Thai VI

"หุ้นมันเป็นความเชื่อ ถ้าคนเชื่อว่าราคาจะไป(วิ่ง)เขาก็จะไม่ดูค่า พี/อี แต่ถ้าคนไม่เชื่อ ต่อให้กำไรดีแค่ไหนคนก็ไม่ซื้อ การเล่นหุ้นมันเป็น Psychology (จิตวิทยา) มันเป็น Common Sense (สามัญสำนึก) เราต้องอ่านความคิดคนให้ออก   โดย จอร์จ ตัน เอกยุทธ


พี่ๆมีความเห็นกับประโยคนี้ว่าไง ครับ

แทนคำว่า "คน" ด้วยคำว่า "คนฉลาดที่กระเป๋าหนัก" ครับ

ผมไม่อยากจะฟังหรือว่าอยากจะเชื่ออะไรที่มาจากปากชายคนนี้เลยครับ....

ผมอคติกับคนๆนี้ครับ..

ความเห็นของผมคือ "มันเด็ดตรงไหน"
ก็แค่คำพูดพื้นฐานของคนที่หากำไีรจากการเคลื่อนไหวและแนวโน้มธรรมดาๆ
(ผมไม่รู้จัก คนๆนี้ครับ)

I'm his big fan, he's my hero!!!!

( Joking na krub, noticeably, my sense of humour doesn't work well  around here)

เป็นคำพูดของ"เจ้ามือ" นักปั่นหุ้นครับ
ระวังไว้ด้วย
เหมือนกับที่มีคนเคยพูดว่า
"หุ้นยิ่งแพงต้องยิ่งซื้อ"อะไรทำนองนี้

ปัจจัยพื้นฐานเป็นสิ่งที่สำคัญอันดับหนึ่ง
ในการลงทุน

ผมว่า ประโยคนี้ เป็นความจริง

และเกือบเป็นสัจธรรม ในตลาดหุ้นนะครับ

ยกเว้นในตลาดหุ้นขณะนั้น มีจำนวน VI มากกว่า นักเก็งกำไร

ราคาเป็นผลลัพธ์
ผลลัพท์จากผลรวมของแรงกระทำของเหตุปัจจัยต่างๆ ต่อหุ้น

psychology ก็เป็นแรงๆ หนึ่งที่กระทำต่อหุ้น เช่นเดียวปัจจัยอื่นๆ เช่นภาวะตลาด fund flow ผลประกอบการ ฯลฯ

ในบางช่วงเวลา ปัจจัยบางด้านก็มีผลต่อหุ้นแรงกว่าปกติ และ/หรือ แรงกว่าปัจจัยอื่นๆ ในขณะที่อีกขณะหนึ่งปัจจัยอื่นก็อาจมีผลมากกว่า
สมดุลตรงนี้เป็น dynamic คือสมดุลไม่นิ่ง เปลี่ยนแปลงตลอด

มองในแง่ capital gain

แนวทาง VI เชื่อว่า ผลประกอบการ เป็นปัจจัยหลักทีี่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น (โดยคล้่ายๆ จะกำหนดให้ปัจจัยอื่นๆ คงที่)

ในขณะที่ก็มีคนกลุ่มอื่นๆ ที่เชื่อว่า มีปัจจัยอื่นๆ มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นมากกว่าผลประกอบการ
บางคนมองแค่ fund flow บางคนมองเฉพาะภาพตลาด ฯลฯ คนกลุ่มนี้ก็มีคนทีสามารถทำกำไรได้มากๆ หรือคนที่ขาดทุน เช่นเดียวกับคนที่ยึดแนวทาง VI (อย่างไรก็ตามเชื่อว่า สุึดท้่ายแล้วแนวทาง VI น่าจะได้ผลตอบแทนสูงกว่า 555)
คนแต่ละกลุ่ม ก็มีเครื่องมือในการล่าส่วนต่าง ที่แตกต่างกันไป


จขกท. ถามว่ามีความเห็นกับประโยคของเอกยุทธ อย่างไร
ผมตอบว่า
ในบางช่วงเวลาของตลาด (ในช่วงเวลาที่ตลาดให้น้ำหนักกับ ปัจจัยด้านpsychology มากผิดปกติ ในช่วงที่ตลาดผิดปกติ) คำพูดของเขาไม่ผิด

แต่คำพูดของเขาคงไม่ถูกต้องเสมอไปครับ

รู้สึกว่าหนังสือพิมพ์ฉบับนี้จะนิยม  ชมชอบ  รายใหญ่บางจำพวกนะ

สังเกตุดีๆ ทำไม เค้าถึงชอบเจ้าคนนี้  เพราะรู้สึกจะมีศัตรูคนเดียกันครับ แต่ ถ้ากับเจ้าอีกฝ่าย จะโดนยำเละ

เคยอ่านเค้าบอกว่าเค้าเป็นกระทิงที่วิ่งราวเซียน

หรือประมาณเป็นเหาฉลามตัวมหึมา

เเต่เราว่าเค้าเป็นนักปั่นหุ้น

เเถมยังเอาความดีความชอบ

ทำเป็นเตือนเเมงเม่า เเล้วบอกว่าตัวเองเก่ง

อืม ทุกอย่างในตลาด ก็มีโอกาสเป็นไปได้หมดแหละครับ

จะว่าไปแล้ว จิตวิทยากับการลงทุน ก็มีส่วนมากๆในการลงทุนนะผมว่า

แล้วเราจะทำยังไงถึงจะไปอ่านความคิดคนออกได้ครับ

โดยส่วนตัวผมชอบความจริงมากกว่าความเชื่อครับ  

[quote="Rocker"]"หุ้นมันเป็นความเชื่อ ถ้าคนเชื่อว่าราคาจะไป(วิ่ง)เขาก็จะไม่ดูค่า พี/อี แต่ถ้าคนไม่เชื่อ ต่อให้กำไรดีแค่ไหนคนก็ไม่ซื้อ การเล่นหุ้นมันเป็น Psychology (จิตวิทยา) มันเป็น Common Sense (สามัญสำนึก) เราต้องอ่านความคิดคนให้ออก

สังเกตุสิ หุ้นQ2 ผลประกอบการออกมาดีแต่ทําไมไม่วิ่งบางตัวก็ขึนแล้ววก็ลง
ยิ่งไปกว่านั้นบางตัวลงก่อนงบประกาศอีกพองบออกมาดียังขึ้นไปไม่ถึงก่อนลงเลย แม้ก่อนลงจะundervalueก็ตาม หุ้นประเภทที่บอกคือประเภทที่ราคาไม่ได้ขึ้นไปรับข่าวก่อนงบออก ช่วงนี้หุ้นส่วนใหญ่ในตลาดราคาวิ่งไปไม่ใกล เพราะmoodตลาดแย่

ส่วนคําพูด จอร์จจจจ นั้น ผมเห็นว่าจะเป็นจริงหรือไม่ขึ้นอยู่กับ
หุ้นตัวนั้นมีผู้อํานาจซื้อชี้นําเป็นใครๆคุมfree floatเยอะกว่ากัน ผู้เล่นในเกมส์ล่าส่วนทุน เช่น รายย่อยประเภทเก็งกําไร VI รายใหญ่ ต่างชาติ หรือ กองทุน  +สภาวะตลาดที่ทําให้คนเกิดความโลภ และกลัวต่างกัน