เกณฑ์ใหม่สุดชิวชิวหุ้นเทิร์นโอเวิร์ลิส
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ค. 22, 2008 2:06 pm
เกณฑ์ใหม่สุดชิวชิวหุ้นเทิร์นโอเวิร์ลิส
ตลาดฯปรับเกณฑ์ซื้อขายหุ้น จับหุ้นมี Turnover ratio เกิน 50% พีอีมากกว่า 50
เท่า หรือขาดทุน มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 100 ล้านบาทขึ้นไป หากเข้าข่ายให้วางcash balanceซื้อหุ้นวันแรกของสัปดาห์เริ่มใช้ 1 ก.ค.นี้ เผยเกณฑ์ใหม่ไม่เข้มงวดจริง
นายสุภกิจ จิระประดิษฐกุล ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ข้อสรุปการพิจารณาเกณฑ์ใหม่ในการเพื่อสกัดกั้นความร้อนแรงของหลักทรัพย์บางตัวที่มีซื้อขายหมุนเวียนสูง(Turnover List) ซึ่งอยู่ในรายชื่อของ ก.ล.ต.โดยจะนำวิธีการกำหนดการซื้อขายหลักทรัพย์แบบบัญชีเงินสด(cash balance) เหมือนการซื้อหลักทรัพย์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต
ทั้งนี้หลักเกณฑ์การดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีการปรับปรุงใหม่ ได้กำหนดให้หลักทรัพย์ที่มีอัตราการซื้อขายหมุนเวียนสูงที่เข้าข่ายรายชื่อหลักทรัพย์ตามเกณฑ์เทิร์นโอเวอร์ลิสต์(Turnover List) ของสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งครอบคลุมหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญ(Warrant) และมีลักษณะเพิ่มเติมตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯกำหนด
เป็นหลักทรัพย์ที่บริษัทสมาชิกต้องให้ลูกค้าวางเงินสดไว้ล่วงหน้าเต็มจำนวนก่อนที่จะซื้อหลักทรัพย์นั้น(บัญชี Cash Balance) เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 รอบการประกาศรายชื่อหรือจนกว่าหลักทรัพย์นั้น ๆ จะพ้นจากรายชื่อหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด แทนการใช้มาตรการ
ห้ามซื้อขายแบบ Net Settlement และ Margin Trading สำหรับลักษณะเพิ่มเติมที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด มีดังนี้ สำหรับบัญชีแคชบาลานซ์ (Cash Balance) หมายถึง การที่ลูกค้าวางเงินสดไว้ล่วงหน้ากับสมาชิกเต็มจำนวนที่จะซื้อหลักทรัพย์ก่อนการซื้อหลักทรัพย์ หรือมีข้อตกลงให้สมาชิกหักเงินตามคำสั่งของสมาชิกในบัญชีเงินฝากของลูกค้าที่ฝากเงินไว้เต็มจำนวนที่จะซื้อหลักทรัพย์ก่อนการซื้อหลักทรัพย์ หรือโอนเงินค่าขายหลักทรัพย์เข้าบัญชีดังกล่าว
โดยจะมีวิธีคิดคำนวณดังนี้ 1. กรณีเป็นหุ้นสามัญในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จะต้องมี Turnover ratio มากกว่าหรือเท่ากับ 50 %และ P/E ratio มากกว่าหรือเท่ากับ 50 เท่าหรือขาดทุน และมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันมากกว่าหรือเท่ากับ 100 ล้านบาท
2. กรณีเป็นใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญ (Warrant) ต้องมี Turnover ratio มากกว่าหรือเท่ากับ 100% และมี % Premium หรือมีอัตราความยากในการใช้สิทธิมากกว่าหรือเท่ากับ 20%ของราคาหลักทรัพย์อ้างอิง และมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันมากกว่าหรือเท่ากับ 100 ล้านบาท
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นรายสัปดาห์ในวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์หรือ วันศุกร์หลังจากที่สำนักงาน ก.ล.ต. ประกาศรายชื่อ Turnover List
บนเว็บไซต์ของสำนักงานก.ล.ต. www.sec.or.th แล้ว โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ที่ต้องซื้อขายในบัญชีCash Balance หลังตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดทำการซื้อขายผ่านระบบ SET smart โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันทำการถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
สำหรับเกณฑ์ดังกล่าว ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติ โดยจะมีการนำหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน เปิดเผยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบล่วงหน้า เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของผู้ลงทุน และระบบการซื้อขายโดยรวม
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เผยแพร่ประกาศแนวทางดังกล่าวแก่บริษัทสมาชิกในวันนี้ และจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2551 เป็นต้นไป โดยในระหว่างนี้ขอให้บริษัทสมาชิกทำความเข้าใจกับผู้ลงทุนเกี่ยวกับแนวทางดังกล่าวอย่างทั่วถึง
นายสุภกิจ กล่าวว่า เกณฑ์ดังกล่าวคงไม่กระทบต่อบรรยายกาศการลงทุน โดยเฉพาะปริมาณการซื้อขายที่เป็นแบบหักลบกลบภายในวันเดียวกัน เนื่องจากการที่นักลงทุนจะซื้อหุ้นตัวใดก็ตาม คงต้องมีเงินอยู่แล้ว ถ้าไม่มีเงินก็คงจะไม่กล้าซื้อหุ้น
แหล่งข่าวจากนักลงทุน กล่าวว่า เกณฑ์ใหม่ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯออกมา โดยให้วาง cash balance กับหลักทรัพย์ที่มีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ คงไม่ส่งผลกระทบต่อบรรยายกาศการลงทุน เพราะเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 50:50 ถือเป็นเกณฑ์ที่จะมีหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายน้อยมาก เผลอๆ อาจจะไม่โดนด้วยซ้ำ
"เห็นได้ชัดว่าเกณฑ์ใหม่ที่ออกมาไม่ได้มีอะไรน่ากลัว เหมือนอย่างที่ขู่ไว้ตอนแรก เพราะดูแล้วการที่รอบหมุนเวียน 50% หรือพีอีเกิน 50เท่า ในระหว่างสัปดาห์ คงจะเป็นไปได้ยาก ซึ่งถือว่าเป็นเกณฑ์ใหม่ที่มีความเข้มงวดน้อยกว่าเกณฑ์เดิมที่จะถอนออกไป"แหล่งข่าว
กล่าว
ทั้งนี้ถ้าหากหุ้นที่ขึ้นมาแต่ไม่มีวอลุ่ม ก็ไม่เข้าข่าย เนื่องจากรอบหมุนเวียนไม่ถึง 50% ของแต่ละสัปดาห์ ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าเกณฑ์ดังกล่าวไม่เข้มงวดเลย
---------------------
วันที่ 22 พ.ค. 2551 แสดงข่าวมาแล้ว 4ช.ม. 17นาที
http://www.kaohoon.com/pg.newspaper/fir ... ?cid=15514
ตลาดฯปรับเกณฑ์ซื้อขายหุ้น จับหุ้นมี Turnover ratio เกิน 50% พีอีมากกว่า 50
เท่า หรือขาดทุน มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 100 ล้านบาทขึ้นไป หากเข้าข่ายให้วางcash balanceซื้อหุ้นวันแรกของสัปดาห์เริ่มใช้ 1 ก.ค.นี้ เผยเกณฑ์ใหม่ไม่เข้มงวดจริง
นายสุภกิจ จิระประดิษฐกุล ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ข้อสรุปการพิจารณาเกณฑ์ใหม่ในการเพื่อสกัดกั้นความร้อนแรงของหลักทรัพย์บางตัวที่มีซื้อขายหมุนเวียนสูง(Turnover List) ซึ่งอยู่ในรายชื่อของ ก.ล.ต.โดยจะนำวิธีการกำหนดการซื้อขายหลักทรัพย์แบบบัญชีเงินสด(cash balance) เหมือนการซื้อหลักทรัพย์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต
ทั้งนี้หลักเกณฑ์การดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีการปรับปรุงใหม่ ได้กำหนดให้หลักทรัพย์ที่มีอัตราการซื้อขายหมุนเวียนสูงที่เข้าข่ายรายชื่อหลักทรัพย์ตามเกณฑ์เทิร์นโอเวอร์ลิสต์(Turnover List) ของสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งครอบคลุมหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญ(Warrant) และมีลักษณะเพิ่มเติมตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯกำหนด
เป็นหลักทรัพย์ที่บริษัทสมาชิกต้องให้ลูกค้าวางเงินสดไว้ล่วงหน้าเต็มจำนวนก่อนที่จะซื้อหลักทรัพย์นั้น(บัญชี Cash Balance) เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 รอบการประกาศรายชื่อหรือจนกว่าหลักทรัพย์นั้น ๆ จะพ้นจากรายชื่อหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด แทนการใช้มาตรการ
ห้ามซื้อขายแบบ Net Settlement และ Margin Trading สำหรับลักษณะเพิ่มเติมที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด มีดังนี้ สำหรับบัญชีแคชบาลานซ์ (Cash Balance) หมายถึง การที่ลูกค้าวางเงินสดไว้ล่วงหน้ากับสมาชิกเต็มจำนวนที่จะซื้อหลักทรัพย์ก่อนการซื้อหลักทรัพย์ หรือมีข้อตกลงให้สมาชิกหักเงินตามคำสั่งของสมาชิกในบัญชีเงินฝากของลูกค้าที่ฝากเงินไว้เต็มจำนวนที่จะซื้อหลักทรัพย์ก่อนการซื้อหลักทรัพย์ หรือโอนเงินค่าขายหลักทรัพย์เข้าบัญชีดังกล่าว
โดยจะมีวิธีคิดคำนวณดังนี้ 1. กรณีเป็นหุ้นสามัญในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จะต้องมี Turnover ratio มากกว่าหรือเท่ากับ 50 %และ P/E ratio มากกว่าหรือเท่ากับ 50 เท่าหรือขาดทุน และมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันมากกว่าหรือเท่ากับ 100 ล้านบาท
2. กรณีเป็นใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญ (Warrant) ต้องมี Turnover ratio มากกว่าหรือเท่ากับ 100% และมี % Premium หรือมีอัตราความยากในการใช้สิทธิมากกว่าหรือเท่ากับ 20%ของราคาหลักทรัพย์อ้างอิง และมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันมากกว่าหรือเท่ากับ 100 ล้านบาท
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นรายสัปดาห์ในวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์หรือ วันศุกร์หลังจากที่สำนักงาน ก.ล.ต. ประกาศรายชื่อ Turnover List
บนเว็บไซต์ของสำนักงานก.ล.ต. www.sec.or.th แล้ว โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ที่ต้องซื้อขายในบัญชีCash Balance หลังตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดทำการซื้อขายผ่านระบบ SET smart โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันทำการถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
สำหรับเกณฑ์ดังกล่าว ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติ โดยจะมีการนำหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน เปิดเผยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบล่วงหน้า เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของผู้ลงทุน และระบบการซื้อขายโดยรวม
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เผยแพร่ประกาศแนวทางดังกล่าวแก่บริษัทสมาชิกในวันนี้ และจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2551 เป็นต้นไป โดยในระหว่างนี้ขอให้บริษัทสมาชิกทำความเข้าใจกับผู้ลงทุนเกี่ยวกับแนวทางดังกล่าวอย่างทั่วถึง
นายสุภกิจ กล่าวว่า เกณฑ์ดังกล่าวคงไม่กระทบต่อบรรยายกาศการลงทุน โดยเฉพาะปริมาณการซื้อขายที่เป็นแบบหักลบกลบภายในวันเดียวกัน เนื่องจากการที่นักลงทุนจะซื้อหุ้นตัวใดก็ตาม คงต้องมีเงินอยู่แล้ว ถ้าไม่มีเงินก็คงจะไม่กล้าซื้อหุ้น
แหล่งข่าวจากนักลงทุน กล่าวว่า เกณฑ์ใหม่ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯออกมา โดยให้วาง cash balance กับหลักทรัพย์ที่มีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ คงไม่ส่งผลกระทบต่อบรรยายกาศการลงทุน เพราะเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 50:50 ถือเป็นเกณฑ์ที่จะมีหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายน้อยมาก เผลอๆ อาจจะไม่โดนด้วยซ้ำ
"เห็นได้ชัดว่าเกณฑ์ใหม่ที่ออกมาไม่ได้มีอะไรน่ากลัว เหมือนอย่างที่ขู่ไว้ตอนแรก เพราะดูแล้วการที่รอบหมุนเวียน 50% หรือพีอีเกิน 50เท่า ในระหว่างสัปดาห์ คงจะเป็นไปได้ยาก ซึ่งถือว่าเป็นเกณฑ์ใหม่ที่มีความเข้มงวดน้อยกว่าเกณฑ์เดิมที่จะถอนออกไป"แหล่งข่าว
กล่าว
ทั้งนี้ถ้าหากหุ้นที่ขึ้นมาแต่ไม่มีวอลุ่ม ก็ไม่เข้าข่าย เนื่องจากรอบหมุนเวียนไม่ถึง 50% ของแต่ละสัปดาห์ ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าเกณฑ์ดังกล่าวไม่เข้มงวดเลย
---------------------
วันที่ 22 พ.ค. 2551 แสดงข่าวมาแล้ว 4ช.ม. 17นาที
http://www.kaohoon.com/pg.newspaper/fir ... ?cid=15514