หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เสิร์ฟ10มาตรการภาษี เชื่อมั่นฟื้นฝรั่งขนเงินกลับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 26, 2008 9:43 am
โดย vichit
เสิร์ฟ10มาตรการภาษี เชื่อมั่นฟื้นฝรั่งขนเงินกลับ



--------------------------------------------------------------------------------

ทันหุ้น-คลังชงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเสนอครม. สัปดาห์หน้า พร้อมชงนโยบายเร่งด่วน 10มาตรการภาษี
หวังฟื้นเศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วที่สุด ด้านผู้บริหารตลท.รับลูก เห็นดีด้วยเต็มที่  ช่วยจูงใจบริษัทเข้าจดทะเบียนเพิ่มขึ้น เพราะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ส่วนแวดวงตลาดทุนขานรับพร้อมเพรียง มองแนวทางใช้ได้ทั้งเพิ่มการบริโภคหนุนการออมระยะยาว ในด้านของตลาดทุนส่งผลดีทางจิตวิทยาระยะสั้น โบรกฝรั่งเผยต่างชาติมองมุมบวก โชว์ยอดซื้อสุทธิ 1.3 พันล้าน  ผลบวกช่วงสั้นจากความเชื่อมั่นที่คืนกลับ เผื่อแผ่ไปในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ค้าปลีก สินค้าเกษตร เดินเรือ และกลุ่มบันเทิง และในระยะยาวส่งไม้ต่อไปถึงกลุ่มรับเหมา กลุ่มธนาคารพาณิชย์  จากการลงทุนในโครงการเมกะโปรเจ็กต์ มองดัชนีสิ้นปีนี้ที่ 970-975 จุด
    นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าการจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะนี้มีความคืบหน้าไปกว่า 90% โดยคาดว่าจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้พิจารณาเพื่ออนุมัติในสัปดาห์หน้า โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว จะประกอบด้วย มาตรการภาษี , การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ
    ส่วนมาตรภาษีกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้ง10 มาตรการ ประกอบด้วย การคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 7% ออกไปอีก 2 ปีงบประมาณ พร้อมทั้งยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในส่วนของรายได้ 1.5 แสนบาทแรก จากเดิมที่กำหนดที่ 1 แสนบาท โดยผู้มีเงินได้ต่ำกว่า 20,000 บาท จะได้รับการยกเว้นภาษีจากเดิมที่มีเงินได้ 16,000 บาทต่อเดือน
    รวมทั้งเพิ่มค่าลดหย่อนบุตรที่เลี้ยงดูบุพการีทุพพลภาพ (พิการ) หรือบุพการีที่เลี้ยงบุตรพิการอีก 3 หมื่นบาท/ปี และเพิ่มอัตราค่าลดหย่อนสำหรับเบี้ยประกันจาก 5 หมื่นบาท เป็น 1 แสนบาท อีกทั้งยังเพิ่มค่าลดหย่อนสำหรับการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อเกษียณอายุ (RMF) จาก 3 แสนบาทต่อปี เป็น 5 แสนบาทต่อปี
    ส่วนมาตรการกระตุ้นการลงทุนในตลาดทุนนั้นรัฐบายได้มีการขยายเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จากเดิมที่หมดอายุเมื่อสิ้นปี 2550 โดยขยายถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2552 ในการเสียภาษีนิติบุคคลในอัตรา 25% เป็นเวลา 3 รอบบัญชี เพื่อจูงใจเข้าตลาดหลักทรัพย์
    ทั้งนี้บริษัทจดทะเบียนเดิม จะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีจากเดิม 30% เป็น 25% สำหรับกำไรสุทธิไม่เกิน 300 ล้านบาทแรก ส่วนที่เกินให้เสียภาษีอัตรา 30% และให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และนิติบุคคล สำหรับวิสาหกิจชุมชนที่มีรายได้ไม่เกิน 1 ล้านบาท/ปี
    นอกจากนี้ยังได้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ในส่วนกำไรสุทธิ 1.5 แสนบาทแรก จากเดิมรายได้ 1 ล้านบาทแรก จะเสียภาษี 15% ส่วนที่เกิน 1-3 ล้านบาท จะเสียภาษี 25% และเกิน 3 ล้านบาทขึ้นไป จะเสียภาษี 30% และมาตรการปรับโครงสร้างการผลิตและปรับเปลี่ยนเครื่องจักรไปใช้พลังงานทดแทนหรือประหยัดพลังงาน โดยให้นำรายจ่ายการลงทุนดังกล่าวไปใช้คำนวณภาษีได้ 1.25 เท่า หรือ 125% จากรายจ่ายที่จ่ายจริง
ตลท.หนุนนโยบายรัฐเ
    นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า
การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยะขยายระยะเวลาการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลให้บริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลท.  จะช่วยจูงใจให้บริษัทเข้ามาจดทะเบียนมากขึ้น
          นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลให้กับเอสเอ็มอีและบริษัทจดทะเบียน จะสร้างบรรยากาศการทำธุรกิจที่ดีขึ้น เพราะเอกชนจะคลายความกังวลในเรื่องภาษีและเป็นการกระตุ้นให้ภาคเอกชนสนใจขยายการลงทุนมากขึ้น
เร่งเศรษฐกิจฟื้นเร็ว
    นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพยจัดการกองทุน ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาตรการทางภาษีเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจนั้น จะช่วยกระกระตุ้นทั้งในส่วนของการบริโภค และการออมในระยะยาวได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจภายในประเทศฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
    อย่างไรก็ตามในส่วนของ บลจ.ไอเอ็นจีเองในขณะนี้ยังไม่มีการเพิ่มโปรดักส์ใหม่ เพื่อรองรับมาตรการทางภาษีดังกล่าว แต่จะมีการเพิ่มโปรดักส์ เพื่อรองรับโปรดักส์เดิมที่มีอยู่แล้ว และค่อนข้างที่จะครอบคลุมครบทุกอย่าง
    สำหรับในส่วนของตลาดหุ้นนั้นมองว่าช่วงสั้นจะเป็นผลบวกในช่วงจิตวิทยาที่จะทำให้มีเม็ดเงินไหลเวียนเข้ามามากกว่าเดิมได้ แต่ในระยะยาวขึ้นอยู่กับการลงทุนมากกว่าว่าจะเกิดขึ้นได้เร็วมากน้อยแค่ไหน
ดึงฝรั่งใส่เงินเพิ่ม
    นายวรภัคร ธันยาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เจ พี มอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า  มาตรการทางภาษีของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศของไทยนั้น มองว่าในระยะสั้นจะช่วยกระตุ้นให้มีการระดมทุนในตลาดทุนเพิ่มมากขึ้น และยังช่วยให้รายได้ และกำไรของบริษัทจดทะเบียนเติบโตเพิ่มขึ้น
    ส่วนในระยะยาวจะยังคงต้องติดตามต่อว่าหลังจากภาครัฐใช้มาตรการทางภาษีแล้วรายได้ของรัฐจะลดลงไม่ และทั้งการลงทุนของโครงการเมกะโปรเจ็กต์จะได้รับการผลักดันให้เกิดการลงทุนได้เร็ว ซึ่งหากเกิดขึ้นเร็วจะยิ่งดึงเม็ดเงินต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนได้เร็วมากขึ้น
    นายวรภัคร กล่าวต่อว่า นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในประเทศไทย และตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ซึ่งสังเกตุได้จากการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างประเทศที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดซื้อสุทธิ 1,346 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้ยอดซื้อสุทธิรวมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันมีจำนวนรวม 29,083  ล้านบาท
    ส่วนกรอบดัชนีสิ้นปีนี้มองไว้ที่ 970 จุด และคาดว่าการประชุมกนง.ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้จะปรับ
ลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% เหลือ 3.00%โดยกลุ่มที่ยังคงเป็นเป้าหมายลงทุนของต่างชาติยังคงเป็นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มพลังงาน
    อย่างไรก็ตามยังคงต้องจับตาปัญหาการถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐที่จะส่งผลกระทบไปมากกว่านี้หรือไม่ ซึ่งอาจจะมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนต่างชาติได้
โบรกไทยคงเป้าดัชนี975 จุด
    นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า มาตรการทางภาษีที่ต้องการจะกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐนั้น มองว่าจะมีผลทางจิตวิทยาเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น แต่ในระยะยาวนั้นจะต้องติดตามว่าจะมีการดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้ได้จริงมากน้อยแค่ไหน ดังนั้นจึงยังคงเป้าดัชนีปีนี้ที่ 975 จุดเหมือนเดิม
    ฝ่ายวิจัยแบ่งปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในครั้งนี้ออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะสั้นจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ซึ่งจะทำให้มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งกลุ่มที่ได้รับผลบวกดังกล่าว ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มค้าปลีก กลุ่มสินค้าเกษตร กลุ่มเดินเรือ และกลุ่มบันเทิง
    ส่วนกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์ในระยะยาว คือ กลุ่มรับเหมา กลุ่มธนาคารพาณิชย์ หลังจากที่มีการลงทุนด้านคมนาคม หรือเมกะโปรเจ็คต์ ซึ่งจะดึงบริษัทเอกชนทั้งในประเทศ และต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยสูงขึ้น และจะเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนเพิ่มขึ้น
    อย่างไรก็ตามการลงทุนจะต้องพิจารณาถึงปัจจัยพื้นฐานของบริษัทนั้นๆด้วย เพราะบางบริษัทราคาหุ้นได้ปรับตัวเพิ่มสูงเกินไป เมื่อพิจารณารายได้ และกำไรแล้วยังมีการเติบโตที่น้อย หรือยังขาดทุนอยู่แนะนำหลีกเลี่ยงไปลงทุนในบริษัทอื่นที่มีผลตอบแทนที่ดีกว่า

เสิร์ฟ10มาตรการภาษี เชื่อมั่นฟื้นฝรั่งขนเงินกลับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 26, 2008 10:35 am
โดย Blueblood
:cheers:

เสิร์ฟ10มาตรการภาษี เชื่อมั่นฟื้นฝรั่งขนเงินกลับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 26, 2008 10:50 am
โดย beammy
ว้าวววววว  :8)  ...

Re: เสิร์ฟ10มาตรการภาษี เชื่อมั่นฟื้นฝรั่งขนเงินกลับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 26, 2008 10:55 am
โดย nuttachk23
[quote="vichit"]