Thai VI

ปีนี้ผมจะซื้อ LTF กับ RMF  เพื่อลดหย่อยภาษี แต่ไม่มี

ความรู้เลย ครับ อยากให้พี่ๆ แนะนำ

เราสามารถซื้อทั้งสองแบบ ได้หรือป่าว

ซื้อเมื่อไร แบบไหน มีข้อดีข้อด้อย ยังไง ครับ

ซื้อได้ทั้ง 2 แบบครับ

RMF เป็นแบบต้องซื้อแล้วขายเมื่ออายุ 55 ปี (Retirement Mutual Fund)

LTF (Long Term) เป็นแบบซื้อแล้วสามารถขายได้เมื่อถือไว้เกิน 5 ปี พ.ศ (3 ปี 2 วัน)

กฏหมายใหม่สามารถซื้อลดหย่อนภาษีได้อย่างละ 500,000 แล้วนะครับ ประกาศแล้ว

ฟันธงว่า LTF ครับ มันหวือหวาดี ไม่จืดชืดเหมือน RMF ผมเคยเห็นใบสรุปผลตอบแทนของพี่ที่ทำงานนะครับ ซื้อ RMF ทีหลังหนึ่งปี ผลตอบแทนยังมากกว่า RMF เลย (ซื้อตอนออกมาตรการกันสำรองพอดี แฮ่..)

ลองย้อนไปอ่านบทความของท่าน ดร.นิเวศน์ ดูนะครับ มีพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน

อย่างที่คุณ akekarat ให้คำแนะนำนะครับ ขึ้นอยู่กับจขกทด้วยว่ามีอัตราภาษีเท่าไหร่ ส่วนลดหย่อน เช่น ดอกเบี้ยบ้าน ประกันชีวิต มีเท่าไหร่

ที่ขาดไม่ได้เลยคือเรื่องสภาพคล่อง หากคิดว่ามีความจำเป็นต้องใช้เงินก็ลงใน LTF จะดีกว่า RMF

หากยอมรับความเสี่ยงได้น้อยก็ RMF ส่วนตัวผมขอแนะนำ LTF เพราะสภาพคล่องดี และคิดว่าจขกท คงจะรับความผันผวนได้

ที่สำคัญ LTF ไม่ต้องซื้อทุกปี แต่ RMF ต้อง และต้องถือยาวจนครบ 55 ปี หากไม่ครบเกณฑ์ยกเว้นภาษีที่ได้รับจะเสียไปทันที

สำหรับคนที่มีฐานภาษีสูง (ตั้งแต่ 20%) การซื้อ RMF และ LTF เต็มโควต้าทั้งสองกอง (15% + 15%) จะช่วยประหยัดภาษีได้เยอะทีเดียว (ปีนี้ผมประหยัดได้ประมาณแสนนึง)

RMF ให้ผลตอบแทนไม่แพ้ LTF หรอกครับ ถ้าเลือกกอง RMF ที่ลงทุนในหุ้นเหมือนกัน

จริง ๆ แม้คนมักเลือกลงทุนกอง RMF ที่ลงทุนในตราสารหนี้เป็นหลัก เพราะหวังแค่สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษี แต่ด้วยข้อกำหนดการไถ่ถอนที่ทำได้เมื่ออายุ 55 ปีขึ้นไป ถ้าใครที่อายุยังไม่มาก ผมแนะนำให้เลือกลงทุน RMF กองหุ้นจะดีที่สุด เพราะแม้จะผันผวนมาก แต่ระยะยาวการลงทุนในหุ้นก็ได้ผลตอบแทนสูงกว่าอยู่ดี ยิ่งเป็นการลงทุนระยะยาว (แบบบังคับ) ด้วยแล้ว เลือกกองหุ้นยิ่งดีใหญ่

ถ้าฐานภาษีสูง การลงทุนทั้ง RMF/LTF เหมือนกับได้ผลตอบแทนนำหน้าชาวบานไปแล้วด้วยอัตราภาษีที่จะเสียนั่นแหละ (เช่น +20% ไปแล้วตั้งแต่เริ่ม)... คุ้มจะตาย

เข้าใจว่าสมาชิก VI ทุกคนเข้าใจผลของ "ดอกเบี้ยทบต้น" ดี

ส่วนการวางแผนสภาพคล่อง ผมว่าถ้าวางแผนดี ๆ ไม่มีปัญหาเลยครับ อย่างผมจะกันเงินที่ต้องลงในส่วนนี้ทั้ง RMF/LTF หักออกจากเงินเดือนตั้งแต่ต้น (คิดซะว่าเงินที่เหลือ เป็นเงินเดือนที่เราได้จริง ๆ จะได้ไม่ต้องคิดมาก ใช้จ่ายมาก)

ไม่แนะนำให้ใช้        รายได้ - ค่าใช้จ่าย = เงินเก็บ
แนะให้เปลี่ยนเป็น    รายได้ - เงินเก็บ = ค่าใช้จ่ายแทน

รู้วิธีรักษาเงินที่หามาแล้ว ลองมาศึกษาวิธีหาเงินเพิ่มด้วยมั้ย แวะมาดูสิ www.IamAgel.in.th/payplan

ผมซือ RMF ที่ลงทุนในทองคำครับของ Kasikorn กะไว้เป็นค่าขนมตอนเกษียณ