Thai VI

555

ผมเห็นหลายๆคนเวลาซื้อหุ้นแล้วคิดว่าขึ้น พอหุ้นที่คิดว่าขึ้น แสดงว่า ณ ราคานั้นๆ มั่นใจ ไม่ว่าจะดุกราฟ ดูวอลลุ่ม หรือดูพื้นฐาน

อย่างไรก็ตาม พอยึดว่าราคานั้นๆ ถูกแล้ว ซึ่งจริงๆ ถูกจริงหรือไม่ เพราะอะไร หลายคนจะตอบไม่ได้ แต่มักจะตอบได้ว่าถูกเพราะก่อนหน้านี้ ราคาเท่านั้นเท่านี้

ยกตัวอย่าง sam ลงจาก 10 บาท เหลือ 3 บาท โห ฟลอสอง ก็มีคนเข้าไปรับครับ

และ ณ เวลานี้เหลือ 1.52

เทคนิค ต่อช้อนหัก

ทำไงดีเหรอ ก็มีหลายคน ให้ ลดพอร์ทเหลือครึ่งหนึ่ง หากไม่มั่นใจ

อันนี้สูตร เสียแขนขา รักษาชีวิต

ก็คือ ว่า ถ้า ถือไว้ 50 % ถ้าหุ้นลงต่อ ก็มีเงินอีก 50 % ไว้ซื้อหุ้นถูกๆ

แต่ถ้ามันเด้งไปเลย ก็ไม่ขาดทุนมาก เนื่องจากลดพอร์ทเหลือ 50 %

สูตรนี้ไม่เหมาะกับหุ้นพื้นฐานแนว vi

แต่สำหรับหุ้นที่ไปซื้อเกินพื้นฐาน เยอะๆ แล้วราคาลงมา สูตรนี้อาจจะใช้ได้นะครับ ผมเองก็ไม่ทราบ

เพราะผมก็ยังเต็มพอร์ทอยู่

ขอให้โชคดี กับแดงเดือด เลือดทะลัก กันเป็นแถบๆ

การซื้อ ในขณะที่ตลาดแดง หุ้นลงต่ำ ผมเห็นมือใหม่หลายคนรีบเข้าไปรับอย่างรวดเร็ว

ลงมานิด เด้งไปหน่อย ก็รับแล้ว

สุดท้ายหุ้นลงต่อ

ผมขอยกตัวอย่างในอดีต จะได้ไม่กระทบหุ้น ณ ปัจจุบัน

สมัยก่อนผมคำนวณพื้นฐานไม่เป็น แต่ชอบ ตัวธุรกิจ โบรเกอร์ก็บอกว่า ดี ผมก็ซื้อ

bigc ที่ 19.00

ปรากฎว่า ราคาลงครับ ทั้งๆที่ 4 ปีที่ผ่าน จาขาดทุนมาก เป็นขาดทุนน้อย เป็นเสมอตัว และเป็นกำไร

ทุกอย่างดูดี bigc ขยายสาขา ขยายงานมากมาย

ราคาลง มาที่ 16.50 ผมค่อยรับครับ รับไป สองเท่า ของครั้งแรก

ปรากฎว่าลงต่ออีกครับ

เหลือ 12.50 ที่นี้ ผมซื้อ 8 เท่าเลย

เด้งไป 18 ผมก็ขายไปหมด

ผมก็มานั่งคิดว่า หุ้นที่เราซื้อเราก็อยากได้กำไร ไม่มีใครอยากซื้อหุ้น แล้วมันลง

ทั้ง ดูพื้นฐาน ดูกราฟ ซื้อแล้วอยากให้ขึ้นทั้งนั้นแหละ

แต่ถ้ามันลง ต้องหยุดซื้อก่อนครับ

ให้มันลงไปเยอะๆ เยอะมากๆ

แล้วลองทำการบ้านใหม่

ตอน bigc ปรากฎว่า ราคา 12.50 pe ประมาณ 8 ครับ

แสดงว่า ตอนผมซื้อ 19 นี่ ผมไม่ได้ดูอะไรเลย นอกจากชอบธุรกิจ และโบรกเกอร์ ก็บอกว่าดี

สุดท้าย ผมก็ได้เรียนรู้

ลองมาคิดดูเล่นๆ หากใครซื้อ sam จาก 10 บาท ลงมา 5 บาท ซื้อเพิ่ม

ลงมา 2 บาทซื้อเพิ่ม เยอะเลย

ป่านนี้จะเป็นอย่างไร

เพราะฉะนั้นหุ้นที่ไม่มีพื้นฐานรับ นี่ซื้อตอนลง อาจจะหมดตัวได้ครับ

แต่พูดอย่างนี้ใครเล่น sam ก็อย่าว่าผมละกัน เพราะ sam ขาดทุน ในมุมของผมนั้น ผมไม่ซื้อหุ้นที่ขาดทุน

ผมจะซื้อหุ้นที่มีกำไร

และซื้อหุ้นที่มีกำไรในอนาคตมีแนวโน้มเพิ่ม

และต้องซื้อในราคาต่ำ

ซึ่งราคาต่ำ ก็ดูได้จาก PE ครับ

จริงๆแล้วผมชอบเล่นเกมมาก สารพัดเกม

อย่างกรณีการซื้อหุ้นลงนี่ หากเป็นหุ้นพื้นฐาน เราพอรู้ราคาพื้นฐาน แล้วราคาลง แบบแปลกๆ เช่น tpac ลงเพราะ ประธานลาออก

จากราคา 7.55 ไม่กี่วันเหลือ 5.1 แล้วเด้ง ผมก็ซื้อ 5.40

ซื้อปั๊บ ลงต่อเลย อีกวันสองวัน ไป 4.72 ผมก็ดีใจ

กะว่า 4.5 ซื้ออีกสองเท่า

3.5 เมื่อไร ซื้อ 4 เท่า

ต้นทุนผมจะต่ำ เด้งกลับมาไม่เท่าไรก็กำไร

แต่ละราคา ไม่ว่า จะ 5.4 4.5 3.5 ผมรู้ pe หมด ว่า ซื้อราคานั้น pe เท่าไร

.......................................................

แต่ tpac ก็ลงไม่ถึง 4.5 แล้วก็เด้งไป 6.1 แล้วก็ไป 6 เท่าไรไม่ทราบ

ผมก็ขายไปแล้ว 6.1 ตอนนั้น เพราะผมเองยังศึกษา tpac ได้ไม่นาน

สำหรับ vi แล้ว หากหุ้นลงเยอะๆ น่าจะดีใจนะครับ

เพราะเรามีโอกาสเลือกซื้อ แต่ราคาที่จะไปซื้อนั้น ต้องมีเหตุผลครับ

1. กำไรจะโตเท่าไร
2. pe ที่ซื้อ อยู่ที่เท่าไร

เรื่องอื่นๆก็ดูด้วย ประกอบกัน เช่น เงินสด หนี้สิน และอื่นๆ

ถ้ารู้ได้ครบ รู้ได้รอบ เราก็กล้าถือหุ้นตัวนั้นๆ ไปจนกระทั่งผ่านเหตุการณ์ ต่างๆ ครับ

หากเป็นหุ้นที่ดูไว้อย่างดีทุกแง่มุมแล้ว

ราคาลง ก็ถือไปครับ ไม่ต้องทำอะไร หุ้นขึ้น แล้วก็ลง ลงแล้วก็ขึ้น

แต่หุ้นที่พื้นฐานดีจริงๆ ราคาจะไม่ลงมากนะครับ

ยกเว้นว่าเราซื้อหุ้นพื้นฐานดี ณ ราคาแพงมาก อย่างนั้นก็ลงได้มากครับ

กระทู้ดีอีกละเฮีย  8)  ...

ขอบคุณมากเลยครับเป็นประโยชน์กับผมมากเลย ถ้าพี่มีเวลาว่างช่วยลองวิเคราะห์ pttar ด้วยสิครับ  :D

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

มาเพิ่มเติมครับ

ยิ่งซื้อได้ราคาถูก ผลตอบแทนจะยิ่งเพิ่ม

ตามตำราเปี๊ยบ  8)  ...

ใคร ไม่ได้ ไปเรียนกับพี่Jeng  

อ่านกระทู้นี้เยอะๆ นะครับ อ่านหลายๆ รอบ แล้วจะเข้าใจ ความคิดพี่เจ๋ง

เหมือนกับคนที่ไปเรียนด้วย
ที่สำคัญ คราวนี้ฟรีครับ    :lol:

ขอบคุณครับพี่
ไม่ทราบว่าตอนนี้เล่นเกมอะไรอยู่ครับ  :D

แต่หุ้นที่พื้นฐานดีจริงๆ ราคาจะไม่ลงมากนะครับ

ยกเว้นว่าเราซื้อหุ้นพื้นฐานดี ณ ราคาแพงมาก อย่างนั้นก็ลงได้มากครับ

เช่น หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลใช่หรือเปล่าครับ BGH เคย P/E 30 เท่า ราคา 45 เหลือ 31

โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง

Jeng เขียน:ผมไม่ซื้อหุ้นที่ขาดทุน

ผมจะซื้อหุ้นที่มีกำไร

และซื้อหุ้นที่มีกำไรในอนาคตมีแนวโน้มเพิ่ม

และต้องซื้อในราคาต่ำ

หัวใจ VI ครับ

ที่เฮียบอกมา... หัวใจสำคัญเลยครับ

1. ซื้อหุ้นที่กิจการดี (มีกำไร กำไรโต)
2. ซื้อเมื่อมี MOS (PE ต่ำ ๆ ยิ่งต่ำยิ่งดี)
3. ซื้อแบบนักลงทุน (ถ้ามั่นใจในกิจการ พื้นฐานไม่เปลี่ยน ซื้อแล้วถือ อย่าหวั่นไหวกับราคาขึ้นลง ถ้ายิ่งลงมาก ๆ ยิ่งต้องซื้อ)

สุดยอดจิงๆคับ โดนใจ

       
ขอคารวะ

เป็นบทเรียนที่มีคุณค่ามาก ๆ

ขอบคุณอาจารย์เจ๋งมากครับ....

จากบทความ..แก่นของวีไอ ของ ดร.  ผมย่อออกมาและขอท่องออกเสียงดังๆ

เตือนสติตัวเองดังนี้ครับ....

1. Business Owner.......ซื้อหุ้นเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของธุรกิจ
2. Intrinsic Value..........หามูลค่าที่แท้จริงของหุ้นออกมาให้ได้
3. Margin of safety.......ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงมากๆ
4. Mr. Market..............อย่าไปสนใจนายตลาดให้มากนัก

ผมคงต้องยึดหลักการเหล่านี้ไว้จะได้ไม่หวั่นไหวไปกับตลาด...

สำหรับคนที่เต็มพอร์ทตลอดเวลา ชั่วโมงนี้คงได้แต่ท่องคำว่า "อย่าไปสนใจนายตลาดมากนัก"

ขอบคุณบทความดีๆครับ

มิน่าผมรีบช้อนเกิน มันเลยหักเอาๆ

ต้องรอให้ถูกอีกหน่อยกำลังดี

ก็ไม่สนใจจริงๆครับ ไม่รู้สึกไรเลย มีช่วงนึง จากต้นปี - 7 % โดยประมาณ

ตอนนี้เขียวแล้ว เพิ่งเขียววันนี้เอง

สุดยอดกระทู้  ปรมาจารย์ vi พันธุ์แท้ เลยครับพี่เจ๋ง  นับถือ นับถือ

โทษที นะไม่ใช่ vi ครับ

สุดยอดต้อง คุณฉัตรชัย อาจารย์นิเวศน์ พี่ครรชิต และอีกหลายๆท่านครับ พี่มะช่าย

ก็แค่ เล่นหุ้นหนุกๆ แค่นั้นเองครับ ท่าน vichit

เล่นหุ้นเหมือนเล่นเกมส์ใช่ไหมครับพี่เจ๋ง    สนุก  สนุก

game over ก็เริ่มต้นใหม่ หาวิธีเอาชนะมันให้ได้ สุดท้ายเราก็ไม่แพ้

ว่าแต่ว่า psl  hana  ptl   uec ums snc pttar mlink

พี่ดูให้ผมหรือยัง  ราคานี้ น่า สู้หรือถอย

ว่าแต่ว่า psl  hana  ptl   uec ums snc pttar mlink

โอ้แม่เจ้า ทำไมเยอะจัง

uec ums snc พี่ถอยมานานแล้วเด้อ

ส่วน ptl อันนี้ดูไม่เป็น เพราะมีสองทาง ทั้งราคาขายและราคาวัตถุดิบ

psl tta เคยดูนะ ชอบตอน pe 2 อะ มาอีกที่ต้องลุยเลย

hana pttar milink ไม่เคยแม้แต่ผ่านตาครับ

สรุปว่า ไม่รู้จะวิจารณ์ไง

   

สุดยอด ขอบคุณมากครับพี่ Jeng      

Jeng เขียน:

โค้ด: เลือกทั้งหมด

สำหรับคนที่เต็มพอร์ทตลอดเวลา ชั่วโมงนี้คงได้แต่ท่องคำว่า "อย่าไปสนใจนายตลาดมากนัก"

ก็ไม่สนใจจริงๆครับ ไม่รู้สึกไรเลย มีช่วงนึง จากต้นปี - 7 % โดยประมาณ

ตอนนี้เขียวแล้ว เพิ่งเขียววันนี้เอง

เขียวเพราะ SC ใช่มั้ยพี่เจ๋ง อิอิ

Jeng เขียน: psl tta เคยดูนะ ชอบตอน pe 2 อะ มาอีกที่ต้องลุยเลย

คุณเจ๋ง เราอ่านที่คลังกระทู้เก่า พวก seasonal stock เนี่ยต้องรอซื้อที่ PE สูงไม่ใช่หรือค่ะ เพราะรอบของเค้ากำลังจะมา ถ้าซื้อที่ PE ต่ำ แปลว่ากำไรสูงมากไป และรอบกำลังจะจบลงในอีกไม่ช้า

ถามดู เพราะยังไม่เคยสัมผัส TTA ที่ PE 2 ค่ะ

ลองย้อนกลับไปดู ครับ ตอน TTA ราคา 18 กำไรปีก่อนหน้า 9 บาทครับ

หลังจากนั้น วิ่งไป 60 กว่ามั๊ง ไม่ได้ติดตามครับ

เพราะเคยคิดว่า ราคา pe 3 สำหรับ TTA นี่ถูกสุดๆ ตอน PE 3 นี่ ราคาประมาณ 31 ครับ

เหอๆ หากซื้อจริง คงช้อนหัก

8)