หน้า 1 จากทั้งหมด 1

สินค้าอิเล็กกับเงินเฟ้อ

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 09, 2008 8:10 pm
โดย กุหลาบงามหลังฝน
ผมสนใจสินค้าอิเล็กมากโดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ แต่สินหนึ่งที่ผมสังเกตคือราคาสินค้าในกลุ่มอิเล็กมีแต่จะลดลงในขณะที่ประสิทธภาพดีขึ้น แล้วเขาคิดเงินเฟ้อกับสินค้ากลุ่มนี้ยังไงคับช่วยให้ความกระจางที่คับ

สินค้าอิเล็กกับเงินเฟ้อ

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 09, 2008 9:31 pm
โดย ส.สลึง
ไม่น่าจะเกี่ยวกันครับ...
และสำหรับสินค้าจำพวกไฮเทคทั้งหลาย โดยธรรมชาติจะมีการแข่งขันค่อนข้างสูง
Dealer จึงไม่อยาก Stock สินค้าประเภทที่กำลังจะตกรุ่นแล้ว
จึงต้องเร่งระบายสินค้าออกมาให้หมดแบบ dump ราคาให้ต่ำ ก่อนที่จะมีรุ่นใหม่ออกมาขายน่ะครับ

Re: สินค้าอิเล็กกับเงินเฟ้อ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 10, 2008 9:37 am
โดย humdrum
กุหลาบงามหลังฝน เขียน:ผมสนใจสินค้าอิเล็กมากโดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ แต่สินหนึ่งที่ผมสังเกตคือราคาสินค้าในกลุ่มอิเล็กมีแต่จะลดลงในขณะที่ประสิทธภาพดีขึ้น แล้วเขาคิดเงินเฟ้อกับสินค้ากลุ่มนี้ยังไงคับช่วยให้ความกระจางที่คับ

     คำถามนี้น่าสนใจมากเลยครับ ....
     ขอบคุณมากเลยครับ
   
     ที่ต้องขอบคุณเพราะเห็นคำถามแล้ว ทำให้คิดถึง Mr. Warren Buffett ขึ้นมาทันที เนื่องจาก Mr. Buffett นั้น เขาเคยบอกว่า ไม่ชอบลงทุนในกลุ่ม hi-tech เหมือน Mr. Gates  โดยให้เหตุผลว่า เขาไม่สามารถมองเห็นได้ว่าอีก 10 ปีข้างหน้า ตลาดจะเป็นอย่างไร เพราะสิ่งที่มีอิทธิผลกับสินค้ามากที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับ technology ที่เป็นตัวกำหนด

  แต่มีอยู่อีกตัวเหมือนกันครับ ที่ Warren Buffett มักพูดถึงเสมอเวลาเขาจะลงทุนอะไร  นอกจากดูมูลค่าที่แท้จริงและผลตอบแทน ที่เราได้ยินกันบ่อนจนเข้าไปในสายเลือดแล้ว สิ่งนั้น คือ อัตราเงินเฟ้อ

    พอดี ท่านกุหลาบงาม ตั้งโจทย์ ให้ เงินเฟ้อ กับ สินค้าไฮเทค มาอยู่ด้วยกัน ซึ่งเป็นคำถาม dismatching มาก

 แต่ความ dismatching ตรงนี้ ก็เหมือนกับการตั้งคำถามที่ดูเหมือนจะเป็นไปไมได้หรือไม่มีเหตุผล แต่คิดถึงกาลิเลโอที่ตั้งคำมว่า โลกมีแรงดึงดุดหรือปล่า วและ อีก 100 ปี ต่อมา นิวตันก็เป็นคนพิสูจน์คำถามนี้

      การตั้งคำถามที่ดูเหมือนจะเป็นการคั้งถามที่แปลกๆ ไม่อยู่ในความเป็นตรรกะที่ผู้ใหญ่คุ้นเคยนั้น บางครั้งอาจฟังแล้วดูตลก  แต่ในความตลกนั้นมักมีอะไรซ่อนอยู่เสมอที่มีแต่ผู้ที่มองเห็นเท่านั้นจึงสามารถนำไปต้อยอดอย่างอื่นได้  
 
      ลองฟังประโยคที่ลกสาว 3 ขวบถามผมเมื่อไปตลาดตอนเช้า แล้วเห็นพระกับเณรเดินบิณบาตร

      "ดูซิพ่อ มีลูกพระมาเดินด้วย"

        :wink:    

              ผมอดนึกอมยิ้มไมได้


      บางครั้งเราออกความเป้นตรรกะบ้าง จะทำให้มองเห็นโลกได้กว้างขึ้น
   
   ขอบคุณครับที่ทำให้ผมเห็นอะไรมากขึ้น... :wink:

สินค้าอิเล็กกับเงินเฟ้อ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 10, 2008 10:12 am
โดย krisy
เราคิดว่า แม้ว่าราคาสินค้าลดลงแต่ spec ดีขึ้น แต่ก็มีรุ่นใหม่ออกมาเรื่อยๆ ซึ่ง spec จูงใจกว่า ราคาของที่เพิ่งปล่อยออกมาใหม่ก็มักจะแพง cover เงินเฟ้อและค่าเสื่อมสภาพของสินค้าตัวเก่าไปแล้วค่ะ เพราะที่ผ่านมา กลุ่มนี้ไม่เคยขาดทุนจากสินค้า ส่วนมากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน

เพียงแต่เงินเฟ้อจะทำให้ยอดขายลดเนื่องจากสินค้าอิเลคยังอยู่ในหมวดฟุ่มเฟือยอยู่ ถ้าไม่มีใช้แค่ไม่สบายกาย อย่างเราเนี่ย ตอนนี้คอมอืดก็ต้องทนใช้ไปก่อนค่ะ แต่ก็ทราบดีและเตรียมตังไว้ว่าครบ 3 ปีก็ถึงเวลาเปลี่ยน และคงซื้อ spec ที่ดีที่สุดในตลาด เพราะจะต้องใช้อีก 3 ปี และราคา spec ที่ออกล่าสุดมักแพงกว่าของที่ตกรุ่นไปสักหน่อยแต่อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ เราว่ากลุ่มนี้ไม่ตายง่ายๆ ตราบใดที่คนยังชอบสิ่งที่ดีกว่าของเดิม

สินค้าอิเล็กกับเงินเฟ้อ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 10, 2008 10:36 am
โดย hagrid
คุณ .^O-O^ มีความเห็นอย่างไรในสภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบันบ้างครับ

ถ้าให้เลือกคุณ .^O-O^ ว่าน่าลงทุนในผลิตภัณฑ์อะไรบ้างครับ

สินค้าอิเล็กกับเงินเฟ้อ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 10, 2008 2:01 pm
โดย humdrum
ทำไมถึงตั้งชื่อตัวเองว่าแฮกริดครับ ..... :wink:

สินค้าอิเล็กกับเงินเฟ้อ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 10, 2008 3:45 pm
โดย hagrid
WORTE : .^O-O^
ทำไมถึงตั้งชื่อตัวเองว่าแฮกริดครับ .....

ส่วนตัวผมชอบตัวละครตัวนี้จากเรื่อง แฮรี่ พอตเตอร์ มากครับ

อีกทั้งสไตล์การลงทุนของผมก็คล้ายๆ กับ hagrid ในเรื่องที่ผมชื่นชอบ

ที่จะหาหุ้นประหลาดที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก และสนใจ ตอนเปิดบัญชีใหม่ๆ

เวลาสั่งซื้อกับมาร์เก็ตติ้ง มาร์ยัง key ไม่ค่อยถูก และถามเหมือนกับผม

สั่งซื้อหุ้น(สัตว์ประหลาด) อะไรสักตัวหนึ่งเลย

สินค้าอิเล็กกับเงินเฟ้อ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 10, 2008 9:51 pm
โดย humdrum
อย่างนี้เองครับ..

      :lol:    
       
       เงินเฟ้ออย่างนี้ รายได้เราจะหดไปด้วยตามมูลค่าของเงิน ปีนี้คิดว่าผมจะลงทุนในตัวเองให้มากที่สุด และถ้าเป็นในตลาดแล้ว ผมก็มองหาบริษัทที่ปีนี้ลงทุนในพนักงานให้มากที่สุดเช่นกันครับ

      บริษัทไหนที่วางตัวเองเป้าขยายกิจการไว้มาก แต่ไม่มีคนลองรัยบ ผมจะไม่สนใจเลยครับ

       ไม่ว่าคนหรือบริษัทก็ต้องโลภกันทั้งนั้น ยิ่งทำธุรกิจด้วยแล้ว ยิ่งต้องโลภเพราะไม่อย่างนั้นจะสู้คนอื่นเขาไม่ได้ แต่ถ้าโลภเกินความสามารถตัวเอง ลาภก็จะหายไปในที่สุด    
       การซื้ออุปกรณ์ขยายโรงงาน นอกจากใช้เงินจากกำไรสะสมที่หัก tax แล้ว ไม่พอก็ต้องกู้แบงค์  ก็ต้องเสียดอก ถ้าหนี้เพิ่มกว่าเก่า เถ้าแก่ก็คงไม่อยู่ในฐานะที่สบายใจนักที่ต้องหาเงินมาใช้หนี้แบงค์ทั้งต้นทั้งดอก ซึ่งหมายถึงต้องทำงานดิ้นรนกันอีกหลายปี    
    ถ้าเสี่ยหาเงินจ่ายแบงค์ได้ ยังมีปัญหารออยู่อีก คือต้องฝึกพนักงานใหม่ให้มีความชำนาญมีมาตรฐานดีเท่าเทียมกับพนักงานที่เคยผลิตได้ตั้งแต้ต้น ความสำเร็จของการขยาย growth นั้นไม่ได้ขึ้นกับอุปกรณ์ที่ทันสมัยอย่างเดียว ยังต้องขึ้นกับคนด้วย และต้องเป้นคนที่มีคุณภาพและเก่ง ถ้าขาดสิ่งนี้เห้นที growth เสียคงจะวอดวายไม่ต้องถึงปี ไตรมาสแรกก็เห็นแล้ว!!!!!
    ยิ่งมาเจอลูกค้ารายใหญ่หนีไปที่อื่น ลูกน้องเก่งๆ ลาออก เสียโหน่งอาจไมอยากขยายอะไนอีกแล้ว อย๋เฉยๆ สบายกว่า มีผลกำไรพอรองรับ ปีนีคงเอาตัวรอดไปได้ ไม่ถึงกับขาดทุน ไม่ต้องคอยปวดหัว
   สุดท้ายเสี่ยอาจเลือกที่จะโตตามสบาย ไม่เอาบริษัทไปขึ้นเขียง ต้องคอยระงับความทะเยอทะยาน เพราะกลัวสุภาษิตที่ว่าโลภนัก มักลาภหาย
   
      ไม่แปลกที่เราเห็นบางบริษัทไปไม่รอดเพาะขยายเกินตัว เรื่องอย่างนี้เห็นทุกปีในตลาด เพราะคนส่วนใหญ่ไม่อยากเริ่มอะไนจาก 0 ทั้งนั้น และแบงค์ก็ไม่ใจเย็นพอที่จะรอให้แก้ตัวด้วย
     
  รถไฟชิงคังเซ็งญี่ป่นเร่งความเร็วให้มากขึ้นขนาด 360ไมล์/ชม  ส่วนที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ตัวรถไฟ แต่เป้นรางที่รองรับความเร็วนั้นได้ เพราะตกรางเมื่อไหร่ พินาสแน่ครับ!!!!

       :cry:

สินค้าอิเล็กกับเงินเฟ้อ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 11, 2008 8:47 am
โดย hagrid
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับคุณ .^O-O^

สินค้าอิเล็กกับเงินเฟ้อ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 11, 2008 11:00 am
โดย humdrum
hagrid เขียน:ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับคุณ .^O-O^
   ด้วยความยินดีครับ ..... :wink:

    อย่าลืมลงทุนในตัวเองให้เยอะ ๆ นะครับ

     เรื่องเงินเฟ้อนั้นผมไม่มีความรู้พอจะบอกได้ครับ รู้แต่ว่ามันเฟ้อจากข้างนอก ไมได้เฟ้อจากข้างใน โดยเฉพาะข้างในตัวเรานั้น อย่าปล่อยให่เฟ้อดีที่สุด ที่ว่าเฟ้อข้างในนั้นเพราะฟุ้งเฟ้อใช้จ่ายเกินตัวหนึ่ง สองนั้นคือเฟ้อจากจิตใจของเราเอง ถ้าเฟ้ออย่างนี้ก็มั่นตรวจดูจิตใจตัวเอง ถ้าหนักก็วางไว้ ไม่ต้องแบก ฟังดูง่ายนิดเดียว แต่ทำยากจริงๆ  

  พวกเราเกิดมาโชคดีเป้นทั้งคนไทยที่เรามีในหลวง และ ยังโชคดีที่เกิดมารูจักพระธรรม  ทั้งยังโชคดีที่ได้รูจัก ดร. นิเวสน์ และ รู้จักการลงทุนเน้นคุณค่า ซึ่งโยงชีวิตเราไปรูจักใครต่อใครที่เก่งๆ และเป็นคนดีอีกมากมาย

     คิดได้อย่างนี้แล้ว ชีวิตพวกเรานั้น เกืดมาคุ้มค่ายิ่งนัก คุ้มค่าจนเงินเฟ้อก็ทำอะไรเราไม่ได้ ทำได้แต่เฉพาะบางคนเท่านั้น


       ขอให้ท่านโชคดีนะครับ .......    :wink:

สินค้าอิเล็กกับเงินเฟ้อ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 11, 2008 11:30 am
โดย RONNAPUM
.^O-O^ เขียน:

สินค้าอิเล็กกับเงินเฟ้อ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 11, 2008 11:43 am
โดย humdrum
ท่านรณภูมิพูดถึงอิทธิบาท 4 โยงเข้ากับเงินเฟ้อ หรือ สินค้าไฮเทค หรือ หลักการลงทุนเน้นคุณค่า ได้ไหมครับ ....... :roll:

สินค้าอิเล็กกับเงินเฟ้อ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 11, 2008 12:36 pm
โดย RONNAPUM
[quote=".^O-O^"]ท่านรณภูมิพูดถึงอิทธิบาท 4 โยงเข้ากับเงินเฟ้อ หรือ สินค้าไฮเทค หรือ หลักการลงทุนเน้นคุณค่า ได้ไหมครับ ....... :roll:[/quote
ขอแยกเป็น ความว่างกับอิทธิบาท 4 กับการลงทุนนะครับ สำหรับผม

ฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น
 เราต้องรัก สัทธาและเชื่อมั่นในสิ่งที่เราจะทำ สำหรับผม ผมคิดว่าความเชื่อ เป็นสิ่งที่เราต้องทำ ถ้าเราไม่มีความความเชื่อในสิ่งที่เราจะทำ เราก็จะทำไปด้วยความสงสัย กังวลอยู่ในใจ ....

วิริยะ ความพากพียร  หลังจากที่เรารัก และเชื่อแล้ว  เราต้องลงมือปฏิบัติ    ตามคำแนะนำหรือมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา

จิตตะ ความฝักใฝ่เอาใจใส่  หลังจากศึกษาหาความรู้มาและลงทุนไป
แล้ว เราต้องมั่นตรวจติดตามผลการดำเนินงานหรือสภาพแวดล้อมต่างๆ ว่าจะมีผลอย่างไรกับบริษัทของเราที่ลงทุนไป

วิมังสา ความหมั่นสอดส่องในเหตุและผล เราควรติดตามผลการดำเนินงานต่างของบริษัทว่า เป็นไปตามหตุที่เราคาดการณ์ ใว้หรือไม่ ถ้าไม่เป็นก็ศึกษาดูว่าไม่เป็นเพราะอะไร ถ้าไม่ดีก็ขายโลด... :shock:  

สำหรับเรื่องเงินเฟ้อกับ ธรรมมะนั้น ผมคิดว่าต้องมีสติ อย่างเดียว เราต้องไม่ไปตกอยู่ใน วัฏฏ  ถ้าเราไปตกอยู่ใน  วัฏฏ  เราก็ รัก โลภ เกิด หลง จนอยากมีอยากได้ในสิ่งของนั้นจนเกินไป เมื่อทุกคนต่างอยากมีอยากได้  "ก็เกิดการขึ้นราคา" จนสูงกว่ามูลค่าควรจะเป็น เกิดการจับจ่ายใช้สอยจนเกินตัว "ไม่มีสติ"
 ดังนั้นผมคิดว่าสิ่งเดี่ยวที่จะควบคุม เงิน เฟ้อได้ทุกคนต้องมี "สติ"  

 ปล.. ไม่รู้จะตรงหรือไม่ ผิดถูกยังไง พี่โหน่งก็แนะนำด้วยนะครับ

สินค้าอิเล็กกับเงินเฟ้อ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 11, 2008 1:39 pm
โดย humdrum
ไม่รู้จะเพิ่มตรงไหน ตรงมี่จะลดก็ไม่เห็นมี เป้น comment ที่อ่านแล้ว ได้ทั้งความรู้และธรรมะไปพร้อมๆ กัน  ขอบคุณนะครับ

   ท่านรณพูดเรือง โพชฌงค์ 7 โยงเรื่องหุ้นให้ฟังหน่อยนะครับ
  เรื่องน้หาคนพูดยากจริงๆ
 ขอบคุณล่วงหน้าเลย.....

สินค้าอิเล็กกับเงินเฟ้อ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 11, 2008 2:29 pm
โดย RONNAPUM
[quote=".^O-O^"]ไม่รู้จะเพิ่มตรงไหน ตรงมี่จะลดก็ไม่เห็นมี เป้น comment ที่อ่านแล้ว ได้ทั้งความรู้และธรรมะไปพร้อมๆ กัน

สินค้าอิเล็กกับเงินเฟ้อ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 11, 2008 2:57 pm
โดย humdrum
หลวงพี่เอาบาตรมาด้วยหรือปล่าว
   
    อิ อิ......

    ล้อเล่นครับ ...555555    โห....ทำไมเก่งอย่างนี้
 
    วันนี้มีความสุขทางใจมากครับ เพราะรู้สึกบวชโดยไม่ต้องบวช
   อ่านแล้วมีความปิติมาก   ผมเชื่อว่าท่านต้องเป็นคนที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งแบบยั่งยืน

      ขอบคุณมาก ไพเราะจับใจจริงๆ ครับ
  ความสุขใด เท่าความสุขทางใจไม่มี

      ขอบคุณมากครับ.............

สินค้าอิเล็กกับเงินเฟ้อ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 11, 2008 7:37 pm
โดย กุหลาบงามหลังฝน
[quote="RONNAPUM"][quote=".^O-O^"]ไม่รู้จะเพิ่มตรงไหน ตรงมี่จะลดก็ไม่เห็นมี เป้น comment ที่อ่านแล้ว ได้ทั้งความรู้และธรรมะไปพร้อมๆ กัน

สินค้าอิเล็กกับเงินเฟ้อ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 11, 2008 9:14 pm
โดย sattaya
ผมไม่ค่อยรู้ภาษาธรรมเท่าไรนักแต่ท่าน RONNAPUM อธิบายได้กระจ่างมากครับ  :bow: