มีใครติดตามผลงานของ Marc faber บ้างไหมครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 10, 2008 10:17 am
ผมเขาชีวประวัิติแกมาแชร์นะครับ
ดร.มาร์ก เฟเบอร์เป็นนักสวนกระแส การจะเป็นนักสวนกระแสที่ดีคุณจะต้องรู้ว่าคุณคิดไม่เหมือนคนอื่นเกี่ยวกับอะไร
เขามีชื่อเสียงในด้านวิธีการลงทุนที่เป็นของตนเองโดยไม่ทำตามกระแสเหมือนกับใคร
ในปี 1987 เขาได้เตือนลูกค้ ให้ออกจากตลาดก่อน black monday
ทำกำไรมหาศาลจากการคาดการณ์การระเบิดของฟองสบู่ในญี่ปุ่น ปี 1990
คาดเดาล่วงหน้า ถึงการล่มสลายของหุ้นการพนัน ในสหรัฐ ปี 1993
มองเห็นล่วงหน้า ถึงวิกฤตการณ์เอเชียในปี 1997/98 และความผันผวนที่ตามมา
อ่านแล้วก็รู้สึกทึ่ง เพราะเขาเก็บข้อมูล cycle of market ได้อย่างละเอียดมากๆ
ถึงแม้จะงงอยู่ค่อนข้างเยอะ กับ เนื้อหา
แต่ก็พอเข้าใจคร่าวๆ ถึงวิธีการ เดา วัฏจักรได้บ้างว่า
ก่อนจะถึงจุดหักกลับของทุกอย่าง นั้น
เช่น ก่อน ภาวะ ขาลงอย่างรุนแรงจะมาเยือนนั้น
มันจะตามหลัง ภาวะ การเก็งกำไร แบบบ้าคลั่ง
และการก่อหนี้ ที่มหาศาล
โดยการดูจากภาพตลาดนั้น ผมรู้ว่า สหรัฐฯ นั้นสมควรที่จะล่มสลายจากการก่อหนี้ ที่มหาศาลอย่างมาก
แต่กำลังงง ว่า ตกลง แล้ว ไทยปีนี้ เทียบกับ ปีต้มยำกุ้ง
เราน่าจะก่อหนี้ น้อยกว่า และก็ น่าจะมีผลกระทบในเชิงลบ น้อยกว่า
แต่ ก็อย่างว่า
เงินส่วนใหญ่ในตลาดไทย เป็นเงินต่างชาติซะส่วนใหญ่
บางที เขาอาจจะโดน force sell จากการลงทุนของเขาทำให้ต้องถอนเงินออกไปอย่างรวดเร็ว
อยากรู้ว่าตอนนี้ เฮียแกคิดยังไงบ้าง
เลยเข้าไป search หา เวปไซท์แก
แต่ปรากฏว่า ไม่มีตัวอย่างเลย เก็บเงินลูกเดียว
แถมตัวอย่างที่ให้มาดูเป็นแซมเปิ้ล ล่าสุด ก็ ปี 2005
ใครมี คอมเมนท์ล่าสุดของแก ช่วยเอามาแชร์กันครับ
ดร.มาร์ก เฟเบอร์เป็นนักสวนกระแส การจะเป็นนักสวนกระแสที่ดีคุณจะต้องรู้ว่าคุณคิดไม่เหมือนคนอื่นเกี่ยวกับอะไร
เขามีชื่อเสียงในด้านวิธีการลงทุนที่เป็นของตนเองโดยไม่ทำตามกระแสเหมือนกับใคร
ในปี 1987 เขาได้เตือนลูกค้ ให้ออกจากตลาดก่อน black monday
ทำกำไรมหาศาลจากการคาดการณ์การระเบิดของฟองสบู่ในญี่ปุ่น ปี 1990
คาดเดาล่วงหน้า ถึงการล่มสลายของหุ้นการพนัน ในสหรัฐ ปี 1993
มองเห็นล่วงหน้า ถึงวิกฤตการณ์เอเชียในปี 1997/98 และความผันผวนที่ตามมา
อ่านแล้วก็รู้สึกทึ่ง เพราะเขาเก็บข้อมูล cycle of market ได้อย่างละเอียดมากๆ
ถึงแม้จะงงอยู่ค่อนข้างเยอะ กับ เนื้อหา
แต่ก็พอเข้าใจคร่าวๆ ถึงวิธีการ เดา วัฏจักรได้บ้างว่า
ก่อนจะถึงจุดหักกลับของทุกอย่าง นั้น
เช่น ก่อน ภาวะ ขาลงอย่างรุนแรงจะมาเยือนนั้น
มันจะตามหลัง ภาวะ การเก็งกำไร แบบบ้าคลั่ง
และการก่อหนี้ ที่มหาศาล
โดยการดูจากภาพตลาดนั้น ผมรู้ว่า สหรัฐฯ นั้นสมควรที่จะล่มสลายจากการก่อหนี้ ที่มหาศาลอย่างมาก
แต่กำลังงง ว่า ตกลง แล้ว ไทยปีนี้ เทียบกับ ปีต้มยำกุ้ง
เราน่าจะก่อหนี้ น้อยกว่า และก็ น่าจะมีผลกระทบในเชิงลบ น้อยกว่า
แต่ ก็อย่างว่า
เงินส่วนใหญ่ในตลาดไทย เป็นเงินต่างชาติซะส่วนใหญ่
บางที เขาอาจจะโดน force sell จากการลงทุนของเขาทำให้ต้องถอนเงินออกไปอย่างรวดเร็ว
อยากรู้ว่าตอนนี้ เฮียแกคิดยังไงบ้าง
เลยเข้าไป search หา เวปไซท์แก
แต่ปรากฏว่า ไม่มีตัวอย่างเลย เก็บเงินลูกเดียว
แถมตัวอย่างที่ให้มาดูเป็นแซมเปิ้ล ล่าสุด ก็ ปี 2005
ใครมี คอมเมนท์ล่าสุดของแก ช่วยเอามาแชร์กันครับ