MCOTรอดรสนาลั่นไม่ฟ้อง ชี้อีก 2 ปีรายได้ยังดีแม้ยึดคลื่น
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 20, 2007 8:17 am
MCOTรอดรสนาลั่นไม่ฟ้อง ชี้อีก 2 ปีรายได้ยังดีแม้ยึดคลื่น
รสนา ลั่นไม่เอาเรื่อง MCOT ระบุบอร์ดยืดอกแสดงความจริงใจตั้งคณะกรรมการ
ตรวจสอบตัวเองแล้ว วสันต์ ยันไม่เข้าข่ายเหมือนปตท. และรายได้ไม่กระทบ แม้
อีก 2 ปี กสทช.ดึงคลื่นไปจัดสรรใหม่ เพราะต้นทุนค่าใบอนุญาตแค่ 2% ของค่า
โฆษณา แถมมีแนวโน้มได้ลดหย่อน รายการมีสาระเข้าข่ายเป็นสื่อสาธารณะ ยันยัง
ได้ค่าเช่า BEC -UBC เพราะรัฐธรรมนูญคุ้มครองไปจนหมดสัมปทานอีก 13 ปี
นางสาวรสนา โตสิตตระกูล กรรมการสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค และคณะ
กรรมการ(บอร์ด) บริษัท อสมท. จำกัด(มหาชน) หรือ MCOT เปิดเผยว่า องค์กรผู้
บริโภคยังไม่ดำเนินการฟ้อง MCOT เพราะต้องการดำเนินการเรื่องบริษัท ปตท.
จำกัด(มหาชน) หรือ PTT ให้แล้วเสร็จก่อน ประกอบกับบอร์ด MCOT ตั้งอนุกรรมการ
ขึ้นมา โดยจะเปิดให้บุคคลภายนอกเข้าร่วมเป็นกรรมการด้วย จึงเป็นการแสดงให้
เห็นความจริงใจในการตรวจสอบองค์กรด้วยตัวเอง โดยการแก้ไขความผิดพลาดในรัฐ
วิสาหกิจที่แปรสภาพนั้นสามารถดำเนินการได้โดยไม่จำเป็นต้องรอให้มีการยื่นฟ้อง
เพราะองค์กรสามารถแสดงความบริสุทธิ์ใจสอบตัวเองได้
การแก้ไขความผิดพลาดการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ นั้นไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการ
ฟ้องร้องเพียงอย่างเดียว เพราะแต่ละองค์กรสามารถดำเนินการตรวจสอบแก้ไขได้
ด้วยตัวเองซึ่งใช้ระยะเวลาการดำเนินการทั้งหมดรวดเร็วกว่าการฟ้องร้องด้วย นาง
สาวรสนากล่าว
อย่างไรก็ดีกรณี PTT จะเป็นบรรทัดฐานในการแปรรูรัฐวิสาหกิจในอนาคต
รวมไปถึงการแก้ไขความผิดพลาดรัฐวิสาหกิจที่แปรรูปแล้ว โดยเฉพาะกรณีการนำ
สาธารณสมบัติไปอำนวยประโยชน์แก่คนกลุ่มน้อยและส่งผลให้ประชาชนได้รับผล
กระทบ
นางสาวรสนากล่าวต่อว่า กรณีที่มีคนพยายามออกมากล่าวโจมตีว่าตนไม่
ฟ้องร้อง MCOT เพราะได้เข้ามาเป็นบอร์ด เป็นพวกต้องการลดเครดิตตนลง ทั้งที่
เหตุผลที่ไม่เคลื่อนไหวฟ้องร้อง MCOT เพราะต้องการทำเรื่อง PTTให้แล้วเสร็จ
ก่อน กำลังคนของสหพันธ์ผู้บริโภคนั้นมีจำกัด ไม่สามารถดำเนินการหลายเรื่องได้
พร้อมกัน ประกอบกับต้องการทำเรื่อง PTTให้รอบคอบที่สุด หวังให้กรณีของ PTT
กลายเป็นบรรทัดฐานในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในอนาคต
นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ MCOT เปิดเผยว่า แม้พ.ร.
บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ จะมีผลบังคับใช้ในอีก 2 ปีข้างหน้า
พร้อมทั้งมีการจัดตั้งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์หรือพ.ร.บ.
กิจการกระจายเสียงฯ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ก็จะไม่ส่งผล
กระทบในเชิงลบใดต่อ MCOT
แม้ว่าคลื่นโทรทัศน์และวิทยุทั้งหมดจะถูกดึงไปจัดสรรใหม่ แต่ MCOT ก็มั่น
ใจว่าด้วยประสิทธิภาพและคุณภาพในการบริหารจัดการคลื่นโทรทัศน์ วิทยุที่ผ่านมา
จะทำให้กสทช.อนุมัติคลื่นความถี่ที่ MCOT เคยบริหารจัดการกลับมาให้บริหารจัดการ
ใหม่อีกทั้งหมด
ส่วนกรณีที่ MCOT จะมีต้นทุนค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเพิ่มขึ้นจากที่ปัจจุบัน
ไม่มีต้นทุนค่าเช่าความถี่นั้น ก็จะไม่ส่งผลกระทบและ MCOT ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัว
หรือปรับตัวเพื่อรองรับดังกล่าว เพราะค่าธรรมเนียมที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญมีอัตรา
เพียง 2% ของรายได้จากค่าโฆษณา
นอกจากนี้ MCOT ยังคาดว่าจะได้รับการลดหย่อนค่าธรรมเนียมใบอนุญาต
จาก 2% เนื่องจากกฎหมายระบุว่า สถานีโทรทัศน์และวิทยุที่ผลิตเนื้อหาที่เป็น
ประโยชน์ต่อประชาชนจะถือเป็นสื่อสาธารณะที่จะได้รับการลดหย่อยค่าใบอนุญาต
เป็นพิเศษ
นายวสันต์กล่าวต่อว่า การที่ในอีก 2 ปีข้างหน้า MCOT จะถูกดึงคลื่นความถี่
วิทยุฯไปจัดสรรใหม่จะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นเนื่องจากราคาหุ้นในกระดาน
ปัจจุบันได้รับรู้เรื่องนี้มาแล้ว และผลกระทบก็ไม่ได้รุนแรงเหมือนกรณีที่มติคณะ
รัฐมนตรี หรือ ค.ร.ม. มีมติเรื่องสถานีโทรทัศน์สาธารณะ ที่สงผลกระทบต่อราคาหุ้น
MCOT อย่างรุนแรง
ส่วนกรณีที่ พ.ร.บ.กิจการกระจายเสียงจะมีผลบังคับใช้นั้นรัฐธรรมนูญได้ให้
ความคุ้มครองกับสัญญาร่วมการงานเดิมให้คงสัมปทานเดิมจนกว่าจะสิ้นอายุ
สัมปทาน ดังนั้นแม้จะมีการจัดตั้ง กสทช. เกิดขึ้น สัญญาสัมปทานระหว่าง บริษัท บีอี
ซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือช่อง 3 และบริษัท ทรูวิชั่น จำกัดหรือ ยูบีซี ก็จะยังอยู่
จนกว่าจะหมดอายุสัญญาสัมปทานซึ่งเหลืออีก 13 ปี ดังนั้นีรายได้จาก สัมปทาน
MCOT ก็ยังจะไม่หายไป
นายวสันต์ ได้ชี้แจงอีกว่า เมื่อองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย(อ.ส.
ม.ท.)ได้แปลงสภาพเป็น MCOT ซึ่งมีสถานะเป็นนิติบุคคลเอกชนแล้ว MCOTจึงไม่
อาจมีอำนาจมหาชนของรัฐ รวมทั้งไม่อาจถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินขององค์การสื่อ
สารมวลชนแห่งประเทศไทยที่ได้จากการใช้อำนาจมหาชนของรัฐอันเป็นสาธารณ
สมบัติของแผ่นดินแทนรัฐได้ จึงต้องโอนสาธารณสมบัติของแผ่นดินดังกล่าวกลับไป
เป็นของรัฐนั้น ขอชี้แจงดังนี้
1. ที่ดินที่ MCOT ครอบครองหรือถือกรรมสิทธิ์ไม่เคยได้มาโดยการเวนคืน
อสังหาริมทรัพย์อันเป็นการใช้อำนาจรัฐหรืออำนาจมหาชนของรัฐแต่อย่างใด สำหรับ
ที่ดินซึ่งเป็นที่ราชพัสดุหรือหน่วยงานของรัฐจะมีลักษณะเป็นการขออนุญาตใช้พื้นที่
โดยชำระค่าตอบแทนและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานนั้นสำหรับอาคาร เสา
ส่ง เป็นการก่อสร้างโดยใช้เงินลงทุนขององค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย
หรือ MCOT เอง
2. คลื่นความถี่วิทยุฯ คลื่นความถี่โทรทัศน์ช่อง 9 ช่อง 3 และทรูวิชั่น ที่
MCOT ใช้ดำเนินงาน เป็นคลื่นความถี่ที่ได้รับอนุญาตจากกรมไปรษณีย์โทรเลขเดิม
หรือคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมในปัจจุบันซึ่ง MCOT ได้ชำระค่าตอบแทน
ความถี่ตามที่กฎหมายกำหนดให้มีการชำระค่าตอบแทนความถี่มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539
เป็นต้นมา
บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอสวิคเคอร์ส จำกัด แนะนำ 'ซื้อ' MCOT ราคาพื้น
ฐาน 29.00 บาท แม้ราคาหุ้น MCOT ปรับตัวลงแรงถึง 16% ภายในระยะเวลาเพียง
1 สัปดาห์ จากข่าวลบการสูญเสียรายได้จากค่าสัมปทานและอาจจะต้องคืนสินทรัพย์
ให้กับภาครัฐเหมือนกับกรณี PTT
ทั้งนี้เห็นว่า MCOT จะสูญเสียรายได้สัมปทาน เมื่อ กสทช. ได้มีการจัดตั้ง
ขึ้น แต่เราก็ไม่เชื่อว่า MCOT จะต้องคืนสินทรัพย์ให้กับภาครัฐตามที่เป็นข่าวแต่อย่าง
ใด แต่โอกาสที่มีความเป็นไปได้คือ จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้แก่
กสทช.มากกว่า แต่เหตุการณ์นี้กว่าจะเกิดขึ้นต้องเป็นปี 2552 นั่นคือ มีการจัดตั้ง
กสทช.สำเร็จแล้ว อย่างไรก็ตาม หากกำหนดให้ MCOT ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมดัง
กล่าวในอัตรา 5% ในค่า Universal Service Obligation (USO) กำไรสุทธิจะลดลง
14%
โดยราคาพื้นฐานที่ 29.00 บาท ได้รวมเหตุการณ์การสูญเสียรายได้ค่า
สัมปทานไปแล้ว ดังนั้นเมื่อราคาหุ้นปรับตัวลงแรงจนมีส่วนเพิ่มเทียบกับราคาพื้นฐาน
ได้เป็น 24% ถือได้ว่าที่ผ่านมามีการขายหุ้น MCOT มากเกินไป อีกทั้งเมื่อข่าวคืน
สินทรัพย์ให้ทางการไม่เป็นความจริงราคาหุ้นก็ควรจะดีดกลับมาได้
ที่มา : น.ส.พ. กระแสหุ้น
รสนา ลั่นไม่เอาเรื่อง MCOT ระบุบอร์ดยืดอกแสดงความจริงใจตั้งคณะกรรมการ
ตรวจสอบตัวเองแล้ว วสันต์ ยันไม่เข้าข่ายเหมือนปตท. และรายได้ไม่กระทบ แม้
อีก 2 ปี กสทช.ดึงคลื่นไปจัดสรรใหม่ เพราะต้นทุนค่าใบอนุญาตแค่ 2% ของค่า
โฆษณา แถมมีแนวโน้มได้ลดหย่อน รายการมีสาระเข้าข่ายเป็นสื่อสาธารณะ ยันยัง
ได้ค่าเช่า BEC -UBC เพราะรัฐธรรมนูญคุ้มครองไปจนหมดสัมปทานอีก 13 ปี
นางสาวรสนา โตสิตตระกูล กรรมการสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค และคณะ
กรรมการ(บอร์ด) บริษัท อสมท. จำกัด(มหาชน) หรือ MCOT เปิดเผยว่า องค์กรผู้
บริโภคยังไม่ดำเนินการฟ้อง MCOT เพราะต้องการดำเนินการเรื่องบริษัท ปตท.
จำกัด(มหาชน) หรือ PTT ให้แล้วเสร็จก่อน ประกอบกับบอร์ด MCOT ตั้งอนุกรรมการ
ขึ้นมา โดยจะเปิดให้บุคคลภายนอกเข้าร่วมเป็นกรรมการด้วย จึงเป็นการแสดงให้
เห็นความจริงใจในการตรวจสอบองค์กรด้วยตัวเอง โดยการแก้ไขความผิดพลาดในรัฐ
วิสาหกิจที่แปรสภาพนั้นสามารถดำเนินการได้โดยไม่จำเป็นต้องรอให้มีการยื่นฟ้อง
เพราะองค์กรสามารถแสดงความบริสุทธิ์ใจสอบตัวเองได้
การแก้ไขความผิดพลาดการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ นั้นไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการ
ฟ้องร้องเพียงอย่างเดียว เพราะแต่ละองค์กรสามารถดำเนินการตรวจสอบแก้ไขได้
ด้วยตัวเองซึ่งใช้ระยะเวลาการดำเนินการทั้งหมดรวดเร็วกว่าการฟ้องร้องด้วย นาง
สาวรสนากล่าว
อย่างไรก็ดีกรณี PTT จะเป็นบรรทัดฐานในการแปรรูรัฐวิสาหกิจในอนาคต
รวมไปถึงการแก้ไขความผิดพลาดรัฐวิสาหกิจที่แปรรูปแล้ว โดยเฉพาะกรณีการนำ
สาธารณสมบัติไปอำนวยประโยชน์แก่คนกลุ่มน้อยและส่งผลให้ประชาชนได้รับผล
กระทบ
นางสาวรสนากล่าวต่อว่า กรณีที่มีคนพยายามออกมากล่าวโจมตีว่าตนไม่
ฟ้องร้อง MCOT เพราะได้เข้ามาเป็นบอร์ด เป็นพวกต้องการลดเครดิตตนลง ทั้งที่
เหตุผลที่ไม่เคลื่อนไหวฟ้องร้อง MCOT เพราะต้องการทำเรื่อง PTTให้แล้วเสร็จ
ก่อน กำลังคนของสหพันธ์ผู้บริโภคนั้นมีจำกัด ไม่สามารถดำเนินการหลายเรื่องได้
พร้อมกัน ประกอบกับต้องการทำเรื่อง PTTให้รอบคอบที่สุด หวังให้กรณีของ PTT
กลายเป็นบรรทัดฐานในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในอนาคต
นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ MCOT เปิดเผยว่า แม้พ.ร.
บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ จะมีผลบังคับใช้ในอีก 2 ปีข้างหน้า
พร้อมทั้งมีการจัดตั้งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์หรือพ.ร.บ.
กิจการกระจายเสียงฯ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ก็จะไม่ส่งผล
กระทบในเชิงลบใดต่อ MCOT
แม้ว่าคลื่นโทรทัศน์และวิทยุทั้งหมดจะถูกดึงไปจัดสรรใหม่ แต่ MCOT ก็มั่น
ใจว่าด้วยประสิทธิภาพและคุณภาพในการบริหารจัดการคลื่นโทรทัศน์ วิทยุที่ผ่านมา
จะทำให้กสทช.อนุมัติคลื่นความถี่ที่ MCOT เคยบริหารจัดการกลับมาให้บริหารจัดการ
ใหม่อีกทั้งหมด
ส่วนกรณีที่ MCOT จะมีต้นทุนค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเพิ่มขึ้นจากที่ปัจจุบัน
ไม่มีต้นทุนค่าเช่าความถี่นั้น ก็จะไม่ส่งผลกระทบและ MCOT ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัว
หรือปรับตัวเพื่อรองรับดังกล่าว เพราะค่าธรรมเนียมที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญมีอัตรา
เพียง 2% ของรายได้จากค่าโฆษณา
นอกจากนี้ MCOT ยังคาดว่าจะได้รับการลดหย่อนค่าธรรมเนียมใบอนุญาต
จาก 2% เนื่องจากกฎหมายระบุว่า สถานีโทรทัศน์และวิทยุที่ผลิตเนื้อหาที่เป็น
ประโยชน์ต่อประชาชนจะถือเป็นสื่อสาธารณะที่จะได้รับการลดหย่อยค่าใบอนุญาต
เป็นพิเศษ
นายวสันต์กล่าวต่อว่า การที่ในอีก 2 ปีข้างหน้า MCOT จะถูกดึงคลื่นความถี่
วิทยุฯไปจัดสรรใหม่จะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นเนื่องจากราคาหุ้นในกระดาน
ปัจจุบันได้รับรู้เรื่องนี้มาแล้ว และผลกระทบก็ไม่ได้รุนแรงเหมือนกรณีที่มติคณะ
รัฐมนตรี หรือ ค.ร.ม. มีมติเรื่องสถานีโทรทัศน์สาธารณะ ที่สงผลกระทบต่อราคาหุ้น
MCOT อย่างรุนแรง
ส่วนกรณีที่ พ.ร.บ.กิจการกระจายเสียงจะมีผลบังคับใช้นั้นรัฐธรรมนูญได้ให้
ความคุ้มครองกับสัญญาร่วมการงานเดิมให้คงสัมปทานเดิมจนกว่าจะสิ้นอายุ
สัมปทาน ดังนั้นแม้จะมีการจัดตั้ง กสทช. เกิดขึ้น สัญญาสัมปทานระหว่าง บริษัท บีอี
ซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือช่อง 3 และบริษัท ทรูวิชั่น จำกัดหรือ ยูบีซี ก็จะยังอยู่
จนกว่าจะหมดอายุสัญญาสัมปทานซึ่งเหลืออีก 13 ปี ดังนั้นีรายได้จาก สัมปทาน
MCOT ก็ยังจะไม่หายไป
นายวสันต์ ได้ชี้แจงอีกว่า เมื่อองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย(อ.ส.
ม.ท.)ได้แปลงสภาพเป็น MCOT ซึ่งมีสถานะเป็นนิติบุคคลเอกชนแล้ว MCOTจึงไม่
อาจมีอำนาจมหาชนของรัฐ รวมทั้งไม่อาจถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินขององค์การสื่อ
สารมวลชนแห่งประเทศไทยที่ได้จากการใช้อำนาจมหาชนของรัฐอันเป็นสาธารณ
สมบัติของแผ่นดินแทนรัฐได้ จึงต้องโอนสาธารณสมบัติของแผ่นดินดังกล่าวกลับไป
เป็นของรัฐนั้น ขอชี้แจงดังนี้
1. ที่ดินที่ MCOT ครอบครองหรือถือกรรมสิทธิ์ไม่เคยได้มาโดยการเวนคืน
อสังหาริมทรัพย์อันเป็นการใช้อำนาจรัฐหรืออำนาจมหาชนของรัฐแต่อย่างใด สำหรับ
ที่ดินซึ่งเป็นที่ราชพัสดุหรือหน่วยงานของรัฐจะมีลักษณะเป็นการขออนุญาตใช้พื้นที่
โดยชำระค่าตอบแทนและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานนั้นสำหรับอาคาร เสา
ส่ง เป็นการก่อสร้างโดยใช้เงินลงทุนขององค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย
หรือ MCOT เอง
2. คลื่นความถี่วิทยุฯ คลื่นความถี่โทรทัศน์ช่อง 9 ช่อง 3 และทรูวิชั่น ที่
MCOT ใช้ดำเนินงาน เป็นคลื่นความถี่ที่ได้รับอนุญาตจากกรมไปรษณีย์โทรเลขเดิม
หรือคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมในปัจจุบันซึ่ง MCOT ได้ชำระค่าตอบแทน
ความถี่ตามที่กฎหมายกำหนดให้มีการชำระค่าตอบแทนความถี่มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539
เป็นต้นมา
บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอสวิคเคอร์ส จำกัด แนะนำ 'ซื้อ' MCOT ราคาพื้น
ฐาน 29.00 บาท แม้ราคาหุ้น MCOT ปรับตัวลงแรงถึง 16% ภายในระยะเวลาเพียง
1 สัปดาห์ จากข่าวลบการสูญเสียรายได้จากค่าสัมปทานและอาจจะต้องคืนสินทรัพย์
ให้กับภาครัฐเหมือนกับกรณี PTT
ทั้งนี้เห็นว่า MCOT จะสูญเสียรายได้สัมปทาน เมื่อ กสทช. ได้มีการจัดตั้ง
ขึ้น แต่เราก็ไม่เชื่อว่า MCOT จะต้องคืนสินทรัพย์ให้กับภาครัฐตามที่เป็นข่าวแต่อย่าง
ใด แต่โอกาสที่มีความเป็นไปได้คือ จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้แก่
กสทช.มากกว่า แต่เหตุการณ์นี้กว่าจะเกิดขึ้นต้องเป็นปี 2552 นั่นคือ มีการจัดตั้ง
กสทช.สำเร็จแล้ว อย่างไรก็ตาม หากกำหนดให้ MCOT ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมดัง
กล่าวในอัตรา 5% ในค่า Universal Service Obligation (USO) กำไรสุทธิจะลดลง
14%
โดยราคาพื้นฐานที่ 29.00 บาท ได้รวมเหตุการณ์การสูญเสียรายได้ค่า
สัมปทานไปแล้ว ดังนั้นเมื่อราคาหุ้นปรับตัวลงแรงจนมีส่วนเพิ่มเทียบกับราคาพื้นฐาน
ได้เป็น 24% ถือได้ว่าที่ผ่านมามีการขายหุ้น MCOT มากเกินไป อีกทั้งเมื่อข่าวคืน
สินทรัพย์ให้ทางการไม่เป็นความจริงราคาหุ้นก็ควรจะดีดกลับมาได้
ที่มา : น.ส.พ. กระแสหุ้น
:idea: