Thai VI

พวกทฤษฎี เทคนิคการวิเหราะห์ต่างๆ เช่นบอกเดี๋ยวหุ้นจะตกอะไรแบบนี้ มันเชื่อถือได้ขนาดไหนครับ

"ถ้าคิดว่าชะตาชีวิตถูกกำหนดอยู่ในลวดลายบนฝามือฉันใด...
Technical ก็สามาถคาดการณ์เส้นกราฟอนาคตของหุ้นได้ฉันนั้น"
นั่นคือความเห็นของผมครับ

เพราะที่ผ่านๆ มาผมยังไม่เคยเจอใครที่เป็น Techinical พันธุ์แท้เลยสักคน
แถมที่รู้จัก ยังใช้เครื่องมือหลายอย่างด้วยซ้ำ ซึ่งก็น่าจะพอพิสูจน์ได้ว่า...

ถ้าหลักการของ Techinical ถูกต้อง ทำไม Techinical ถึงต้องหยิบเครื่องมืออื่นไปใช้ครับ..?
เช่น วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานประกอบ, ตามข่าวตามหน้า นสพ. ฯลฯ

ทั้งๆ ที่ Techinical อาศัยหลักการที่ว่า...
อะไรๆ ก็สะท้อนอยู่ในกราฟหมดแล้ว..? ไม่เว้นแม้แต่อนาคต

ปล.
ขออภัยถ้าความเห็นของผมไปขัดแย้งผู้ใด ซึ่งท่านสามารถร่วมชี้แจงได้ครับ
ผมยินดีรับฟัง เพราะที่กล่าวมาล้วนเป็นมุมมองของผม ที่ไม่รู้เรื่อง Techinical เลย ...

bluecode เขียน:พวกทฤษฎี เทคนิคการวิเหราะห์ต่างๆ เช่นบอกเดี๋ยวหุ้นจะตกอะไรแบบนี้ มันเชื่อถือได้ขนาดไหนครับ

คำถามสั้นไป ยังกำกวมอะครับ

จะถามถึงทฤษฎีอะไร

ถามถึงการวิเคาระห์แบบไหน แนวไหน

....ชัดเจนอีกนิด น่าจะมีคนตอบง่ายขึ้นครับ

technical จะมีตัววัดหลายตัวเรียกว่ามีเป็น 100 indicators เลย
แต่ละ indicator ถูกพัฒนาขึ้นเพื่ออธิบายอนาคตโดยใช้ข้อมูลจากอดีตมาก
แต่ละ indicator ก็จะมีสูตรคณิตศาสตร์ของมันเอง
ที่นักวิเคราะห์พูดถึงแนวรับแนวต้านส่วนใหญ่แล้วจะอ้างถึงตัวเลข  ฟิโบนัคชีครับ (ที่เจอในหนัง da vinci code)


TECHINCAL ใช้ได้ผลในบ้างครั้งเพราะคนส่วนใหญ่จะเชื่อค่าพวกนี้ครับ ที่ใช้ไม่ได้ผลก็เกิดจากความกลัว (ทำให้ทะลุแนวรับ) ความโลภ (ทำให้ทะลุแนวต้าน)

หลายครั้งค่า พวกนี้สร้างได้ครับโดยสร้าง volume ซื้อขาย

สรุปแล้วเชื่อนักวิเคราะห์เฉพาะ ข้อมูลทั่วไปพอ ส่วนราคาต้องประเมินเองครับ

Glaxo เขียน:...TECHINCAL ใช้ได้ผลในบ้างครั้งเพราะคนส่วนใหญ่จะเชื่อค่าพวกนี้ครับ
ที่ใช้ไม่ได้ผลก็เกิดจากความกลัว (ทำให้ทะลุแนวรับ) ความโลภ (ทำให้ทะลุแนวต้าน)...

ถ้าใช้ได้ผลบางครั้ง แสดงว่ามันไม่ได้ผล จริงไหมครับ..?
ปล. ความคิดของผมช่างเป็นปรปักษ์กับ Technical เหลือเกิน

ใช้วิเคราะห์พฤติกรรมได้กับกลุ่มคนที่ไม่ศึกษาข้อมูลปัจจัยอะไรเลยก่อนซื้อขาย
ทำให้พฤติกรรมการซื้อขายของกลุ่มคนเหล่านั้นมีสาเหตุมาจากตัวเลขราคาเพียงอย่างเดียว

ผมขอยกตัวอย่างเล่นๆ ให้คุณ bluecode
อาทิตย์ที่ผ่านมามีหุ้นดังหลายตัว (เช่น หุ้น a (นามแฝง))
ถูกทุบราคาลงมาต่ำกว่าพื้นฐานพอควร
ชาว tvi หลายคนจดๆ จ้องๆ ตาเป็นมัน

ไม่กี่วันก่อนผลกำไรไตรมาสที่สองออกมาดีกว่าที่หลายๆคนคาด
และเนื่องจากหุ้น a เป็นหุ้นพื้นฐานดี ชาว tvi จึงแห่จองคิวซื้อกันอย่างคึกคัก

แต่หากดูกราฟ MACD ของหุ้น a จะเห็นว่าอยู่ในช่วงติดลบสุดขีด
(หมายถึงราคาน่าจะมีแนวโน้มลดต่อเนื่องลงไปอีก)
อนึ่ง กราฟ MACD ไม่มีความสนใจในผลประกอบการไตรมาสสองของหุ้น a
แต่อย่างใด

สิ่งที่เกิดขึ้น
- นักซื้อขายเก็งกำไรที่ดูเฉพาะราคาในแต่ละวัน และดูกราฟเชิงเทคนิกเช่น MACD
โดยขาดความเข้าใจในสมมติฐานของการวิเคราะห์เชิงเทคนิกและ
ความเข้าใจในพื้นฐานของหุ้นก็จะรีบขายเพราะกลัวว่าจะได้ราคาต่ำกว่าเดิม
- ชาว tvi ซื้อของถูกสนุกมือ

jung_dalglish เขียน:ผมขอยกตัวอย่างเล่นๆ ให้คุณ bluecode
อาทิตย์ที่ผ่านมามีหุ้นดังหลายตัว (เช่น หุ้น a (นามแฝง))
ถูกทุบราคาลงมาต่ำกว่าพื้นฐานพอควร
ชาว tvi หลายคนจดๆ จ้องๆ ตาเป็นมัน
...ชาว tvi ซื้อของถูกสนุกมือ

ระบุให้ชัดเลยดีไหมครับคุณ jung
แต่เอ่... ผมพลาดอะไรไปหรือเปล่าเนี่ย..?

กระซิบคุยกับคุณ ส.สลึง
ผิดพลาดเดี๋ยว

สำหรับผม Technical = Probability (ความน่าจะเป็น)
ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น

บางครั้งเหมือนกับ คนซื้อหวยที่ชอบบอกว่า
"แหม่ เลขนี้กะไว้อยู่แล้วเชียวว่าต้องออก"

จริงๆแล้ว Technical < Prob. ด้วยซ้ำ
เพราะเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องที่มีโอกาสเกิดขึ้นทั้งหมด
Techinal ไม่ได้เอามาคิด

TECHNICAL มักใช้ไม่ได้ผลกับหุ้นที่ volume น้อยครับ
เพราะ indicator หลายตัวมักเอา volume มาคำนวนด้วย