หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ต่อจากเรื่องนาฬิกา เป็นเรื่องสมการไม่สมดุล
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 19, 2008 11:56 am
โดย Jeng
สมัยปี 2535 เกิดพฤษภาทมิฬ
ตอนนั้น หุ้นตก ฟลอเป็นแถบ
ผมเดินเข้าไปที่โบรกเกอร์ jf ธนาคม ซึ่งคุณมนตรี ศรไพศาล บริหารงานอยู่ ตรงตึกกสิกรสำนักงานใหญ่ ตึกเก่า
สภาพโกลาหลที่เห็นคือ บนกระดานแดงเถือก ทุกคนมองไปที่ tv แล้วตกใจกันหมด
ผมก็เห็นการถ่ายทอด cnn ซ้ำแล้วซ้ำอีก มีภาพทหารยิง ประชาชน ซึ่งผมไม่รู้ว่าเป็นเรืองจริงหรือไม่ แต่ถ่ายซ้ำแล้วซ้ำอีก ( กระทู้นี้ไม่ได้ว่าทหารนะครับ กำลังพูดเรื่องหุ้น และเล่าจากเหตุการณ์จริง )
ตอนนั้นผมคิดว่า
เงิน 1 ล้าน หากประเทศล่มเหลือเท่าไร คำตอบ 0
หุ้น 1 ล้าน หากประเทศล่มเหลือเท่าไร คำตอบ 0
เงิน 1 ล้าน หากประเทศไม่ล่มเหลือเท่าไร คำตอบ 1 ล้าน
หุ้น 1 ล้าน หากประเทศไม่ล่มเหลือเท่าไร คำตอบ มากกว่า 1 ล้าน
ผมคิดว่า แปลกดี สมการไม่สมดุล
ผมก็เลยซื้อ BBL เพราะเป็นแบงค์อันดับหนึ่ง ซื้อได้ ประมาณ 60 บาท ซื้อที่ฟลอร์
ผ่านไป 7 เดือนไม่ได้ ดูจอ ขายได้ที่ราคา 100 บาท
เพื่อนๆคิดอย่างไรเรื่องสมการไม่สมดุล
วิจารณ์กันหน่อย
อิอิ
ต่อจากเรื่องนาฬิกา เป็นเรื่องสมการไม่สมดุล
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 19, 2008 12:08 pm
โดย naris
สมการที่ไม่สมดุลเขาเรียก อสมการหรือคือสองข้างไม่เท่ากัน เรื่องที่พี่เจ๋งในความเห็นไว้ผมไม่แย้งครับ แต่ผมก็มีอีกมุมที่เสนอฝากไว้
เงิน1ล้าน ประเทศล่มจม ก็อาจเหลือค่าเพียง10-20%
หุ้น1ล้าน ประเทศล่มจม ก็อาจเหลือค่าเพียง10-20% เช่นกัน
เงิน1ล้าน ประเทศไม่ล่มจม ก็มีค่า1.0-1.1ล้าน
หุ้น1ล้าน ประเทศไม่ล่มจม อาจมีค่า0-10ล้าน
สรุปว่า หุ้นมีช่วงความเสี่ยงสูงกว่าเงินสด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยกว่าครับ ส่วนพี่เจ๋งซื้อหุ้นที่ดีในช่วงpanicที่มีmargins of safety สูงเท่านั้นเองครับ แต่ถ้าวันนั้นใครไปซื้อผิดตัว ตอนนี้เขาคงคิดตรงกันข้ามกับพี่เจ๋งครับ

ต่อจากเรื่องนาฬิกา เป็นเรื่องสมการไม่สมดุล
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 19, 2008 1:06 pm
โดย romee
ไอ้คำว่า "หากประเทศไม่ล่ม" ผมว่ามันไม่ใช่ สมการนะ
ออกจะเป็นแนวตรรกะ มากกว่า
ต่อจากเรื่องนาฬิกา เป็นเรื่องสมการไม่สมดุล
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 19, 2008 1:53 pm
โดย mprandy
VI มักใช้เหตุการณ์อย่างนี้ที่เรียกว่า Market anomaly ให้เป็นประโยชน์เสมอ
เห็นด้วยกับทั้งเฮียเจ๋ง และเฮียนริศครับ เราไม่สามารถหุ้นซื้อดะไปหมดแบบสุ่มได้ ดังนั้น ค่า 0-10 ล้าน คงจะมีค่าได้ต่าง ๆ กัน อาจจะเป็น 0, 1, 5 หรือ 10 ขึ้นกับหุ้นแต่ละตัว แต่ความเห็นผมนั้น VI มากประสบการณ์ คงจะได้ range ไปทางกำไรแน่ ๆ และมีไม่น้อยที่ได้ทางกำไรมาก ๆ ด้วย
VI อย่างเรา ๆ แม้หุ้นจะตกลงมาทั้งกระดาน ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะซื้อหุ้นตัวไหนก็ได้ VI มักจะมองหุ้น และมีหุ้นในดวงใจไว้แล้ว แต่อาจจะยังไม่ได้ซื้อหรือซื้อเพิ่ม เพราะสถานะของราคายังไม่เหมาะสมที่จะซื้อ
พอมี market anomaly อย่างนี้ กระโจนเลยครับ..
Be greedy when others are fearful .. เป็นคำกล่าวของปรมาจารย์ Warren Buffett ที่ใช้ได้ดี
ตัวอย่างอื่นก็เช่น Black Monday ที่เป็นจังหวะให้ Warren เข้าซื้อหุ้น Coca-Cola แบบเน้น ๆ
หรือเหตุการณ์ อุ๋ย effect ที่เป็นจังหวะให้เฮียพอใจ ซื้อจนเหลือเงินแค่ 13 บาท (ถ้าจำไม่ผิด) 8)
ต่อจากเรื่องนาฬิกา เป็นเรื่องสมการไม่สมดุล
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 19, 2008 2:07 pm
โดย boy2t
แล้วตอนหุ้นขึ้น ไป 1700 จุด รู้สึก bbl 550 พอมีปัญหาเหลือ 100 ใช่เป่า
ต่อจากเรื่องนาฬิกา เป็นเรื่องสมการไม่สมดุล
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 19, 2008 3:02 pm
โดย phobenius
ตรงที่มันไม่เท่ากันน่าจะเกิดจากความน่าจะเป็นมากกว่าครับ
เหมือนความคาดหวัง ณ จุดนั้นไม่เหมือนกัน ราคาน่าจะสะท้อนออกมา ณ ข้อมูลขณะนั้น ลองตีความน่าจะเป็นที่คุณคิดขณะนั้นออกมาแล้วจะเห็นว่าราคาที่คุณซื้อ ณ ตอนนั้นคือราคาเหมาะสมต่อความเสี่ยงต่อประเทศที่คุณคิด ณ ขณะนั้นเช่นกัน
เวลาผ่านไป ความน่าจะเป็นที่ล่มสลายซึ่งอาจจะหมายถึงทั้งธนาคารและปะเทศด้วย เปลี่ยนไป ราคาหุ้นก็ย่อมแปลงตามไปด้วย
มั้ง
ต่อจากเรื่องนาฬิกา เป็นเรื่องสมการไม่สมดุล
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 20, 2008 2:01 am
โดย pavilion
ถ้าประเทศล่มจมแล้วผมจะมีเงินไปทำไมละครับ :)
ต่อจากเรื่องนาฬิกา เป็นเรื่องสมการไม่สมดุล
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 20, 2008 8:43 am
โดย tycoon
ในปัจจุบัน ประเทศไทยพัฒนามามากจนกระทั่งโอกาศเกิดความล่มจมมีค่าใกล้ศูนย์
ต่อจากเรื่องนาฬิกา เป็นเรื่องสมการไม่สมดุล
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 20, 2008 8:48 am
โดย << New >>
ว่าแต่ P'Jeng ไม่คิดจะซื้อทองหรอครับ
ถ้าประเทศล่มเงิน,หุ้น อาจไม่มีค่า
แต่ทองน่าจะมีอยู่ ...
ต่อจากเรื่องนาฬิกา เป็นเรื่องสมการไม่สมดุล
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ม.ค. 20, 2008 9:12 am
โดย Jeng
อืม ตอนนั้นคิดว่าประเทศไม่มีทางล่มครับ และบรรยากาศตอนนั้นในตลาดหุ้น ทุกคนขายกันหมด ก็เลยคิดว่า ราคาน่าจะต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง เพราะไม่มีใครสนใจ มูลค่าที่แท้จริง
ณ เวลานั้น คนเล่นหุ้น ส่วนใหญ่ ไม่มีใครดูงบการเงิน อินเตอร์เน็ต อย่าง set.or.th ก็ม่ายมี หรือว่ามีแต่ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนั้น ปี 2535 ครับ
ต่อจากเรื่องนาฬิกา เป็นเรื่องสมการไม่สมดุล
โพสต์แล้ว: จันทร์ ม.ค. 21, 2008 10:34 am
โดย adi
naris เขียน:สมการที่ไม่สมดุลเขาเรียก อสมการหรือคือสองข้างไม่เท่ากัน เรื่องที่พี่เจ๋งในความเห็นไว้ผมไม่แย้งครับ แต่ผมก็มีอีกมุมที่เสนอฝากไว้
เงิน1ล้าน ประเทศล่มจม ก็อาจเหลือค่าเพียง10-20%
หุ้น1ล้าน ประเทศล่มจม ก็อาจเหลือค่าเพียง10-20% เช่นกัน
เงิน1ล้าน ประเทศไม่ล่มจม ก็มีค่า1.0-1.1ล้าน
หุ้น1ล้าน ประเทศไม่ล่มจม อาจมีค่า0-10ล้าน
สรุปว่า หุ้นมีช่วงความเสี่ยงสูงกว่าเงินสด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยกว่าครับ ส่วนพี่เจ๋งซื้อหุ้นที่ดีในช่วงpanicที่มีmargins of safety สูงเท่านั้นเองครับ แต่ถ้าวันนั้นใครไปซื้อผิดตัว ตอนนี้เขาคงคิดตรงกันข้ามกับพี่เจ๋งครับ

เห็นด้วยครับ