หน้า 1 จากทั้งหมด 1

วิเคราะห์ Five Forces ของ Porter ถ้าขาดข้อใดไปข้อนึง

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 27, 2008 3:23 pm
โดย Livingman
ในการวิเคราะห์ Five Forces  ของ Porter ซึ่งเชื่อว่าพวกพี่ๆ หลายๆท่านคงใช้เป็นส่วนหนึ่งในการวิเคราะห์หลักทรัพย์   จึงมีคำถามอยากถามว่า ใน 5 ข้อของ 5 forces นี้  จำเป็นมั้ย ว่าบริษัทต้องสมบูรณ์แบบทั้ง 5 ด้าน เราถึงจะซื้อหุ้นตัวนี้ได้  ถ้าขาดข้อใดไปข้อนึง หรือ ขาดไป 2-3 ข้อ  บริษัทยังน่าสนใจมั้ยครับ  ถ้างบการเงินในอดีตออกมาดีทุกอย่าง แต่ติดที่ five forces เราควรทำอย่างไรดี

วิเคราะห์ Five Forces ของ Porter ถ้าขาดข้อใดไปข้อนึง

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 27, 2008 3:41 pm
โดย krisy
ขอตอบนะจ้ะ (ช่วงนี้ว่างจัด กลัวมือจะบอนไปรับของที่ยังไม่ถึงเวลาต้องรับ) พอให้ไอเดียได้บ้าง จากที่จำจำเค้ามา

เราว่ามีน้อยมากมากเลยที่จะได้ five force แบบดีเยี่ยมทั้ง 5 ข้อ คิดออกก็แค่ สินค้าผูกขาด เช่น ไฟฟ้า ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ไม่ผูกขาดแล้ว เราเป็นระบบทุนนิยมก็เลยไม่น่าจะมีความสมบูรณ์แบบขนาดนั้นค่ะ

ปกติเราแบ่ง five force เป็น 3 ระดับ ดี โอเค แย่ ถ้าแย่หลายอันก็ทิ้งไปเลย ส่วนใหญ่ก็จะมีปนปนกันไป

ส่วนที่แย่ เฝ้าระวังผลกระทบว่าถ้าลุกลามมากกว่านี้ ก็ควรชิ่ง
ส่วนที่โอเค ดูโอกาสการพัฒนาในอนาคต ถ้ามีก็ซื้อเพิ่ม
ส่วนที่ดี มีความสุขกับมัน ถ้ามันกลับเป็นโอเคเมื่อไหร่ เราว่าก็ปล่อยไปเถอะ เพราะนั่นเป็น strenght ของมันนี่นา

วิเคราะห์ Five Forces ของ Porter ถ้าขาดข้อใดไปข้อนึง

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 27, 2008 4:46 pm
โดย ก้อนหิน
สำหรับผม หาหุ้นที่ Five Force ยอดเยี่ยม ทั้ง ห้าด้านนี่ยากทีเดียวครับ

โดยส่วนตัวผมใช้ Five Force ความสามารถ และ ความเสี่ยงของบริษัทมากกว่าครับ

ถ้าบริัษัท เสี่ยงที่จะมีสินค้าทดแทน เราก็ต้องเฝ้าระวังว่า สินค้าทดแทนเหล่านั้นเข้ามาแล้วหรือยัง อะไรทำนองนี้อะครับ

วิเคราะห์ Five Forces ของ Porter ถ้าขาดข้อใดไปข้อนึง

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 27, 2008 10:59 pm
โดย Little Boy
คล้ายๆ คุณก้อนหินครับ สำหรับข้อที่ผมจะพิจารณาเป็นพิเศษ

บริษัท มีสินค้าทดแทนหรือไม่
การป้องกันการเข้ามาของคู่แข่งทำได้ระดับใด
2 ข้อนี้ จะให้น้ำหนักสูง ถ้าออกมาแย่ก็คงปล่อยไป

ส่วนอำนาจการต่อรองของผู้ซื้อ และ ผู้ขายนั้น ถ้ามีก็ถือว่าเยี่ยมครับ

วิเคราะห์ Five Forces ของ Porter ถ้าขาดข้อใดไปข้อนึง

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 02, 2008 2:33 am
โดย Coin Flipper
Model นี้เป็น model ที่ผมชอบมาก มันเหมือนการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ แต่ที่จริงแล้วมันมาเกี่ยวโยงกับการวิเคราะห์เชิงปริมาณ อย่างอัศจรรย์

ลองดูสมการง่ายๆ

กำไร = ( ราคาขายต่อหน่วย - ต้นทุนต่อหน่วย) X จำนวนที่ขายได้

แล้วมาเชื่อมโยงกับ Five Force

1. Rival competition     ทำให้ราคาขายลดลง ต้นทุนสูงขึ้น
2. Barrier to entry        ทำให้ราคาขายลดลง จำนวนขายลดลง
3. Subtitute product    จำนวนขายลดลง ราคาขายลดลง
4. Power of buyer        ราคาขายลดลง
5. Power of supplier     ต้นทุนต่อหน่วยเพิ่มขึ้น

จะเห็นว่าถ้าขาดข้อใดข้อหนึ่งก็จะทำให้กำไรลดลงหมด แต่ถ้าจะหาบริษัทที่สมบูรณ์ทั้ง 5 ด้านเป็นไปไม่ได้
ดังนั้น จึงต้องหาบริษัทที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ทำให้ได้กำไรมากที่สุด