หน้า 1 จากทั้งหมด 1

รัฐกระเป๋าฉีกรีดปันผลปตท.1.4 พันล้าน

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 20, 2008 1:25 pm
โดย vichit
รัฐกระเป๋าฉีกรีดปันผลปตท.1.4 พันล้าน

             สคร. เสนอคลังบีบปตท.จ่ายปันผลปีนี้เพิ่มอีก 0.50-1.0 บาท เป็นเงิน 700-1,400 ล้าน
บาท ในฐานะผู้ ถือหุ้นใหญ่ ชดเชยรายได้ ทีโอที และ กสท ที่หายไป รวมทั้งดึง เงินค่าก่อสร้าง
โรงงานยาสูบอีก 4 พันล้านเข้าคลัง อุดช่องโหว่รายได้รัฐบาลปี 2551
            แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
(สคร.) เตรียมเสนอผู้บริหาร ระดับสูงของกระทรวงการคลัง เพื่อสั่งการให้ตัวแทนของกระทรวง
การคลังในบอร์ดบมจ. ปตท. ไปดำเนินการประสานงาน กับกรรมการให้อนุมัติจ่ายปันผล ให้
กระทรวงการคลังเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 0.50-1.0 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 700 ถึง
1,400 ล้านบาท เพื่อชดเชย รายได้ที่ขาดหายไปจาก บมจ. ทีโอทีและบมจ.กสท
            สำนักงานคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจยืนยันที่จะ พยายามหารายได้ให้ใกล้เคียง
กับเป้าที่ตั้งไว้ 98,650 ล้านบาท โดยหาจากแหล่งอื่นมาทดแทน ซึ่งส่วนหนึ่งจะมาจากเงินปันผล
ของบมจ.ปตท.ที่คลังเป็นผู้ถือหุ้น ใหญ่ แหล่งข่าวกล่าว
           โดยแหล่งข่าวสมมติว่าบมจ.ปตท.ต้องจ่ายปันผลปีนี้ 11 บาท ก็จ่ายเพิ่มขึ้นอีก 1 บาท    
เป็น 12 บาทต่อปี ซึ่งต้องหารือกันก่อน ว่าปตท.มีภาระมากน้อยแค่ไหนในปีนี้ โดยบมจ.ปตท.
มีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 25% ของกำไรสุทธิของงบการเงินรวมหลังหักเงินสำรองต่างๆ ทุก
ประเภทที่กฎหมายและบริษัทได้กำหนดไว้ ซึ่งปัจจุบันปตท.จ่ายปันผลปีละ 2 ครั้งตามนโยบาย
ของกระทรวงการคลัง
            สำหรับกรรมการตัวแทนของกระทรวงการคลัง ในบมจ.ปตท. อาทิ นางพรรณี สถา
วโรดม ผู้อำนวยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง , นางพันธ์ทิพย์ สุรทิณฑ์ อธิบดีกรมธนารักษ์  โดย
ปัจจุบันคลังถือหุ้นในบมจ.ปตท.ทั้งสิ้น 1.46 พันล้านหุ้น คิดเป็น 52%
           นอกจากนี้ ทางสคร.ยังจะเรียกเก็บรายได้จากโรงงานยาสูบเพิ่มอีก 4,000 ล้านบาท หาก
ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างโรงงานยาสูบแห่งใหม่ได้ทันภายในปีนี้ สำหรับเงินของโรงงานยา
สูบในโครงการนี้ ตามมติคณะรัฐมนตรีระบุไว้ว่าหากโรงงานยาสูบไม่นำเงินไปก่อสร้าง หรือใช้ไม่
หมดและเหลือบางส่วนต้องนำเงินดังกล่าวคืนให้คลัง
            อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจยังได้กล่าวว่า
สำหรับแผนที่จะให้กรมสรรพากรและกรมศุลกากร จัดเก็บภาษีประจำปี 2551 เพิ่มขึ้นรวม 2.3
หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ โดยกรมสรรพากรต้องเก็บภาษีเพิ่มอีก 1.3 หมื่นล้าน
บาท จากเป้าเดิม 1.2 ล้านล้านบาท และให้กรมศุลกากรเก็บภาษีเพิ่มอีก 1 หมื่นล้านบาทจากเป้า
เดิม 8.78 หมื่นล้านบาท คงเป็นไปได้ยาก
            อธิบดีทั้งสองกรมฯยอมรับว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ที่จะเก็บภาษีเพิ่มขึ้นจากเป้าเดิม
ที่ตั้งไว้ในภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ดังนั้นทางสคร.จึงต้องหารายได้ให้ใกล้เคียงกับเป้าหมาย
มาก ที่สุดเพื่อลดภาระของกรมภาษี แหล่งข่าวกล่าว
            สำหรับเงินนำส่งของรัฐวิสาหกิจในรอบ 4 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2550 ถึงมกราคม
ปี 2551 นำส่งรายได้รวมทั้งสิ้น 34,279 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ
4,197 ล้านบาท คิดเป็น 10.9% เนื่องจากบมจ.ทีโอทีและบมจ.กสท ไม่ส่งรายได้ตามเป้า
            ขณะที่กรมสรรพสามิต จัดเก็บได้รวม 95,566  ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 867 ล้าน
บาท หรือ 0.9% ทั้งนี้ ภาษีเกือบทุกประเภทจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการที่สำคัญ อาทิ  ภาษี
สรรพสามิตรถยนต์ จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 2,750 ล้านบาท หรือ 13.3% เนื่องจากในช่วง
นี้ประชาชนได้ชะลอการซื้อรถยนต์นั่งใหม่เพื่อรอรถยนต์นั่งที่สามารถเติมน้ำมัน E20 ที่มีอัตรา
ภาษีที่ลดลง ส่วนภาษีน้ำมันจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 2,324 ล้านบาท หรือ 0.1%


ที่มา สยามธุรกิจ     วันที่   20/02/08   เวลา   9:28:17