หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เรียนถามเรื่องการกู้เงินครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 28, 2007 12:22 am
โดย crazyrisk
ในหนังสือจิตวิทยาการลงทุนนั้นพูดถึงการกู้เงินว่า

ระหว่างการกู้ 3 ปี กับ 15 ปีนั้น

หากกู้ 3 ปี ดอกแพงกว่า  เสียดอก 15 %

หากกู้ 15 ปี นั้นเสียดอกแค่ 11  

เขาไปสำรวจพบว่า คนส่วนใหญ่เลือกกู้แค่ 3 ปี เพราะเอารมณ์มาจับว่าไ่ม่อยากเป็นหนี้ระยะยาว

และก็บอกว่า จริงๆแล้วคุ้มสุดคือกู้ระยะยาว แล้ว
หาเงินมาจ่าย ให้ได้ก้อนใหญ่ ๆ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องผ่อน ถึง 15 ปี

ดังนั้น ถ้า ทำสัญญา กู้ 15 ปี
แล้วผ่อนให้ได้ใน 3 ปี  ก็จะประหยัดดอกเบี้ยไดุ้ึถึง
4 %

ผมอยากสอบถามว่า ผมเข้าใจผิดหรือป่าวคับ
เพราะถ้าเป็นอย่างงั้นจริงๆ
คนเขาก็ทำสัญญาแบบหลังกันทั่วบ้านทั่วเมืองสิคับ

เรียนถามเรื่องการกู้เงินครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 28, 2007 2:08 pm
โดย กาละมัง
ผมเดาว่า คุณ crazyrisk ไม่เคยกู้เงินมาก่อน

ปกติลักษณะเงินกู้  จะมีสัญญากู้เงินประกอบ ซึ่งจะมีรายละเอียดสำคัญ ที่ผู้กู้สมควรอ่านให้ละเอียด

ที่เคยเห็นมา

1.  อัตราดอกเบี้ยที่คิดไม่เกี่ยวกับระยะเวลาของเงินกู้
2.   ถ้าทำสัญญาเงินกู้ 15 ปี   หากชำระก่อนกำหนด เช่น ใน 3 ปีแรก  จะมีค่าปรับ 3 % ของยอดเงินกู้คงค้าง เป็นต้น
3.   กรณีผิดนัดชำระ  จะต้องเสียดอกเบี้ย  ในอัตราผิดนัด  ซึ่งจะสูงกว่าอัตราปกติในสัญญามาก

กรณีโจทย์ที่ยกมา   กู้ 15 ปี น่าจะดีกว่า เพราะว่า  ดอกเบี้ยถูกกว่า   ผ่อนน้อยกว่า  และสามารถโปะกลบยอดได้ด้วย

เรียนถามเรื่องการกู้เงินครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 28, 2007 3:41 pm
โดย crazyrisk
คุณ กาละมังคับ

ถูกต้องคับ

ผมกลัวเกินไปทีี่จะเป็นหนี้ชาวบ้านเขา

บางทีเห็นตัวเลขแดงๆ มากๆ เกือบเป็นลมก็มีคับ   8)


ทีนี้กลับมาสู่โจทย์ดีกว่าครับ

งี้เกิด ผม เลือก 15 ปี แล้ว จ่ายใน 3 ปี

ดังนั้น  ผมก็จะ ได้เรท 11 % แต่ต้องเสียค่าปรับ 3 %
รวมแล้วเป็น 14 %

ซึ่งจะประหยัดกว่า กู้ 3 ปี (15%)

อยู่ 1% ใช่หรือป่าวคับ

เรียนถามเรื่องการกู้เงินครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 29, 2007 12:47 am
โดย MO101
คำตอบคือไม่ใช่ครับ
เลือก 15 ปี จ่าย 3 ปี ในช่วงนี้ เสียดอก 11% แต่ว่าเงินต้นก็ลดน้อยด้วย ดอกเลยเสียมาก
หมด3ปี เสียค่าปรับ คิดจากยอดเงินทั้งหมดนะ

อีกสูตร
เลือก 3 ปีจ่าย 15 ต้นลดเร็วมากเสียดอกน้อย

จริงๆ อยากคำนวนเป็น excel ให้ดู แต่อยากเห็นหมดเค ลมจับมากกว่า

เรียนถามเรื่องการกู้เงินครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 29, 2007 10:03 am
โดย cryptonian_man
อย่างนี้เรียกว่าเป็นหลุมพรางทางจิตวิทยาหรือเปล่าครับ ทำให้เราคิดว่าเสียน้อยแล้วแต่จริงๆเราเสียมากขึ้น

ยังงี้ธนาคารยังไงก้อได้เปรียบจริงๆ แต่ก้อเสี่ยงกะการปล่อยกู้ก้อพอหยวนๆกันไป

เรียนถามเรื่องการกู้เงินครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 29, 2007 10:20 am
โดย Dech
เหมือนกู้ซื้อบ้าน กะซื้อรถไงครับ

กู้ซื้อบ้าน ดอกจะถูกกว่า

ถ้าเป็นผมถ้าเป็นบ้าน จะเลือกกู้ยาวไว้ก่อน ครับ
เผื่อความเสี่ยงไว้ มีตังค์เพิ่มก็เอาไปเพิ่มได้ตลอดนิครับ
อาชีพผมมันเสี่ยงกว่า หมอเค เยอะครับ

ก็ลดทั้งต้นและดอกเหมือนกัน ได้ยินมาว่าบางธนาคารอาจไม่ยอม
แต่ของ อาคารสงเคราะห์ทำได้ครับ

เรียนถามเรื่องการกู้เงินครับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 29, 2007 12:48 pm
โดย chatchai
ปรกติผมไม่เคยเห็นนะครับว่า  อัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการผ่อนชำระหนี้

ที่เคยพบ  อัตราดอกเบี้ย  จะขึ้นอยู่กับ  ประวัติลูกค้า  หลักประกัน  และความสามารถของโครงการที่จะลงทุน

ส่วนเบี้ยปรับ  ธนาคารมักจะคิดในกรณีที่มีการคิดอัตราดอกเบี้ยถูกๆในช่วง 1 ถึง 3 ปีแรก  ถ้าเราไม่ปิดบัญชีก่อน 3 ปีแรก  เราก็คงไม่ต้องห่วงพะวงเรื่องนี้

สำหรับความเห็นของผมแล้ว  ก็ขอระยะเวลาผ่อนนานที่สุด  เพื่อที่จะลดจำนวนเงินงวดที่ต้องชำระให้น้อยที่สุด  เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดครับ  เพราะถ้าเรามีความสามารถจะชำระมากกว่านั้น  เราก็สามารถทำได้โดยไม่เสียค่าปรับอะไร  นอกจากจะปิดบัญชีภายใน 3 ปีแรก  ซึ่งคงมีโอกาสน้อยมากๆ

เรียนถามเรื่องการกู้เงินครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 02, 2008 11:09 pm
โดย lukechin
[quote="chatchai"]ปรกติผมไม่เคยเห็นนะครับว่า

เรียนถามเรื่องการกู้เงินครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 03, 2008 10:30 am
โดย chatchai
กู้ซื้อบ้าน  ซื้อรถ  ผมก็ว่าอัตราดอกเบี้ยเท่ากันนะครับ  ไม่ว่าจะผ่อน 15 ปี 20 ปี  หรือ 25 ปี

เรียนถามเรื่องการกู้เงินครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 03, 2008 12:53 pm
โดย lukechin
แหะๆ ผิดไปหน่อย กู้รถอย่างเดียวครับ อย่างผ่อน 5 ปีจะได้อัตราดอกเบี้ยอย่างนึง ถ้าผ่อน 7 ปีดอกเบี้ยก็จะแพงขึ้น

เรียนถามเรื่องการกู้เงินครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 03, 2008 8:00 pm
โดย chatchai
โหกู้ซื้อรถมีผ่อนได้ถึง 5 ปี

เรียนถามเรื่องการกู้เงินครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 09, 2008 12:49 pm
โดย lukechin
ใช่ครับ เหมือนเป็นตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว จะเห็นได้ว่าของหลายอย่าง เช่น มือถือ หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้า จะมีให้ผ่อน 0% กี่เดือนก็ว่าไป เพื่อเพิ่มยอดขาย แต่จะทำให้คนติดกับดักการเป็นหนี้ และ % การเป็นหนี้ในครัวเรือนก็เพิ่มสูงขึ้นด้วย

เรียนถามเรื่องการกู้เงินครับ

โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 09, 2008 11:43 pm
โดย uth
chatchai Posted: Thu Jan 03, 2008 8:00 pm    Post subject:  

--------------------------------------------------------------------------------

โหกู้ซื้อรถมีผ่อนได้ถึง 5 ปี  7ปี  ด้วยหรือครับ

ผมว่าบริษัทลิสซิ่งเสี่ยงมากทีเดียวนะครับ  เพราะราคารถยนต์ลดลงเร็วมากๆ  ถ้าผ่อนไปซัก 2 ปีแล้วถูกยึดรถ  มูลค่ารถที่เหลือจะคุ้มกับมูลหนี้ไหมละเนี่ย


ขออธิบายเพิ่มเติมนิดหน่อยนะครับ
หลักการกู้เงินนั้น เวลาขอกู้คิดเป็นราคาที่เป็นมูลค่าของทรัพย์สินนำมาประกันการกู้ แล้วแต่ว่าการประเมินทรัพย์จะอยู่ที่เท่าไหร่ และให้เป็นเงินที่สามารถกู้ได้กี่เปอร์เซ็นต์ของราคาประเมิน จากนั้น ทำสัญญากู้เงิน เป็นการกู้เงินโดยใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน หากเราอ่านรายละเอียดของสัญญาให้ละเอียดจะพบว่า เป็นการกู้เงินนะครับ หากขาดส่งและดำเนินการยึดทรัพย์ที่นำมาประกันนั้นแล้วนำออกมาประมูล (ราคายุติธรรมตามกฏหมาย) แล้วยังได้เงินไม่ครบตามสัญญาเงินกู้ (มูลหนี้ที่คงเหลือ) ก็สามารถที่จะฟ้องร้องต่อเพื่อทำการเรียกร้องเงินที่ไม่ครบตามสัญญาพร้อมดอกเบี้ยได้ครับ (ตามกฏหมายนะครับ)
ก็พอจะบอกได้ว่า หากเป็นหนี้เสียแล้ว ก็ยังไม่จบง่าย ๆ จนกว่าจะทำการตกลงกับเจ้าหนี้ได้ (ทางปฏิบัตินะครับ) การตกลงกันนั้นส่วนใหญ่ก็จะเป็นการขอลดดอกเบี้ยที่ฟ้องร้องกัน และดำเนินการผ่อนชำระในส่วนที่เหลือครับ
ถ้ามองในส่วนของมูลค่ารถที่เหลือจะคุ้มกับมูลหนี้หรือไม่ สามารถตอบได้เลยครับว่าคุ้มครับ (ในเหตุการณ์ปกตินะครับ)  เพราะในสัญญากู้เงิน จะทำการบวกดอกเบี้ยไว้แล้วหารด้วยระยะเวลาการกู้ เสร็จแล้วก็กำหนดเป็นเงินค่าผ่อนชำระในสัญญาครับ ทั้งนี้ไม่ว่าทรัพย์จะเป็นอะไรก็จะใช้หลักการเดียวกันครับ แต่มีขั้นตอนตามกฏหมายและระยะเวลาในการดำเนินการในทางกฏหมายที่เป็นจุดเสี่ยงครับ