หน้า 1 จากทั้งหมด 2
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 9:44 am
โดย Mon money
นานมากแล้วที่ไม่ได้เปิดกระทู้ขึ้นมาพูดเอง เพียงแต่หลายวันมานี้มีพรรคพวกทั้งที่เป็นสมาชิก เป็นลูกศิษ เป็นพี่ เป็นน้อง โทรมาคุย ต้องใช้คำว่าคุยเพราะทุกคนโดนกันทั้งนั้น เพราะมีหุ้นอยู่เต็มport ทำอะไรได้ไม่มากเพราะเงินก้อนใหญ่อยู่ในหุ้นหมด หลายคนกำลังสับสนว่าการลงทุนแบบมองยาวๆนี้มันใช้ได้จริงกับบ้านเราหรือไม่ มันดีจริงหรือเปล่า ถ้าดีจริงทำไมผมโดนอย่างนี้
ก่อนอื่นต้องบอกว่าเห็นใจทุกคนที่โดนกัน เพราะเวลาเขาขึ้นกันหุ้นเราไม่ยักกะขึ้นแบบเขา แต่เวลาลงมันดันตามเขาไปด้วย อันนี้ต้องบอกว่ามันเป็นธรรมชาติของหุ้นประเภทนี้ เป็นอย่างนี้มาตลอด
ถามว่าผมเป็นอย่างไรบ้าง ผมก็ตอบว่าโดนเหมือนกัน แต่ไม่มากหรอก เพราะลงทุนมานานมาก ราคาหุ้นก็มีอยู่ตอนต่ำๆ ส่วนบริษัทปลีกย่อยที่พื้นฐานอาจโดนกระทบจากสภาพเศรษฐกิจก็ได้รับการปรับเปลี่ยนไปตั้งแต่เริ่มเห็นสัญญาณบ้างแล้ว เหลือไว้แต่หุ้นดีๆ ที่ถึงแม้มันจะลงมาก็ยังกล้าที่จะซื้อเพิ่ม รับอัตราปันผลที่สูงขึ้นจากที่ราคาหุ้นลดลง
บางคนอาจจะคิดว่าต่างชาติขายหุ้นเราเพราะสถานการณ์บ้านเมืองไม่ปกติ นันผมเชื่อว่าเป้นเพียงส่วนหนึ่งแค่นั้น ตอนนี้บ้านเรามีปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่งคือ เงินเฟ้อเกิดขึ้นในขณะที่เศรษฐกิจชลอตัว เรื่องเงินเฟ้อนี่เป็นเรื่องใหญ่ ต่างชาติกำลังมองว่าเราจะเอาอยู่ไหม? ถ้าเอาไม่อยู่มันจะกระทบกับการเติบดตทางเศรษฐกิจมาก ภาครัฐตอนนีดำเนินนโยบายยากมาก ขึ้นดอกเบี้ยกดเงินเฟ้อก็อาจกระทบกับการเติบโต ไม่ขึ้นเงินเฟ้อก็สูงหยุดไม่อยู่ นโยบายการคลังออกมาเมื่อวานก็วิเคราะห์เห็นว่าจะช่วยพยุงการเติบโตไม่ให้ลดลงมากเท่านั้น แต่อาจกระทบเงินเฟ้อสูงขึ้น ดูแล้วน่าหวั่นใจ แต่ดีกว่าไม่ทำอะไร
เอาเป็นว่าต่างชาติจะหยุดขายหุ้นก็ต่อเมื่อเขาเห็นสัญญาณการหยุดไม่ให้เงินเฟ้อสูงขึ้นได้ และสามารถรักษาการเติบโตได้หรืออย่างน้อยไม่ตกลงไป
ส่วนท่านที่ติดหุ้นดีในราคาแพงๆอยู่นั้น ผมว่าตอนนี้เป้นโอกาสอันดีที่ท่านจะได้มีเวลาทบทวนตัวเองว่าที่ทำผ่านไปในอดีตนั้น ทำถูกหรือผิดอย่างไร แค่ไหน ต่อจากนี้ไปจะต้องทำอะไรเพื่อแก้ปัญหาที่มีอยู่และป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก นั่นคือการสร้างกฎเหล็กของตัวเองขึ้นมา
ที่กล่าวอย่างนี้ไม่ใช่อะไร เพราะเมื่อถามว่ามีหุ้นอะไรกันอยู่ ซื้อมาตอนไหน ราคาเท่าไร คำตอบก็ไม่ต่างกันมากนัก คือซื้อกันตอนมันกำลังขึ้น บางคนยังไม่ได้ดูให้ละเอียดรอบครอบก็ลุยแล้ว เพราะกลัวว่าราคาจะขึ้นหนีไปแล้วซื้อไม่ทัน บางคนมั่นใจมาก เชื่อผู้บริหารมาก ผมจะบอกให้ว่าข้อได้เปรียบของนักลงทุนคือ การเลือกที่จะอยู่หรือไป ส่วนผู้บริหารมีข้อได้เปรียบคือควบคุมบริษัทได้ และรู้ข้อมูลดี เขาเลือกที่จะบอกหรือไม่บอก ต่างคนต่างก็ใช้ข้อได้เปรียบของตัวเอง อย่ายึดติด อย่าหลง อย่าโลภ อย่ากลัวจนเกินเหตุ
ขอให้โชคดีครับ
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 9:53 am
โดย ccc111
ขอบคุณครับ
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 9:54 am
โดย newbie_12
โดนกันถ้วนหน้าครับ เพราะลงกันแทบทุกตัว
ผมตอนนี้ได้แต่นิ่งๆดูไปครับ หุ้นลงได้ก็ขึ้นได้ครับ ตราบเท่าที่กิจการยังดีอยู่
ขอให้โชคดีครับ
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 9:57 am
โดย phobenius
โอกาสมีเสมอครับ เพียงแค่อย่าท้อ พยายามฝึกฝนต่อไป สักวันต้องมีวันของเราครับ ส่วนตัวจะว่าไปผมก็เคยผ่านเวลายากลำบากมาหลายๆครั้งเพียงแค่ อดทน และ อย่ายึดติดกับความคิดที่ดื้อรั้นเกินไป เพราะเพียงแค่ความที่อยากจะชนะครับ
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 9:59 am
โดย 007-s
ขอบคุณค่ะ
จากการสังเกตุโดยส่วนตัวว่า เมื่อมีกระทู้จากรุ่นพี่ออกมาให้กำลังใจแบบนี้ โดยมากมักแปลว่าหุ้นอยู่ในเขตถูกพอสมควร แต่กำลังใจเหือดหาย
เอ้า สู้ๆ หมู่เฮา จิตอย่าตก สำคัญมากอ่า
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 10:16 am
โดย jung_oh
ขอบคุณครับ
ตลาดลงครั้งนี้ ให้บทเรียนหลายอย่างเลยครับ
อย่างน้อย ประโยคที่อ่านแล้วโดนใจ ก็ซื้อตอนขาขึ้น
ไม่รู้จักรอโอกาส
วิแคะธุรกิจไม่ดีพอ
ฯลฯ
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 10:21 am
โดย Akajon
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 10:26 am
โดย sisacorn
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ พี่มนด้วยครับ กับข้อเขียนดี ๆ เช่นนี้ ขอคุยด้วยคนนะครับ
ผมขอแนะนำตัวเองก่อนนะครับ ผมเป็นมือใหม่ เพิ่งเริ่มลงทุนเมื่อ เดือน มีนาคม
ของปีนี้เองครับ แต่ก่อนหน้านั้น ก็อ่านหนังสือการลงทุน อ่านเว็บ THAIVI นี่ล่ะครับ
ยังมีความรู้ด้านการลงทุนไม่มากครับ บัญชียังไม่ค่อยรู้เรื่อง วิเคราะห์บริษัทยังไม่ค่อยเป็น
เรียกว่าแทบจะไม่รู้อะไรเลย รู้แต่ว่าชอบวิธีคิด รูปแบบของ VI ที่ลงทุนอย่างมีเหตุผล
ตอนนี้ port ผมแดงสามสิบเปอร์เซ็นกว่าแล้วครับ ทั้งพอร์ทผมถืออยู่แค่ สอง ตัวครับ
แบบว่าเงินน้อย และคิดว่าชอบลงทุนแบบโฟกัสน้อยตัวดีกว่า ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมคิด นั้นถูกไหม
แต่ถึงอย่างไร ผมรู้สึกว่าผมกลับรู้สึกสนุกและตื่นเต้นครับ ผมไม่มีความรู้การลงทุนอะไรมาก
แต่ผมก็ได้เรียนรู้ทีเล็กทีละน้อย ได้รู้จักบริษัทมากขึ้น ได้รู้ว่าเขาทำอะไร ทำอย่างไร
ตรงนี้ล่ะครับที่ทำให้ผมสนุก ที่จะได้รู้อะไร ๆ มากขึ้น ค่อยๆ ก้าวเดิน ค่อยๆ เรียนรู้
อย่างเว็บนี้ก็ได้สอนอะไรมากมาย นอกจากการลงทุน ยังมีแนวคิด แง่คิด
การใช้ชีวิตต่าง ๆ มากมายให้ศึกษา
การที่ได้เรียนรู้ ได้เห็นรูปแบบต่าง ๆ ได้สัมผัสกับบรรยากาศจริง ๆ มันทำให้รู้ครับว่า
อารมณ์นั้นเป็นตัวแปรที่สำคัญจริง ๆ ในการลงทุน บ่อยครั้งเหมือนเกินที่อารมณ์ของผม
บอกลองขายแล้วได้ซื้อตัวโน่นสิตัวนี่สิ เดี๋ยวมันก็ขึ้น แต่ผมก็ต้องทำใจให้เย็นลงและ
ใช้เหตุผล ใช้หลักการที่เราจะใช้ในการลงทุน ที่มีอยู่น้อยนิดให้เป็นประโยชน์ที่สุด
ผมคงไม่สามารถมองภาพเศรษฐกิจได้อย่างทะลุ หรือมองไปข้างหน้าว่าจะเป็นอย่างไรได้
แต่ผมรู้ว่าผมจะเรียนรู้จะเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมากกว่าเดิม ทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นจะเป็นประสบการณ์
จะเป็นบทเรียนให้ผมก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ผมหวังเช่นนั้นครับ ขอบคุณครับ
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 10:35 am
โดย auspicja
เห็นด้วยครับ กับ นักลงทุนได้เปรียบที่ตัดสินใจ ร่วมลงทุน หรือไม่ลงทุนกับบริษัทได้ทุกเมื่อครับ
แต่ถ้าเราไปเป็นเจ้าของกิจการ แล้ว ยากที่จะเลิกครับ ไหนจะ เงินที่ลงไป ,พนักงานที่ร่วมงานกับเรา ......
ผมว่าผมโชคดีนะครับ ที่ ได้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ของตลาดหุ้นลงครั้งนี้ทำให้เห็นถึง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา 555555555555
=) ขอฟื้นความหลังกันหน่อยนะครับ เหตุการณ์ตอนนี้ทำให้ผมและเพื่อนๆนึกถึงปี 40-41 ครับ
ผมเป็นผู้ที่จบการศึกษาปี 2541 ช่วงที่ ศก. แย่มากๆ หางานทำยาก ตกงานอยู่ 8 เดือนได้ เงินเดือนที่ได้ก้ น้อย ทำให้เข้มงวดกับตัวเองมากในการใช้จ่ายเงิน ทำให้เก็บเงินอยู่ และไม่ฟุ่มเฟือย
ณ ปัจจุบัน เมื่อย้อนไปนึกถึงตอนนั้น แล้วเกิดความรู้สึกดีใจครับที่ได้เจอกับภาวะศก.ช่วงนั้น และภูมิใจในตนเองครับที่ฟันฝ่ามาได้
เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนครับ
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 10:56 am
โดย beammy
ขอบคุณเฮียมนครับ
ถูกแล้ว ถูกอีก ยังไม่ได้ซื้อเลย :8) ...
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 11:26 am
โดย NinjaTurtle
007-s เขียน:ขอบคุณค่ะ
จากการสังเกตุโดยส่วนตัวว่า เมื่อมีกระทู้จากรุ่นพี่ออกมาให้กำลังใจแบบนี้ โดยมากมักแปลว่าหุ้นอยู่ในเขตถูกพอสมควร แต่กำลังใจเหือดหาย
เอ้า สู้ๆ หมู่เฮา จิตอย่าตก สำคัญมากอ่า
อยากจะขอให้พี่สายลับลุกมาเต้นนำ เป็นเชียร์ลีดเดอร์ให้หน่อย :lovl: :cheers:
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 12:07 pm
โดย saichon
ขอบคุณครับ
ท่านอาจารย์
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 12:29 pm
โดย mac69
ขอบคุณพี่มนครับ
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 12:46 pm
โดย Jimmy
ขอบคุณครับพี่มน
=========================
ชีวิตมีแค่สองหมื่นกว่าวันจะมัวรอมันไปถึงไหนก้าวเดินออกไปแล้วทำมัน
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 12:50 pm
โดย naris
สงสัยอาจารย์ต้องเปิดคอร์สสอนให้แน่นๆอีกรอบครับ
ขอบคุณพี่มน ที่มาช่วยเติมแรงใจใหคนใกล้หมดแรงครับ
และ main idea ที่สำคัญที่พี่มนบอกคือ จงอย่าเป็นนายตลาด คร้าบ
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 12:59 pm
โดย Alastor
ผมว่าช่วงเวลานี้ก็เป็นโอกาสดีของคนมือใหม่ที่จะหาความรู้ และ ของคนมีประสบการณ์ที่จะพิสูจน์ฝีมือนะ คนที่เริ่มต้นอย่างลำบากนะจะได้เรียนรู้จากความผิดพลาดมากกว่าคนที่เริ่มต้นช่วงที่ใครๆก็ทำกำไรได้ เพราะพวกหลังมักจะคิดว่าตัวเองเก่งเลิศเล่นนิดๆหน่อยๆก็ได้กำไรไม่ได้คิดหรอกว่าที่ผ่านมาคือดวงดี
เคยได้ยินว่านักลงทุนที่ไม่เคยผ่านตลาด crash มาซัก 2-3 หน อย่าคิดว่าตัวเองเก่งจริง ผมดีใจที่ในที่สุดก็จะได้เห็น Market Crash แล้วสู้กับมันซักยก ดูสิจะรอดออกไปไหม :lovl:
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 1:31 pm
โดย Basketman
อ่านแล้วได้สติ สบายใจ
ขอบคุณครับอาจารย์มน
อย่างนี้ผมก็ไปเที่ยวต่อได้แล้วซิ จุ๊กกรู๊รรรรร........ :lol:
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 1:37 pm
โดย hagrid
ถึงรู้ว่าถ้าเจอตลาด crash สัก 2-3 หน
อย่างที่คุณ Alastor กล่าว จะทำให้เราเก่งขึ้น
แต่ส่วนตัว ผมก็ยังไม่อยากเจออยู่ดี
ผมลงทุนมา 6 ปี ผ่านเหตุการณ์
ตลาดลดลง (เที่ยมๆ) ไม่ว่าจะเป็น 911 , โรคซาร์
มาตรการ 30 เปอร์เซ็นต์ , ปฎิวัติ ซึ่งส่วนใหญ่ผมก็มั่นใจว่า
เป้นเหตุการณ์ชั่วคราว ตลาดจะกลับมาในไม่ช้า และก็เป็นอย่างที่คิด
แต่รอบนี้ทำให้รู้สึกว่า เจอของจริงเสียที
จากที่เคยมั่นใจในฝีมือในการลงทุน ตอนนี้เริ่มรู้แล้วว่า
ยังมีอะไรที่ต้องศึกษาอีกมาก ที่ผ่านมาสงสัยจะอาศัยดวงดีมากไปหน่อย
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 2:00 pm
โดย auspicja
อิอิ เงินทองของมายา ข้าวปลาสิของจริง อิอิ
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 2:01 pm
โดย dikdik
ผมมองโลกในแง่ดีครับ เวลาเศรษฐกิจไม่ดี หรือเกิดภาวะที่ไม่ดีเกิดกับอุตสาหกรรมโดยรวม บริษัทที่แข็งแกร่งจะอยู่รอด บริษัทที่อ่อนแอจะล้มก่อน
เมื่อเราลงทุนกับบริษัทที่แข็งแรง เมื่อเศรษฐกิจฟื้น คู่แข่งของบริษัทเราจะลดน้อยลง หรือโดนบริษัทเรากลืนส่วนแบ่งการตลาด ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทเราจะเพิ่มขึ้น
ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีอาจเป็นบททดสอบความแข็งแรงของบริษัทเรา และจิตใจเราก็ได้
เศรษฐกิจต้องฟื้นตัวแน่นอนครับ เพียงแต่ตอนฟื้นแล้ว บริษัทเราต้องยืนขึ้นมาแบบผู้ชนะ หรือผู้ยืนหยัด ศรีทนได้ครับ
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 2:20 pm
โดย แม่แฝด3
ขอบคุณอาจารย์มนค่ะ
กำลังเหนื่อยใจกับพอร์ตอยู่พอดี ก็ได้อ่านโพสต์ดี ๆ ของอาจารย์ ^_^
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 2:31 pm
โดย noppakung
ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ ไม่เห็นพี่มาโพสต์ซะนาน
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 2:41 pm
โดย noooon010
ขออนุญาติ share idea ด้วยคนนะครับ
-ผมว่า ปัจจัยเรื่องของ NVDR ก็คงมีผลกระทบด้านจิตวิทยาพอสมควร
แล้วต่างชาติที่ว่าเนี่ย เค้าคือใครหรือครับ(ตอบตัวเองให้ได้นะครับ)
แล้วเค้ามีผลกับบริษัทจดทะเบียนแค่ไหน
แล้วเราจะนำความรู้ที่ได้ไปใช้อย่างไร
ช่วง sub-prime ปีที่แล้ว(กค.-สค50) ก็มีข่าวคล้ายๆแบบนี้
ตอนนั้น หุ้น big cap.ทั้งหลายร่วง
หุ้น small cap หลายตัวก็ลงมาด้วย
แล้วนักลงทุนจะทำอย่างไร
นักลงทุนต้อง มีสติ และทบทวนการลงทุนของตนเองครับ
มีหลายครั้งที่ เราอยากได้ของถูก แต่เราก็กลัวว่ามันจะไม่ลงมา
พอมันลงมา ก็ไม่กล้าซื้อ
ผมว่า กระทู้เหล่านี้น่าสนใจนะครับ
กระทู้การปรับ port ของพี่ลูกอีสานhttp://
www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=33509
กระทู้ถามใจนักลงทุน ของคุณ teetotal
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... highlight=
แล้วก็กระทู้ที่ผมอยากศึกษาให้ถ่องแท้อย่างกระทู้ตะแกรงร่อนหุ้น
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... sc&start=0
ร่วมไปกับการลงทุนโดยการศึกษา web thaivi แล้ว
ลองกลับไปอ่าน value way ของพี่มนกับพี่วิบูลย์ แล้วผมก็ได้ idea ดีๆขึ้นมา
(ขออนุญาติอ้างอิง จากblog ของผมนะครับ)
* คุณเคยอ่าน One Up On Wall Street ของ Peter Lynch ไหมครับ
เค้าแยกหุ้นเป็นประเภทต่างๆ แล้วก็ทำการซื้อ - ขายตามหลักการที่เค้าเขียนไว้ในหนังสือ
* Peter เคยบอกว่า ในภาวะเงินฝืด หุ้นก็จะตก ภาวะเงินเฟ้อ หุ้นก็จะตกเหมือนกัน
เช่นเดียวกับ ราคาน้ำมัน
- น้ำมันขึ้น หุ้นก็ตก
- น้ำมันลง หุ้นก็ตก
แล้วจริงๆมันเป็นอย่างไรกันครับ
บางทีเหตุผลก็ไม่มีหรอกครับ เพราะราคาหุ้น มันขึ้นกับพื้นฐาน + อารมณ์ของนักลงทุน (เหมือนที่เราเรียกเค้าว่า Mr.Market น่ะครับ)
ดังนั้น จะทำอย่างไรกับการเก็งกำไร/การคาดเดานี้ครับ
ในหนังสือ value way ของพี่มน และพี่วิบูลย์ (หน้า95-98)
มีบทที่พูดถึงการเก็งกำไรไว้ดังนี้ครับ
- ราคาหุ้นจะขึ้นหรือลง ขึ้นอยู่กับ ความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดในอนาคตจากสินทรัพย์ที่มีอยู่
- หากเราหลีกเลี่ยงการเก็งกำไรไม่ได้เราก็ควรจะอยู่ร่วมกับมันอย่างมีสติ
และไม่เข้าไปร่วมวงกับเขาด้วย เพียงแต่รอรับผลแห่งการเก็งกำไรของผู้อื่นจะดีกว่า
การที่เราจะอยู่ร่วมกับมันได้ เราควรจะรู้เท่าทันมัน และพยายามหาความรู้ และใช้ความรู้ทำความเข้าใจในธุรกิจต่างๆ และเฝ้าติดตามการดำเนินการของกิจการนั้นๆไปพร้อมๆกับการเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของราคา(ใช้ Mr.market ให้เป็นประโยชน์)
แต่ต้องไม่ลืมคตินี้ครับ
(อ้างอิงจาก value way หน้า 26 ครับ)
"เลิกเฝ้าดูราคาหุ้น"
การที่เรายังเกาะติดสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นรายวัน(บางคนเป็นรายนาที) มีส่วนทำให้เราตัดสินใจตามอารมณ์ของตลาดในระยะสั้นไปบ้างไม่มากก็น้อย
* ถ้าคุณเป็นนักเก็งกำไร คุณจำทำการพยากรณ์ราคาของสินทรัพย์ โดยไม่สนใจว่าธุรกิจจะดีหรือไม่
* ลองอ่านหลักการลงทุน 10 ข้อ ของ "สุมาอี้" ในหนังสือ วัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวคุณเอง ดูนะครับ
ถ้าใครสนใจศึกษา พระพุทธศาสนา เราสามารถนำสิ่งที่ได้ศึกษามาประยุกต์ใช้ในการลงทุนเช่นกันครับ
มีความสุขกับการลงทุนครับผม
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 2:47 pm
โดย oilpaint
" ต่างคนต่างก็ใช้ข้อได้เปรียบของตัวเอง อย่ายึดติด อย่าหลง อย่าโลภ อย่ากลัวจนเกินเหตุ " ฟิ้วววว ว ว
ขอบคุณมากค่ะ
ฮืม ! เราต้องมีสติ
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 3:24 pm
โดย กระบี่อยู่ที่ใจ
ดีใจครับที่เห็นคุณมนเข้ามา post ให้กำลังใจและให้สติกับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆในเวปยามนี้
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 3:50 pm
โดย charnengi
หุ้นดี ราคาลงกลายเป็นหุ้นแย่
หุ้นแย่ ราคาขึ้นกลายเป็นหุ้นดี
แต่มันก็แค่ระยะสั้นๆ เท่านั้นแหละ
ถ้าเศรษฐกิจแย่ลงอีก 5 ปี แล้วถามว่าฟื้นมั้ย ถ้าไม่ฟื้น ทุกคนก็จะจนกันหมด มันก็จะเกิดความเท่าเทียม
จน รวย วัดกันเช่นไร อยู่ที่ใจของเราเอง
ไม่มีใครคาดเดาตลาดได้ทุกครั้งหรอกครับ ทำใจให้สบาย
ผมว่าถ้าเศรษฐกิจไม่ดี ราคาน้ำมันก็จะลง หากน้ำมันไม่ลง คนก็ไม่เล่น future น้ำมันทองกันหมด
สุดท้าย ฟองสบู่ก็แตกหนีตาย เงินเฟ้อติดลบ เงินเข้าตลาดหุ้น ตราสารหนี้เหมือนเดิม วัฎจักรก็เป็นแบบนี้มาเป็น ร้อยปี
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 4:48 pm
โดย Dimsum
ใครมีลูกตอนนี้ ลูกสาวให้ชื่อ เมย์ ลูกชายให้ชื่อ แม็ค ก็ดีน่ะครับ อินเทรน์ แถมอธิบายให้ลูกรู้ได้ว่าทำไมตั้งชื่อนี้ให้ :)
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 5:22 pm
โดย nw108
เอาใจช่วยทุกๆท่านครับ
เเค่อยากจะบอกเล่าความโง่ของผมให้ฟัง
ผมผ่านตลาดตอนปี40 ออกจากตลาดเเบบ เอาปี๊บ คลุมหัวเลย
เเล้วเลิกเล่นหุ้นโดยเด็ดขาด เพราเกือบหมดตัวเลย
เเต่เนื่องจากได้บังเอิญ มาพบเวปนี้เข้า
จึงเข้าว่าในอดีตทำอะไรผิดไปบ้าง
เป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ
จากประสบการณ์จริงๆที่ส่วนใหญ่ของนักลงทุนที่ขาดทุนในตลาดที่เคยเจอคือ
มักจะได้ถือหู้นตอนที่มันถูกๆเเต่มันก้ยังลงต่อจนเรากลัว
เเต่เราก้ยังถือมันต่อไปเพราะเเรกๆยังมีความมันใจในข้อมูลต่างๆที่มีอยุ่
เเต่พอนานๆไปความมั่นใจนั้นมันก้ค่อยลดลงพร้อมกับราคาที่ทำให้เรากลัวมากขึ้น
เเล้วพอเราทนไม่ได้เราก็จะยอมขายขาดทุนเพื่อความสะบายใจ ไม่ต้องรับเเรงกดดัน เเรงตำหนิ จากคนรอบข้าง
โดยเราลืมไปว่าเราซื้อเนื่องจากปัจจัยพื้นฐานอะไรไปบ้าง
ผมนึกถึงคุณลูกอิสานครับ ท่านจะมานั่งวิเคราะห์หุ้นในพอรท์ว่าที่ถืออยู่จะปรับกลยุทธอย่างไรโดยไม่ตกใจขายไปก่อน
ซื่งถ้าทำอย่างท่าน หรืออีกหลายๆท่านในนี้ เมื่ตลาดฟื้นกลับมา ท่านเหลานี้จะฟื้นอย่างรวดเร็ว
จากข้อเขียนจากคุณ มน ผมเรียนรู้มาอีกอย่างว่า vi จะมีสติอย่างมาก ไม่เขวไปง่ายๆกับสิ่งเเวดล้อม
ถ้า คุณเป็นvi เป็นนักลงทุนที่ดวงไม่ดีที่ไปลงทุนในหู้นที่มีพื้นฐานดีพอขณะที่ราคามันสูงกว่ามูลค่าที่เเท้จริงวันหนึ่งถ้าคุณยังถือหุ้นที่มีพื้นฐานที่ดีเหล่านี้นอยู่คุณจะพบว่าคุณกลับมากำไรเเม้ว่ามันอาจจะไม่รวดเร็วอย่างที่เราฝันเเค่นั้นครับ
นักลงทุนโง่ๆ
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 5:42 pm
โดย ForrestGump
ขอบคุณ อาจารย์มน คร้าบบบ
ผมนั่งหน้าเขียวอยู่เนี่ย
อ่านแล้ว เหลือหน้าเหลือง นิดหน่อย ค่อยยังชั่ว อิอิ
ชวนคุย
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 16, 2008 9:40 pm
โดย SunShine@Night
ช่วงนี้มึนๆ เหมือนคนเมาหมัด
ทำได้อย่างเดียว คือทำใจ