Thai VI

ใครทราบช่วยอธิบายทีครับ

เพราะไหนตอนแรกบอกว่า ราคา อยู่ 9-13 บาท

ขึ้นอยู่กับ ยอดจองทั้งหมด

ถ้าหมดเร็ว แปลว่า คนต้องการเยอะ ราคาก็จะสูง

ราคา 10 บาท ก็ดีครับ

แต่ไม่เข้าใจ  เพราะ ตอนแรก บอกว่า หมดเกลี้ยงตั้งแต่ช่วงเช้า



แล้วทำไม ราคามันสวนทางกันครับ

ใครทราบวิธีคำนวณ ช่วยบอกด้วยครับ

ผมไม่เคยรู้ว่าเขาทำจริงๆยังไงนะครับ แต่ขอตอบตามที่อ่านมา

วิธีการจะเหมือนหรือคล้าย ATO หรือ ATC

บริษัทถือเป็นผู้เสนอขาย 9 บาทเป็นราคา floor

ผู้เสนอซื้อก็เสนอซื้อในราคาที่อยู่ในช่วง 9 - 13 โดยระบุจำนวนหุ้นที่จะซื้อ

เวลาพิจารณาก็ดูจากราคาเสนอสูงสุด ได้ไปก่อนไล่ลงมาเรื่อยๆจนครบจำนวน แสดงว่าครบจำนวนที่ราคา 10 บาท

คนสนใจเยอะแต่ราคาต่ำก็เพราะว่ามีแต่คนเสนอ 9 บาท กับ 10 บาทเป็นส่วนใหญ่ (คนในที่นี้คือพวกสถาบันฯ)

ขออภัยใช้คำผืด ไม่ใช่ ATO หรือ ATC ขอแก้เป็น การคำนวณราคาเปิด กับการคำนวณราคาปิด แทนครับ

แปลกใจนิดหน่อย
ชาวบ้านทั่วไป จ่าย 13 บาท ซื้อทำให้ยอด IPO ที่บริษัทให้แก่รายย่อยไม่เพียงพอ จุดแรกที่เห็นกันชัดว่า ชาวบ้านเคาะราคานี้
แต่ที่ไม่เห็นคือ พวกสถานบัน ซึ่งเป็นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยอดจองก็พอจะรู้ แต่ราคาไม่บอกว่าจองเท่าไร

ผลมันออกมา 10 บาท ได้เพราะใคร
เพราะ ช่วงในราคา IPO 9-13 บาท

จุดนี้คนทั่วไปมองไม่เห็น เหมือน CALL MARKET ที่เห็นปริมาณ หุ้นบนกระดาษสามช่องได้ว่า ควรจะเป็นเท่าไร และมีตัวกระพริบที่ช่อง ราคา pre-open หรือ pre-close จุดนี้น่าจะบอกด้วยว่า สถานบันที่สนใจมันเคาะกันเท่าไร

อีกเรื่องหนึ่งยังไม่ได้ดูงบของ ESSO ว่าบันทึก กำไร(ขาดทุน) สะสม นั้นเป็นกำไรหรือขาดทุนอยู่ เพราะเห็นว่าจ่ายปันผลได้

...เค้าอาจทราบราคาเหมาะสมแล้ว ...
...จากการคำนวณหรือสอบถามสถาบันที่เข้ามาจอง...
...สมมติ คำนวณได้ที่13บาท...
...แต่ถ้าให้จองราคานั้น หุ้นจะไม่มีgapให้กำไรกัน...
...จะโดนเทขายทิ้ง ต่ำจองซะเปล่าๆ ซึ่งมันดูไม่ดี...
...สู้ยอมขายในราคาdiscountที่9บาทบวกค่าปันผล1บาท...
...ราคาจึงตั้งที่10บาท เพื่อให้ผู้จองได้มีโอกาสกำไรกัน...

Logic น่าจะเป็นดังนี้นะครับ

ราคารายย่อยจอง 9-13 บาท แต่ต้องจ่ายที่ 13 บาท สูงสุด ไม่เกี่ยวกับจำนวนที่จอง เพราะของมีจำกัด ถ้าสรุปราคาแล้วต่ำกว่า 13 บาท จะคืนเงินให้

ราคาสรุปเกิดจากราคาที่สถาบันจองซื้อเข้ามามากที่สุด สรุปที่ 10 บาท แปลว่า สถาบันจองซื้อเข้ามามากที่สุดที่ราคานี้ครับ

ที่ทำอย่างนี้เพื่อให้มีเสถียรภาพของราคาเมื่อเข้าตลาดครับ เพราะพวกสถาบันมักไม่ค่อยขาย(จริงป่าวไม่รู้)ตามที่ที่ปรึกษาการเงินบอกนะครับ

ปันผล 1 บาทจากกำไรสะสมครับ

vision เขียน:ผมไม่เคยรู้ว่าเขาทำจริงๆยังไงนะครับ แต่ขอตอบตามที่อ่านมา

วิธีการจะเหมือนหรือคล้าย ATO หรือ ATC

บริษัทถือเป็นผู้เสนอขาย 9 บาทเป็นราคา floor

ผู้เสนอซื้อก็เสนอซื้อในราคาที่อยู่ในช่วง 9 - 13 โดยระบุจำนวนหุ้นที่จะซื้อ

เวลาพิจารณาก็ดูจากราคาเสนอสูงสุด ได้ไปก่อนไล่ลงมาเรื่อยๆจนครบจำนวน แสดงว่าครบจำนวนที่ราคา 10 บาท

คนสนใจเยอะแต่ราคาต่ำก็เพราะว่ามีแต่คนเสนอ 9 บาท กับ 10 บาทเป็นส่วนใหญ่ (คนในที่นี้คือพวกสถาบันฯ)

ถูกแล้วครับ process ดังกล่าวเขาเรียกกันว่า book building ครับ