Thai VI

ผมรู้จักพี่ บู  เป็นชาววีไอคนแรก ของเวปแห่งนี้

เพราะว่า ไปทานจิบเบียร์ที่ กูดวิว ปีก่อนๆ

ีถามพี่บูว่า ถือหุ้นอะไรบ้าง  พี่บูบอกว่า ถือ BOL

ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร  

เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก

BOL ขึ้นจาก 6 บาท มา 1 ท่วมกว่าๆแล้ว...

พี่บู  กำไรน่าจะ 4 เด้งได้แล้ว...

ผมยัง  ได้แต่ชะเง้อ คอมองอย่างเดียว...

วันก่อน ไปนั่งฟัง ดร.นิเวศ วิจารณ์

ก็น่าสนใจ จริงๆครับ

หุ้นอะไรก็ไม่รู้  น่ารักน่าชัง

ธุรกิจ มีแต่ fixcost ไม่มี variable cost

หนำซ้ำ  เป็น blue ocean ได้นานมากๆ




เลยได้แต่มาถาม  มีธุรกิจ อะไรเข้าข่ายประเภทนี้บ้างครับ

1. ธุรกิจสัมปทานทั้งหลาย...  เช่น บันเทิง , สื่อสาร , เหมืองแร่

2. นึกไม่ออกครับ

ไม่รู้ว่าผมเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า

ยังไง ขอคำชี้แนะด้วยครับ

ถ้าจำไม่ผิดเคยอ่านงานเขียน ดร. เกี่ยวกับหุ้นสมปทาน ดร. จะมองว่าหุ้นสัมปทานเป็นหุ้นที่มีความไม่แน่นอนสูง (เป็นหุ้นตีแตกไม่ได้) รู้สึกจะยกตัวอย่าง itv ด้วยถ้าจำไม่ผิด และก่อนหน้านี้ ดร. ก็เคยชี้ให้ระวังเรื่องสัญญาสัมปทานข้อมูลของ BOL เหมือนกัน (รู้สึกจะงาน metting ล่าสุด และ งานวันเสาร์ที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมาด้วยครับ) ดูเหมือนคุณ crazyrisk ก็ไปงานวันที่3 เหมือนกันนะครับ
ปล. ผมมี bol อยู่ครับ

อยากเก็บเหมือนกันครับ BOL แต่ไม่เคยได้เก็บเสียที เมื่อไหร่จะโน้มกิ่งลงมาเราบ้างหนอ

[quote="crazyrisk"]ผมรู้จักพี่ บู

jojosati เขียน: ก่อนหน้านั้น 4-5 ปีก่อนตอนยังพัฒนาโปรแกรมไม่เสร็จ ไม่มีใครสนใจ BOL ยกเว้นพี่บู ราคาอยู่ที่ บาทกว่าๆ

model ที่เหมือนกับ BOL แต่ใหญ่กว่าหลายเท่า แนะนำ TRUE ครับ
แต่จะมีใครที่แน่วแน่อดทนรอได้เหมือนพี่บู

สามตัวนี้อนาคตดีแน่
TRUE internet
TRUE vision (ubc)
TRUE money
รอแต่ TRUE move

 :twisted:  :twisted:

TURE  หรือ ยังมองไม่ครบน่าครับพี่
เจ้ามือถือ TURE Move ต้องทำ 3G ภายในปีนี้น่าครับ ลงงบอีกหลาย
แล้วมี WIMAX แข่งอีกด้วย

TRUE Internet มีสายกับ WIFI ซึ่งรองรับมาที่สุด แต่ คู่แข่งเริ่มเป็น 3G กับ WIMAX มากินส่วนแบ่งได้น่าครับ ตอนนี้จำนวนรายที่ใช้งาน คุ้มค่าแล้วหรือยัง (ไม่มีรายงานออกมาให้อ่านกันน่าครับ)

TRUE Money เริ่มตั้งไข่ปีที่แล้ว ยังเห็นไม่ชัดเจนเท่า 7-11 ครับ อันนี้เห็นชัดเจนกว่า เจ้า บัตรสมาร์ทเพิร์ท

TURE Vision (UBC) อันนี้ต้องไปช่วยเหลือคนอื่นๆ ทำ ทูเก็ตเตอร์
ตอนนี้ promotion ซื้อจานดาวเทียมขนาดเล็กครับ

เห็นว่า TURE มันหลักไปทางด้านการลงทุนอีกมากมาย ถมยังไม่เต็มซักที
ต้องรออีก 1-2 ปี น่าครับ ว่าทิศทางมัน ok แค่ ทูเก็ตเตอร์หรือเปล่า
เพราะตอนนี้เริ่มเห็นว่า มาถูกทางแล้ว

ผู้อ่านอย่าเข้าใจผิดครับ  เรื่องทรูกับน้องBOL
อ่านในร้อยคนร้อยหุ้นประกอบด้วยครับ

บริษัทใหญ่  กับ  เล็ก
แนวทางมือถือ+พ่วงจาน+พ่วงเน็ต+พ่วงเกมส์+พ่วงหนัง+คาเฟ่  
สารพัดจะพ่วงกันเข้า

กับบริษัท  ขายข้อมูล  รับจ้างทวงหนี้

เห็นชื่อพี่ปรัชญา
นึกได้เลยว่า AS นั่นก็ value add เหมือนกับ BOL
เพียงแต่อายุของเกมส์มันสั้นกว่า value add ข้อมูล
ลูกค้าเป็นรายย่อย ต่างจาก BOL ที่ลูกค้าเป็นองค์กร

อย่าลืมธุรกิจขายกระดาษใบเสร็จ เล็กๆ ใบเดียวได้ 10-15 บาท
อย่างที่ 7-11 ทำ pay-point นะครับ
ไม่ต้องใช้พื้นที่ตั้งโชว์สินค้า มีคอมพิวเตอร์ออนไลน์เครื่องเดิม
ก็เพิ่มประเภทรายการรับชำระได้ไม่จำกัด แค่ upgrade software จากส่วนกลางด้วย

ยิ่งตอนนี้เติมเงินมือถือ ไม่ต้องใช้บัตรขูด พิมพ์เลขรหัสอยู่ในใบเสร็จ
ต้นทุนบัตรขูดพลาสติกหายไปทันที
ไม่ต้องมีสต๊อกบัตรเติมเงินแบ่งกระจายไปแต่ละสาขา
แต่ขอเลขรหัสเติมเงินจากสต๊อกของ server ส่วนกลาง
ไม่มีปัญหาบัตรเติมเงินของบางสาขาหมดไม่พอขายอีกต่อไปด้วย

พอดีไม่ได้ไปฟังเสวนา รบกวน พี่crazyrisk ช่วยบรรยายสรุปด้วยว่าดรนิเวศน์วิพากษ์  bol อย่างไร ขอบคุณครับ

เค้าว่าผู้บริหารทรู รับค่าจ้างสูงลิบ ถ้าลดลงได้นี่ ต้นทุนคงลดเยอะนะครับ

proxima เขียน:พอดีไม่ได้ไปฟังเสวนา รบกวน พี่crazyrisk ช่วยบรรยายสรุปด้วยว่าดรนิเวศน์วิพากษ์  bol อย่างไร ขอบคุณครับ

แหะๆ พอดีช่วงนั้น ผมเดินออกไปคุยกับเพื่อนข้างนอกครับ

สงสัยต้องรอท่านอื่นมาช่วยสรุปครับ

คือวันนั้น หลักๆ ผมเดินออกไปคุยกับ พี่นักวิเคราะห์จาก seamico เกี่ยวกับ เรื่องธุรกิจสื่อสาร

เซ็งเหมือนกันครับ

แกเดินออกจากเสวนา เรื่องสื่อสาร
ผมพยายามถามพื้นฐานของ TRUE

แต่ คนที่มุงอยู่ ก็ทำท่ารำคาญ

และก็ถามแทรก ขึ้นมาว่า

ตกลง   เจ๊ติด zmico ที่ xxx บาท .. จะทำไงดีอ่ะ...

ซื้อได้ยัง...  โอ..พระเจ้า เจ๊....

BHT เขียน:เค้าว่าผู้บริหารทรู รับค่าจ้างสูงลิบ ถ้าลดลงได้นี่ ต้นทุนคงลดเยอะนะครับ

เขาว่ากันว่า มี สองสิ่งที่ ทำไม่ได้คือ

1 พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก
2 คงเป็น  ข้อที่  พี่ BHT ถามมาเนี่ยแหละ

ผมว่าทรู ไม่ใช่ BOL ตัวถัดไปแน่ๆ(ลินท์บอกให้ระวัง Next of something แบบนี้แปลว่าซื้อได้  :lol: )

บริษัทที่ต้องลงเงินเพิ่มอีกเยอะ หนี้มหาศาล คงไม่ใช่เครื่องปั๊มแบงค์แบบ BOL แน่ๆ นอกจากนั้น ผมยังไม่เห็นความชัดเจนว่าการเหมาขายยกแพ็คของเขา จะแย่งลูกค้าในระดับมีนัยสำคัญต่อผลประกอบการได้ในอนาคต

ผมสน AS มากกว่า รอดูราคาอยู่

ในไทยเท่าที่คิดออกก็มี

National Credit Bureau (NCB)  
Counter Service (ลูกของ CPALL)

แต่ทั้งสองตัวยังไม่เข้าตลาดนิ  ถ้าเข้าตลาดละก็น่าสนมากครับ

สำหรับต่างประเทศ ที่มี model คล้าย ๆ ก็
Dun and Bradstreet
Master Card
Visa Card
Moody
S&P
Bloomberg
Reuter
Thomson
AC Neilsen
มีอีกมากเลยครับ

Thai insurer datanet บริษัทลูก THRE

AS

jojosati เขียน: สามตัวนี้อนาคตดีแน่
TRUE internet
TRUE vision (ubc)
TRUE money
รอแต่ TRUE move

ขออนุญาตคิดต่างหน่อยนะครับ

สำหรับคนที่ทำงานสายนี้
จะรู้ว่าพวกเครื่องมือไฮเทคพวกนี้
 เวลาซื้อเสร็จหันหลังให้ร้านขาย  ก็แทบจะตกรุ่นแล้วครับ
จากอนาล็อก  มา2จี  แล้ว3จี  
(4-5-6จีจะมาเมื่อไหร่คุณตอบได้ค่อยถือลงทุน)

แต่ละจีที่มาใช้เงินซื้อเครื่องมือเป็นหมื่นล้านบาทมั้ง

แต่ผมยอมรับเรื่องภาพพจน์ที่ดีของบริษัทเขาครับ  เยี่ยมแย่

อย่างทรูคอฟฟี่  มาอยู่ที่ต่างจังหวัดเหมือนเสือกระดาษจริงๆ

crazyrisk เขียน:
ธุรกิจ มีแต่ fixcost ไม่มี variable cost

ดียังงัยช่วยขยายความหน่อยครับ

หวยออนไลน์

adi เขียน: ดียังงัยช่วยขยายความหน่อยครับ

ต้นทุนที่คงที่คือ ต้นทุนการพัฒนาระบบ sofeware ต่างๆที่ใช้ขายให้กับบริษัท ธนาคารครับ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายครั้งเดียวครับ

ในขณะที่เวลามีลูกค้ามาใช้บริการมากขึ้นๆ ต้นทุนในของการให้บริการก็จะไม่ได้เพิ่มขึ้นตามยอดขายครับ

GeneraX เขียน: ต้นทุนที่คงที่คือ ต้นทุนการพัฒนาระบบ sofeware ต่างๆที่ใช้ขายให้กับบริษัท ธนาคารครับ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายครั้งเดียวครับ

ในขณะที่เวลามีลูกค้ามาใช้บริการมากขึ้นๆ ต้นทุนในของการให้บริการก็จะไม่ได้เพิ่มขึ้นตามยอดขายครับ

แล้วเวลาที่ยอดขายลดลงหล่ะครับ fixed cost ก็ไม่ได้ลดลงตามยอดขายด้วยใช่มั้ยครับ

adi เขียน: แล้วเวลาที่ยอดขายลดลงหล่ะครับ fixed cost ก็ไม่ได้ลดลงตามยอดขายด้วยใช่มั้ยครับ

ถูกต้องแล้วครับ แต่ว่า BOL ยอดขายน่าจะโตได้อย่างน้อยปีละ 15-20% ไปอีกหลายปี ทำให้ EPS น่าจะโตปีละ 30-40% อีกหลายปีเช่นกัน

ความเห็นส่วนตัวครับ

อธิบายเพิ่มหน่อยดีกว่า เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกัน

การที่เป็นธุรกิจที่มี fixed cost เป็นหลัก ไม่ได้หมายกความว่าดีครับ ดูพวกกลุ่มปิโตรซิครับ พอขาลง ดูไม่จืดจริง ๆ

แต่ BOL มีความแตกต่าง คือเป็นธุรกิจที่กำลังเติบโต เป็นเจ้าเดียวในตลาด และการที่เป็นธุรกิจที่มี fixed cost เป็นหลัก ยอดขายส่วนที่เพิ่ม มี variable cost น้อย ทำให้กำไรโตเร็วกว่ายอดขายมาก

เช่น ยอดขายโต 15-20% ทำให้กำไรโตได้ถึง 30-50%

ธุรกิจที่กำไรโตถึง 30-50% ต่อปี หลาย ๆ ปี ติดต่อกัน นี่หายากมากครับ ในไทย ถ้าไม่ใช่ BOL ผมก็นึกไม่ออกว่าจะเป็นใครได้อีก

ถ้าเป็นต่างประเทศ อย่าง Master card น่าจะใช่ แต่ trade กันที่ PE หลาย 10 เท่า

Microsoft ตอนกำลังโต ก็น่าจะใช่ แต่  trade กันที่ PE หลาย 10 เท่า เช่นกัน

Happy investing krab