หน้า 1 จากทั้งหมด 1

อัตราภาษีนิติบุคคลจะกลับไปเท่าปี 49 แล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 03, 2008 10:15 am
โดย chatchai
ตามข่าว  มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ  เห็นมีลดภาษีเงินได้นิติบุคคลใน SET และ MAI  ให้เหลือเท่าปี 49 ด้วย

บริษัทเล็กๆก็คงได้เฮกันบ้าง

อัตราภาษีนิติบุคคลจะกลับไปเท่าปี 49 แล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 03, 2008 10:45 am
โดย nuttachk23
ช่วยบมจ.ที่กำไรไม่ถึง 300 ล้านบาท และเสีย tax 30 % ได้เยอะเลย มาเฮด้วยครับ

อัตราภาษีนิติบุคคลจะกลับไปเท่าปี 49 แล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 03, 2008 11:06 am
โดย woody
อืม ผมไม่แน่ใจว่าจะให้เฉพาะบริษัทที่เข้าจดทะเบียนใหม่หรือเปล่านะครับ คงต้องเชคดีๆ ก่อนนะครับ

อัตราภาษีนิติบุคคลจะกลับไปเท่าปี 49 แล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 03, 2008 11:44 am
โดย akekarat
ตกลงจะทำจริงแล้วเหรอครับ

อัตราภาษีนิติบุคคลจะกลับไปเท่าปี 49 แล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 03, 2008 11:46 am
โดย woody
อืม ไปเชคมาแล้วครับ น่าจะทำจริงครับ ทั้งบจ. ใหม่และเก่า

อัตราภาษีนิติบุคคลจะกลับไปเท่าปี 49 แล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 03, 2008 9:15 pm
โดย wara
พี่ๆครับขอ link หน่อยได้ไหมครับ
อยากอ่านน่ะ ครับ
ขอบคุณครับ

อัตราภาษีนิติบุคคลจะกลับไปเท่าปี 49 แล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 03, 2008 9:31 pm
โดย MindTrick
นโยบายนี้ รู้สึกจะเป็นข่าวหลายวันแล้วครับ เอาไว้ต่อจาก 30%
ลองหากระทู้ หมอเลี๊ยบ ดู

อัตราภาษีนิติบุคคลจะกลับไปเท่าปี 49 แล้ว

โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 03, 2008 10:11 pm
โดย โอ@
ยังมีลดภาษีโอนบ้านด้วยครับ อาจจะเป็นตัวที่ทำให้วันนี้อสังหามาทั้งกลุ่มเลยก็ได้

อัตราภาษีนิติบุคคลจะกลับไปเท่าปี 49 แล้ว

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 04, 2008 1:50 am
โดย Blueblood
ไม่รู้ว่าใช่อันที่ประกาศก่อนหน้านี้ 10 ข้อที่เราพูดถึงกันเปล่านะครับ

เลี้ยบ ฟุ้งมาตรการภาษีกล่อมนักลงทุน-เมกะโปรเจกต์ ดันเข้า ครม.พรุ่งนี้  

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 มีนาคม 2551 12:42 น.

 รมว.คลัง เตรียมเสนอมาตรการภาษีกระตุ้นเศรษฐกิจให้ ครม.ตัดสินพรุ่งนี้ พร้อมเร่งเมกะโปรเจกต์ 1.5 ล้านล้านบาท ภายใน 6 เดือน หวังกระตุ้นเอกชนลงทุนตาม พร้อมจูงใจด้านภาษีและสิทธิประโยชน์ ส่วนภาคการบริโภรเตรียมใช้มาตรการภาษีเพิ่มกำลังซื้อให้รากหญ้า
     
      วันนี้ (3 มี.ค.) นพ.สุรพงษ์ สืบวงค์ลี รองนายกรัฐมนาตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ แนวทางชัดๆ รัฐบาลใหม่กับการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ งานครบรอบ 1 ปี สภาปนาวิทยาลัย U-MDC มหาวิทยาลัยทักษิณ ณ โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ โดยระบุว่ารัฐบาลจะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการสร้างความเชื่อมั่น มีการลงทุนให้ได้ภายใน 6 เดือน ซึ่งการที่รัฐบาลประกาศเริ่มลงทุนโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ มูลค่า 1.5 ล้านล้านบาท เป็นการส่งสัญญาณเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคเอกชนขยายการลงทุนตาม โดยยอมรับว่า เม็ดเงินอัดฉีดในโครงการเมกะโปรเจกต์จะเข้าสู่ระบบ ในสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า
     
      รัฐบาลประกาศให้ปี 2551 เป็นปีของการลงทุน โดยจะสนับสนุนมาตรการทางภาษีให้เอกชนที่ลงทุนในปีนี้ ซึ่งเอกชนจะได้ประโยชน์มากที่สุด โดยจะนำเข้าที่ประชุม ครม.ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
     
      แม้ข้อมูลเศรษฐกิจจะชี้ว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยยังเติบโตได้ดี แต่ประชาชนกลับรู้สึกว่าฝืดเคือง เพราะมีการบิดเบี้ยวของโครงสร้างเศรษฐกิจที่พึ่งพิงการส่งออกมากเกินไป ขณะที่การลงทุนภาครัฐ เอกชน และการบริโภคติดขัดมาโดยตลอด เพราะปัญหาทางการเมือง ดังนั้น หากจะฟื้นเศรษฐกิจในระยะสั้นต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งรัฐบาลจะส่งเสริมมาตรการภาษีให้เอกชนลงทุนตามรัฐบาล
     
      นพ.สุรพงษ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลจะส่งเสริมความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายของประชาชน ด้วยการใช้มาตรการภาษี ด้วยการเพิ่มค่าลดหย่อนทางภาษี โดยเฉพาะกับประชาชนในระดับฐานราก เพื่อให้มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมากขึ้น และจะส่งผลให้รัฐบาลสามารถเก็บภาษีจากการใช้จ่าย เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อชดเชยกับรายได้ที่ลดลงไปจากการลดหย่อนภาษีให้ประชาชน และจะมีการเพิ่มงบประมาณในโครงการเงินกู้เอสเอ็มแอล และสินค้าโอทอปเพื่อเพิ่มรายได้ประชาชนในระดับรากหญ้า

อัตราภาษีนิติบุคคลจะกลับไปเท่าปี 49 แล้ว

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 04, 2008 10:00 am
โดย krisy
วันนี้เอาเข้าครม.แล้ว บริษัท mai ส่วนมากก็ใช้อัตราภาษีที่ 25% อยู่แล้ว เราว่าเฉยๆนะคะ น่าจะดึงดูดบริษัทใหม่มาเข้าตลาดมากกว่า

ส่วนพวกที่เคยใช้ 30% เนี่ยน่าสนกว่าค่ะ เพราะกำไร 300 ล้านบาทแรกลดไปใช้ 25% ก็ได้มาคืนประมาณ 15 ล้าน เราว่าไม่น่าทำให้ Net profit เหวี่ยงเท่าไหร่ในแง่ของ percentage แต่ในเรื่องปันผลเนี่ย เม็ดเงินกลับมาเยอะเหมือนกันนะคะ

อัตราภาษีนิติบุคคลจะกลับไปเท่าปี 49 แล้ว

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 04, 2008 10:14 am
โดย chatchai
krisy เขียน:วันนี้เอาเข้าครม.แล้ว บริษัท mai ส่วนมากก็ใช้อัตราภาษีที่ 25% อยู่แล้ว เราว่าเฉยๆนะคะ น่าจะดึงดูดบริษัทใหม่มาเข้าตลาดมากกว่า

ส่วนพวกที่เคยใช้ 30% เนี่ยน่าสนกว่าค่ะ เพราะกำไร 300 ล้านบาทแรกลดไปใช้ 25% ก็ได้มาคืนประมาณ 15 ล้าน เราว่าไม่น่าทำให้ Net profit เหวี่ยงเท่าไหร่ในแง่ของ percentage แต่ในเรื่องปันผลเนี่ย เม็ดเงินกลับมาเยอะเหมือนกันนะคะ
บริษัทใน MAI  ผมเข้าใจว่าเสียภาษีในอัตรา 20% นะครับ

ส่วนอัตราภาษีที่ลดลง  ผมว่าน่าจะมีผลต่อ Net Profit มากทีเดียวนะครับ  ถ้ากำไรก่อนหักภาษี 100 ล้านบาท  อัตราเดิมจะเหลือกำไรสุทธิ 70 ล้านบาท  อัตราใหม่จะเพิ่มเป็น 75 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นถึง 7.14%

แต่ในแง่เงินปันผล  ผมกลับคิดว่าไม่มีผลกระทบเท่าไร  เพราะถึงจะเสียภาษีในอัตราเท่าไร  เวลาเราคิดภาษีเราก็ต้องคิดย้อนกลับไปที่กำไรก่อนหักภาษี  ซึ่งจะเท่ากัน  แล้วค่อยคิดภาษีตามฐานรายได้ของแต่ละคน

อัตราภาษีนิติบุคคลจะกลับไปเท่าปี 49 แล้ว

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 04, 2008 10:57 am
โดย krisy
จำผิดจริงๆด้วย ขอบคุณที่ท้วงค่ะ 20% เนี่ยใช้ได้กี่ปีค่ะ (ใช้ google ค้นไปค้นมา เจอทั้ง 25 ทั้ง 20 งงเลย)

เห็นด้วยกำไรจะเพิ่มเยอะจากภาษีที่ลดลง แต่ในเรื่องของปันผล เรามองคนละมุมค่ะ มองว่ากำไรเพิ่ม ถ้าจ่ายปันผลตามนโยบายซึ่งเป็น % ของกำไรสุทธิ เงินปันผลน่าจะมากขึ้น ไม่ได้มองที่เครดิตภาษีค่ะ

แต่ประเด็นที่ยกมาก็น่าสนใจค่ะ

อัตราภาษีนิติบุคคลจะกลับไปเท่าปี 49 แล้ว

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 04, 2008 12:01 pm
โดย wara
หมอเลี๊ยบ"ชงมาตรการภาษีเข้าครม.
--------------------------------------------------------------------------------

โดย Post Digital 4 มีนาคม 2551 11:51 น.

รมว.คลัง ชงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เน้นมาตรการภาษี เข้า ครม. วันนี้ เชื่อจะทำให้เศรษฐกิจในภาพรวมดีขึ้น เตรียมออกมาตรการใหม่กระตุ้นเศรษญกิจอีกรอบ


น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เน้นมาตรการภาษีที่นำเสนอ คณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาในวันนี้ ว่า เพื่อให้คนระดับกลางและระดับล่างกระตุ้นการใช้จ่ายให้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม และหลังจากมีมาตรการดังกล่าว จะทำให้ประชาชนกล้าใช้จ่ายมากขึ้น เป็นสิ่งกระตุ้นระบบหมุนเวียนในกระแส ขณะที่รัฐบาลได้รับการชดเชยทางอ้อมจากการเก็บภาษีที่คาดว่าจะเก็บได้ภายใน 1-2 ปี และภายใน 3-4 ปี จะจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีแบบสมดุลได้ นอกจากนี้ ในระยะเวลาอันใกล้ ภายในเดือน มี.ค. นี้ รัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งเน้นส่งเสริมการลงทุนออกมาอีกครั้ง


สำหรับมาตรการภาษีที่เสนอคณะรัฐมนตรีวันนี้ ประกอบด้วย 1.มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในส่วนของรายได้ 150,000 บาทแรก จากเดิมกำหนด 100,000 บาท ทำให้ผู้มีรายได้ต่อเดือน 20,000 บาทลงมา ได้รับการยกเว้นภาษี จากเดิมเป็นผู้มีเงินได้ 16,000 บาทต่อเดือน 2. เพิ่มค่าลดหย่อนค่าใช้จ่ายส่วนตัวจาก 60,000 บาท เป็น 90,000 บาท


3. มาตรการภาษีช่วยเหลือวิสาหกิจชุมชน ในส่วนของรายได้ 1 ล้านบาทแรก 4. มาตรการสนับสนุนเอสเอ็มอี ด้วยการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลในส่วนของกำไร 150,000 บาทแรก จากเดิมรายได้เอสเอ็มอี 1 ล้านบาทแรก จะเสียภาษีร้อยละ 15 ส่วนที่เกิน 1-3 ล้านบาท จะเสียภาษีร้อยละ 25 และส่วนที่เกิน 3 ล้านบาท ขึ้นไปจะเสียภาษีร้อยละ 30 5. มาตรการขยายสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับบริษัทจดทะเบียน จากเดิมครบกำหนดสิ้นปี 2550 จะขยายเวลาออกไปอีก 2 ปี ครบกำหนด 31 ธันวาคม 2552 ด้วยการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ 25 เป็นเวลา 3 รอบบัญชี 6. บริษัทจดทะเบียนเดิมจะปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจากร้อยละ 30 เหลือร้อยละ 25 สำหรับธุรกิจที่มีกำไรสุทธิไม่เกิน 300 ล้านบาทแรก ส่วนที่เกินเสียภาษีเท่าเดิมอัตราร้อยละ 30


7. มาตรการต่ออายุการใช้อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มอัตราร้อยละ 7 ออกไปอีก 2 ปี จากเดิมครบกำหนดวันที่ 30 ก.ย. 2551 เพื่อช่วยให้ประชาชนมั่นใจต่อการใช้จ่าย 8. การเพิ่มค่าลดหย่อนสำหรับเบี้ยประกันชีวิตจาก 50,000 บาท เป็น 100,000 บาท 9. การเพิ่มค่าลดหย่อนสำหรับการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อเกษียณอายุ (อาร์เอ็มเอฟ) จาก 300,000 บาท เป็น 500,000 บาท


10. มาตรการปรับโครงสร้างการผลิตและปรับเปลี่ยนเครื่องจักร ไปใช้พลังงานทดแทน ด้วยการนำการลงทุนดังกล่าวไปคำนวณค่าใช้จ่ายภาษีได้ 1.25 เท่า หรือร้อยละ 125 จากเงินที่ลงทุนจริง 11. มาตรการภาษีอสังหาริมทรัพย์ โดยเพิ่มค่าลดหย่อนภาษีดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อที่อยู่อาศัยมากกว่า 100,000 บาท โดยเฉพาะบ้านหลังแรกที่อาศัยอยู่จริง ลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ จากร้อยละ 3.3 เหลือร้อยละ 0.01 ลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์ จากร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 0.01 ลดค่าธรรมเนียมการจดจำนอง จากร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01

อัตราภาษีนิติบุคคลจะกลับไปเท่าปี 49 แล้ว

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 04, 2008 12:04 pm
โดย wara
รัฐเทกระจาดภาษี คุยรายได้หดศก.โต

โพสต์ทูเดย์ เทกระจาดภาษี อุ้มคนรวยกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 หมื่นล้าน

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า วันนี้จะเสนอมาตรการภาษีกระตุ้นเศรษฐกิจให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบ และคาดว่าหลังจากนี้จะมีมาตรการของกระทรวงอื่นๆ ตามมา ซึ่งมาตรการภาษีจะทำให้เสียรายได้ส่วนหนึ่ง แต่เศรษฐกิจจะเติบโต และได้ภาษีส่วนอื่นๆ มาชดเชยภาษีที่หายไป เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่มจะเก็บได้มากขึ้น


นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง กล่าวว่า มาตรการภาษีที่จะเสนอคณะรัฐมนตรี จะทำ ให้กรมสรรพากรสูญเสียภาษีจำนวน 4 หมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประเมินว่าจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่ม 1% ซึ่ง ในส่วนของกรมสรรพากรจะต้องเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี เพื่อให้ได้ภาษีเพิ่มมาชดเชยภาษีที่หายไป


นายประดิษฐ์ กล่าวว่า มาตรการภาษีที่จะออกมา จะมีทั้งให้กับประชาชนฐานราก และคนที่มีรายได้ จะทำให้คนที่มีรายได้ 2.25 หมื่นบาท ไม่ต้องเสียภาษี รวมทั้งกลุ่มบริษัทเอสเอ็มอี กลุ่มบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัว


มาตรการนี้จะเป็นมาตรการที่ค่อนข้างแรงพอสมควร หลักการคือต้องการนำกลับไปสู่กระเป๋าของประชาชน และห้างร้านให้ ได้มีเงินจับจ่ายใช้สอยและลงทุนเพิ่ม ซึ่งมาตรการภาษีนี้ได้ทั้ง คนมีรายได้น้อยและรายได้มาก ทุกกลุ่มได้หมด นายประดิษฐ์ กล่าว


นายประดิษฐ์ กล่าวว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อสูงมีปัญหาการลงทุน ทำให้ต้องใช้มาตรการภาษีมากระตุ้น เพราะถือว่าเป็นมาตรการที่จะได้ผลดีและรวดเร็วที่สุด


ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะลดภาษีอสังหาริมทรัพย์เหลือ 0.01% และลดการเก็บภาษีสำหรับนิติบุคคลจาก 30% เหลือ 20% ของกำไรสุทธิ สำหรับบริษัทที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ

ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแก่ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล ซึ่งเป็นวิสาหกิจชุมชนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548 และมีเงินได้ พึงประเมินไม่เกิน 1.2 ล้านบาท ต่อปี

อัตราภาษีนิติบุคคลจะกลับไปเท่าปี 49 แล้ว

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 04, 2008 5:30 pm
โดย chatchai
krisy เขียน:จำผิดจริงๆด้วย ขอบคุณที่ท้วงค่ะ 20% เนี่ยใช้ได้กี่ปีค่ะ (ใช้ google ค้นไปค้นมา เจอทั้ง 25 ทั้ง 20 งงเลย)
3 ปีครับ
krisy เขียน:เห็นด้วยกำไรจะเพิ่มเยอะจากภาษีที่ลดลง แต่ในเรื่องของปันผล เรามองคนละมุมค่ะ มองว่ากำไรเพิ่ม ถ้าจ่ายปันผลตามนโยบายซึ่งเป็น % ของกำไรสุทธิ เงินปันผลน่าจะมากขึ้น ไม่ได้มองที่เครดิตภาษีค่ะ

แต่ประเด็นที่ยกมาก็น่าสนใจค่ะ
บริษัทจ่ายปันผล 50% ของกำไรสุทธิ

อัตราภาษีนิติบุคคลจะกลับไปเท่าปี 49 แล้ว

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 05, 2008 12:15 pm
โดย krisy
คุณ chatchai ค่ะ ล้ำลึกแบบผู้มีวิชาจริงๆ ขอบคุณที่ชี้แนะค่ะ

อัตราภาษีนิติบุคคลจะกลับไปเท่าปี 49 แล้ว

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 05, 2008 1:44 pm
โดย leaderinshadow
เพิ่มเติมครับ

เดิม  กำไรสุทธิ 70 ล้านบาท จ่ายปันรวมเป็นเงิน 35   ล้านบาท เหลือ 35 ล้านบาท
ใหม่ กำไรสุทธิ 75 ล้านบาท จ่ายปันรวมเป็นเงิน 37.5 ล้านบาท เหลือ 37.5 ล้านบาท

ดังนั้นจะมีกำไรสะสมเพิ่ม 2.5 ล้านบาท
ซึ่งเงินตรงนี้ บริษัทสามารถไปลงทุนเพิ่มได้อีก
หรือไม่ก็จะถูกส่งคืนกลับมาในรูปของเงินปันผลครับ  :D