Thai VI

ราคาหุ้นของ Bear Stearns ด้วยระยะเวลาไม่ถึงปีก็สามารถร่วงลงได้เกือบ 80%  ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับราคาหุ้นของ BLISS แล้วก็แตกต่างไม่มากนัก

ทำไมราคาหุ้นของสถาบันการเงินที่ดูมั่นคงถึงได้ร่วงลงได้อย่างกับหุ้นเก็งกำไร

เมื่อย้อนกลับไปดูช่วงเกิดวิกฤต  ปิดสถาบันการเงินของไทย  ก็ยิ่งเกรงกลัว  งบดุล  งบกำไรขาดทุน  PE PB  ของสถาบันการเงินเราจะเชื่อถือได้แค่ไหน

ใครคิดว่าจะลงทุนในหุ้นสถาบันการเงิน ก็พิจารณาให้ดีก่อนนะครับ  สำหรับผมแล้วเป็นกลุ่มที่ยังไงก็ไม่ลงทุน

ขอบคุณครับ ... นาน ๆ ครั้ง กูรูเข้ามาโพสต์ที  

ไปกินข้าวกันอีกไม๊เฮีย  :8)

bear stearns กับ bliss ราคาร่วงแรงๆ นั้น มาจากเหตุผลที่แตกต่างกันครับ

bliss พลิกกลับมากำไรในปี 2007 ได้มโหฬารก็จริง
แต่คนซื้อคงลืมไป หรือไม่ก็แกล้งลืมว่า กำไรนั้นมาจากการซื้อขายหุ้น
ผลการดำเนินงานจริงๆ นั้น ยังขาดทุนบักโกรกไม่สร่าง
แค่เปิดโอกาสให้รายใหญ่เข้ามาไล่ราคา แล้วขายใส่มือรายย่อย
ที่ซื้อตามโดยไม่ได้ดูพื้นฐานและไม่ได้ดูกราฟ

bear stearns นั้น ถ้าไม่มีข่าวลือเรื่องขาดเงินสด
หรือถ้าตอนข่าวลือเกิดใหม่ๆ Fed อัดฉีดเงินสำรองฉุกเฉินเข้าทันที
โศกนาฎกรรมนี้คงไม่เกิดครับ แต่ท่านประธานดันบอกสภาฯ ว่า
น่าจะมีแบงค์หลายแห่งที่ต้องปิดตัวไปตามธรรมชาติ
ชาวบ้านก็แห่ไปถอนเงินจาก bear stearns สิครับ แล้วแบงค์จะอยู่ได้ไง

กว่า Fed จะไหวตัวยอมอัดเงินสำรองให้ผ่านทาง JP Morgan
ก็ต้องตอนปัญหาถึงขั้นสุดๆ แล้ว นับว่าช้าไปหลายก้าวทีเดียว
ซึ่งผมว่าเป็นวิธีการให้ JPM ฮุบกิจการหน้าตาเฉยแบบเจ็บแสบ
แต่เป็นวิธีเดียวที่จะไม่ทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ลามไปแบงค์อื่น

ตอนนี้ลูกค้าแบงค์อื่นๆ ก็ได้ message ไปแล้วว่า Fed ไม่ปล่อยแบงค์เจ๊งแน่
ซึ่งก็ชัดเจนดี ไม่เหมือนตอนแรกที่บอกว่า ตามยถากรรมนะครับท่าน
พี่ลดดอกเบี้ยให้ได้แค่อย่างเดียว

มาดูธุรกิจของแบงค์กันบ้าง bear stearns ถือได้ว่าพื้นฐานเปลี่ยนชั่วค่ำคืน
เมื่อลูกค้าไม่ "trust" แบงค์นั้นอีกต่อไป ต่อให้เป็นธนาคารที่แกร่งสุดในโลก
ถ้าลูกค้าไม่เชื่อไม่กล้าฝากเงิน ถอนเงินออกหมด เจ๊งลูกเดียวครับ

ดังนั้น แบงค์เป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงด้านนี้สูงทีเดียว
แต่ผลตอบแทนอาจจะเย้ายวนใจได้ เป็นเรื่องธรรมดา

ผมสงสัยเเต่สถาบันที่ให้เครดิต พวก  s&p moody  จะยังน่เชื่อถืออีกไหม  :(


สถาบันการเงินถ้าไม่เชื่อถือเมื่อไหร่ก็ จบกัน....

ตอน conference call วันที่ 17 มกรา ปีนี้ซึ่งราคาหุ้นอยู่ที่ราว ๆ $ 74   Bill Miller ยังให้ความเห็นอยู่เลยครับว่า Bear Stearns เป็นบริษัทชั้นเยี่ยม อยู่มานาน ผู้บริหารก็เก่ง และหุ้นน่าจะซื้อขายกันที่ 1.5-2 เท่าของ book value

ตกใจคับ

พี่   chat  ก็แอบดูน้อง บลิซด้วย...


แต่พี่ ซีเค วิเคราะห์ได้ลึกดีครับ  ชอบๆ

มีกระทู้แบบนี้บ่อยๆนะครับ

จะได้ โลกกว้างขึ้นซะที

CK เขียน:bear stearns นั้น ถ้าไม่มีข่าวลือเรื่องขาดเงินสด
หรือถ้าตอนข่าวลือเกิดใหม่ๆ Fed อัดฉีดเงินสำรองฉุกเฉินเข้าทันที
โศกนาฎกรรมนี้คงไม่เกิดครับ แต่ท่านประธานดันบอกสภาฯ ว่า
น่าจะมีแบงค์หลายแห่งที่ต้องปิดตัวไปตามธรรมชาติ
ชาวบ้านก็แห่ไปถอนเงินจาก bear stearns สิครับ แล้วแบงค์จะอยู่ได้ไง

อ้าว

[quote="chatchai"]อ้าว

จริง ๆ พี่หมีแกก็เงินสดเยอะนะ

ก่อนหมีล้ม.. บริษัทมีเงินสดถึง $ 8 พัน 2 ร้อยล้าน และ cash-equivalent อีก $ 1 หมื่น 7 พันล้าน

ดูเหมือนเยอะ แต่ขอโทษ ...

ระหว่างวิกฤติคุณพี่หมี ต้อง renew short term loan ที่มีอยู่กว่า $ 1 แสนล้านเหรียญ แถมหนี้พวกนี้ สั้นมาก ๆ และด้วยชื่อเสียงที่ไม่ดีแล้วเลยไม่มีหน้าไหนยอมให้ยืมนาน ลงท้ายเลยต้องต่อสัญญายืมแทบจะวันต่อวัน

เรื่องที่เขากระโดดเข้ามาอุ้ม ก็เป็นเพราะว่าเจ้าหนี้หลายเจ้า เริ่มไม่ยอมต่อสัญญาใหม่ ทำให้ หมีตัวนี้ หาเงินมาจ่ายคืนไม่ไหว เลยต้องหันหน้าไปหา Fed (ผ่าน JP Morgan Chase) และลงท้ายด้วยการโดน take over

ถ้ามีการแห่ ถอนเงินออกจากธนาคารพร้อมๆกัน ในเวลาเดียวกัน  ด้วยเหตุผลจาก ผู้ฝากไม่มีความมั่นใจ ว่าจะได้รับเงินไหม

ไม่ว่าธนาคารไหน ดีที่สุดยังไง ก็ต้องล้มครับ

เพราะธนาคารเอาเงินฝากเรา ไปปล่อยกู้ และลงทุนผ่านช่องทางต่างๆ ในสัดส่วนที่สูง (ไม่รู้ มัลติพลาย เงินไปกี่รอบในระบบ )

และสำรองเงินสดเผื่อถอนไว้น้อยมาก ...

ดังนั้น ถ้าเจอปัญหาสภาพคล่อง ยังไงก็ล้มครับ เพราะสินทรัพย์ที่ไปลงทุน ไม่ใช่จะขอคืนได้ในชั่วคืน หรือ เดือนเดียว

พี่ WEB เขียน:ตอน conference call วันที่ 17 มกรา ปีนี้ซึ่งราคาหุ้นอยู่ที่ราว ๆ $ 74   Bill Miller ยังให้ความเห็นอยู่เลยครับว่า Bear Stearns เป็นบริษัทชั้นเยี่ยม อยู่มานาน ผู้บริหารก็เก่ง และหุ้นน่าจะซื้อขายกันที่ 1.5-2 เท่าของ book value

 :shock:  :shock:

[quote="Ryuga"][quote="พี่ WEB"]ตอน conference call วันที่ 17 มกรา ปีนี้ซึ่งราคาหุ้นอยู่ที่ราว ๆ $ 74