Thai VI

ไม่ว่าตลาดหุ้นจะลงกี่จุดหรือขึ้นกี่จุด หรือขึ้นๆลงสลับกับไปมาทั้งวันนั้นมันไม่ได้กระทบกับผลการดำเนินงานของบริษัทเลย(ยกเว้นบริษัทที่กำไรจากการเล่นหุ้นมากๆ) ดังนั้นพวกเราโดยเฉพาะมือใหม่ เอาเวลาที่มีอยู่กับไปวิเคราะห์กิจการที่มีอยู่และที่กำลังมองๆอยู่ให้ดี จะได้เก็บสัมภาระไปรอเพื่อนๆที่ยังก้มหน้าก้มตาวิ่งเข้าวิ่งออกตลาดอยู่ขณะนี้

ให้กำลังใจครับ Mr. Market แกล้อเล่นน่ะ

มันก็เป็นอย่านี้ทุกวันเลยครับ Mr.Market

มือใหม่ อาการติดหุ้นเริ่มน้อยลงเยอะแล้วค่ะ ช่วงแรกๆตื่นเต้น ชอบมานั่งเฝ้าหุ้น จนตกไปอยู่ในกระแสหุ้นไปพักนึง อาทิตย์แรกมึนกับข้อมูลบริษัทต่างๆ ใครเป็นใครก็ไม่รู้จักเลย ข่าวก็ไม่ค่อยอ่าน การมาเล่นหุ้นคงเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดี ทำให้ได้เรียนรู้ แม้กระทั่งจิตใจของตัวเองมากขึ้น ช่วงนี้ตลาดน่างงๆ คิดว่าจะเอาเวลาไปอ่านหนังสือเพิ่มเติมดีกว่า
เพิ่งจะลงทุนซื้อหนังสือแล้วค่ะ

บางทีก็คิดเหมือนกัน มองโลกในแง่ร้าย ว่าถ้ามันตกมากๆจะทำยังไง แต่คิดได้ว่า ถ้ารอได้ซักห้าปี บริษัทไม่น่าล้ม ก็ไม่น่าขาดทุนอะไร (เคยอ่านเจอว่า ถ้าลงทุนไว้เกินห้าปี โอกาสที่จะขาดทุนน้อยมากๆ) แต่ไม่รู้จะใจแข็งพอรึเปล่า

licca ตอนนี้ใช้หลักการอะไรซื้อห้นอยู่ครับ อยากให้สรุปจาก ที่คุณคิดนะครับ เผื่อว่าจะได้ช่วยกันนะครับ

หลักการยังไม่ชัดเจนค่ะ ความรู้น้อยจริงๆ เลยได้แต่เฝ้าอ่านไปเรื่อย ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด ตอนนี้ก็ดูตามคำแนะนำพื้นฐานทั่วไป ราคา ผลตอบแทน เงินปันผล ความมั่นคงของธุรกิจ งบดุล(ดูคร่าวๆ ยังดูละเอียดไม่เป็น) หนี้ไม่เยอะ มีการเติบโตของธุรกิจ

ที่ลงทุนไป ก็ไม่คิดว่าจะลงทุนถูกช่วง ถูกจังหวะนัก แต่การที่เราเริ่มลงทุน ก็เป็นแรงกระตุ้นให้ศึกษา หาความรู้เพิ่มเติม ลองผิดลองถูกไปก่อนค่ะ

ดีครับ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ

เหมือนกันเลยคุณ licca

ช่วงนี้ก็ดูงบแบบคร่าวๆและก็วิเคราะห์ผลการดำเนินการแบบคร่าวๆ เอาหุ้นที่โพสต์กันในนี้เป็นตะแกรงร่อนเอาไปวิเคราะห์ต่อ บางตัวก็เห็นด้วย บางตัวไม่เห็นด้วย บางตัวไม่เข้าใจในกิจการเลยก็อ่านผ่านๆ
ตัดสินใจซื้อโดยดูราคาเทียบกับราคาตอนต้นปี46 ถ้าตัวไหนราคายังขึ้นมาไม่มาก คิดว่าพื้นฐานดีก็ซื้อ