Thai VI

ถ้าบริษัทมีกำไร 10 บาทต่อหุ้น  แล้วเราซื้อที่ราคา 50 บาท  P/E 5 เท่า

หมายความว่าอย่างไรครับ

ผมมักจาคิดว่าซื้อหุ้นตัวนี้มาในราคา 40 บาทครับ (โดยเฉพาะธุรกิจที่มีรายได้เป็นเงินสด)
ผิดหรือถูก ม่าย...รุ ...

ไม่มีความหมาย

ตอนคุณ ฉัตรชัย ซื้อ wg ตอนนั้น pe เท่าไรครับ อยากรู้

จำได้ว่าซื้อประมาณ 10 บาท ใช่หรือไม่ครับ

แล้ว เมื่อเวลาผ่านมา การที่ wg มีกระแสเงินสดเยอะมาก และมีอัตรากำไร โตขึ้นด้วย เมื่อเวลาผ่าน มา ได้ทุนคืน เร็วกว่า ตอนที่ซื้อ เท่าไรครับ อยากรู้อีกเหมือนกัน

หมายความว่ากำไร 20% เมื่อเทียบกับราคาที่เราจ่ายไป

หมายความว่าคืนทุนภายใน5ปี

หมายความว่าถ้าบริษัทแค่รักษากำไรไว้ได้เท่าเดิมก็จะได้เงินคืนภายใน 5 ปี

แต่ส่วนใหญ่หุ้น PE ต่ำ มักจะเป็นหุ้นที่รักษากำไร หรือการโตไว้ไม่ค่อยจะได้ ส่วนหุ้นที่รักษาได้ ส่วนใหญ่ PE จะสูง

แต่ถ้า เราเจอหุ้น PE 5 และแน่ใจว่ากำไรต้องโตอย่างยั่งยืนอีกอย่างน้อย 5 ปี


ซื้อโลดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ทำไมหุ้นโรงกลั่นถึงมีPEไม่ค่อยสูง

Tamจัง เขียน:หมายความว่าคืนทุนภายใน5ปี

เป็นคำอธิบายที่เข้าใจง่าย  และถูกใช้อธิบายทั่วไป

แต่ผมมักไม่เข้าใจ

เวลาเราลงทุนเราจ่ายเงินสดลงทุน แต่เวลากำไรบริษัทไม่ได้จ่ายเงินสดให้เราเท่ากับกำไรนะครับ  แล้วเราจะคืนทุนได้ไง  กำไรที่บริษัทได้อาจอยู่ในรูปเครื่องจักรที่พร้อมจะเสื่อมค่า

เวลาเราพิจารณาโครงการลงทุน  เรามักจะคิดจาก  กระแสเงินสดจ่าย  เทียบกับ  กระแสเงินสดรับ

pipat66 เขียน:ทำไมหุ้นโรงกลั่นถึงมีPEไม่ค่อยสูง

แล้วถ้าเทียบ ราคา กับ กระแสเงินสดอิสระ ละครับ  สูงไหม?

ถ้าให้เดา  ก็เป็นเพราะ  รายได้และผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงกลั่นไม่แน่นอน  มีความผันผวนมาก  และช่วงนี้เป็นช่วงที่ดีสำหรับธุรกิจโรงกลั่นหรือเปล่าครับ

newbie_12 เขียน:หมายความว่าถ้าบริษัทแค่รักษากำไรไว้ได้เท่าเดิมก็จะได้เงินคืนภายใน 5 ปี

แต่ส่วนใหญ่หุ้น PE ต่ำ มักจะเป็นหุ้นที่รักษากำไร หรือการโตไว้ไม่ค่อยจะได้ ส่วนหุ้นที่รักษาได้ ส่วนใหญ่ PE จะสูง

แต่ถ้า เราเจอหุ้น PE 5 และแน่ใจว่ากำไรต้องโตอย่างยั่งยืนอีกอย่างน้อย 5 ปี


ซื้อโลดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ถ้าเป็น P/E 6 เท่า  ไม่มีหนี้เงินกู้  เงินสดท่วมบริษัท  และโตมาแล้ว 7 ปีติดต่อกันละครับ  สนใจไหม   :lol:     :lol:

nathapon_m เขียน:หมายความว่ากำไร 20% เมื่อเทียบกับราคาที่เราจ่ายไป

ผมไม่แน่ใจว่า  กำไร  กับ  ผลตอบแทน  จะเหมือนกันไหม

Jeng เขียน:ตอนคุณ ฉัตรชัย ซื้อ wg ตอนนั้น pe เท่าไรครับ อยากรู้

จำได้ว่าซื้อประมาณ 10 บาท ใช่หรือไม่ครับ

แล้ว เมื่อเวลาผ่านมา การที่ wg มีกระแสเงินสดเยอะมาก และมีอัตรากำไร โตขึ้นด้วย เมื่อเวลาผ่าน มา ได้ทุนคืน เร็วกว่า ตอนที่ซื้อ เท่าไรครับ อยากรู้อีกเหมือนกัน

ตอนซื้อ  P/E ก็ประมาณ 6 เท่าครับ  ซื้อราคาประมาณ 13 บาทกว่าๆ  ได้รับเงินปันผลรวมเงินเครดิตภาษีด้วยแล้ว  น่าจะคืนทุนไม่แน่ใจว่าปีที่แล้วหรือปีนี้  ถ้าคิดระยะเวลาที่ลงทุนก็ประมาณ 5 ปี ถึง 6 ปี ครับ

ส.สลึง เขียน:ผมมักจาคิดว่าซื้อหุ้นตัวนี้มาในราคา 40 บาทครับ (โดยเฉพาะธุรกิจที่มีรายได้เป็นเงินสด)
ผิดหรือถูก ม่าย...รุ ...

ผมเคยได้ยินแต่เวลาลงทุน

บริษัทที่มีเงินสดสุทธิประมาณ 20 บาท  ราคาหุ้น 70 บาท  ก็จะคิดว่าซื้อหุ้นบริษัทนี้มาในราคา 50 บาท

หมายความว่า กำไรปีนี้จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 บาทต่อหุ้น (เพราะถ้ามองว่ากำไรลดลงคุณก็คงไม่ซื้อ) เช่น 12 บาท และราคาในตลาดคาดหวังว่าจะขึ้นเป็น 60 บาทเป็นอย่างน้อย ถ้าตลาดมองว่าหุ้นตัวนี้ควรซื้อขายที่ PE 5 เท่า

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า  ตลาดจะให้ P/E เท่าไร 5 เท่าเหมือนเดิม  หรือจะลดเป็น 4 เท่า  หรือเพิ่มเป็น 6 เท่า

ถ้าตลาดให้ PE 4 เท่า การขาดทุนก็จำกัดเพราะ EPS เพิ่มขึ้น ราคาตลาดก็ไม่แตกต่างจากต้นทุน หรือ เรียกง่ายๆว่าเป็นกันชนจาก EPS ที่เพิ่มขึ้น และถ้า PE 3 เท่า ก็ต้องซื้อเพิ่ม เพราะบริษัทไม่มีหนี้สินและเงินสดล้นมือ = dividend yield สูงไม่ต่ำกว่า 15% ต่อปี

ถ้าตลาดให้ PE => 5 เท่า หมายความว่ากำไร

เราไม่สามารถกำหนดได้ว่าตลาดจะให้ PE เท่าไหร่ ยิ่งให้ต่ำ ของดียิ่งน่าซื้อ

brighty girl เขียน:ถ้าตลาดให้ PE 4 เท่า การขาดทุนก็จำกัดเพราะ EPS เพิ่มขึ้น ราคาตลาดก็ไม่แตกต่างจากต้นทุน หรือ เรียกง่ายๆว่าเป็นกันชนจาก EPS ที่เพิ่มขึ้น และถ้า PE 3 เท่า ก็ต้องซื้อเพิ่ม เพราะบริษัทไม่มีหนี้สินและเงินสดล้นมือ = dividend yield สูงไม่ต่ำกว่า 15% ต่อปี

ถ้าตลาดให้ PE => 5 เท่า หมายความว่ากำไร

เราไม่สามารถกำหนดได้ว่าตลาดจะให้ PE เท่าไหร่ ยิ่งให้ต่ำ ของดียิ่งน่าซื้อ

ผมไม่ได้บอกเลยว่า  บริษัทจะมีกำไรเพิ่มขึ้น  บริษัทไม่มีหนี้สิน  เงินสดล้นมือ  และก็ไม่ได้บอกว่าจ่ายปันผลเท่าไร

ผมเพียงแต่ให้ข้อมูลว่า

chatchai เขียน:ถ้าบริษัทมีกำไร 10 บาทต่อหุ้น  แล้วเราซื้อที่ราคา 50 บาท  P/E 5 เท่า

หมายความว่าอย่างไรครับ

chatchai เขียน:

ตอนซื้อ

อีกอย่าง

ตกลงเรียกว่าให้ดูกระแสเงินสดดีกว่าดูกำไร รึเปล่าครับ

สอนเลยครับพี่  

frontosa เขียน:

ตอนซื้อ

ขอตอบมั่งครับ

มันเป็นแค่สมการทางคณิตศาสตร์ว่า ราคาเท่ากับ 50 กำไรเท่ากับ 10 ราคาหารกำไร (PE) คือ 5

คือการเอากำไรที่เกิดขึ้นไปแล้ว มาเทียบกับราคาที่เราจะซื้อตอนนี้

แต่ที่อ่านมาพี่ฉัตรชัยหมายถึงว่า เราจ่ายไป 50 บาท แต่ที่เราได้รับกลับมามันไม่ใช่ E ที่เท่ากับ 10

ฉะนั้นเวลาคำนวนผลตอบแทนที่ได้รับ และราคาที่ควรซื้อ ควรเทียบกับเงินสดที่ได้รับจริงๆ จากปันผล และส่วนต่างเมื่อขายหุ้น ใช่ป่าวครับ

สมองน้อยๆยังคิดไม่ออกครับ  ว่าพี่ฉัตรชัยกำลังสอนอะไร

ตามดูดความรู้ต่อครับ

[quote="chatchai"]ถ้าบริษัทมีกำไร 10 บาทต่อหุ้น

เอามาจาก ดร นิเวศน์ครับ

นี่ก็คือเรื่องของค่า  PE  ของหุ้น    นั่นหมายความว่า   หุ้นที่โตเพราะอ้วนนั้น  ค่า PE  อาจจะให้ได้ไม่เกิน 5-10 เท่า   ในขณะที่ค่า PE  ของหุ้นที่โตเพราะสูงอาจจะให้ค่า PE  ได้ถึง 10-15 เท่า    เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ  ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของศิลปะของนักลงทุนแต่ละคน   ข้อเตือนใจสุดท้ายของผมก็คือ  จงระวังหุ้นอ้วน

PE 5 ตรงนี้ไม่รู้เข้าข่ายหุ้นอ้วนหรือปล่าวครับ

[quote="phobenius"]เอามาจาก ดร นิเวศน์ครับ

นี่ก็คือเรื่องของค่า

นี่ไง หุ้น pe 6 ที่กระแสเงินสดยืนยัน ว่า ได้รับ ทุนคืนจริงๆ ในระยะเวลา 5-6 ปี

แต่คำถาม ถ้าหลังจากซื้อแล้ว wg เจอวิกฤติอะไรบางอย่าง ระหว่าง 5-6 ปี นั้น แล้วทำให้กำไรลดมหาศาล

การดูกระแสเงินสด ประกอบ pe อาจจะไม่พอก็ได้

wg น่าจะมีอะไรมากกว่า pe ต่ำ กระแสเงินสด สูง ถึงทำให้คุณฉัตรชัย คืนทุนได้ ในระยะเวลา 5-6 ปี

อย่างไรก็ตามก็มีหุ้นที่กิจการดีๆ pe สูง กระแสเงินสดต่ำ แต่ เนื่องจากธุรกิจ พลิกสถานการณ์อย่างหน้ามือเป็นหลังมือ เช่น psl atc ( เดิม ) และอื่นๆ ก็ทำกำไร ให้ผู้ถือหุ้น เกินจาก pe ที่ซื้อด้วยซ้ำไป

ผมว่าค่า P/E เป็นอะไรที่ดูง่ายเข้าใจง่าย
ในขณะที่ตัวแปรอื่นๆคงที่ ก็หมายความว่า หากคุณลงทุนไป50บาท
บริษัทนั้นสามารถทำกำไรได้ 10บาทต่อปี หากยังเป็นอย่างนั้นต่อไปเรื่อยๆ
ภายใน5ปีบริษัทก็สามารถทำกำไรได้เท่ากับทุนที่ลงไปแล้ว

เหมือนเวลาทำธุรกิจอะไรสักอย่างเราก็จะมองก่อนว่าคืนทุนภายในกี่ปีน่ะครับ
ประมาณว่ายิ่งคืนทุนเร็วก็ยิ่งเซฟ หลังจากนั้นก็เป็นช่วงทำกำไรแล้ว

โดยไม่ได้ดูเรื่องของกระแสเงินสดหรือค่าเสื่อม หรือศักยภาพที่บริษัทจะคงกำไรไว้ได้
ที่10บาทนานแค่ไหน ซึ่งเรื่องพวกนั้นส่วนใหญ่ผมจะดูหลังจาก P/E

[quote="poppo"][quote="phobenius"]เอามาจาก ดร นิเวศน์ครับ

นี่ก็คือเรื่องของค่า

frontosa เขียน: ว่าแต่ทำไม PE มันไม่เคยไปไหนเลย แปลก

เพราะหุ้นมีความเสี่ยงสูง นอกเหนือไปจากที่เราเห็นคนวิเคราะห์หุ้นกันในบอร์ดนี้ ทั้งความสามารถในการแข่งขัน ทั้งผลประกอบการ อีกข้อหนึ่งคือสภาพคล่องของหุ้น

เหตุการณ์เร็วๆนี้ คงสามารถชี้อะไรบางอย่างได้ ที่มีผู้ถือหุ้นอยากขาย เอามาวาง offer ไม่เกินห้าแสนหุ้นมั่ง กว่าจะขายได้หมด คนขายคงลุ้นนานเลย นี่ขนาดเหตุการณ์ที่ไม่ถึงกับแย่มาก

ถ้าเป็นเหตุการณืที่แย่กว่านี้ ก็ไม่รู้เลยว่า ราคาที่อยู่บนกระดาน จะเป็นราคาที่เราขายได้จริงหรือเปล่า

อันนี้พูดถึงหุ้นที่สภาพคล่องต่ำๆโดยทั่วไปนะ เพียงหยิบเหตุการณืเร็วๆนี้มาเป็นตัวอย่าง