Thai VI

ณ วันนี้ถ้าเราคาดการณ์ EPS สิ้นปีของปี 2551 ได้ 0.5 บาท  แล้ว P/E ที่ผ่านมาก็เฉลี่ยประมาณ 10-15   เราก็เลยจะซื้อที่ราคา p/e ไม่แพงกว่า 15 เท่า  ดังนั้นราคาที่เราจะเข้าซื้อต้องไม่เกิน 7.5  บาท  และถ้าเจอราคาต่ำกว่า 7.5 ลงมาเราเลยซื้อไว้   อยากทราบว่า คิดด้วย eps และ p/e แบบนี้ เป็นวิธีที่ถูกหลักมั้ยครับ  เพราะเราใช้ eps ที่ยังมาไม่ถึง (ในอนาคต) แต่ p และราคาที่เราเข้าซื้อเป็นราคาปัจจุบัน

อ้าว... แล้วทำไมรอซื้อที่ PE = 10 เท่าล่ะคร้าบ...
PE = 10 เท่า P = 5 บาท แต่ PE = 15 เท่า P = 7.5
ต่างกันเยอะนา... เหตุผลอะไรครับ ที่จะควักกะรเป๋าจ่ายเงินซื้อ
ที่ PE = 15 เท่า แทนที่จะเป็น 10 เท่า และเหตุผลอะไรครับ
ที่จะยอมควักกระเป๋าจ่าย หุ้นละ 7.5 บาท แทนที่จะเป็นหุ้นละ 5 บาท
แหะๆ เข้ามาร่วมแชร์ความเห็นเฉยๆ คร้าบ ...

อ่อ ผมสมมติน่ะครับ ว่าเป็น 15 เท่า  ติ๊งต่างอ่ะครับ แต่ประเด็นผมก็คือว่า เราควรเอากำไรต่อหุ้นปี 2550 มาเป็นฐานในการคิด P/e เพื่อเข้าซื้อ ณ ต้นปี 2551  หรือว่า  ใช้กำไรต่อหุ้น 2551 ที่คาดการณ์ไว้ ในการเข้าซื้อ ณ ต้นปี 2551 น่ะครับ คิดไปคิดมาก็เลยสับสนน่ะครับ

ขอเสริมครับว่าก่อนซื้อควรมี mos พอสมควรจากราคาที่เราคำนวณได้ครับ ประมาณว่าถ้าได้ราคาที่ 7.5 เราควรเผื่อไว้สัก30 เปอร์เซ็นต์ครับเป็น 7.5/1.3=5.78 ครับผม เผื่อมีรายละเอียดตรงไหนที่เราพิจารณาไม่ครบ และ เกิดปัญหาขึ้นครับผมจะได้ไม่เสียหายมาก

กำไรปี 51 สิครับ เราลงทุนอนาคต เราไม่ได้ลงทุนอดีต

สมมุติว่าบริษัททำงานประมูล
ปี 50 ได้งานเยอะ กำไรดี 1 บาทต่อหุ้น ราคาอยูที่ 15 บาท
ปีต่อมางานประมูลงานไม่ ได้เลย กำไร เหลือ 0.5 บาท
หุ้น พีอี กลาย เป็น เท่าไหร่ ละครับ

u'd better refer to book name ''investing like John Neff'' in Thai edition.This book explains all about PE as he is a VI who oftenly buys low P/E stock.

การซื้อหุ้นที่ PE ต่ำเป็นหลักการที่มีเหตุผลครับ
แต่ปัญหาของการใช้หลักการนี้ ก็คงเหมือนกันหลักอื่นๆ  ทั่วไปในชีวิตของเรา
นั่นคือ อย่ายึดตายตัวตามทฤษฎี

แม้ว่าหุ้นโดยทั่วไปเราพอประมาณ PE เฉลี่ยได้ แต่ปัญหาอยู่ที่การประเมิน EPS ครับ ว่าจะเอาเท่าไรมาหาร ราคาดี
การนำ EPS ปีก่อนมาหารก็ไม่ถูกต้อง ต้องเอา EPS ปีที่กำลังจะเกิด

สิ่งที่ทำให้นักลงทุนแนว PE ต่ำประสบความสำเร็จแตกต่างกัน
จึงอยู่ที่การวิเคราะห์และประเมิณ EPS ว่าใครทำได้ใกล้เคียงกว่ากัน

การจะประเมิณ EPS ได้แม่นยำไม่ใช่แค่ดูตัวเลขนะครับ มันอยุ่ที่การประเมินพื้นฐานของธุรกิจ ความสามารถทางการแข่งขัน ภาวะ ผู้บริหาร ปัจจัยต่าง ๆ มากมายเหลือเกิน เรียกได้ว่า คุณต้องทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของธุรกิจเลยทีเดียว

ผมจึงทึ่งพี่ ๆ และ เพื่อน ๆ หลาย ๆ ท่านใน TVI นี้ที่เป็นสุดยอดนักวิจัยวิเคราะห์ ที่เจาะลึกข้อมูลของธุรกิจที่ตนสนใจได้อย่างลึกซื้ง ละเอียดถี่ยิบ อย่างน่าทึ่ง

แต่อย่าลืมนะครับ
ศัตรูของเราคือความมั่นใจในตนเอง หลาย ๆ ครั้งผมก็งงว่า ทำไมเราถึงมั่นใจว่าเราจะประเมิน EPS ถูกและกล้าใช้เงินเป็นแสนลงทุนในบริษัทนั้น ทั้ง ๆ ที่งานประจำของเรา ยอดขายของบริษัทในเดือนหน้า เราเองยังไม่กล้าฟันธงเลย ทั้ง ๆ ที่เรามีข้อมูลตลาดทุกอย่าง

คิดแล้วก็แปลกดีนะครับ

มูลค่าของ Asset ขึ้นอยู่กับ Expectation ครับ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอดีตที่ผ่านมา ดังนั้นควรใช้ PE ในอนาคตที่คาดกัน อาจจะเป็นค่าเฉลี่ยของ Copncensus ก็ได้ Save ดี
ซึ่งไม่ใช่ว่า ใครประเมิน EPS แม่นแล้วจะแนะนำถูกเสมอไป แต่ขึ้นอยู่กับ มีคนเชื่อเยอะแค่ไหนกับ ค่า EPS นั้นๆ