Thai VI

8) ผมก็มานั่งคิดดูว่า

อ่า พี่พอใจกำลังจะคืนให้สังคม ดีๆ รอฟัง ว่าพี่มีหลักการไง 1 2 3

อิอิ

8) อาจารย์คนแรกของผมก็ท่านดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นี่เอง
    ผมอ่านตีแตก สามเที่ยวในรอบการอ่านรอบเดียว
    เหมือนอะไรที่ค้นหามานาน
    ถ้าเป็นอาร์คีมีดิส คงร้อง ยูเรก้าอะไรประมาณนั้น
    อื๋อ...มันมีการลงทุนแบบนี้อยู่ด้วยหรือ
    ลงทุนแบบที่ใช้ความรู้ ใช้ความสามารถ ใช้ความอึด ใช้การวิเคราะห์กิจการ
    แล้วก็ไม่ทุกข์ใจ ดูจอ ก็ได้ไม่ดูจอก็ได้
    หลังจากนั้นผมก็ไปหาหนังสือของท่านที่ซีเอ็ดมีอยู่ทุกเล่มมานั่งอ่าน
    ผมอ่านหนังสือทุกเล่มที่ท่านเขียนและแปลเท่าที่ซีเอ็ดมีขายมาโดยตลอด
    หลังจากนั้นก็เป็นการตามไปฟังท่านพูดในงานสัมนาตามที่ต่างๆ
    ส่วนใหญ่ก็เป็นงานที่ตลาดจัด
    ของสมาคมวิศวกรรมสถาน
    ของสมาคมส่งเสริมนักลงทุนไทย
    set in the city
    ของห้องสมุดมารวยจัด
    ล่าสุดก็ตามไปฟังที่ศศินทร์จัด
    รวมๆต้องตามฟังที่ท่านพูดให้ความรู้มาไม่มีต่ำกว่า20ครั้ง เห็นจะได้
    รายการmoney talk daily ก็ดูอยู่เป็นครั้งคราว
    ฟังทุกทีก็ได้ความรู้ใหม่เพิ่มทุกครั้ง
    ส่วนตัวนับถือท่านมาก เพราะท่านก็ให้กับพวกเราๆมาโดยตลอด ของชีวิตการลงทุนของท่าน

8) เล่มนี้แหละครับ ที่พาให้ผมระหกระเหินเดินทางมาเส้นทางนี้

คิดถึงท่านพุทธทาส
เทศน์เสร็จจะมาเขียนหนังสือทุกครั้ง
เหมือนป๋าเลย  

8) ดูโน๊ตบางส่วนที่ take ไว้ในหนังสือเล่มนี้

8) เจ๋ง หนึ่งในครูที่สอนผมมา
    มาทักทายพอดี
    พอดีคิดขึ้นมาได้ว่ามีวิชาการลงทุนที่ผมประยุกต์จากหลายๆท่าน
    มาเป็นวิชาแมวสามขาของผมเอง
    จนพอเอาตัวรอดมาได้ในตลาดหุ้น
    ได้มาจากใครบ้าง
    บูชาครู นี่เจริญนี่นา
    ก็เลยพยายามทะยอยเขียนเส้นทางขรุขระที่พวกเราเลือกเดินกันอยู่

[quote=".^O-O^"]คิดถึงท่านพุทธทาส
เทศน์เสร็จจะมาเขียนหนังสือทุกครั้ง
เหมือนป๋าเลย

ผมเข้าตลาดไล่เลี่ยกับพี่พอใจเลยครับ

แต่.....เหอะ ๆ ทุกวันนี้ผมก็ยังคลานต้อมต้อย

ถึงได้บอกครับว่า พี่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมมาก ๆ ตอนที่พี่บอกว่าพี่เข้าตลาดปี 47

มันเหมือนโดนหมัดฮุคครับ ผมถามตัวเองว่า (xxx) มัวแต่ไปทำอะไรอยู่  :lol:

จากที่ตั้งแต่ต้นปีฮึดมาได้ระดับนึงแล้ว กลับมีแรงฮึดที่จะศึกษาจริงจังให้ได้อีก



พี่ยิ่งทำให้ผมเชื่อครับ

ว่าจุดเริ่มต้นของคนเราไม่สำคัญ

มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก

8) ข้อเด่นของอ.นิเวศน์
    ที่พวกเราจะไม่ยอมรับไม่ได้เลยคือวิธีการของท่านประสบความสำเร็จอย่างชัดเจน
    จากการลงมือลงทุนด้วยตัวเอง
    ชนะตลาดอย่างท่วมท้น
    เป็นระยะเวลายาวนาน
    ท่านไม่ได้ประสบความสำเร็จจากการแต่งตำรา รู้แต่ทฤษฎี
    ซึ่งข้อนี้ใครจะไม่ยอมรับท่าน ไม่ได้จริงๆ
    แม้แต่เซียนหุ้นกึ่งเก็งกำไรบางท่าน
    ซึ่งผมโชคดีได้รู้จัก ในเวลาต่อมา ก็ยอมรับท่านในฐานะเซียนวีไอเช่นกัน
    เพราะมันเป็นfact of life
    พวกคนเก่งด้วยกัน เขาคงอ่านกันออก

    2ปีที่แล้วผมเคยไปฟังอ.นิเวศน์พูดที่ตลาด
    รายการเล็กๆ คนฟังไม่เกินร้อย
    เป็นการพูดเดี่ยว ราวๆ2ชั่วโมง
    พูดไปพูดไปซัก45นาที
    อ.นิเวศน์ท่านก็ให้เริ่มถามเรื่องหุ้นเป็นตัวๆ
    แล้วท่านก็วิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็งของธุรกิจนั้นๆได้
    ทีนี้ก็ถามกันใหญ่
    รายการเลยเวลาไปซักครึ่งชั่วโมง เห็นจะได้
    วันนั้นก็เลยได้รู้ว่า อ.เรายอดจริงๆเรื่องวิเคราะห์กิจการ
    แต่ถ้าเป็นระดับงานใหญ่ คนเยอะๆ ท่านมักพูดเฉพาะหลักการ

    ส่วนตัวผมเจอท่านบ่อย
    แต่เพิ่งมีโอกาสได้กราบสวัสดีท่านเมื่อไม่นานมานี้เอง
    เมื่อวันงานมีตติ้งประจำไตรมาสของไทยวีไอ ที่ร้านin love
    ท่านว่า อ๋อๆคนนี้นะ พอใจ
    ผมก็บอกครับ ผม พอใจ...ฮ่า...
    ทักกันได้แค่นั้น
    พลพรรคชาวเวบก็รุมล้อมถามโน่นถามนี่ท่านต่อดังเดิม
    จำได้ว่าวันนั้นท่านกลับดึกเหมือนกัน 4ทุ่มกว่าเกือบ5ทุ่ม

Capo เขียน: พี่ยิ่งทำให้ผมเชื่อครับ

ว่าจุดเริ่มต้นของคนเราไม่สำคัญ

มันสำคัญที่ว่าเขาวิ่งได้เร็วแค่ไหนตะหาก

จะว่าเร็วก็ไม่เร็วนะ
ผมว่าวิ่งอึดมากกว่า
อาจยากหน่อยตอนเริ่มต้น แต่พอตอกเข็มเสร็จ
ตัวอาคารก็ต่อยอดง่ายขึ้นบ้าง...
แต่ผมมีความเชื่อส่วนตัวนะว่า
ไม่ใช่ทุกคนจะลงทุนแล้วสำเร็จ
ต้องชอบต้องรักมันจึงจะทำได้
ทุกวันนี้เพื่อนฝูงผมระอาผมหมดแล้ว
เมื่อก่อนคุยกันมีแต่เรื่องกีฬา จีบสาว เที่ยวที่ไหนดี
เดี๋ยวนี้คุยแต่เรื่องหุ้นเรื่องเศรษฐกิจเรื่องคอมโมดิตี้ เหมือนคนติดยาบ้า
ถ้าคุยเรื่องนี้คุยกันได้ทั้งวัน ไม่มีเบื่อ
แต่เราก็ต้องมีความรู้ไปคุยแลกกับเขานะ
ที่แปลกคือน้องๆที่มาเล่นแบดด้วยคุยกันเรื่องหุ้นบ๊อยบ่อย
ถือหุ้นไม่เหมือนกันเลยซักกะคน

por_jai เขียน:ที่แปลกคือน้องๆที่มาเล่นแบดด้วยคุยกันเรื่องหุ้นบ๊อยบ่อย
ถือหุ้นไม่เหมือนกันเลยซักกะคน

ก็พี่บอกเอง

ของงี้ไม่มีใครเชื่อใครหรอก

"ต้องโดนเอง"  :lol:

คนโดน ก็หายไป

คนไม่โดน ... สำเร็จหรือไม่สำเร็จ ก็อยู่ต่อไป  :lol:

ก่อนหน้านี้ประมาณปี 47ผมก็อยากจะมีรายได้เพิ่มเข้ามาเพราะรู้สึกว่ารายได้ประจำมันช่างน้อยนิดเสียเหลือเกิน ก็ลองขายของมือสองบ้าง ทำเว็บบ้าง  อยากไปทำงาน part time  อยากทำ francise  ก็รู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ซะทีเดียว จนมาได้อ่านหนังสือของ warren buffet และได้เรียนรู้การลงทุนแบบ VI จนถึงจุดๆหนึ่งมันทำให้ผมค้นพบแนวทางการลงทุนของตัวเองครับ  8)

ต่อๆๆๆๆๆ ปูเสื่อรอ

เมื่อคืนคิดทันเลยเปิดดู  โฆษณาตอนกลางพอดี ยาวมากเล้ย
กลับมาดูอีกทีเห็นคุณเฮียนั่งเรียบร้อยเชียวครับ
เอ..แต่ทำไมต้องขยับเน็คไทบ่อย  เกี่ยวกับไมค์หรือเปล่าเอ่ย
หรือว่าต้องการจะสื่อว่าซื้อหุ้นอะไร..อิอิ

แต่เฮียเท่มาก
ดูรวย..นิ่มนิ่ม อย่างไรไม่รู้ครับ

กลับเข้ามาประมาณ47 ใกล้เคียงกันเลยครับพี่
ตีแตกก็จุดประกายผมเป็นเล่มแรกเหมือนกันครับ หลังจากที่เคยลงทุนแบบมั่วๆ ไม่มีข้อมูลเมื่อสมัย1700กว่าจุด (โชคดีที่ตอนนั้นเงินน้อย เลยเจ็บไม่มาก)

ต่อ...ครับพี่...ต่อ รอฟังต่อครับ... :lol:

เฮียไปตัดผมใหม่เพื่อออกรายการทีวีโดยเฉพาะ :lol:

por_jai เขียน:8) เล่มนี้แหละครับ ที่พาให้ผมระหกระเหินเดินทางมาเส้นทางนี้

เล่มนี้เป็นหนังสือหุ้นเล่มแรกที่ผมอ่านเหมือนกันครับ

มารอฟังด้วยคนครับ ...  
ปล. ใครมีโอกาสได้เจอดร. ฝากบอกแกด้วยสิครับว่าพิมพ์ตีแตกขายอีกรอบได้แล้ว ... เพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่ผมรู้จักตามหากันให้ทั่ว หาซื้อกันไม่ได้แล้ว ผมเชื่อว่ายังมีคนอีกเป็นจำนวนมากที่อยากอ่าน แต่หาซื้อไม่ได้

มาปูเสื่อรออ่านบทความของซือเฮียพอใจ ก่อนจะออกเป็นพ็อคเก็ตบุ๊คขาย

[quote="yoyo"]มารอฟังด้วยคนครับ ...

แป่ว... พอโพสต์เสร็จก็โทรไปถามที่ร้าน ปรากฏว่ามีมือดีฉก (ซื้อ) ไปเรียบร้อยแล้ว (เร็วจริง ๆ)

แต่ผมเช็คในเวบไซท์ SE-ED.COM เห็นเล่มนี้ซื้อผ่านเวบได้แฮะ ได้ลด 10% ด้วย

http://www.se-ed.com/eShop/Book/BookDet ... odMCode=บธ

ปัญหาคือ ระบบ SE-ED ล่มอีกแล้ว กดซื้อแล้ว error .. เซ็งเลย  :x

มารอฟังอีก 1 คนครับ ขอบคุณพี่พอใจที่ช่วยเล่าประสบการณ์ที่หาซื้อไม่ได้ครับ  :cheers:  :cheers:  :cheers:

มานั่งฟังด้วยคนครับ  

จำได้ว่าตอนที่ผมเข้าเวปใหม่ๆก็มีพี่พอใจนี่แหละครับที่ให้คำแนะนำ

พี่บอกให้ไปออปเดย์ บ่อยๆเพราะหลายๆครั้งจะเห็นบริษัทดีๆ ที่ออปเดย์

ผมรู้สึกยินดี และดีใจมากครับที่พี่พอใจให้เกียรติผม ให้ผมเป็นสารถีให้หลายโอกาส

หลายครั้งได้ความรู้จากพี่ก็ในรถนี่แหละครับ ข้าน้อยขอคาราวะ      

อ่านแล้วซาบซึ้ง ซาบซึ้ง    

Little Boy เขียน:มาปูเสื่อรออ่านบทความของซือเฮียพอใจ ก่อนจะออกเป็นพ็อคเก็ตบุ๊คขาย

หนับหนุนคับ

มาต่อแถว  ลงทะเบียนเรียนด้วยคนครับ

ป๋าแนะนำวิธีดูหุ้นโรงงานด้วยนะ เขียนเป็นเรื่องมาเลยคงดีไม่น้อยเลยทีเดียว

8) พอดีเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
    ไปวิ่งที่สัตหีบมา
    ถือโอกาสไปนอนอ่านหนังสือจิบเบียร์ที่พัทยามาตั้งกะสายๆวันเสาร์
    ก็เลยไม่ได้มาเล่าต่อ
    อย่าถือว่าเรียนหรือสอนอะไรเลยครับ เครียดเปล่าๆ
   
    แบบพี่เบิร์ดว่าดีกว่า เล่าสู่กันฟัง
    หรือ บ่นบ้าตามประสาพอใจ
    มุมที่ผมมองไม่ใช่ว่าจะต้องถูกต้อง
    ผมมองมุมหนึ่ง
    พี่ๆน้องๆอาจมองอีกมุมก็ได้ ผมอาจมองผิดก็ได้
    ตาบอดคลำช้างที่หัวคนนึง ตัวคนนึง หางคนนึง
    ถ้ายึดมั่น ถือมั่น คงเถียงกันตายเหมือนกัน

8) หุ้นพื้นฐานดีๆมีในตลาดเยอะนะครับ
    ถูกบ้างแพงบ้างคละกันไป
    ผมมานั่งๆดูหุ้นพื้นฐานของอ.นิเวศน์มีลักษณะเด่นในตัวเองอย่างไร
    ท่านเลือกบริษัทเหล่านั้นเพราะอะไร
    จุดเด่นทั่วไปของหุ้นที่วีไอเราทำกำไรได้มี3อย่าง(ผมแบ่งตามที่หมอสามัญชนแบ่ง นะครับ เคยไปฟัง ชอบจังวิธีแบ่งแบบนี้)
    1.หุ้นก้นบุหรี่
    2.หุ้นเติบโต
    3.หุ้นวัฏจักร
    ในยุคแรกๆหุ้นที่อจ.ถือมักอยู่ในกลุ่ม2
    ซึ่งอ.มักถือมายาวนานจนกลายเป็นหุ้นแข็งแกร่ง
    ส่วนท่านจะขายเมื่อใด อันนี้คงไม่มีใครทราบ
    หุ้นเติบโตมักเติบโตได้จนถึงจุดนึงถ้าไม่มีbarrier to entryในตัวเอง
    ซึ่งbarrier to entry นี้ก็มีหลายลักษณะ
    เช่นผูกขาดการผลิต ผูกขาดเทคโนโลยี่หรือมีbrand loyalty
    และอื่นๆอีกหลายอย่าง นี่โพสเท่าที่คิดได้ ไม่ได้ไปค้นคว้า
    ผมสังเกตุว่าหุ้นที่ท่านเลือกมีจุดเด่นจุดนึงที่ผมมองข้ามไปในตอนแรกๆของการลงทุน
    ตอนนั้นผมคิดเพียงแต่ว่า ท่านอจ.ก็คงมีcircle of competanceไม่เหมือนผม

    (ยกตัวอย่างที่ผมบอกว่าชอบหุ้นโรงงาน
    เป็นเพราะผมคลุกคลีกับการทำงานกับโรงงานมานานหลายสิบปี
    โรงงานนี้งานเยอะงานน้อย พอดูออก
    คุยกับผู้ใหญ่ เจ้าของบริษัทหรือเอ็มดี เขาก็ต้องว่าบริษัทเขาดีแน่นอน
    ที่ดีสารพัดดีนี่ เราวีไอต้องซวยก่อน มาเยอะแล้วครับ
    ดีลบางดีลที่จะเกิดขึ้นบางครั้ง ถามผู้ใหญ่ๆไม่บอก
    แต่ระดับทำงานนี่เขาจะรู้นะครับ แล้วเขาก็ไม่ทราบว่าต้องปิดหรือเปล่า
    ถ้าเรามีคำถามที่เหมาะสม และทำการบ้านมาเป็นอย่างดี
เราก็พอได้คำตอบที่ต้องการ
    อย่างนี้เท่ากับเราจะคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้แม่นกว่านักลงทุนรายอื่น จริงไหมครับ
    การฟังพวกเจ้าของพูดเนี่ย ผมมีหลักว่าพูดอะไรเราก็ฟังๆไว้จดๆไว้
    แล้วคอยตามดูครับ ว่าสัญญาแล้วเป็นสัญญาหรือเปล่า
    ถ้าเป็นเพลงนูโว ที่ว่าสัญญาปากเปล่า เป็นแค่ลมเป่าปาก
    ผมก็ขอลา ก่อนใครละครับ
    เทคนิคของผมนี่พูดง่ายแต่ทำยากครับ
    เพราะน้องๆไม่ได้ลงทุนเต็มเวลาเหมือนผม ก็ต้องปรับๆจูนๆกันไป
    เพราะบางคนไม่ได้ใช้วิธีแบบนี้ แต่โคตรเซียนก็มีเยอะแยะให้เราเห็น
    ที่ถามๆว่ามาหุ้นโรงงานมีวิธีดูอย่างไร ก็ค่อยๆว่ากันไป
    ไม่ได้ลึกลับซับซ้อนอะไร
    ก็ประมาณนี้)