ทำไมถึงเชื่อเช่นนั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 1455
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมถึงเชื่อเช่นนั้น
โพสต์ที่ 1
หลังจากเจอเหตุการณ์มา 3 เหตุการณ์
ทำให้ผมนั่งคิดว่า ทำไมถึงเชื่อเช่นนั้น
และอะไรที่ทำให้คุณเชื่อเช่นนั้น
เหตุการณ์ที่ 1 ไปบริจาคเลือดหมอบอกว่า รู้ไหมผู้หญิงเขามีการถ่ายเลือด
ทุกเดือนแต่ผู้ชายนะไม่มีโอกาสเลย ดั้งนั้นเราต้องมาบริจาคเลือดนะ
( ผมถามหมอว่าการถ่ายเลือดมันดีอย่างไร หมอตอบว่ามีหลายข้อ อย่างเช่น เป็นการถ่ายหมุนเวียนเลือดที่เสียแล้วออกจากร่างกาย
เหตุการณ์ที่ 2 มาทำงานหัวหน้าบอกว่า ต้องทำแบบนี้นะ .......
เหตุการณ์ที่ 3 เพื่อนเดินมาบอกว่า 1+1 ต้องเท่ากับ 2 นะ ผมก็ถามว่า ทำไม1+1 ต้องเท่ากับ 2 เขาบอกว่า อาจาย์สอนมาและมันเป็นกฎของทางคณิต
เมือผมมาเจอเหตุการณ์ ที่ต้องเหมือนกึ่งบังคับให้เชื่อแบบนี้เพื่อโน้มน้าว
จิตใจให้เราเชื่อในสิ่งที่เขาพูด เพื่อเราจะได้ปฎิบัติตามนั้น ทำให้ผมนั่งคิด ว่า นี้เป็นเฉพาะสังคมของผมหรือสังคมไทย ที่เขาพูดอะไรก็ต้องเชื่อหรือเปล่า แล้วทำไมเราต้องเชื่อ แล้วทำเราต้องทำ
" อยากถาม ว่าเราเชื่อเพราะอะไร "
ทำให้ผมนั่งคิดว่า ทำไมถึงเชื่อเช่นนั้น
และอะไรที่ทำให้คุณเชื่อเช่นนั้น
เหตุการณ์ที่ 1 ไปบริจาคเลือดหมอบอกว่า รู้ไหมผู้หญิงเขามีการถ่ายเลือด
ทุกเดือนแต่ผู้ชายนะไม่มีโอกาสเลย ดั้งนั้นเราต้องมาบริจาคเลือดนะ
( ผมถามหมอว่าการถ่ายเลือดมันดีอย่างไร หมอตอบว่ามีหลายข้อ อย่างเช่น เป็นการถ่ายหมุนเวียนเลือดที่เสียแล้วออกจากร่างกาย
เหตุการณ์ที่ 2 มาทำงานหัวหน้าบอกว่า ต้องทำแบบนี้นะ .......
เหตุการณ์ที่ 3 เพื่อนเดินมาบอกว่า 1+1 ต้องเท่ากับ 2 นะ ผมก็ถามว่า ทำไม1+1 ต้องเท่ากับ 2 เขาบอกว่า อาจาย์สอนมาและมันเป็นกฎของทางคณิต
เมือผมมาเจอเหตุการณ์ ที่ต้องเหมือนกึ่งบังคับให้เชื่อแบบนี้เพื่อโน้มน้าว
จิตใจให้เราเชื่อในสิ่งที่เขาพูด เพื่อเราจะได้ปฎิบัติตามนั้น ทำให้ผมนั่งคิด ว่า นี้เป็นเฉพาะสังคมของผมหรือสังคมไทย ที่เขาพูดอะไรก็ต้องเชื่อหรือเปล่า แล้วทำไมเราต้องเชื่อ แล้วทำเราต้องทำ
" อยากถาม ว่าเราเชื่อเพราะอะไร "
อย่าทำตัวเป็นนักแสดง เป็นเพียงผู้ดูก็พอ..
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมถึงเชื่อเช่นนั้น
โพสต์ที่ 2
ผมขอตอบข้อ 3 ก่อน ผมไม่ได้ "เชื่อ" ว่า 1+1=2 แต่ผม "รู้" ว่า 1+1 =2 เพราะมันเป็นกฎที่คนคิดตัวเลขเค้าคิดขึ้นมา เหมือนกับที่ผม "รู้" ว่าสักวันผมต้องแก่ และตาย เพราะมันเป็นกฎธรรมชาติ เช่นเดียวกับที่ผมรู้ว่าถ้าผมปล่อยปากกา ปากกามันต้องหล่นพื้น มันจะไม่ลอยขึ้น
ทีนี้ ผมว่าการที่จะเลือก "เชื่อ" ในหลายๆ อย่าง มีเหตุผลหลายอย่างนะเช่น
1. เชื่อโดยสังคม หรือคนสนิท เช่นผมเชื่อว่าถ้ามีศาลพระภูมิผมควรให้ความเคารพโดยการไหว้ เพราะทุกคนที่ผมรู้จักบอกเช่นนั้น
2. เชื่อโดยการอุปมาจากเหตุการณ์ที่เกิดกับตัวเอง เช่นผมเชื่อว่าการลงทุนในหุ้นที่มีเงินสดเยอะ จะได้กำไรเสมอ เพราะเคยทำสำเร็จกับ ICC และ ASTL
3. เชื่อเพราะมีผู้เชี่ยวชาญบอก อย่างกรณีที่หมอบอกว่า ถ่ายเลือดแล้วดี เป็นผม ผมก็เชื่อครับ
4. เชื่อเพราะมีทฤษฐีรองรับ เช่นผมเชื่อว่า ไดโนเสาร์ตายเพราะมีลูกอุกาบาตลูกใหญ่มาถล่มโลก
ก่อนจะเชื่อต้องใช้ปัญญาก่อน เหมือน คำสอนกาลามสูตรของพระพุทธเจ้าครับ
ส่วนข้อ 2 เชื่อไม่เชื่อ ก้อต้องทำ ไม่งั้นโดนไล่ออก ฮือ ฮือ ล้อเล่นครับ
ทีนี้ ผมว่าการที่จะเลือก "เชื่อ" ในหลายๆ อย่าง มีเหตุผลหลายอย่างนะเช่น
1. เชื่อโดยสังคม หรือคนสนิท เช่นผมเชื่อว่าถ้ามีศาลพระภูมิผมควรให้ความเคารพโดยการไหว้ เพราะทุกคนที่ผมรู้จักบอกเช่นนั้น
2. เชื่อโดยการอุปมาจากเหตุการณ์ที่เกิดกับตัวเอง เช่นผมเชื่อว่าการลงทุนในหุ้นที่มีเงินสดเยอะ จะได้กำไรเสมอ เพราะเคยทำสำเร็จกับ ICC และ ASTL
3. เชื่อเพราะมีผู้เชี่ยวชาญบอก อย่างกรณีที่หมอบอกว่า ถ่ายเลือดแล้วดี เป็นผม ผมก็เชื่อครับ
4. เชื่อเพราะมีทฤษฐีรองรับ เช่นผมเชื่อว่า ไดโนเสาร์ตายเพราะมีลูกอุกาบาตลูกใหญ่มาถล่มโลก
ก่อนจะเชื่อต้องใช้ปัญญาก่อน เหมือน คำสอนกาลามสูตรของพระพุทธเจ้าครับ
ส่วนข้อ 2 เชื่อไม่เชื่อ ก้อต้องทำ ไม่งั้นโดนไล่ออก ฮือ ฮือ ล้อเล่นครับ
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมถึงเชื่อเช่นนั้น
โพสต์ที่ 3
เหตุการณ์ที่ 1: เชื่อเพราะว่าเป็นความเห็นจากผู้ที่เชื่อได้ว่า
มีความรู้ความสามารถในสิ่งที่เขาพูดมากกว่าเรา
แต่ไม่แน่ว่าจะจริงเสมอไป หากมีเหตุผลที่ควรเชื่อมากกว่า
ความเชื่อเก่าๆก็สามารถถูกลบล้างไปได้
วิทยาศาสตร์จึงมีความก้าวหน้ามาจนถึงทุกวันนี้
เหมือนเมื่อก่อนผู้ใหญ่สอนว่า "ทานข้าวแล้วให้ดื่มน้ำล้างปาก"
แต่พออ่านหนังสือของหมอเฉกแล้วท่านสอนว่า
"ทานข้าวแล้วอย่าเพิ่งดื่มน้ำทันที เพราะจะไปเจือจางน้ำย่อย"
ผมเลยเชื่อในสิ่งใหม่ๆ ที่ดูจะมีเหตุผลมากกว่า
สิ่งเหล่านี้คงยากที่จะไปพิสูจน์ทราบเอง
เราก็คงต้องเชื่อตามบุคคลที่เราเชื่อว่า ท่านมีความรู้ความสามารถในศาสตร์นั้นๆ
เหตุการณ์ที่ 2: เชื่อต่างได้แน่นอนครับ
ความขัดแย้งระหว่างหัวหน้ากับลูกน้องจึงเห็นได้ทั่วไป
แต่ลูกน้องที่เชื่อต่างกับหัวหน้ามากๆ ก็คงทำงานด้วยกันลำบาก
แต่ยืนยันว่าเราเชื่อต่างได้ และสิ่งที่เราเชื่ออาจจะถูกก็ได้
เหตุการณ์ที่ 3: อย่างที่พี่อาย comment ก็ชัดเจนดีแล้วครับ :8)
เพราะฉะนั้นข้อสามเนี่ยไม่เกี่ยวกับความเชื่อ
คณิตศาสตร์จึงเหมือนเป็นภาษาสากลอย่างหนึ่ง
ซึ่งต่างกับศาสตร์อย่างฟิสิกส์
ถ้าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้แนะนำให้อ่าน
จะเห็นความงดงามของคณิตศาสตร์และชีวิตของบุคคลที่เกิดมาเพื่อคณิตศาสตร์
มีความรู้ความสามารถในสิ่งที่เขาพูดมากกว่าเรา
แต่ไม่แน่ว่าจะจริงเสมอไป หากมีเหตุผลที่ควรเชื่อมากกว่า
ความเชื่อเก่าๆก็สามารถถูกลบล้างไปได้
วิทยาศาสตร์จึงมีความก้าวหน้ามาจนถึงทุกวันนี้
เหมือนเมื่อก่อนผู้ใหญ่สอนว่า "ทานข้าวแล้วให้ดื่มน้ำล้างปาก"
แต่พออ่านหนังสือของหมอเฉกแล้วท่านสอนว่า
"ทานข้าวแล้วอย่าเพิ่งดื่มน้ำทันที เพราะจะไปเจือจางน้ำย่อย"
ผมเลยเชื่อในสิ่งใหม่ๆ ที่ดูจะมีเหตุผลมากกว่า
สิ่งเหล่านี้คงยากที่จะไปพิสูจน์ทราบเอง
เราก็คงต้องเชื่อตามบุคคลที่เราเชื่อว่า ท่านมีความรู้ความสามารถในศาสตร์นั้นๆ
เหตุการณ์ที่ 2: เชื่อต่างได้แน่นอนครับ
ความขัดแย้งระหว่างหัวหน้ากับลูกน้องจึงเห็นได้ทั่วไป
แต่ลูกน้องที่เชื่อต่างกับหัวหน้ามากๆ ก็คงทำงานด้วยกันลำบาก
แต่ยืนยันว่าเราเชื่อต่างได้ และสิ่งที่เราเชื่ออาจจะถูกก็ได้
เหตุการณ์ที่ 3: อย่างที่พี่อาย comment ก็ชัดเจนดีแล้วครับ :8)
เพราะฉะนั้นข้อสามเนี่ยไม่เกี่ยวกับความเชื่อ
คณิตศาสตร์จึงเหมือนเป็นภาษาสากลอย่างหนึ่ง
ซึ่งต่างกับศาสตร์อย่างฟิสิกส์
ถ้าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้แนะนำให้อ่าน
จะเห็นความงดงามของคณิตศาสตร์และชีวิตของบุคคลที่เกิดมาเพื่อคณิตศาสตร์
"Winners never quit, and quitters never win."