Thai VI

ชาว VI มีความคิดเห็นกับบริษัทประเภทนี้อย่างไรบ้างครับ
เช่น TF ที่มีเงินสดมากกว่าหนี้ทั้งบริษัท 1.5 เท่า (Shortterm Investment อีกเท่านิดหน่อยของหนี้) แล้วไม่ยอมปันผลออกมา
ลงทุนเพิ่มก็ไม่มี ผู้บริหารเก็บไว้ใช้ส่วนตัวหรือเปล่าครับ
ว่าจะขายแล้ว หมั่นไส้

ต้องดูด้วยว่า เตรียมไว้ทำอะไร

เพราะบ้างครั้งเงินสดมากๆๆ ก็ไม่ดี เพราะไม่เกิดผลตอบแทนที่งอกเงย
เงินทุกวันนี้มีแต่ด้อยค่า เนื่องจาก
การอัดเงินเข้ามาให้ระบบ โดยที่คนถือเงินสดไม่รู้ตัวเลย

ถ้าเงินสดมากๆ ไม่จ่ายปันผล ไม่ลงทุนเพิ่ม

เรามองว่า ผู้บริหารไม่มีวิสัยทัศน์ ยังงี้จะไปลงทุนให้เค้าบริหารกิจการของเราได้อย่างไร ก็อย่างที่คุณ miracle บอก ว่าเงินมันด้อยค่าทุกวัน ถ้าเป็นเรานะคะ เราคงพยายามหาข้อมูลเยอะๆว่าเก็บเงินไว้ทำไม ถ้าหาเหตุผลไม่ได้ก็คงทยอยขาย เพราะในระยะยาวคงไม่ดี เพราะเรารู้สึกว่า ผู้บริหารบริหารเงินไม่เป็น

แต่มีข้อแม้ว่า ถ้าเป็นตัวที่เราให้เป็น defensive stock และปันผลดี ก็จะคิดดูก่อน อาจเก็บไว้ เพราะมีเงินสดดีกว่าไม่มี อีกอย่างถ้าเป็นบริษัทข้ามชาติและปันผลดี เราเก็บไว้ค่ะ

แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้บริหารเงินเก็บก้อนนั้นไปใช้ส่วนตัว ก็ต้องคืนทุกสามเดือนค่ะ เพราะต้องส่งงบไตรมาส ผู้สอบบัญชีจะดูเงินสดให้อยู่แล้ว

ถ้าผู้มีอำนาจ เอาเงินไปลงทุนเสี่ยงๆ นี่ ก็ซวยเลยสิ
แบบธนาคารใน อังกฤษแห่งหนึ่งไง  ล้มไปเลย

มองอีกด้านหนึ่ง มีเงินสดเยอะ แสดงว่า กิจการดีนะครับ
ถ้าเจาะจงเป็น TF ดูจากตัวเลข ROE อยู่ในช่วง 14%-16% ใช้ได้เลย
นี่ขนาดไม่ค่อยได้ใช้เงินสดนำไปลงทุน

ถ้าบริษัทมีความสามารถสร้างเงินสดได้เยอะน่ะ มันดีครับ แต่ว่าถ้าทำได้เยอะแล้ว เอาเข้ากรุ 3-4% ต่อปี มันไม่เกิดประโยชน์ ถ้าไม่ใช่เพราะเตรียมไว้สำหรับโครงการอะไรในอนาคต มันก็แสดงให้เห็นถึงการด้อยการจัดการในสินทรัพย์ที่สามารถนำใปก่อให้เกิดประโยชน์ (จะบอกว่าไร้วิสัยทัศน์คงจะแรงไป) หรือเหตุผลอีกอย่างหนึ่ง ก็อาจจะเป็นเรื่องมิติลี้ลับ ที่ไม่อยากจะให้ผู้ถือหุ้นได้รับรู้ว่าจะเอาเงินไปทำอะไร ก็เป็นไปได้ครับ

ต้นปีซื้อ Gasohol ลิตรละ 23

มาปีใหม่ซื้อลิตรละเกือบ 30 ขึ้นมา 30%

แต่ดันเอาเงินไปฝากธนาคาร กินดอกเบี้ย 3-4% ซะนี่

เจอบริษัทแบบนี้ ไม่ต้องคิดมากครับ ถ้าไม่ "ทำใจ" ก็ "ขายทำกำไร"  :lol:   :lol:

ลืมเพิ่มไปว่า การที่เก็บเงินสดไว้ไม่ทำอะไร อาจเป็นเพราะ ดูแล้ว "ไม่มีอะไรน่าทำ" ก็เป็นไปได้ครับ

บริษัทที่ผลิตเงินสดได้มากในแต่ละปีเมื่อเทียบกับราคาหุ้น  ย่อมดีกว่า  บริษัทที่มีเงินสดมากแต่ผลิตเพิ่มได้น้อย

เงินสดในที่นี้หมายถึงบรรทัดแรกของงบดุลหรือเปล่า

ถ้าใช่ ต้องดูกิจการประกอบว่าทำอะไร

บ้างกิจการนี้ เงินสดไม่เท่าไร แต่สร้าง ปริมาณเงินสดในงบกระแสเงินสดได้มาก เช่นกิจการซื้อมาขายไป (เช่น BIGC MAKRO CP7-11 ไม่เอาซีพีของตู เป็นต้น)

กิจการบ้างอย่างที่ต้องถือเงินสดมากๆๆ เช่น โรงแรมบ้างแห่ง เพราะเตรียมไปขยายกิจการ ก็มีน่าครับ

หรือกิจการแบบประกันภัย ที่เงินสดก็มีอยู่มากเหมือนกัน

หรือแบบ UEC ก็มี คือ IPO แล้วเงินเอาไปซื้อที่ดินหรือขยายกิจการไม่ได้ ก็เอาเงินสดไปลงทุนอย่างอื่นให้ได้ดอกผลก่อน (อันนี้ไปดูงบปี 2548-2549 กลางปี)

ดูให้ดีๆๆล่ะครับ

take over แล้วประกาศปันผลเลยครับ

anakinnet เขียน:take over แล้วประกาศปันผลเลยครับ

อันนี้มี case ของ makro จำปีไม่ได้แล้วอ่ะ
พี่แกเล่นปันผลหมดคลังเลย แทบไม่เหลือเลยอ่ะ (ใครจำได้ช่วยบอกปีด้วย)
กับ case ของadvance (แต่อันหลังไม่ชัดสู้อันแรกไม่ได้)

ผมคิดตื้นๆ แบบนี้

บริษัทเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะสามารถผลิตเงินสดได้มาก เมื่อเทียบกับเงินสดที่ลงทุน ในระยะยาวหลายๆ ปี

ส่วนเงินสดที่ผลิตได้ จะนำฝากธนาคารหรือนำไปลงทุนอะไร จะขึ้นกับผู้บริหาร

ซึ่งหากไม่นำไปลงทุนอะไร เงินสดจะเพิ่มขึ้นทุกปี ตัวเลขผลตอบแทนจะแย่ลง

แต่ไม่ได้ หมายความว่า กิจการใกล้จะเจ๊งเพราะเงินสดมีจำนวนมาก

iceberg เขียน:ผมคิดตื้นๆ แบบนี้

บริษัทเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะสามารถผลิตเงินสดได้มาก เมื่อเทียบกับเงินสดที่ลงทุน ในระยะยาวหลายๆ ปี

ส่วนเงินสดที่ผลิตได้ จะนำฝากธนาคารหรือนำไปลงทุนอะไร จะขึ้นกับผู้บริหาร

ซึ่งหากไม่นำไปลงทุนอะไร เงินสดจะเพิ่มขึ้นทุกปี ตัวเลขผลตอบแทนจะแย่ลง

แต่ไม่ได้ หมายความว่า กิจการใกล้จะเจ๊งเพราะเงินสดมีจำนวนมาก

ไม่เจ๊ง แต่กลายเป็นไม่น่าลงทุนมากกว่า
เพราะต้นทุนการลงทุนแต่ละคนไม่เท่ากัน
ถึงกิจการมีผลตอบแทนต่ำ คนไม่สนใจ
ทำให้กลายเป็นหุ้นที่ดีคนไม่มองได้เหมือนกันน่าครับ

กิจการที่สามารถทำให้มีเงินสดเยอะๆได้น่ะดีแน่นอน แต่อย่าง tf ผมว่ามันเยอะไปหน่อย
ถ้าfree float rate สูงๆล่ะก้อ จะไปกู้เงินมาเทคโอเวอร์ซะเลย

เรื่องนี้เราเอาไปถามผู้บริหารตรงๆในวันประชุมผู้ถือหุ้นได้รึไม่ครับ

ผู้บริหารเค้าจะบอกพวกเรานักลงทุนตรงๆได้เลยรึป่าวครับ ถ้าไม่ได้นี่พี่ๆคาด

ว่าเนื่องมาจากสาเหตุใดครับ