Thai VI

เวลาจะเสนอบทวิเคราะห์
น่าจะแสดง rating ความน่าเชื่อถือ ของนักวิเคราะห์ด้วย
โดย คำนวณ จาก ความสอดคล้องในอนาคตที่ได้ประมาณการไว้
ประเภท เขียน เชียร์ ว่า ราคาจะขึ้น 2 เท่า แต่ จริงๆ แล้ว ราคา หาร 2
จะได้ ไม่ต้องมีคนอ่าน

แบบ การ์ดพลัง ดรากอนบอล
แม่นมาก พลังการวิเคราะห์สูง
จะได้มีคนติดตามอ่าน

คนที่เขียนมั่วๆ จะได้ปรับปรุงตัว
คนที่เขียนดีๆ จะได้มีกำไรใจ
เป็นที่รู้จัก ของนักอ่าน และ นักตามแหลก (จนกระเป๋าแหก)

เห็นด้วยมากๆคับ ว่าแต่ผมก็ไม่ค่อยได้ฟังเค้าเท่าไหร่หรอก

โทษเค้าไม่ได้ครับที่ราคาขึ้นไม่ขึ้น... ต้องอ่านสมุติฐานว่าเป็นไปได้หรือไม่ เช่น forecast growth, etc.. ถ้าบริษัททำรายได้ตามที่เค้าคิดว่าได้ ลงทุนตามนั้นจริง อันนั้นก็ถือว่าเค้าทำหน้าที่เค้าดีแล้วล่ะครับ

คำว่า fair price คือราคาเหมาะสม แต่มันอาจจะเกินขาดได้ตลอดน่ะแหละครับ

Jangster เขียน:โทษเค้าไม่ได้ครับที่ราคาขึ้นไม่ขึ้น... ต้องอ่านสมุติฐานว่าเป็นไปได้หรือไม่ เช่น forecast growth, etc.. ถ้าบริษัททำรายได้ตามที่เค้าคิดว่าได้ ลงทุนตามนั้นจริง อันนั้นก็ถือว่าเค้าทำหน้าที่เค้าดีแล้วล่ะครับ

คำว่า fair price คือราคาเหมาะสม แต่มันอาจจะเกินขาดได้ตลอดน่ะแหละครับ

เอาแต่เรื่องราวในนั้นดีกว่าครับ
ผมก็เห็นว่า fair price มันเป็นตัวที่ กลืนไม่เข้า คายไม่ออกนะครับ เพราะลึกๆต้องตั้งราคาให้อิงตลาดด้วย ตลาดลง มาใส่ fair price เท่าเดิม หรือ ส่งงานหุ้นตัวเดิมผ่านมาปีนึงยังเขียนราคาเดิม ก็กระไรอยู่

Jangster เขียน:โทษเค้าไม่ได้ครับที่ราคาขึ้นไม่ขึ้น... ต้องอ่านสมุติฐานว่าเป็นไปได้หรือไม่ เช่น forecast growth, etc.. ถ้าบริษัททำรายได้ตามที่เค้าคิดว่าได้ ลงทุนตามนั้นจริง อันนั้นก็ถือว่าเค้าทำหน้าที่เค้าดีแล้วล่ะครับ

คำว่า fair price คือราคาเหมาะสม แต่มันอาจจะเกินขาดได้ตลอดน่ะแหละครับ

 เห็นด้วยในบางส่วน  ตรงที่ว่า สมมติฐานของเค้า ซึ่ง ก็ต้องว่ากันตามไป

แต่ไอ้ประเภท ให้  fair priceเท่านี้ แต่ เห็นราคาววิ่งใกล้ถึงหรือเกิน ไปแล้ว แทนที่จะแนะนำให้ขาย กลับบอกว่าขยับ fair price ขึ้น  โดยดู แค่ fund flowที่ไหลเข้ามาในหุ้นตัวนั้น  

  ชอบขยับfair price โดยที่ บอกว่าราได้ได้ยังเท่าเดิมอย่างที่ประมาณการณ์ อย่างนี้ก็ไม่ไหว เหมือนกัน นะครับ