Thai VI

ผมอยากเล่าเรื่อง ชีวิต ผมกับ ตลาดหุ้นจังเลยครับ

ถึงแม้ จะได้ผลตอบแทน ไม่มาก ทำผิดบ้าง ถูกบ้าง มาเรื่อย

ปล. ลงทุนมาประมาณ 8 ปีครับ

เข้ามาปาดดดดดด และรออย่างใจจดใจจ่อครับ

รออ่านอยู่  เล่าเลย เล่าเลย

ตอนเริ่มต้น ผมก็เป็นคนธรรมดา ซึ่งตอนนี้ก็ยังเป็นคนธรรมดาแหละครับ
สิ่งที่ผมพอจะจำได้คือ ช่วงปีที่ตลาดหุ้นดีมาก ปี 37-38-39 มั้งครับ
ผมมีอา ทำงานด้านการเงิน เป็นแนวพวก กองทุนรวม แล้วเมื่อตลาดหุ้นดีขนาดนั้น
คงไม่มีใครไม่อยากได้กำไรในตลาดหุ้นถ้ามีโอกาส แล้วพ่อผมก็คงเป็นคนนึง
ก็มีการถูกชักชวน ให้ลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งก็คงคิดว่าไม่อยากพลาดโอกาส
ก็ได้นำเงินโอนให้ไป ซึ่งการลงทุนหุ้นคราวนี้ ผมยังไม่มีความรู้ใดๆในเรื่องหุ้น และไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย

เล่าเลยครับ

รออ่านอยู่

แต่ผมก็มีสิ่งที่ผมสนใจอยู่นะ ตั้งแต่วัยเด็ก ผมก็เป็นครอบครัว คนจีน รุ่นปู่ครับที่มาไทย

รุ่นปู่ผมลำบากมากนะครับ อยู่บ้านไม้ ไสไม้ทำรถเข็นขาย มีแต่คนดูถูก แต่ผมไม่เคยดูถูก คุณปู่ผมนะครับ

ผมนับถือ ความเก่ง ของปู่ผม มากกว่า พ่อผมซะอีก

แล้วต่อมาปู่ผมก็เริ่ม เบนมาค้าขาย ซึ่งก็เป็นร้านที่ครอบครัวผมมีในวันนี้  ร้านเล็กๆ

ซึ่งทำให้ครอบครัวผมไม่มีเงินน้อยเกินไปจนต้องถูกดูถูกอีกเลย ต้องขอบคุณ คุณปู่มากๆนะครับ

ซึ่งก็คงไม่แปลก ถ้าจะถูกพูดคุยปลูกฝัง ให้มีนิสัย หาเงิน และเก็บเงิน

แล้วสิ่งที่ตอนนั้น ช่วงมัธยมปลาย ผมมักจะคิดถึง และสนใจ คือ ทำอย่างไร ถึงจะรวย มีเงิน

อยากจะรวยที่สุด จนดูเป็นเหมือนเป้าหมายไปเลยคืออยากรวย
เคยบอกว่าจะเลิกเรียนกับที่บ้านด้วย แล้วมาทำงาน  โดนด่าเปิงเลย
แต่ถึงอยากรวยตอนนั้นผมคงยังทำอะไรไม่ได้มาก ผมก็ทำได้เพียง ได้ค่าขนม มา ก็จะเก็บออมในสัดส่วนที่ค่อนข้างมาก
และ คิด มองดู ร้านค้าที่เค้าทำธุรกิจ เวลานั่งรถไปไหน คิดทั้งโครงการใหญ่ โครงการเล็ก คิดทั้งแบบเพ้อฝัน และแบบที่พอเป็นไปได้  จนแล้วจนเล่า ก็ยังไม่ได้ทำไรสักที

เบื่อรึยังครับ ยังไม่เข้าเรื่องหุ้นสักที 
จนมาวันนึง ซึ่งเป็นการจดจำได้คร่าวๆนะครับ น่าจะประมาณมัธยม 5 คงมีการคุยเรื่องหุ้นกัน กับพ่อผม

แล้วพ่อผมเกิดอารมณ์ อยากให้ผมเล่นหุ้น ( พ่อผมคงฝันอยากให้ผมรวยเหมือนกัน) ตอน นั้น ผมไม่มีความรู้ใดๆในเรื่องหุ้นเลยนะครับ ผมนิ่งอึ้ง เอ ต้องเริ่มไงเนี่ย

ผมเริ่ม จากไปหา หน้าหนังสือพิมพ์ ที่มีรายชื่อหุ้น  และ  ไปหยิบ รายการหุ้นที่มีอยู่ของพ่อผม

ตอนดูรายชื่อหุ้นในหนังสือพิมพ์ 555 งงสิครับ อะไร ยืดยาว
High low 52 week last price volume 555 งง
แต่ผมรู้สึกหุ้นคือราคา ผมเริ่มดูจาก high low ของ 52 week ที่ผ่านมา นั่นคือราคา สูงสุด ต่ำสุดในรอบปี

ตอนนั้น เห็น ugp ราคาตอนนั้นอยู่ต่ำมาก เมื่อเทียบจุดสูงสุด เลยสนใจ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร แล้วก็ไม่รู้ตอนนี้หายไปไหนแล้วด้วยครับ หุ้นตัวนี้
แล้วพอมาดูรายชื่อหุ้น ที่พ่อผมมีตอนนั้น มีรวมๆ เหลือระหว่าง 3-5 แสนบาท ซึ่งตอนนั้นพ่อผมหยุดให้ทางด้านอา เล่นให้มาสักระยะแล้ว ซึ่งผล ใครเดาก็คงรู้ไม่มีความรู้เล่น ให้คนอื่นเล่นโอกาสขาดทุน นั้นสูงมาก
ผมเห็นที่หุ้น อยู่สอง- สาม ตัวที่มีมูลค่า เป็นแสน ผมถามพ่อ ขายมั้ย ทุกอย่างเงียบสนิท จะแปลกอะไรก็ต่างคน ต่างไม่รู้อะไรเลย
ก็เลยไม่ได้ขาย แล้วก็ เกิด ได้ยิน พ่อผมพูดมาว่าได้ยินว่า fin1 จะใหญ่ nfs ธนชาตจะใหญ่ ผมก็โทรหา โบรกเกอร์ ที่มีชื่อดูแล พอร์ตพ่อผม ผมโทรไปดูเค้ารีบ ผมถามไรก็รำคาญ ก็เลยรีบสั่ง orderเลย ซื้อ 2 ตัวนี้ไป
อย่างละไม่กี่หมื่น โดยที่ไม่ได้ขายหุ้นอะไรไปเลย
อีกไม่กี่วันต่อมา อ่าว เลือกตั้ง ได้ยินกันว่า ถ้า ชวนได้เป็นรัฐบาล จะดี แต่ตอนนั้น รัฐบาลเป็นของบิ๊กจิ๋ว
อ่าวหุ้นตก ทำไงดีหว่า ถามพ่อ ทำไง ดี คำตอบ คือ ช่างมันไปก่อนก็ได้ ผมก็ นิ่งสิครับ แล้วก็ไม่ทำอะไรเลย
(พ่อผม ใช้เงินส่วนนึง ซึ่งเป็นเงินเย็น เลยไม่ได้เดือดร้อนอะไร ต่อให้หมดไปครับ)

ยังไม่เบื่อหรอกครับ คุณ areliang เล่าเก่งจัง  :D

อาเหลียง นี่เหลียงเฉาเหว่ย อ่ะเปล่าครับ
     มารออ่านต่อครับ
     เล่าละเอียดๆนะครับ

ซึ่งนั่นคือ ช่วงแรกที่ผมลงทุนหุ้นใช้เวลา 1 สัปดาห์ครับ แล้วหยุดไป
พอเข้ามหาลัยแล้ว อยู่ วันนึงผมก็ได้โจทย์ใหม่ ในหัวครับ
จะทำยังไง ให้หาเงินได้พอเลี้ยงตัวเองโดยไม่ต้องทำงาน
วิธีแรกที่คิด คือ เงินฝากธนาคาร ตอนนั้น ดอกเบี้ย 7.5% มั้งครับ
ตอนนั้นผมได้ค่าขนมวันละ 200 บาท เสาร์อาทิตไม่ได้ คิดคร่าวๆ เดือนละ 5000 บาท
เอ ถ้าผมขอเงินพ่อมาได้ 1 ล้าน บาท ได้ดอกเบี้ย 7.5% ก็ได้ปีละ 75000 บาท หาร 12 ได้เดือนละ 6250 บาท
พอใช้ work แน่ๆ
แต่ความฝันก็พังทลาย เมื่อคิดได้ว่า พ่อ จะให้เหรอ

ครับ ผมเอง

ที่พี่พอใจ แซว ว่า เหลียง เฉาเหว่ย ครับ

สวัสดีครับพี่พอใจ

ไม่รู้จัก แต่อยากฟังครับ

ผมว่าชีวิตคนๆหนึ่ง มันหลากหลายรสชาตินะครับ ถ้าอยากเล่าแสดงว่ามีประสบการณ์ดีๆอยากแชร์ให้คนอื่นรู้

หลายคนโชคดีตรงที่มีทรัพย์ภายนอกเพรียบพร้อมมากกว่าคนอื่นๆ แต่บางครั้งนั่นใช่ความโชคดีไม่...

เพราะหลายคนมีความสุขมากกว่าทุกข์ ทั้งๆที่เขาเจ็บปวดและเหนื่อยทางกายมากกว่าคนกลุ่มแรก จนใครๆก็มองว่าเขาจะยืนไหวหรือเปล่า  แต่ใจเขากลับสุขมากกว่าคนที่มองเสียอีก....

พูดไปแล้วนึกถึงคำพระที่สอนไว้ว่า "ความสุขมีไว้เป็น แต่ความทุกข์มีไว้ดู" ครับ

มารอฟังครับ

อยากฟังผมก็จะเล่า ไม่อยากฟัง ผมก็จะ post ไว้ครับ 555
จนมาถึงช่วงปลายปี 1999 ใช่คงจะมี กระแส boom เข้ามาด้วยแหละ เป็นช่วง nasdaq ขึ้นสูงมาก
กลุ่ม electronic และ communication ของไทยก็เลยบูมมาก
สิ่งที่ผมทำคือ กลับมาบังเอิญเห็น รายการหุ้นคงเหลือ ที่ส่งมา แล้วก็ดู
ตอนแรก ตื่นตาตื่นใจ ดูๆ ชักสงสัย แล้วก็ดูไปที่มูลค่ารวม อ่าวๆๆ ทำไม เหลือ แสนกว่าบาทเองเหรอ
(120,000-140,000) ตอนนั้นที่ใช้เวลาอาทิตนึงสนใจหุ้น มัน 4-5 แสนไม่ใช่เหรอ รวมที่ซื้อ fin1 และ nfs เพิ่มอ่ะ
และก็ได้เห็น ว่า หุ้น หลายตัวมันกลายเป็น 0 หรือบางอันก็มีส่งใบหุ้นมาให้แล้วมั้ง
ที่จำได้ชัด united ตอนนี้ก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นบริษัททำอะไร แต่จำได้ว่าตอนนั้นถ้าขายได้ แสน สองแสนแน่ะ
โอ๊ะๆๆโอ้ย ไปบอกพ่อดีกว่า จะได้มีคนเสียดายเป็นเพื่อน
ก็คุยกับพ่อ ได้สักพัก ก็รู้สึกว่าพ่อผม คงไม่ได้ใส่ใจ กับหุ้น ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นเงินก้อนนี้ได้ซะแล้ว
ผมก็เลย รีบตกลง ว่า ขอกลับมาเล่นหุ้นใหม่อีกรอบ โดยที่ขอส่วนที่เหลืออยู่พอร์ต นี้มาเป็นทุน โดยไม่ต้องใช้เงินก้อนใหม่
พ่อผมก็คงคิดว่าดีกว่าทิ้ง สิ่งๆนี้ไว้เฉยๆ ให้ลูกมันไปทำอะไรก็ได้ดีกว่า ก็เลย say yes
ไม่รู้ซะแล้วว่าจะมีความวุ่นวายตามมา บ้าง แต่ตอนนี้ ผมก็ยังคงไม่มีความรู้ ในตลาดหุ้นเลยเช่นเดิม
แต่ทีทุนความรู้อยู่บ้างตรงที่เคยเปิดหนังสือพิมพ์ หน้า รายชื่อหุ้น

เริ่มก้าวต่อไปของชีวิตผม กับตลาดหุ้น
เอ้ะ เอ้ะ มีแต่รายการ หุ้น แต่ไม่มีเงินสด ต้องทำไงอ่ะ
ก็ต้องขายสิ จะได้ๆเงินไปซื้อหุ้น
ขายอะไรดีล่ะ
อ่านชื่อ ตัวนี้ เคยได้ยิน ตัวนี้เคยได้ยิน อ่ะๆ ตัวนี้อะไร ไม่รู้จักไม่เคยได้ยิน ขายทิ้งดีกว่า
การเล่นหุ้นคราวนี้ของผมเริ่มจากการขาย
ขึ้น ต้นด้วย scib แต่ตอนนั้น หุ้น scib ยังปรับโครงสร้างมั้งครับ แต่ที่ผมขายเป็นกองทุน อะไรสักอย่าง
ที่scib เป็นผู้ออก ชื่อเลยเริ่มต้นด้วย scib

ผมโทรไปหาโบรกเกอร์ พอร์ต เดิม แต่ผู้ดูแลเปลี่ยนคนซะแล้ว แต่ ณ ตอนนี้ ผมรู้สึกว่า โบรกของผมคนนี้
เยี่ยมมากๆ และเป็นส่วนหนึ่งที่ดีต่อการเดินทางในตลาดหุ้นของผม สงสัยล่ะสิว่าดียังไง แต่ยังไม่บอกครับ

ผมก็เริ่ม ถามเค้าว่า ถ้าผมจะขายหุ้น ผมต้องทำยังไงครับ ผมได้รับการตอบรับ พูดคุย ที่ดี
ถ้าเทียบกับตอน เมื่อหลายปีก่อน ที่ผมโทรไปสั่งซื้อ fin1 กับ nfs คนละความรู้สึกเลยครับ ผมก็เลยคิดว่า
สงสัยที่โทรไปสั่งซื้อ fin1 และ nfs คงเป็นวันที่โบรก คนนั้น เค้ายุ่งมั้ง ครับ
เลยรู้สึกง่ายขึ้นมากที่จะคุยกับโบรกเกอร์คนใหม่นี้
แล้วเรื่องการขายหุ้น ผมบอกว่า จะขาย ตัวที่ขึ้น ด้วย scib นี่ล่ะครับ เค้าก็บอกว่า ถ้าจะขายเลยต้องขายที่ราคาเท่านี้
ถ้าไม่งั้นก็ต้องตั้งรอ สภาพคล่องคงน้อยนะครับ ผมก็ตัดสินใจขายเลย ได้เงิน ราว หมื่น ถึงสองหมื่น บาท

แฮะ ๆ ต่อไปก็ต้องซื้อสิครับ

ไม่รู้จัก แต่อยากฟังของคุณ NARIS ครับ  

ผมว่าชีวิตคนๆหนึ่ง มันหลากหลายรสชาตินะครับ ถ้าอยากเล่าแสดงว่ามีประสบการณ์ดีๆอยากแชร์ให้คนอื่นรู้

หลายคนโชคดีตรงที่มีทรัพย์ภายนอกเพรียบพร้อมมากกว่าคนอื่นๆ แต่บางครั้งนั่นใช่ความโชคดีไม่...

เพราะหลายคนมีความสุขมากกว่าทุกข์ ทั้งๆที่เขาเจ็บปวดและเหนื่อยทางกายมากกว่าคนกลุ่มแรก จนใครๆก็มองว่าเขาจะยืนไหวหรือเปล่า  แต่ใจเขากลับสุขมากกว่าคนที่มองเสียอีก....  

พูดไปแล้วนึกถึงคำพระที่สอนไว้ว่า "ความสุขมีไว้เป็น แต่ความทุกข์มีไว้ดู" ครับ  

อยากฟังเรื่องคนอื่นเหมือนกันครับ

มาช่วยโพสต์ประสบการณ์ของพี่ naris แทนพี่ naris ครับ

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=11555
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=24337
อิอิ

คุณ naris

มีอ่านพวก ธรรมะ แนว พระไตรปิฎก บ้างรึเปล่าครับ

ผมเคยอ่าน ธรรมะ แบบคร่าวๆ แล้วรู้สึก ซึ้ง

ยินดี ที่ได้ รู้จักนะครับ คุณ นริส

สนุกดีครับ  :D  :D

แต่ไม่ใช่ครับ ผมยังไม่ได้ซื้อ
เพราะ พอผมมาดูรายชื่อหุ้น
ผมมี shin jasmine jasmine-w
แล้วตอนนั้น คนก็เล่น กลุ่ม electronic และ communication กัน
จึงทำให้ ผมมีหุ้นตลาด เป็นที่นิยมของตลาดโดยไม่ตั้งใจ
ก็คิด จะซื้อทำไมในเมื่อ พอร์ตเราเองก็มีอยู่แล้ว อ่าว ทำไงดีล่ะ
แฮะๆ มีแล้วก็ต้องขายสิ 555
วันนึง ขาย jasmine วันนึง ขาย jasmine-w วันนึงขาย shin
จนได้เงินสดมามากกว่า  6-8 หมื่น มั้งครับ จำตัวเลขไม่ได้
แต่ก็ยังมีหุ้นตัวอื่นอีกบ้าง แต่ไม่ค่อยนิยมในตอนนั้นมั้งครับ เช่น nfs
และแล้ว มีเงิน แล้ว สัดส่วนมากด้วย
ก็เริ่มกลับมาซื้อ ซื้ออะไรดีล่ะ ไม่รู้
ยังเป็นคนที่ไม่มีความรู้ ในตลาดหุ้น เช่นเดิม แต่.... เคยเคาะขายหุ้น 4-5 ครั้ง

และผมว่า ผมก็มาถึงจุดที่เริ่มต้นจริงๆ ทุกๆก้าว จากตรงนี้
คือประสบการณ์ ที่ผมต้องเผชิญจริงๆ

วันต่อมา jasmine ราคาลงมาถูกกว่าตอนที่ผมขายเล็กน้อย
ด้วยความว่าไม่รู้จะซื้ออะไร ผมเลยคิดว่านี่คือสิ่งที่ผมควรจะทำ
คือ ซื้อ jasmine ใหม่ ในราคาที่ต่ำกว่าที่ผมขายไป และแน่นอน ตอนที่ผมอยากเข้าตลาด
ย่อมเป็นช่วงที่ตลาดดี นั่นทำให้ jasmine ผมขึ้นไป นึกว่าเยอะล่ะสิครับ
แต่มันขึ้น ประมาณ 1 บาท ตอนนั้น jasmine ราคาประมาณ 27-30 บาท
แต่เวลาที่ราคามันขึ้นนั้น  ผมนั่งเรียนหนังสือ อยู่ กลับบ้านมา ถึงเห็นราคาว่ามันขึ้น
ฮือๆ แต่ผมยังไม่ได้ขาย
ไม่ได้แล้วผมต้องทำอะไรสักอย่าง ผมจะรู้ราคา ได้ยังไง เท่าที่ผมต้องการ (เป็นคนใจร้อนครับ)
แล้วก็รู้มาว่า มันมีระบบ เพจเจอร์ ของ Hutchison ที่สามารถ รับข้อมูล หุ้น ได้แบบ real time
ทั้ง bid offer  3 ลำดับ ผมไม่รีรอช้าแต่อย่างใด

ศูนย์ Hutchison อยู่ที่ใด โปรดบอกมาทันที

ผมไปที่ เดอะมอลล์ ราม แล้วเข้าไปดู 555 เครื่องราคา  1 หมื่นกว่าบาท  รายเดือนครับ 1 พันกว่าบาท

Atm อยู่ที่ใด โปรดบอกมา

แล้วก็ได้ตัดสินใจแล้วซื้อในเย็นวันนั้น  
มีคำแนะนำดีๆ จากพนักงานด้วยนะครับ เค้าพูดว่า เห็นคนอื่นบอก ซื้อวันศุกร์ ขายวันจันทร์ก็กำไรแล้ว
ผมก็ยิ้ม แล้วก็จำไว้ เผื่อเอาไปใช้ได้
สิ่งที่ผมมาหยุดคิดนิดนึง นั่นก็คือ
ผมอาจจะกำไรมา 1-2 พันบาท แต่ผมลงทุน เพจ และ รายเดือน อีกเดือนละ พันกว่าบาทเรียบร้อยแล้ว
แล้วสิ่งที่ผมต้องทำเพื่อให้คุ้มกับสิ่งที่ผมเสียไป จะไหวมั้ยเนี่ย
ผมตอบตัวเองได้ แค่ว่า ผมตัดสินใจอย่างนี้แล้ว
ปล. ยังเป็นคนที่ไม่มีความรู้ ในตลาดหุ้น เช่นเดิม แต่.... เคยเคาะขายหุ้น 4-5 ครั้ง และเคาะซื้อขายบ้างแล้ว

แล้วพอจะเดาออกมั้ยครับ ว่า

การเดินทางในตลาดหุ้นของผมกำลังเดินไปทางไหน

1. ไม่มีความรู้
2. มีราคาหุ้นให้ดูตลอดเวลา
3. มีรายเดือนที่ผมนั่งจ่าย พันกว่าบาท ทำยังไงถึงจะหาเงินได้คุ้ม

ผมเดินเข้าเส้นทางของการเก็งกำไร

แต่ผมเป็นคนไม่ชอบมีหนี้ครับ เลยมักจะ วางกรอบ ของความสูญเสียที่พอจะรับได้อยู่เสมอ

การซื้อ หุ้น ที่แค่รู้จักชื่อ

แม้แต่หุ้น advanc สมัยนั้นยังงงอยู่เลย มันคือหุ้นอะไร
ที่นึงเขียน AIS ที่ นึงเขียน advanc แต่จริงๆ ตกลงมันคืออันเดียวกัน

หุ้น shin มันก็หุ้น ของ กลุ่ม ชินวัตร แหละ

หุ้น BEC เด็ด ช่อง 3นี่หว่า ดูอยู่ทุกวัน หุ้นละ 200 กว่าบาท ดีแน่ๆ หุ้นแพงออกจะตายไม่ดีได้ไง

หุ้น mk ไม่ต้องพูดถึง เหมือนคนทั่วไปนึกว่า mk สุกี้ มีmk สุกี้ด้วย ทำไมอยู่
หมวด อสังหาเนี่ย สงสัยสาขาเยอะ 555

ตอนนั้นค่า com อยู่ที่ 0.5% แล้วก็คำนวณ ต้องให้กำไรและคุ้มค่าคอม เป็นการเก็งกำไรไม่กี่ step
ซึ่งก็ได้บ้าง เสียบ้าง หลังจากผมเริ่มสั่งซื้อ ขายคล่องแล้ว
ผมซื้อขาย หุ้นทุกวันครับ เป็นอยู่หลายเดือน มีบิล ส่งมาที่บ้านทุกวัน

บิดาผมเริ่มได้รับความวุ่นวายใจซะแล้ว 555

สิ่งที่เค้ากังวลใจไม่ไร้เหตุผลซะทีเดียว ตอนแรกก็ถูกเตือนว่ากำลังทำอะไรทำไมมีบิลทุกวัน
ต่อมา ผมซื้อหุ้น ตัวอื่นไปจนเงินหมดแล้วล่ะครับ แต่ไปซื้อ advanc เพิ่ม โดยที่ตอนแรกนึกว่า
จะขายตัวอื่นภายในวันนั้น แต่อาจจะเพราะ ความโลภ ที่คิดว่า
เดี๋ยวตัว advanc ก็น่าจะขึ้น ตัวอื่นที่ถืออยู่ก็น่าจะขึ้น เลยไม่อยากขาย นั่นแปลว่า
ต้องหาเงินมาจ่ายเพิ่ม ครับ ที่ advanc น่าจะหุ้นละ 300 กว่าครับ 200 หุ้นมั้งครับตอนนั้น
น่าจะ ประมาณ 70000 กว่าบาทครับ ทำไงดีล่ะ ขายก็ไม่อยากขาย เงินก็ไม่มี

ไม่พ้น หรอก นายนั่นแหละ พ่อ บรรเกิดเกล้า เอาเงินมาให้ลูกซะดีๆ

กริ้งๆๆ เพิ่มเงินให้หน่อยได้ป่ะ 70000 นะ นี่ ซื้อหุ้นแล้วยังไม่อยากขายอ่ะ พรุ่ง
นี้ขึ้นแน่ค่อยขาย แล้วจะเอาเงินคืนให้
Advanc มือถือ ดีจริงๆ

บิดาผมได้รับความวุ่นวายใจเพิ่มอีกซะแล้ว 555

พ่อผมไม่ใจดีขนาดนั้น คำตอบคือ ไม่ได้ และอย่าให้เกิดเหตุการณ์ แบบนี้อีก
สลดเลยครับท่าน

ก็แก้ไม่ยากเท่าไหร่ ผมก็ขายหุ้นออกไป อาจจะอย่างละส่วนมั้งครับ

พอได้คิดสักพัก นี่แหละ ทั้งหมด คือการตัดสินใจที่ถูกแล้ว เพราะ ถ้าผมสามารถได้เงินเพิ่มได้
ไม่รู้ว่าพฤติกรรมในตลาดหุ้นจะเปลี่ยนเป็นเช่นไร

พ่อผมถึงจะดื้อ แต่เจ๋ง สุดๆเลย ดีใจจัง

areliang เขียน:คุณ naris

มีอ่านพวก ธรรมะ แนว พระไตรปิฎก บ้างรึเปล่าครับ

ผมเคยอ่าน ธรรมะ แบบคร่าวๆ แล้วรู้สึก ซึ้ง

ยินดี ที่ได้ รู้จักนะครับ คุณ นริส

ผม นริศ ครับ(หลายคนชอบเขียนผิด) ยินดีที่รู้จักเช่นกันครับ

ผมอ่านหนังสือธรรมะแบบง่ายๆครับ ซับซ้อนและลึกเกินไป อ่านแล้วไม่เย็นครับ ยิ่งอ่านยิ่งร้อน เพราะไม่รู้เรื่อง 555

ธรรมะผมยังระดับปฐมครับ เอาไว้ขั้นมัทยมเมื่อไหร่จะเอาพระไตรปิฎกมาอ่านครับ  :oops:

areliang เขียน:หุ้น mk ไม่ต้องพูดถึง เหมือนคนทั่วไปนึกว่า mk สุกี้ มีmk สุกี้ด้วย ทำไมอยู่
หมวด อสังหาเนี่ย สงสัยสาขาเยอะ 555

   อย่างฮาครับ มุขนี้

พระไตรปิฎกอ่านง่ายนะครับ ยืนยันแต่เข้าใจกี่ % นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

การเก็งกำไร ยังดำเนินไปอย่างไม่หยุดยั้ง ในวงเงินเท่าเดิม

เรื่องประทับใจ 555 ไม่ใช่อะไรที่ไหนครับ

คือ เก็งกำไรมาสักพัก  ผมซื้อหุ้น 10 ตัว ขายได้กำไร ทั้งหมด 10 ตัวเลยนะครับ

แต่บอกแล้วว่าเก็งกำไร ไม่กี่ step ก็ขาย คิดกำไร รวมราว 7000 บาทครับ

วันนั้นจำได้ อยู่ pantip กำลัง จะขาย ubc ซึ่งเพิ่งจะซื้อไม่กี่นาทีที่แล้ว
อย่าลืมนะครับ ผมมี เพจ หุ้น realtime  แล้วก็ได้กำไรเล็กน้อยเช่นเดิม
แต่ที่ทำได้ดีคือ 10 ตัวหลัง แป๊ปๆ กำไรทั้งหมด

คำชมก็เลยออกมา จากโบรกเกอร์ของผม ว่า เก่งนะเนี่ย ทำได้อย่างนี้

ผมว่าเค้าพูดอย่างจริงใจนะครับ แล้วก็เริ่มสงสัยผมทำได้ไง เริ่มเล่นไม่นานเองนะ

แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันหรอกครับ มีข่าวครับ
กองทุนบางอย่างจะขายหุ้นไทย  โดนสิโดน แบบนี้

หุ้นเต็มพอร์ต เก็งเต็มที่ เทขายครับ ขายพี่ขาย ขายไปก่อน 555 คิดแล้วขำดี

นั่งเล่นเกม starcraft ที่ แถวมหาลัยอยู่ดีๆ หุ้นร่วง

มาคิดก็คงขาดทุนไป ราว 7000 กว่าบาท หรือ บวกลบเล็กน้อย

คุยกับโบรก
พี่ๆ กำไรสิบตัว เจอตัวนี้ตัวที่ 11  TFB กสิกรไทยครับ หายไปทีหมดเลยนะครับ

คำตอบของการเก็งกำไรเริ่มเกิด ในใจผม แต่ก็ยังหาคำตอบที่ชัดเจนไม่ได้

หลังจากนั้นไม่นานการเดินทางในตลาดหุ้นของผมก็สะดุด
น่าจะเป็นช่วงครึ่งปีหลัง ของปี 2000 นะครับ
อาจจะเป็นเพราะ การเก็งกำไร และหมกมุ่น กับตลาด จนเกินสมควร
ทำให้มีการโต้เถียงในการเล่นหุ้นของผม กับท่านพ่อ
ซึ่ง ขาดทุนก็ขาดทุน ปัญหาก็มี ก็เลยหยุด
และผมตัดสินใจหยุดโดยซื้อเป็นหุ้นทิ้งไว้ โดยแค่หวังว่า วันนึงมันต้องขึ้นแน่ๆ

โดยที่ยังไม่รู้อะไรเป็นอะไรเลย

ตอนนี้ผมพอจะมีความรู้ในเรื่อง หุ้น บ้างในด้านชื่อ บริษัท และการขึ้นลงของราคา และการเก็งกำไร
6-8 เดือน ที่ใช้ในช่วงนี้ ตอนที่เรียนมหาลัย

ขอบคุณมากครับ  อยากอ่านต่อ

อ่าว หยุดแล้วหรอครับ กำลังสนุกเลย ... รีบๆมาต่อนะครับ

รอด้วยๆๆๆ

รออ่านอยู่คะ กำลังสนุกเลย