนโลยี (LVT) เพิ่มขึ้น 354%

บริษัท สตีล อินเตอร์เทค (STEEL) เพิ่มขึ้น 343% บริษัท ไพลอน (PYLON) โต 324% บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) หรือ PICO เพิ่มขึ้น 159% บริษัท โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอส์ (GFM) เพิ่มขึ้น 117% บริษัท ทาพาโก้ (TAPAC) โต 114% บริษัท ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย (YUASA) เพิ่มขึ้น 107% และบริษัท เด็มโก้ (DEMCO) เพิ่มขึ้น 101%

ทั้งนี้ บริษัทในเอ็ม เอ ไอ หลายแห่งมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นมาก แต่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเพียงไม่กี่แห่ง เช่น บริษัท KASET แจกปันผลหุ้นละ 0.18 บาท บริษัท STEEL แจก 0.15 บาท บริษัท PICO จ่าย 0.20 บาท บริษัท TAPAC แจก 0.03 บาท UMS แจก 1 บาท และ DEMCO แจกทั้งหุ้นเพิ่มทุนและเงินปันผลรวม 0.225 บาท

นอกจากนี้ บริษัทในเอ็ม เอ ไอ หลายแห่ง ยังมีความจำเป็นต้องการใช้เงินสำหรับการขยายการลงทุน ทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตไม่มากนักในช่วงนี้ ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลงหรือขึ้นไม่ได้มากนักในภาวะตลาดหุ้นสดใส ถ้าหากนักลงทุนต้องการ ซื้อหุ้นจะต้องถือลงทุนระยะยาว 2-3 ปี

ปัจจุบันมีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) 49 บริษัท คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่ 33,606.64 ล้านบาท

วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2551

-----------------------------------------

ดูกันเอาเองล่ะกัน
ผ่านไปสองไตรมาส แล้ว
:)