Thai VI

มีคำถาม 2 ข้อ น่ะครับ  
1.  ถ้าผมเริ่มลงทุนด้วยเงิน 1 แสนบาท  ไปซื้อหุ้น 3 ตัวรวมกัน 70000บาท เหลือเงินสด 30000 บาท  
2.   มีเงิน 1 แสนบาท เอาไปซื้อหุ้น 3 ตัว 70000 บาทครั้งแรก เหลือเงินสด 30000 บาท  แล้วซื้อๆขายๆ ได้กำไรก็เอามาซื้อลงทุนอีก จนปัจจุบันก็มีหุ้น 3 ตัวเท่าเดิม แต่ปริมาณ และราคาเปลี่ยนไป  และเงินสดคงเหลือก็ยังมี 30000 บาทเท่าเดิม  อยากทราบว่า 2 วิธีนี้ คิดผลตอบแทนวิธีเดียวกันได้มั้ยครับ

ถ้าเราวางแผนจะเก็บไว้ 30 ก็นับครับ ตามตำราถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของ port สินทรพย์เราเอง

แต่ในใจ เราอาจจะไม่นับเงินสดเวลาไปคิด ผลตอบแทนก็ได้ครับ แล้วแต่ว่าเราอยากวัดอะไรบ้าง

ถ้าเป็นเงินสดในพอร์ตลงทุน เงินสดผมก็คิดรวมครับ ...

ผมคิดว่าควรนำเงินสดในพอร์ตมาคิดด้วยเสมอครับ เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนของเราด้วย เช่น อาจเก็บเอาไว้ช่วยหมุน หรือเอาไว้เป็นกระสุนสำรอง ดังนั้น 2 วิธีของคุณ Livingman สามารถคิดผลตอบแทนแบบเดียวกันได้

ผมว่าเราต้องซื่อสัตย์กับตัวเราเอง เนื่องจากพอหุ้นตก เราก็เอาเงินสดจำนวนนี้ไปช้อนซื้อ แล้วทำกำไรมากๆ เรายังนำกำไรที่ได้ มาคิดเป็นผลตอบแทนเราเลยนี่นา

ผมนับรวมครับ เพราะบางครั้งการถือหุ้นเต็มพอร์ทก็ทำให้เสียโอกาสช้อนหุ้นในยามที่แดงเดือด การถือเงินสดจึงเหมือนการตัดสินใจอย่างหนึ่งในการลงทุน เพื่อที่จะรับของถูก

ถ้าเงิน 1 แสนแยกออกมาเพื่อใช้ลงทุนเลย ก็ต้องเอามาคิดรวมด้วย เพราะถือเป็นพอร์ทการลงทุนของเรา

แต่ถ้า 1แสน ไม่ได้แบ่งเงินมาลงทุนแน่นอน เช่น ซื้อหุ้น 70 เหลือ 30 เอาไปจ่ายค่าเช่าหอ พอหาเงินมาได้ใหม่ก็มาซื้อหุ้น (คือพอร์ทหุ้น กับบัญชีส่วนตัวไม่ได้แยกออกจากกัน) ก็ไม่ควรเอาเงินสดมาคิด

แต่แบบหลังจะคิดผลตอบแทนลำบากหน่อย อาจคิดเหมือนกองทุนรวมก็ได้ คิดเป็นมูลค่า NAV

ตามอ่านต่อได้ใน
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... A%E1%B7%B9

ก็อย่างที่พี่ๆข้างบนว่ามาครับ

ผมจะแบ่งเงินสดทั้งหมดที่ผมมีเป็น 2 ส่วนคือ

1.ลงทุน

2.ใช้จ่าย

โดยเงินทั้ง 2 ส่วน ตัดขาดจากกันเด็ดขาดครับ ดังนั้นเงินในส่วนที่จะใช้ลงทุนก็คือส่วนนึงของ พอร์ต การลงทุนด้วยเช่นกัน เวลาคำนวนผลตอบแทนก็จะนับรวมเงินสดในส่วนแรกด้วยครับ