Thai VI

คือ จะเห็นว่าส่วนใหญ่ที่คุยกันในเว็บเรา จะเน้นไปทาง Stock Selection อย่างเดียว

แต่ในหนังสือ หลายๆเล่ม จะมีหลักการอื่นๆ อยู่ด้วย
พวก Money Management หรือ จิตวิทยา การลงทุน

พี่ในนี้ ปกติ สนใจอะไรพวกนี้มั้ยครับ

ผมสนใจเรื่อง Port Folio Management อยู่ครับ
จริงๆแล้วเรื่องที่สนใจจริงๆคือ Greedy Management
ไอ้อันหลังนี่ผมตั้งชื่อขึ้นมาเองนะครับ ไม่รู้จะหาหนังสือมาอ่านได้รึเปล่า
เพราะกลัวความโลภของตัวเองจะทำให้ปิดบังความสามารถในการตัดสินใจที่ควรจะเป็นไปหมดครับ

A good timing is almost always better than a good stock.

yoyo เขียน:ผมสนใจเรื่อง Port Folio Management อยู่ครับ
จริงๆแล้วเรื่องที่สนใจจริงๆคือ Greedy Management
ไอ้อันหลังนี่ผมตั้งชื่อขึ้นมาเองนะครับ ไม่รู้จะหาหนังสือมาอ่านได้รึเปล่า
เพราะกลัวความโลภของตัวเองจะทำให้ปิดบังความสามารถในการตัดสินใจที่ควรจะเป็นไปหมดครับ

แล้วปกติ พี่โย ทำยังไงอยู่ในการจัดการทางอารมณ์ ระหว่างตัดสินใจ ครับ

อืม นักเก็งเวลา

กลยุทธ์แบบ Asset Allocation ผมเลิกใช้ไปนานแล้วครับ

เลือกหุ้นรายตัวสนุกกว่ากันเยอะเลย

กลยุทธ์ที่ใช้อยู่ร่วมกับ Stock Picking คือ EQ Management และ Portfolio Management ครับ

ลอกพี่โยมา อันหลัง  :8)  ...

สำหรับผมแล้วทุกครั้งที่มีผิดพลาดในการลงทุน ผมมักจะได้หยุด เพื่อนที่จะคิดและเรียนรู้อะไรใหม่ๆในการลงทุนอยู่เสมอเช่นกัน

อย่างครั้งแรกที่ผมลงทุน ผมก็ขาดทุนไปหนัก...
ทำให้ผมปรับปรุงวิธีการเลือกหุ้นจนได้วิชา stock selection มา

แต่ก่อนเล่นหุ้นไม่ต้องคิดมาก เรื่องสภาพคล่อง หรือจำนวนหุ้นใน port แต่เมื่อ port ใหญ่ขึ้นปัญหาในการซื้อขายหุ้นเริ่มเพิ่มขึ้น และหลายๆครั้งหุ้นบางตัวมัน react กับข้อมูลต่างๆไม่เท่าเทียมกัน เช่นหุ้นบางตัวลงแรงผิดปกติ ขณะที่หุ้นบางตัวนั้นขึ้นแรงผิดปกติ ... พอเห็นปัญหาและโอกาสเช่นนี้บ่อยๆ ผมก็เริ่มเห็นว่า Port Folio Management นั้นมีความสำคัญขึ้นอีกเยอะ ปัจจุบันก็ยังต้องเรียนรู้เรื่องนี้อีกเยอะครับ

ในภาวะปัจจุบันที่หุ้นลงเรื่อยๆ.. ปัญหาก็คือผมใช้เงิน Margin เล่นหุ้นด้วย.. ถ้าหุ้นลงโดยที่ผมเข้าใจพื้นฐานมันดีก็คงไม่มีอะไรต้องห่วงเท่าไหร่.. แต่การที่มีเงินกู้มาอยู่ด้วยมันทำให้ความเสี่ยงเราเพิ่มขึ้นมาก.... ผมเริ่มใช้ Margin เพราะความโลภครับ คิดเพียงแค่ว่าเราเล่นหุ้นกำไรเยอะ ถ้ากู้มาเล่นก็จะทำให้กำไรนั้นสูงขึ้น... แต่สุดท้ายผมก็คงติดกับความโลภ คือใช้ Margin มากเกินไป และเมื่อตลาดขาลงทำให้ผลตอบแทนนั้นกลับทิศเร็วพอสมควร .. (ปัจจุบันลบประมาณ 10% จากที่เคย + สูงสุดประมาณ 22-23%) บทเรียนนี้คงสอนให้ผมรู้จักการบริหารความโลภของตัวเองครับ... ต้องมีการควบคุมตัวเองให้เคร่งครัดกว่านี้

CK เขียน:A good timing is almost always better than a good stock.

Timing is everything  :lol:   :lol:

CK เขียน:A good timing is almost always better than a good stock.

and is almost impossible.  

หลับยามอยู่
รอเพื่อนๆมาปลุกตอนเช้า

ผมว่าการควบคุมจิตใจสำคัญมากนะ ต่อให้เราวิเคราะห์มาดีแค่ไหนแต่กลัวหรือโลภเกินไปก็ไม่สามารถทำตามที่วิเคราะห์มาได้ ช่วงนี้ผมก็ทำความเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วก็ไม่ทำอะไรที่ไม่จำเป็น เอาเวลาไปคิดว่าควรทำอะไรที่จำเป็นดีกว่า

ในอนาคตผมจะศึกษาเรื่อง Macro Economic อยากจะเป็น Seer มองอนาคตออกกะเค้ามั้ง ตอนนี้เป็น Dowr (นักเดา) ไปก่อน :lol:

yoyo เขียน: แต่ก่อนเล่นหุ้นไม่ต้องคิดมาก เรื่องสภาพคล่อง หรือจำนวนหุ้นใน port แต่เมื่อ port ใหญ่ขึ้นปัญหาในการซื้อขายหุ้นเริ่มเพิ่มขึ้น และหลายๆครั้งหุ้นบางตัวมัน react กับข้อมูลต่างๆไม่เท่าเทียมกัน เช่นหุ้นบางตัวลงแรงผิดปกติ ขณะที่หุ้นบางตัวนั้นขึ้นแรงผิดปกติ ... พอเห็นปัญหาและโอกาสเช่นนี้บ่อยๆ ผมก็เริ่มเห็นว่า Port Folio Management นั้นมีความสำคัญขึ้นอีกเยอะ ปัจจุบันก็ยังต้องเรียนรู้เรื่องนี้อีกเยอะครับ

ผมสงสัยคำว่า ผิดปกติ นี่แหละครับ ว่า มันต้อง ผิดปกติ ระดับไหน พี่โย ถึงจะปรับ port เหรอครับ

แบบ เกินพื้นฐานที่ควรจะเป็น
หรือ เหลือ upside น้อยกว่าตัวอื่น
หรือ ขึ้นเกิน 10% ในสามวัน
หรือ อย่างอื่นครับ

TheHee เขียน:

Timing is everything